...บังเอิญผมได้ดูสารคดีของช่อง Science Channel ที่อเมริกา...มีจังหวะหนึ่งเขาบรรยายถึงการกำเนิดเอกภพ ... จะสรุปง่ายๆดังนี้
- เดิมเชื่อกันว่าเอกภพนี้เกิดมาจากปรากฏการณ์บิ๊กแบง คือการระเบิดออกมาจากจุดที่เล็กที่สุดที่เรียกว่าจุด Singularity ซึ่งจุดนี้ก็มาจากความว่างเปล่า ..ก็คือหมายถึงความว่างเปล่าหรือความไม่มีอะไรเป็นตัวก่อกำเนิดสิ่งที่มีต่างๆในเอกภพ เรียกว่า Everything come from nothing ... แนวคิดเรื่องจุด Singularity ก็พัฒนามาจากทฤษฏีสัมพัธภาพของไอน์สไตน์ นั่นเอง..
- แต่ว่า เมื่อเอาหลักของทฤษฏี Quantum mechanics มาเทียบ.. ซึ่ง ตามหลักของทฤษฏีนี้ไม่อาจจะมีจุด Singularity ขึ้นมาได้ในธรรมชาติ...
(( เอาละซี 2 ทฤษฏีหลักของวิทยาศาสตร์ เกิดขัดแย้งกันซะแล้ว ))
- ดังนั้น จึงมีแนวคิดใหม่เกิดขึ้น มาอธิบายการกำเนิดของเอกภพ โดยเอาทั้ง 2 หลักนั้นมารวมกัน เรียกว่า Quantum spacetime ..ซึ่งที่จริงหลัก Quantum spacetime นี้ ได้รับการเสนอมานานแล้ว ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของ Quantum mechanics โดย Heisenberg เจ้าพ่อของทฤษฏี Quantum mechanics เองนั่นแหละ ที่เป็นผู้เสนอ แต่ไม่มีใครเอามาคิดค้นอย่างจริงจัง
- ต่อมา เมื่อมีการค้นคว้าข้อมูลใหม่ๆในยุคปัจจุบันนี้ ได้เจอข้อมูลแปลกๆเพิ่มอีกมากมาย ทำให้ทฤษฏีบิ๊กแบงเดิม ที่อิงอาศัยเฉพาะกับทฤษฏีสัมพัธภาพอย่างเดียว ไม่อาจจะอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆได้ เช่น การที่เอกภพขยายตัวด้วยความเร่ง การที่มวลสารต่างๆหายไปมากมายจากเอกภพ .. เป็นต้น .ฯฯ
จึงมีการเสนอทฤษฏีใหม่ ว่า เกอภพนี้ ไม่ใช่เกิดจากบิ๊กแบง แต่เกิดมาจากการสลายตัวของเอกภพเก่าที่แตกทลสายไป ฟอร์มตัวขึ้นมาใหม่ เป็นเอกภพใหม่ โดยเอาสสารพลังงานเดิมของเอกภพเก่าที่สลายตัวไปก่อน มารวมตัวกันสร้างเป็นเอกภพใหม่ขึ้นมา คล้ายๆลักษณะการรีไซเคิ่ล นั่นเอง ... คนบรรยายเขาใช้คำบรรยายตอนนี้ ว่า Birth and Rebirth ซึ่งจะเป็นวงจรแบบนี้วนเวียนไปเรื่อยๆๆ ไม่สิ้นสุด
Ha Ha ๆๆ คราวนี้ก็มาถึงจุดไคลแมกซ์ คือ ไปๆมาๆ ก็มาตรงกับที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้นานแล้ว เกี่ยวกับการเกิดๆดับๆที่ไม่สิ้นสุดของวัฏฏะสงสาร ไม่มีเบื้องต้น ไม่มีเบื้องปลาย...ทรงกล่าวถึง เมื่อถึงคราวสิ้นกัปล์ กัปล์ต่างๆจะสลายตัวไปพร้อมๆกันหมดเป็นภัสมธุลี(น่าจะเป็นอะตอมของไฮโรเจ่น ตามหลักวิทยาศาสตร์นั่นแหละ) ..แล้วนานๆไประยะหนึ่ง เมื่อกัปล์ใหม่เริ่มตั้ง ภัสมธุลีเหล่านี้ก็ค่อยๆรวมตัวก่อตัวกลับมาใหม่ กลายเป็นจักรวาลโลกต่างๆขึ้นมาเหมือนเดิมเดิม...พระพุทธเจ้าไม่ทรงกล่าวถึงลักษณะการเกิดของโลกหรือจักวาลแบบทำนองการเกิดบิ๊กแบง ( ดูเหมือนจะอยู่ในอรรถกถาเล่มใดเล่มหนึ่ง ซึ่งเจ้าคุณวิลาส วัดยานนาวา ได้แต่งบรรยายไว้ในหนังสือ โลกทีปนี หรือไงนี่แหละ )
หมายเหตุ : ผมไม่แท็กกระทู้นี้ในห้องหว้ากอ เพราะรู้นิสัยคนในห้องนั้นว่า เป็นพวกจิตใจคับแคบ ไม่ยอมรับความเห็นแตกต่างของใคร ถ้าใครเสนอความเห็นแตกต่าง พวกนี้จะหาทางลบทิ้งทันที...จึงเอาเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังเฉพาะห้องศาสนาก็พอ .. ในอดีตหลายปีก่อน ผมเคยเสนอให้พวกนั้นว่า ใครพอจะมีความกล้าจะไปพิสูจน์ผีต้นไทรที่ปากน้ำสมุทรปราการ หรือไม่ แล้วเอาผลพิสูจน์มาบอกกัน..? ปรากฏว่าพวกมันลบกระทู้ผมไปเลย แทนที่จะไปลงมือพิสูจน์ให้รู้แล้วรู้รอดชัดๆจะๆกันไปเลย...
แนวคิดล่าสุดของการกำเนิดเอกภพไม่ใช่เกิดจากบิ๊กแบงแต่เกิดจากการสลายตัวของเอกภพก่อนหน้านั้นแล้วมาฟอร์มตัวกลายเป็นเอกภพใหม่
- เดิมเชื่อกันว่าเอกภพนี้เกิดมาจากปรากฏการณ์บิ๊กแบง คือการระเบิดออกมาจากจุดที่เล็กที่สุดที่เรียกว่าจุด Singularity ซึ่งจุดนี้ก็มาจากความว่างเปล่า ..ก็คือหมายถึงความว่างเปล่าหรือความไม่มีอะไรเป็นตัวก่อกำเนิดสิ่งที่มีต่างๆในเอกภพ เรียกว่า Everything come from nothing ... แนวคิดเรื่องจุด Singularity ก็พัฒนามาจากทฤษฏีสัมพัธภาพของไอน์สไตน์ นั่นเอง..
- แต่ว่า เมื่อเอาหลักของทฤษฏี Quantum mechanics มาเทียบ.. ซึ่ง ตามหลักของทฤษฏีนี้ไม่อาจจะมีจุด Singularity ขึ้นมาได้ในธรรมชาติ...
(( เอาละซี 2 ทฤษฏีหลักของวิทยาศาสตร์ เกิดขัดแย้งกันซะแล้ว ))
- ดังนั้น จึงมีแนวคิดใหม่เกิดขึ้น มาอธิบายการกำเนิดของเอกภพ โดยเอาทั้ง 2 หลักนั้นมารวมกัน เรียกว่า Quantum spacetime ..ซึ่งที่จริงหลัก Quantum spacetime นี้ ได้รับการเสนอมานานแล้ว ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของ Quantum mechanics โดย Heisenberg เจ้าพ่อของทฤษฏี Quantum mechanics เองนั่นแหละ ที่เป็นผู้เสนอ แต่ไม่มีใครเอามาคิดค้นอย่างจริงจัง
- ต่อมา เมื่อมีการค้นคว้าข้อมูลใหม่ๆในยุคปัจจุบันนี้ ได้เจอข้อมูลแปลกๆเพิ่มอีกมากมาย ทำให้ทฤษฏีบิ๊กแบงเดิม ที่อิงอาศัยเฉพาะกับทฤษฏีสัมพัธภาพอย่างเดียว ไม่อาจจะอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆได้ เช่น การที่เอกภพขยายตัวด้วยความเร่ง การที่มวลสารต่างๆหายไปมากมายจากเอกภพ .. เป็นต้น .ฯฯ
จึงมีการเสนอทฤษฏีใหม่ ว่า เกอภพนี้ ไม่ใช่เกิดจากบิ๊กแบง แต่เกิดมาจากการสลายตัวของเอกภพเก่าที่แตกทลสายไป ฟอร์มตัวขึ้นมาใหม่ เป็นเอกภพใหม่ โดยเอาสสารพลังงานเดิมของเอกภพเก่าที่สลายตัวไปก่อน มารวมตัวกันสร้างเป็นเอกภพใหม่ขึ้นมา คล้ายๆลักษณะการรีไซเคิ่ล นั่นเอง ... คนบรรยายเขาใช้คำบรรยายตอนนี้ ว่า Birth and Rebirth ซึ่งจะเป็นวงจรแบบนี้วนเวียนไปเรื่อยๆๆ ไม่สิ้นสุด
Ha Ha ๆๆ คราวนี้ก็มาถึงจุดไคลแมกซ์ คือ ไปๆมาๆ ก็มาตรงกับที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้นานแล้ว เกี่ยวกับการเกิดๆดับๆที่ไม่สิ้นสุดของวัฏฏะสงสาร ไม่มีเบื้องต้น ไม่มีเบื้องปลาย...ทรงกล่าวถึง เมื่อถึงคราวสิ้นกัปล์ กัปล์ต่างๆจะสลายตัวไปพร้อมๆกันหมดเป็นภัสมธุลี(น่าจะเป็นอะตอมของไฮโรเจ่น ตามหลักวิทยาศาสตร์นั่นแหละ) ..แล้วนานๆไประยะหนึ่ง เมื่อกัปล์ใหม่เริ่มตั้ง ภัสมธุลีเหล่านี้ก็ค่อยๆรวมตัวก่อตัวกลับมาใหม่ กลายเป็นจักรวาลโลกต่างๆขึ้นมาเหมือนเดิมเดิม...พระพุทธเจ้าไม่ทรงกล่าวถึงลักษณะการเกิดของโลกหรือจักวาลแบบทำนองการเกิดบิ๊กแบง ( ดูเหมือนจะอยู่ในอรรถกถาเล่มใดเล่มหนึ่ง ซึ่งเจ้าคุณวิลาส วัดยานนาวา ได้แต่งบรรยายไว้ในหนังสือ โลกทีปนี หรือไงนี่แหละ )
หมายเหตุ : ผมไม่แท็กกระทู้นี้ในห้องหว้ากอ เพราะรู้นิสัยคนในห้องนั้นว่า เป็นพวกจิตใจคับแคบ ไม่ยอมรับความเห็นแตกต่างของใคร ถ้าใครเสนอความเห็นแตกต่าง พวกนี้จะหาทางลบทิ้งทันที...จึงเอาเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังเฉพาะห้องศาสนาก็พอ .. ในอดีตหลายปีก่อน ผมเคยเสนอให้พวกนั้นว่า ใครพอจะมีความกล้าจะไปพิสูจน์ผีต้นไทรที่ปากน้ำสมุทรปราการ หรือไม่ แล้วเอาผลพิสูจน์มาบอกกัน..? ปรากฏว่าพวกมันลบกระทู้ผมไปเลย แทนที่จะไปลงมือพิสูจน์ให้รู้แล้วรู้รอดชัดๆจะๆกันไปเลย...