มีคนกล่าวไว้ว่า "หวงซาน ราชาแห่งขุนเขาที่ถ้าลองได้ไปแล้วจะไม่เหลียวมามองเขาอื่นอีกเลย" เลยต้องไปลองดูด้วยตาตัวเองว่าจะเป็นอย่างงั้นหรือเปล่า
ทริปนี้เส้นทางการเดินทางคือ หางโจว -> หงชุน ->หวงซาน->เซี่ยงไฮ้
หางโจวรอบนี้วีไม่ได้ไปเที่ยวไหนแค่ลงเครื่องเพื่อจะต่อรถไปหงชุน
หงชุนเป็นหมู่บ้านโบราณที่ได้จดทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยยูเนสโก้ ตั้งอยู่ในมณฑลอันฮุยซึ่งทางจีนได้อนุรักษ์รักษาสภาพหมู่บ้านไว้เป็นอย่างดี ในหมู่บ้านเราสามารถเดินเล่นได้ทังวันหรือจะจองโรงแรมมานอนแบบวีซักคืนก็ได้ค่ะ นอกจากตึกแบบจีนโบราณที่สวยงามและค่อยข้างสมบูรณ์มากๆแล้วนั้น ในหมู่บ้านยังมีบ่อน้ำพระจันทร์เสี้ยวขนาดไม่ใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามเหมือนภาพวาดจีนยังไงอย่างงั้นเลย หากใครมีเวลาขอแนะนำให้ไปเก็บหมู่บ้านซีตี้ที่เป็นอีกหนึ่งในมรดกโลกที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหงชุนอีกแห่งด้วยค่ะ
หลังจากออกจากหงชุนก็หารถไปยังสถานีรถที่ถังโข่วเพื่อมาขึ้นหวงซาน วีใช้เวลาอยู่หวงซานสามคืนค่ะ มาถึงท่ารถก็ฝากกระเป๋ากันก่อนโดยค่าฝากอยู่ที่ 20หยวนต่อวันต่อใบค่ะ หลังจากนั้นซื้อตั๋วรถเพื่อไปยังจุดขึ้นกระเช้าที่ชื่อว่า "หยุนกู่ซิน" จุดขึ้นกระเช้ามีอยู่สามจุดด้วยกัน อยู่ที่ว่าเราพักทางด้านไหนของเขาก็เลือกขึ้นกระเช้าทีใกล้ที่สุดค่ะ ค่ากระเช้าและค่าเข้าอุทยานอยู่ที่ 65+150 หยวนต่อคนค่ะ คืนแรกวีจองที่โรงแรมเป๋ยไห่ไว้ แต่มีเหตุนิดหน่อยที่ทำให้ต้องย้ายไปโรงแรมซีไห่แทนซึ่งโรงแรมซีไห่เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดบนเขา ถือว่าทริปนี้วีโชคดีทีเดียว อีกสองคืนวีจองที่นอนแบบดอร์มไว้ที่โรงแรมไป๋ยุ๋นอีกด้านของเขา ซึ่งตลอดสามสี่วันบนเขาวีก็ได้เดินไปตามจุดต่างๆ ชมวิว ถ่ายรูป ซึ่งการมาหวงซานในหน้านี้ก็จะมีบรรยากาศแบบขาวๆ หิมะปกคลุมและฟ้าค่อนข้างปิด แต่ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบค่ะ
จุดที่วีได้ไปก็จะมี จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น Qing Liang Tai (Refreshing Terrace), จุดชมพระอาทิตย์ทั้งขึ้นและตก Guang Ming Ding (bright Summit Peak), หินอันลือชื่อ Fei Lai Shi (หินที่ตกจากฟากฟ้า), และ Ying Ke Song ( สนต้อนรับ Greeting Pine)
ในช่วงหน้าหนาวหวงซานจะปิดบริเวณซีไห่และโมโนเรลตรงนั้น เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวเกิดอันตรายจากสภาพอากาศและหิมะ บนเขาเดินไม่ยากเลย มีทางเดินและบันได้เรียบร้อย เพราะหวงซานถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยว 5A ของจีนที่ถือว่าเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติโดยยูเนสโก้และทางการจีนดูแลดีมาก ส่วนห้องน้ำขอบอกว่าดีมากสำหรับเมืองจีนเลยค่ะ เผลอๆดีกว่าแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติบางแห่งในประเทศไทยซะอีก ขาลงเรามาลงกระเช้าชื่อ "อวี้ผิง" ราคา 75 หยวนต่อคนค่ะ
ที่พักและอาหารบนนี้จะราคาแรงนิดนึง หากเป็นห้องเดี่ยวอาจจะมีตั้งแต่ราคาสามพันไปจนหลักหมื่น ส่วนถ้าเป็นดอร์มอาจจะอยู่ที่เจ็ดแปดร้อยไปจนถึงสองสามพันแล้วแต่ช่วง ด้านอาหารส่วนใหญ๋โรงแรมจะมีเป็นบุฟเฟ่ต์ราคาจะตกอยู่ที่ประมาณหัวละ 140 - 200 หยวนซึ่งหากใครสะดวกจะพกมาม่าหรืออาหารขึ้นมาทานข้างบนเองก็ได้ค่ะ
หลังจากลงจากหวงซานวีก็นั่งรถไปที่ถุนซีเพื่อขึ้นรถไฟนอนตอนสองทุ่มไปเซี่ยงไฮ้ ถึงเซี่ยงไฮ้ตอนแปดโมงเช้า ในช่วงสองวันที่อยู่เซี่ยงไฮ้อากาศไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ ฝนตกหยิมๆตลอดสองวันทำให้อากาศขมุกขมัวฟ้าไม่ใส่อย่างที่หวัง ที่เซี่ยงไฮ้วีได้เที่ยวที่หยู่หยวน, เดอะบันด์ , Starbucks ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและแว๊บไปหมู่บ้านโบราณจูเจียเจี้ยว
สำหรับเซี่ยงไฮ้ยังงัยก็ยังไม่จุใจ กลับมาซ้ำพร้อมเข้าดิสนีย์แลนด์แน่ๆ
จบแล้วสำหรับทริปเก้าวันในเมืองจีน ขอบอกเลยว่าคำว่าราชาแห่งขุนเขาของหวงซานนั้นไม่ได้มาง่ายๆ นี่ถ้ามีโอกาสเหมาะๆวีจะลองมาหวงซานที่ไม่ใช่หน้าหนาวดูคิดว่าน่าจะสวยมากในอีกแบบนึงเลยทีเดียว
#เที่ยวชาร์จแบต #vescapadearoundtheworld #กิ้งกือไดอารี่ #selflifecharger #countdowntrip #newyeartrip #China #hognchun #Huangshan #shanghai
#nighttrain #biggeststarbucksintheworld #thebund
ฝากติดตามเพจด้วยค่า
https://www.facebook.com/selflifecharger
หวงซาน ราชาแห่งขุนเขา #ปีใหม่ทริป #หวงซานสะท้านทรวง
มีคนกล่าวไว้ว่า "หวงซาน ราชาแห่งขุนเขาที่ถ้าลองได้ไปแล้วจะไม่เหลียวมามองเขาอื่นอีกเลย" เลยต้องไปลองดูด้วยตาตัวเองว่าจะเป็นอย่างงั้นหรือเปล่า
ทริปนี้เส้นทางการเดินทางคือ หางโจว -> หงชุน ->หวงซาน->เซี่ยงไฮ้
หางโจวรอบนี้วีไม่ได้ไปเที่ยวไหนแค่ลงเครื่องเพื่อจะต่อรถไปหงชุน
หงชุนเป็นหมู่บ้านโบราณที่ได้จดทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยยูเนสโก้ ตั้งอยู่ในมณฑลอันฮุยซึ่งทางจีนได้อนุรักษ์รักษาสภาพหมู่บ้านไว้เป็นอย่างดี ในหมู่บ้านเราสามารถเดินเล่นได้ทังวันหรือจะจองโรงแรมมานอนแบบวีซักคืนก็ได้ค่ะ นอกจากตึกแบบจีนโบราณที่สวยงามและค่อยข้างสมบูรณ์มากๆแล้วนั้น ในหมู่บ้านยังมีบ่อน้ำพระจันทร์เสี้ยวขนาดไม่ใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามเหมือนภาพวาดจีนยังไงอย่างงั้นเลย หากใครมีเวลาขอแนะนำให้ไปเก็บหมู่บ้านซีตี้ที่เป็นอีกหนึ่งในมรดกโลกที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหงชุนอีกแห่งด้วยค่ะ
หลังจากออกจากหงชุนก็หารถไปยังสถานีรถที่ถังโข่วเพื่อมาขึ้นหวงซาน วีใช้เวลาอยู่หวงซานสามคืนค่ะ มาถึงท่ารถก็ฝากกระเป๋ากันก่อนโดยค่าฝากอยู่ที่ 20หยวนต่อวันต่อใบค่ะ หลังจากนั้นซื้อตั๋วรถเพื่อไปยังจุดขึ้นกระเช้าที่ชื่อว่า "หยุนกู่ซิน" จุดขึ้นกระเช้ามีอยู่สามจุดด้วยกัน อยู่ที่ว่าเราพักทางด้านไหนของเขาก็เลือกขึ้นกระเช้าทีใกล้ที่สุดค่ะ ค่ากระเช้าและค่าเข้าอุทยานอยู่ที่ 65+150 หยวนต่อคนค่ะ คืนแรกวีจองที่โรงแรมเป๋ยไห่ไว้ แต่มีเหตุนิดหน่อยที่ทำให้ต้องย้ายไปโรงแรมซีไห่แทนซึ่งโรงแรมซีไห่เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดบนเขา ถือว่าทริปนี้วีโชคดีทีเดียว อีกสองคืนวีจองที่นอนแบบดอร์มไว้ที่โรงแรมไป๋ยุ๋นอีกด้านของเขา ซึ่งตลอดสามสี่วันบนเขาวีก็ได้เดินไปตามจุดต่างๆ ชมวิว ถ่ายรูป ซึ่งการมาหวงซานในหน้านี้ก็จะมีบรรยากาศแบบขาวๆ หิมะปกคลุมและฟ้าค่อนข้างปิด แต่ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบค่ะ
จุดที่วีได้ไปก็จะมี จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น Qing Liang Tai (Refreshing Terrace), จุดชมพระอาทิตย์ทั้งขึ้นและตก Guang Ming Ding (bright Summit Peak), หินอันลือชื่อ Fei Lai Shi (หินที่ตกจากฟากฟ้า), และ Ying Ke Song ( สนต้อนรับ Greeting Pine)
ในช่วงหน้าหนาวหวงซานจะปิดบริเวณซีไห่และโมโนเรลตรงนั้น เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวเกิดอันตรายจากสภาพอากาศและหิมะ บนเขาเดินไม่ยากเลย มีทางเดินและบันได้เรียบร้อย เพราะหวงซานถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยว 5A ของจีนที่ถือว่าเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติโดยยูเนสโก้และทางการจีนดูแลดีมาก ส่วนห้องน้ำขอบอกว่าดีมากสำหรับเมืองจีนเลยค่ะ เผลอๆดีกว่าแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติบางแห่งในประเทศไทยซะอีก ขาลงเรามาลงกระเช้าชื่อ "อวี้ผิง" ราคา 75 หยวนต่อคนค่ะ
ที่พักและอาหารบนนี้จะราคาแรงนิดนึง หากเป็นห้องเดี่ยวอาจจะมีตั้งแต่ราคาสามพันไปจนหลักหมื่น ส่วนถ้าเป็นดอร์มอาจจะอยู่ที่เจ็ดแปดร้อยไปจนถึงสองสามพันแล้วแต่ช่วง ด้านอาหารส่วนใหญ๋โรงแรมจะมีเป็นบุฟเฟ่ต์ราคาจะตกอยู่ที่ประมาณหัวละ 140 - 200 หยวนซึ่งหากใครสะดวกจะพกมาม่าหรืออาหารขึ้นมาทานข้างบนเองก็ได้ค่ะ
หลังจากลงจากหวงซานวีก็นั่งรถไปที่ถุนซีเพื่อขึ้นรถไฟนอนตอนสองทุ่มไปเซี่ยงไฮ้ ถึงเซี่ยงไฮ้ตอนแปดโมงเช้า ในช่วงสองวันที่อยู่เซี่ยงไฮ้อากาศไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ ฝนตกหยิมๆตลอดสองวันทำให้อากาศขมุกขมัวฟ้าไม่ใส่อย่างที่หวัง ที่เซี่ยงไฮ้วีได้เที่ยวที่หยู่หยวน, เดอะบันด์ , Starbucks ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและแว๊บไปหมู่บ้านโบราณจูเจียเจี้ยว
สำหรับเซี่ยงไฮ้ยังงัยก็ยังไม่จุใจ กลับมาซ้ำพร้อมเข้าดิสนีย์แลนด์แน่ๆ
จบแล้วสำหรับทริปเก้าวันในเมืองจีน ขอบอกเลยว่าคำว่าราชาแห่งขุนเขาของหวงซานนั้นไม่ได้มาง่ายๆ นี่ถ้ามีโอกาสเหมาะๆวีจะลองมาหวงซานที่ไม่ใช่หน้าหนาวดูคิดว่าน่าจะสวยมากในอีกแบบนึงเลยทีเดียว
#เที่ยวชาร์จแบต #vescapadearoundtheworld #กิ้งกือไดอารี่ #selflifecharger #countdowntrip #newyeartrip #China #hognchun #Huangshan #shanghai
#nighttrain #biggeststarbucksintheworld #thebund
ฝากติดตามเพจด้วยค่า https://www.facebook.com/selflifecharger