ฮาจิเมะ โมริยาสุ เคยเป็นอดีตขุนพล “ซามูไร บลู" ชุดที่คว้าแชมป์ เอเชียน คัพ 1992 ร่วมกับ คาซุโยชิ มิอูระ กองหน้าลายครามวัย 50 ปี ที่ปัจจุบันเล่นอยู่กับ โยโกฮาม่า เอฟซี ใน เจ ทู โดยก้าวมาเป็นกุนซือครั้งแรกคุม ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2012

    ก่อนที่จะพาทีมได้แชมป์ เจ ลีก 3 สมัย ปี 2012, 2013, 2015, เจแปนนีส ซุปเปอร์ คัพ 2 ครั้ง ปี 2013, 2014 ตลอดจนการคว้าอันดับ 3 ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2015 กระทั่งเพิ่งจะออกจากทีมเมื่อวันที่ 4 ก.ค.2017 เนื่องจากผลงานของอดีตแชมป์ เจ ลีก กำลังอยู่ในขั้นวิกฤตหนีตาย

    จากนั้นในเดือน พ.ย.2017 เขาเข้าไปรับตำแหน่งเทรนเนอร์ของ ญี่ปุ่น ยู 23 หลังจากสมาคมฯ ต้องการให้เขาวางรากฐานของทีมในปี 2018 ใช้ผู้เล่นทีมกลุ่มผู้เล่นอายุ 20-21 ไปเล่นในรายการเอเอฟซี ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย 2018 ที่ประเทศจีน เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ทีมในการต่อยอดสู่โอลิมปิก ปี 2020 ที่พวกเขาได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ คว้าเหรียญทองฟุตบอลโอลิมปิก 2020 ในรอบ 52 ปี มาครองให้ได้ หลังจากลงเล่นในรายการนี้มาตั้งแต่ปี 1968 ที่ประเทศเม็กซิโก อีกด้วย

    อย่างไรก็ตาม ทีมชาติไทย ยู 23 ที่เวลานั้น "โค้ชโย่ง"วรวุธ ศรีมะฆะ ยังเป็นมือขวาของ โซรัน เยอร์โควิช เคยเอาชนะทีม 23 ปีของญี่ปุ่น ที่มี ฮาจิเมะ โมริยาสุ ได้ 2-1 เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.60 ใน เอ็ม 150 คัพ รอบแบ่งกล่ม นัดแรก โดยทีมชุดดังกล่าวเรียกตัว ไดกิ สุงะ กราบซ้ายรุ่นน้องของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ แห่ง คอนซาโดเล่ ซัปโปโร มาร่วมทีมด้วย


http://www.siamsport.co.th/football/national/view/82174


ถ้าเป็นบ้านเรานี่โค้ชคนนี้คงไม่ได้เกิดตั้งแต่พาทีมมาแพ้ไทย ตกรอบ8 แต่ญี่ปุ่นเขาไม่คิดแบบนั้น การวางระบบตั้งแต่เยาวชนถือว่าสำคัญสำหรับบ้านเขามาก ดูจากการแบกอายุมาเตะU23หรือเอเชียนเกมส์ เขามองว่ารายการเหล่านี้คือการต่อยอดไปโอลิมปิก

http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=397547.new#new