เซนทรัลพระราม 2 กับการปิดลิฟท์หลังสามทุ่ม

สวัสดีค่ะ มาสมัครพันทิปเพราะอยากปรึกษาเพื่อน ๆ ในนี้ค่ะ
หลังจากพ่อเสีย เรามีกิจกรรมที่ทำกับแม่คือการดูหนัง เมื่อก่อนแม่ไม่ชอบดูหนังโรง ชวนยังไงก็ไม่ไป แต่เพราะว่าพ่อเป็นคนชอบดูหนังมาก
ก็เลยชวนแม่ดูหนัง เพื่อมีกิจกรรมที่จดจำพ่อ แต่ว่ากว่าเราจะเลิกงานกลับถึงบ้านก็ทุ่มกว่า เซนทรัลพระราม 2 เป็นห้างที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด
เราก็เลยเลือกใช้เวลากับแม่ที่นี้ ก่อนเข้าบ้าน กินข้าวก่อน แล้วก็ต่อด้วยดูหนัง หนึ่งก็เลยเป็นรอบทุ่มกว่าบ้าง สามทุ่มครึ่งบ้าง
ดูประจำ เรียกว่า ทุกอาทิตย์ อย่างน้อยก็อาทิตย์ละครั้ง เป็นการสร้างความบันเทิงกับแม่ในวันธรรมดา ไม่ต้องแย่งกับคนเยอะในวันเสาร์อาทิตย์
อีกอย่างแม่อายุเข้าเกณฑ์ผู้สูงอายุแล้วก็เลยสมัครสมาชิกโรงหนังให้แม่ วันไหนราคาพิเศษสำหรับแม่ก็มา แต่ส่วนใหญ่ก็มาตามฤกษ์สะดวก และตามรอบหนังที่อยากดูก็สะสมแต้มแยกกันไปคนละใบ ผลัดกันเลือกหนังที่อยากดู

ทุกครั้งก็ไม่มีปัญหา พนักงานโรงหนังดี ราบรื่น แต่มาช่วงครึ่งปีหลังของปี 2018 ไม่แน่ใจว่าเซนทรัลเปลี่ยนนโยบายอะไร
พอออกจากโรงหนัง ทุกครั้ง เราจะลงลิฟท์ไปที่ชั้นหนึ่ง แต่พาแม่เดินลงบันไดไปอีกหนึ่งชั้น แล้วเดินไปหน้าห้างเพื่อไปขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน
แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า ลิฟท์ปิด ไม่ให้ใช้ เจ้าหน้าที่ก็แจ้งทุกคนที่ออกจากโรงหนังว่า ให้เดินลงบันไดไป เพราะว่าลิฟท์ไม่เปิด

ครั้งแรก ก็เข้าใจว่า เค้าอาจมีการปรับปรุงพื้นที่ พนักงานต้องขนย้ายของเลยไม่สะดวกให้ใช้ ก็พาแม่เดินลงบันไดหนีไฟตรงที่จอดรถ 4 ชั้น
ครั้งที่สอง ก็มาดูเหมือนเดิม ออกมา พนักงานก็บอกว่า ให้เดินลงบันไดเลื่อน หนึ่งชั้น แล้วไปต่อบันไดหนีไฟ เราก็เลยถามว่า ทำไมลิฟท์ใช้ไม่ได้
ทุกครั้งมาดึกแค่ไหนก็ใช้ลิฟท์ได้ ทำไมปิด พนักงานก็ตอบไม่ได้ ซึ่งก็เข้าใจว่าเค้าก็ทำตามหน้าที่เค้า เรื่องรายละเอียดเค้าไม่น่าจะรู้ เราก็เลยบอกพี่ยามที่อยู่เฝ้าหน้าลิฟท์ว่า งั้นขอเบอร์โทรติดต่อฝ่ายสถานที่หรือส่วนกลางที่เกี่ยวข้องหน่อย เดี๋ยวโทรไปสอบถามเอง เพราะเราให้แม่เดินลงบันไดสี่ชั้น เราว่าไม่เวิร์ค เพราะแม่เวียนหัวจะล้มตอนที่ไปถึงชั้นล่าง แล้วเราก็ยังเห็นว่า รอบที่เราดู ก็มีคนพาพ่อมาดู แล้วคุณพ่อก็ขาไม่ดี ก็ต้องค่อยๆ จูงกันไป มีคุณตาที่ใช้ไม้เท้าเดิน

ตอนสายของวันรุ่งขึ้น เราก็เลยโทรไป เจ้าหน้าที่ให้เบอร์ผิด ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เราก็คิดว่า โอเค หาเบอร์เองได้ ก็โทรไปเจอประชาสัมพันธ์ของห้าง ก็แจ้งไปตามข้อเท็จจริงว่า เรามาดูหนังบ่อยมาก ดูมาหลายปีแล้ว ไม่มีปัญหา เลยอยากถามว่าเปลี่ยนนโยบายอะไรหรือเปล่า หรือมีปัญหาอะไร เราในฐานะลูกค้าก็ขอแจ้งว่าไม่ได้รับความสะดวกแบบนี้ อาจเป็นเรื่องเล็กๆ แต่เราคิดว่าการคำนึงถึงคนหลาย ๆ ช่วงวัย ความสะดวกและความปลอดภัยน่าจะเป็นเรื่องดีที่ทางห้างน่าจะได้รู้ เผื่อรีบปรับนโยบายไม่ได้คิดให้ละเอียด

พนักงานรับเรื่องและแจ้งว่าจะติดต่อกับทางสถานที่และตัวโรงหนังให้ และจะโทรกลับมาอัพเดตความคืบหน้า
ผ่านไปสองวัน มีเจ้าหน้าที่โทรกลับมาบอกว่า แจ้งไปยังสถานที่แล้วนะคะ สถานที่แจ้งว่าเปิดให้บริการปกตินะคะ สำหรับคนดูรอบดึกสามารถใช้ลิฟต์ที่อยู่หลังร้านสลัดสเต็กร้านหนึ่งได้นะคะ เราก็โอเค ขอบคุณที่เป็นธุระให้ เราแจ้งเพราะว่าคิดถึงพ่อแม่ คนพิการ คนที่มีความต้องการพิเศษ ว่าถ้าเค้าแก้ไขมันก็แสดงว่าห้างใส่ใจในคนจริงๆ แล้วก็คิดว่า อ่า.. ห้างดูจัดการเรื่องเร็วดีจริง อาจเป็นเพราะทำธุรกิจ มีปัญหาตรงไหนก็ต้องรีบแก้

สองวันหลังจากนั้น เราก็ไปดู ไม่ได้จะไปเช็คว่าลิฟท์เปิดให้ใช้หรือยัง แต่คือ หนังใหญ่เข้าเยอะมาก ๆ จริง ๆ ช่วงนั้น ต้องพาแม่ตามเก็บให้ครบ
ออกโรงมา เราก็เดินไปด้วยความมั่นใจว่าลิฟท์ใช้ได้แล้วแหละ พนักงานโทรมาแจ้งแล้ว
แต่ลุงยามที่อยู่หน้าประตุ พอเห็นเราเดินไปทางลิฟท์ก็รีบตะโกนหยุดเราแล้วบอกว่าต้องเกิดลงไปข้างล่าง ลิฟท์ปิดแล้วนะครับ
เราก็เลยบอกลุงว่า เราได้รับแจ้งว่า ลิฟท์ใช้ได้นะ ลุงยามก็บอกว่า ไม่เห็นมีใครบอกผมเลยว่าใช้ได้ เราไม่อยากหงุดหงิดใส่ลุง เลยคิดว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวโทรไปเช็คเอง

โทรไปที่ประชาสัมพันธ์อีกครั้ง ครั้งนี้เราเลยไลน์ไปถามที่ไลน์ของโรงหนังสาขานี้ด้วยว่า ดูหนังมาตั้งนาน เวลาเดิม ทำไมช่วงนี้เค้าไม่เปิดให้ใช้ลิฟท์แล้ว และแจ้งข้อมูลตามที่แจ้งประชาสัมพันธ์ห้าง เจ้าหน้าที่เมเจอร์ก็น่ารัก ห้าทุ่มแล้วก็ยังตอบไลน์ กะจะแค่ทิ้งข้อความไว้เฉย ๆ เจ้าหน้าทีก็ตอบกลับมาว่าเค้าไม่เปิดเหรอคับ จริง ๆ เค้าต้องเปิดนะคับ ตอนนี้เปิดหรือยัง เดี๋ยวประสานให้แล้วจะแจ้งนะคับ

ก็ขอบคุณเค้าไปอีกตามระเบียบที่รับเรื่อง

แต่อีกหนึ่งอาทิตย์ไปดูอีก ก็เหมือนเดิม ครั้งนี้ไปดูรอบที่หนังไม่ยาวมาก สามทุ่ม สิบห้าก็ออกจากโรงแล้ว ไม่ดึกเหมือนทุกครั้ง แต่เดินไปที่ลิฟท์ เหมือนฉายหนังซ้ำ ลิฟท์ก็ OUT OF SERVICE  เราก็เลยถ่ายรูปหน้าลิฟท์ส่งไปให้ดูว่า เนี้ยะ จริง ๆ นะ เค้ายังไม่เปิดลิฟท์เลยนะ  เจ้าหน้าที่ที่ตอบไลน์ก็แจ้งว่าจะไปหาสาเหตุมาให้ ไม่ได้รับปากแต่จะพยายาม ซึ่งทางฝั่งเซนทรัลก็ยืนยันว่าแจ้งแล้วใช้ได้แล้ว บอกรายละเอียดลิฟท์ที่ต้องใช้ถูกตัวตรงกัน

แต่มันก็ไม่เปิดให้ใช้เหมือนเดิม เหนื่อยนะ  ถ้าเป็นเพื่อน ๆ จะถอดใจไปตอนไหน เราเพราะดูบ่อยจริง ๆ ลูกค้าประจำอ่ะ เซนทรัลพระราม2 ห่างจากบ้านสามป้ายรถเมล์ จะให้เราไปห้างไหน ก็ต้องห้างนี้แหละ ใกล้บ้านสุด

แต่ตอนนี้คือ พอแล้วจ๊ะ เลิก ไปนัดเจอกันที่อื่น ไปดูที่อื่นกันจ๊ะแม่ ไปเดอะมอลล์บางแคจ๊ะ แต่เซนทรัลเลิกจ๊ะ
ดูเอสเอฟเอกมัยก็ได้จ๊ะ ดูที่ไอคอนสยามก็ได้จ๊ะ ดูที่สยามก็ได้จ๊ะ ดูที่ไหนก็ได้จ๊ะที่ไม่ใช่เซนทรัลพระราม 2 ลาขาดยาว ๆ ค่ะ
ใครดูโรงไหน สาขาไหน ห้างไหนดี แชร์ด้วยนะคะ

ในโลกที่มีตัวเลือกมากมาย แต่เราเลือกให้ brand royalty กับคุณแล้ว แต่คุณเห็นเป็นคนตัวเล็กตัวน้อย เป็นเม็ดเงินเล็ก ๆ ไม่กระทบกับผลประกอบการ
ก็ต้องเลิกกันไป ในโลกที่เหมือนจะมีตัวเลือกมากมาย ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ คงต้องใช้เสรีภาพในการเลือกที่ดีให้เป็นประโยชน์  คือสิทธิที่จะเข้าถึงความปลอดภัย สิทธิที่จะเข้าถึงการบริการที่ดี ก็ต้องรักษาสิทธินั้นไว้เอง

ถ้าเรื่องสิทธิเล็ก ๆ แบบนี้ เราปกป้องไม่ได้ สิทธิใหญ่ ๆ ที่มีคนพยายามจำกัดสิทธิเรา พยายามละเมิดเรา แย่งไปจากเรา ก็ยากที่เราจะปกป้อง


การทำธุรกิจที่มองลูกค้าเป็นของตาย ไม่สนใจปรับปรุงพัฒนา ธุรกิจนั้นก็เหมาะกับคำว่า รอวันเจ๊ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่