ผมเป็นแฟนบอย(?) คินดะอิจิ ตัวยงเลยครับ ตามอ่านทุกเซ็ต เซ็ต 27 เซ็ต 7 เคส ฉลองครบรอบ 20 ปี
แล้วก็ซีรี่ส์แยกของอาเคจิ รวมไปถึงทากาโต้ กับคดีฆาตกรรมปริศนา อยากลองแชร์ความรู้สึกที่มีต่อคินดะอิจิ R
รวมไปถึงถามความรู้สึกของท่านอื่นๆที่อ่านมาเช่นกันด้วยครับ อ่านแล้วมันเพลินๆดี เขียนกระทู้ก็เพลินๆดีด้วย
ภาพรวม - ความหม่นหมองไม่เท่าของเก่า ลายเส้นก็เช่นกัน หลายคนมักมีปัญหาด้านลายเส้นที่หวานแหววกว่ารุ่นเก่าๆ
แต่ผมไม่มีนะ ผมมองว่ามันเป็นการปรับตัวให้เข้ากับยุค เข้ากับสมัย สมัยนี้ตัวละครก็ต้องหน้าตาประมาณนี้แหละ หล่อสวย หวาน
แบบเก่าจะเน้นเรียล ซึ่งการ์ตูนหลายเรื่องในยุคนั้นก็จะคมเข้มประมาณนั้นเช่นกัน ตัวคดี มีการหยิบยืมทริกจากของเก่า
มาประมาณหนึ่ง ยังไม่มีความแปลกใหม่ ถ้าจะแปลกใหม่ จะเป็นธีมคดี หรือเนื้อหาในคดีเสียมากกว่า แต่ตั้งแต่ตอนเฉลยเป็นต้นไป
ค่อนข้าง Reuse มากเกินไป
เจาะ -
ตำนานปีศาจหิมะ : ฮาจิเมะเจอคดีแนวหิมะอีกแล้ว บางทีคนอ่านสับสนนะว่าเคยอ่านไปหรือยัง ถ้าอ่านแต่เรื่องย่ออ่ะ คดีไม่หวือหวาเท่าไหร่สำหรับผม ตัวละครใช้เยอะ ตำนานดี แต่ไม่คุ้ม สงสัยเพราะตายน้อยเกินไปล่ะมั้ง แถมไม่มีศพจริงๆจังๆ ความบีบคั้นเลยไม่ค่อยมี ถ้าตายเยอะๆเกลื่อนๆ แล้วเห็นศพกันจะๆอาจมันส์กว่านี้
วิญญาณในโรงเรียน : ตัวละครหล่อสวยเยอะดี พยายามทำให้หลอน แต่ก็ยังไม่หลอนเท่าที่ควร ประทับใจในทริกเรื่องตึกเอียงมาก คนร้ายน่ารักดีครับ (ฮา) แรงจูงใจไม่ค่อยเคยเห็นเท่าไหร่ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับศิษย์ (ไม่มีอะไรเกินเลย) มีซีนกระชากอารมณ์
จิ้งจอกลอยไฟ : อีกความดีงามของภาค R มีกลิ่นอายเหมือนฆาตกรรมหมู่บ้านเงาหิมะ ในภาค 7 เคส ที่ว่าด้วยเรื่องเพื่อนสมัยเด็กคนหนึ่งตาย เป็นเหตุให้เพื่อนที่กระจัดกระจายไปตามทางของตนเองต้องมารวมตัวกัน ณ งานศพของเพื่อนที่ล่วงลับ ตามมาด้วยการฆาตกรรมต่อเนื่องที่มีที่มาที่ไปอันแสนเศร้าของตัวคนร้าย ส่วนตัวคิดว่าคดีนี้ทำออกมาได้โอเคกว่าหมู่บ้านเงาหิมะที่มาแนวเพื่อนเหมือนกัน อาจเป็นเพราะผู้แต่งต่อยอดในอะไรหลายๆอย่างจากที่ขาดไปในคดีหมู่บ้านเงาหิมะ เป็นคดีที่คนร้ายน่าสงสารจริงจังเหมือนรุ่นเก่าๆ
โดมรังมดนรก : ต่อเนื่องกันกับคดีที่ดีที่สุดอย่างจิ้งจอกลอยไฟ กลายเป็นโดมรังมดนรกที่สำหรับผมดิ่งที่สุดในภาค R แล้ว เปิดเรื่องน่าสนใจ กับการทดลองจิตวิทยา ณ สถานที่ตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างโดมที่ตั้งกลางทะเลทรายดูดขนาดใหญ่ อาจารย์ผู้ทำการทดลองที่ดูจิตหน่อยๆ แต่ตั้งแต่เกิดคดีแรกแล้วเนื้อเรื่องแผ่วจัด ขนาดใส่เรื่องทากาโต้มาแบบเซอร์ไพร์ส ยังไม่รู้สึกยกระดับขึ้นมาเท่าไหร่เลย คนร้ายเป็นอภิมหาตัวประกอบ หนำซ้ำ ทริกยัง Re-use ชัดเจนจากคดีพีคสุดๆจากภาคแรกอย่างคดีปราสาทหุ่นขี้ผึ้ง (Mr.Redrum)
ซากุระดูดเลือด : สำหรับผมนี่คือความลงตัวของภาค R ที่สมบูรณ์ในหลายๆเรื่อง ผมชอบเทียบเท่าคดีบ้านกุหลาบ ภาค 20 ปี เลยนะ ตัวละครพอประมาณ (เฉลี่ย 8-9 คนตามมาตรฐาน) มีความเกี่ยวข้องกันส่วนหนึ่ง ส่วนพวกที่ไม่เกี่ยวข้องก็ไม่ทิ้งขว้าง ไม่ใช่ตัวประกอบ เพราะมีปมของตนเองกันหมด ตอนจบมีการเฉลยปมอย่างครบถ้วน ธีมของคดีแปลกใหม่ ว่าด้วยโรงแรมตั้งกลางป่าซากุระที่มีตำนานหมอโรคจิตฆ่าคนไข้ฝังใต้ต้นซากุระ บรรยากาศหลอนแบบแปลกๆทั้งด้วยสถานที่และผู้ร่วมคดี ศพแต่ละศพของฆาตกรบ้าเอามากๆอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เอาซากุระมาปักอกศพ แรงจูงใจน่ากลัว แต่ความเป็นมาของฆาตกรน่าสงสารอีกคนนึงเลย แต่เหยื่อเองก็น่าสงสารไม่แพ้กัน เพราะตัวเหยื่อเองก็จมกับความรู้สึกผิดบาปมาตลอด ซ้ำยังรู้ตัวมาตลอดว่าจะต้องถูกฆ่า ตำนานประจำเรื่องเองก็ไม่ได้ปล่อยผ่าน เพราะมีคำตอบในตอนจบ
เกาะตุ๊กตา : คดีที่สอบผ่านตามมาตรฐานของภาค R แต่ถ้าเรื่องความโหดคงที่สุดของภาค R แล้ว สมใจแฟนๆหลายคนที่อยากเห็นสภาพศพโหดแบบคดีรุ่นเก่าๆ เพราะคดีนี้คนร้ายเราจัดการหั่นศพเป็นท่อนๆเลยทีเดียว เป็นอีกตอนที่ฟิลลิ่งหลอนๆกลับมา ไม่ได้หลอนตำนานในคดี แต่หลอนสภาพศพกับกลุ่มนักเขียนสวมหน้ากากในกลุ่มผู้ร่วมคดี เป็นอีกคดีที่คนร้ายมาแนวน่ารักอีกแล้ว มีการหัวเราะแบบน่ารักจัดๆ หลังถูกชี้ว่าเป็นฆาตกร
ซอมเมอลิเยร์อาเคจิ เคนโกะ : โชว์ความหล่อของคุณอาเคจิอย่างเดียว ตัวคดีไม่มีอะไรเลย ฮาจิเมะเป็นตัวประกอบ เหตุผลของฆาตกรอย่างกับฆาตกรในโคนัน
โรงแรมปิศาจมืด : การกลับมาของเรย์กะที่ยังแสลนแด๋นได้ใจเหมือนเดิมและเพิ่มเติมคือน่ารักสวยใสขึ้น เหมาะสมกับการเป็นไอดอลจริงๆ มาแนวเรื่องผีสางนางไม้ แต่บรรยากาศไม่หลอนอีกตามสูตรรุ่นใหม่ ฆาตกรพอเดาได้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะให้คนแบบนี้เป็นฆาตกรจริงๆเหรอ มีความตลกร้ายหลังฆาตกรรับรู้ความจริงบางอย่างในตอนจบ เมื่อเขาเอ่ยออกมาว่า "ขอโทษทีนะ ขอเวลาร้องไห้หน่อย"
โรงหมักสาเกงูขาว : ถ้าตอนก่อนเป็นการกลับมาของเรย์กะ ตอนนี้ก็จะเป็นการกลับมาของมนุษย์หน้ากากจริงจังที่พบเห็นกันได้บ่อยๆในนิยายสืบสวน ในภาค R สถานที่และบรรยากาศชวนให้นึกถึงกลิ่นอายของคินดะอิจิยุคแรกๆ ช็อตสืบสวนกลางเรื่องเอื่อยไปหน่อย เพราะพูดแต่สิ่งที่เรารู้ๆกันอยู่แล้ววนไปวนมา ไม่ไปไหนสักที มีแต่การคุยกันชวนให้หาวนอน แต่ต้นเรื่องและช่วงก่อนคลี่คลายคดีลากยาวไปยันจบ ทำดี จึงมองข้ามส่วนเอื่อยนั้นไปได้ ผู้ต้องสงสัยจำนวนมาตรฐาน แม้ไม่ได้มีปมกันทุกคน แต่ก็ขยันสับขาหลอกกันทุกคนอย่างสมเหตุสมผล แรงจูงใจจัดหนักจัดเต็ม มีที่มาที่ไป ไม่ได้เน้นดราม่า ท้ายเรื่องแอบหลอนอ่อนๆ และสงสารพ่อฆาตกร ภาพของพ่อฆาตกรที่ซ้อนทับภาพโรงหมักอันเงียบเหงาชวนให้รู้สึกหดหู่อยู่หน่อยๆ
เกาะเซย์เร็น : คดียาวจัดเต็มที่สุดของภาค R และมีความคลาสสิก มีบรรยากาศแบบรุ่นเก่าและแบบใหม่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เนื้อเรื่องง่ายๆคือคินดะอิจิ มิยูกิและลุงเค็นโมจิไปแข่งขันตกปลากันบนเกาะห่างไกลผู้คน แต่เกาะนั้นมีตำนานนางเงือกฝรั่งอยู่ แล้วเกาะก็ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก พร้อมเกิดคดีฆาตกรรมขึ้น หลายๆร่องรอยชวนให้คิดว่านี่ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ แต่เป็นฝีมือของนางเงือก ไซเร็น ที่มักปรากฏมาเป็นเสียงกรีดร้องโหยหวนไปทั่วเกาะ เป็นคดีที่มีชั้นเชิง และสามารถวิเคราะห์และคิดตามได้อย่างจริงจัง มิยูกิกับลุงเค็นโมจิไม่ได้มาทำหน้าเด๋ออย่างเดียว เพราะทั้ง 2 คนก็ช่วยคินดะอิจิตีความคดี สืบหากลอุบายอย่างจริงจังตามความสามารถ และถูกต้องด้วย ฆาตกรฉลาด เพราะจัดเต็มมีทริกในทุกคดี ต่างจากคดีหลายคดีที่มักมีทริกแค่ทริกเดียวใหญ่ๆ แรงจูงใจของฆาตกรน่าเห็นใจ ตัวตนของฆาตกรแปลกใหม่ดี คนประมาณนี้ในคินดะไม่ค่อยมีให้เห็นว่าเป็นฆาตกรบ่อยๆ
ลักพาตัวคินดะอิจิ ฟุมิ : ฟุมิโฉมใหม่ แต่ก็ยังหน้าตาเป็นคินดะอยู่ดี คดีปิดท้ายคินดะอิจิ R ที่พาคนไทยมึนกับเรื่องสถานีรถไฟของญี่ปุ่นน่าดู ตัวละครหล่อสวย ชอบที่ยกเรื่องกลุ่มชินเซ็นกุมิเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงจำชื่อตัวละครได้เป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาอะไร ผู้ต้องสงสัยอยู่ในชุดชินเซ็นกุมิแล้วดูดีกันหมดเลย พอถอดออกแล้วกลายเป็นตาสีตาสาหน้าโหล (ฮา) เฉลยเหตุผลของคนร้ายเกือบซึ้ง ถ้าคนร้ายไม่จับมือศพแล้วพูดออกมาว่า "ทำไมมือถึงเย็น?" ตอนจบทำให้รู้ว่าทากาโต้ชอบคินดะมากจริงๆ และนั่นเป็นภาพสุดท้ายของคินดะอิจิในวัย 17 ปี
คุณประทับใจ "คดี" อะไรในมังงะซีรี่ส์ "คินดะอิจิ กับคดีฆาตกรรมปริศนา R" บ้างครับ?
แล้วก็ซีรี่ส์แยกของอาเคจิ รวมไปถึงทากาโต้ กับคดีฆาตกรรมปริศนา อยากลองแชร์ความรู้สึกที่มีต่อคินดะอิจิ R
รวมไปถึงถามความรู้สึกของท่านอื่นๆที่อ่านมาเช่นกันด้วยครับ อ่านแล้วมันเพลินๆดี เขียนกระทู้ก็เพลินๆดีด้วย
ภาพรวม - ความหม่นหมองไม่เท่าของเก่า ลายเส้นก็เช่นกัน หลายคนมักมีปัญหาด้านลายเส้นที่หวานแหววกว่ารุ่นเก่าๆ
แต่ผมไม่มีนะ ผมมองว่ามันเป็นการปรับตัวให้เข้ากับยุค เข้ากับสมัย สมัยนี้ตัวละครก็ต้องหน้าตาประมาณนี้แหละ หล่อสวย หวาน
แบบเก่าจะเน้นเรียล ซึ่งการ์ตูนหลายเรื่องในยุคนั้นก็จะคมเข้มประมาณนั้นเช่นกัน ตัวคดี มีการหยิบยืมทริกจากของเก่า
มาประมาณหนึ่ง ยังไม่มีความแปลกใหม่ ถ้าจะแปลกใหม่ จะเป็นธีมคดี หรือเนื้อหาในคดีเสียมากกว่า แต่ตั้งแต่ตอนเฉลยเป็นต้นไป
ค่อนข้าง Reuse มากเกินไป
เจาะ -
ตำนานปีศาจหิมะ : ฮาจิเมะเจอคดีแนวหิมะอีกแล้ว บางทีคนอ่านสับสนนะว่าเคยอ่านไปหรือยัง ถ้าอ่านแต่เรื่องย่ออ่ะ คดีไม่หวือหวาเท่าไหร่สำหรับผม ตัวละครใช้เยอะ ตำนานดี แต่ไม่คุ้ม สงสัยเพราะตายน้อยเกินไปล่ะมั้ง แถมไม่มีศพจริงๆจังๆ ความบีบคั้นเลยไม่ค่อยมี ถ้าตายเยอะๆเกลื่อนๆ แล้วเห็นศพกันจะๆอาจมันส์กว่านี้
วิญญาณในโรงเรียน : ตัวละครหล่อสวยเยอะดี พยายามทำให้หลอน แต่ก็ยังไม่หลอนเท่าที่ควร ประทับใจในทริกเรื่องตึกเอียงมาก คนร้ายน่ารักดีครับ (ฮา) แรงจูงใจไม่ค่อยเคยเห็นเท่าไหร่ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับศิษย์ (ไม่มีอะไรเกินเลย) มีซีนกระชากอารมณ์
จิ้งจอกลอยไฟ : อีกความดีงามของภาค R มีกลิ่นอายเหมือนฆาตกรรมหมู่บ้านเงาหิมะ ในภาค 7 เคส ที่ว่าด้วยเรื่องเพื่อนสมัยเด็กคนหนึ่งตาย เป็นเหตุให้เพื่อนที่กระจัดกระจายไปตามทางของตนเองต้องมารวมตัวกัน ณ งานศพของเพื่อนที่ล่วงลับ ตามมาด้วยการฆาตกรรมต่อเนื่องที่มีที่มาที่ไปอันแสนเศร้าของตัวคนร้าย ส่วนตัวคิดว่าคดีนี้ทำออกมาได้โอเคกว่าหมู่บ้านเงาหิมะที่มาแนวเพื่อนเหมือนกัน อาจเป็นเพราะผู้แต่งต่อยอดในอะไรหลายๆอย่างจากที่ขาดไปในคดีหมู่บ้านเงาหิมะ เป็นคดีที่คนร้ายน่าสงสารจริงจังเหมือนรุ่นเก่าๆ
โดมรังมดนรก : ต่อเนื่องกันกับคดีที่ดีที่สุดอย่างจิ้งจอกลอยไฟ กลายเป็นโดมรังมดนรกที่สำหรับผมดิ่งที่สุดในภาค R แล้ว เปิดเรื่องน่าสนใจ กับการทดลองจิตวิทยา ณ สถานที่ตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างโดมที่ตั้งกลางทะเลทรายดูดขนาดใหญ่ อาจารย์ผู้ทำการทดลองที่ดูจิตหน่อยๆ แต่ตั้งแต่เกิดคดีแรกแล้วเนื้อเรื่องแผ่วจัด ขนาดใส่เรื่องทากาโต้มาแบบเซอร์ไพร์ส ยังไม่รู้สึกยกระดับขึ้นมาเท่าไหร่เลย คนร้ายเป็นอภิมหาตัวประกอบ หนำซ้ำ ทริกยัง Re-use ชัดเจนจากคดีพีคสุดๆจากภาคแรกอย่างคดีปราสาทหุ่นขี้ผึ้ง (Mr.Redrum)
ซากุระดูดเลือด : สำหรับผมนี่คือความลงตัวของภาค R ที่สมบูรณ์ในหลายๆเรื่อง ผมชอบเทียบเท่าคดีบ้านกุหลาบ ภาค 20 ปี เลยนะ ตัวละครพอประมาณ (เฉลี่ย 8-9 คนตามมาตรฐาน) มีความเกี่ยวข้องกันส่วนหนึ่ง ส่วนพวกที่ไม่เกี่ยวข้องก็ไม่ทิ้งขว้าง ไม่ใช่ตัวประกอบ เพราะมีปมของตนเองกันหมด ตอนจบมีการเฉลยปมอย่างครบถ้วน ธีมของคดีแปลกใหม่ ว่าด้วยโรงแรมตั้งกลางป่าซากุระที่มีตำนานหมอโรคจิตฆ่าคนไข้ฝังใต้ต้นซากุระ บรรยากาศหลอนแบบแปลกๆทั้งด้วยสถานที่และผู้ร่วมคดี ศพแต่ละศพของฆาตกรบ้าเอามากๆอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แรงจูงใจน่ากลัว แต่ความเป็นมาของฆาตกรน่าสงสารอีกคนนึงเลย แต่เหยื่อเองก็น่าสงสารไม่แพ้กัน เพราะตัวเหยื่อเองก็จมกับความรู้สึกผิดบาปมาตลอด ซ้ำยังรู้ตัวมาตลอดว่าจะต้องถูกฆ่า ตำนานประจำเรื่องเองก็ไม่ได้ปล่อยผ่าน เพราะมีคำตอบในตอนจบ
เกาะตุ๊กตา : คดีที่สอบผ่านตามมาตรฐานของภาค R แต่ถ้าเรื่องความโหดคงที่สุดของภาค R แล้ว สมใจแฟนๆหลายคนที่อยากเห็นสภาพศพโหดแบบคดีรุ่นเก่าๆ เพราะคดีนี้คนร้ายเราจัดการหั่นศพเป็นท่อนๆเลยทีเดียว เป็นอีกตอนที่ฟิลลิ่งหลอนๆกลับมา ไม่ได้หลอนตำนานในคดี แต่หลอนสภาพศพกับกลุ่มนักเขียนสวมหน้ากากในกลุ่มผู้ร่วมคดี เป็นอีกคดีที่คนร้ายมาแนวน่ารักอีกแล้ว มีการหัวเราะแบบน่ารักจัดๆ หลังถูกชี้ว่าเป็นฆาตกร
ซอมเมอลิเยร์อาเคจิ เคนโกะ : โชว์ความหล่อของคุณอาเคจิอย่างเดียว ตัวคดีไม่มีอะไรเลย ฮาจิเมะเป็นตัวประกอบ เหตุผลของฆาตกรอย่างกับฆาตกรในโคนัน
โรงแรมปิศาจมืด : การกลับมาของเรย์กะที่ยังแสลนแด๋นได้ใจเหมือนเดิมและเพิ่มเติมคือน่ารักสวยใสขึ้น เหมาะสมกับการเป็นไอดอลจริงๆ มาแนวเรื่องผีสางนางไม้ แต่บรรยากาศไม่หลอนอีกตามสูตรรุ่นใหม่ ฆาตกรพอเดาได้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะให้คนแบบนี้เป็นฆาตกรจริงๆเหรอ มีความตลกร้ายหลังฆาตกรรับรู้ความจริงบางอย่างในตอนจบ เมื่อเขาเอ่ยออกมาว่า "ขอโทษทีนะ ขอเวลาร้องไห้หน่อย"
โรงหมักสาเกงูขาว : ถ้าตอนก่อนเป็นการกลับมาของเรย์กะ ตอนนี้ก็จะเป็นการกลับมาของมนุษย์หน้ากากจริงจังที่พบเห็นกันได้บ่อยๆในนิยายสืบสวน ในภาค R สถานที่และบรรยากาศชวนให้นึกถึงกลิ่นอายของคินดะอิจิยุคแรกๆ ช็อตสืบสวนกลางเรื่องเอื่อยไปหน่อย เพราะพูดแต่สิ่งที่เรารู้ๆกันอยู่แล้ววนไปวนมา ไม่ไปไหนสักที มีแต่การคุยกันชวนให้หาวนอน แต่ต้นเรื่องและช่วงก่อนคลี่คลายคดีลากยาวไปยันจบ ทำดี จึงมองข้ามส่วนเอื่อยนั้นไปได้ ผู้ต้องสงสัยจำนวนมาตรฐาน แม้ไม่ได้มีปมกันทุกคน แต่ก็ขยันสับขาหลอกกันทุกคนอย่างสมเหตุสมผล แรงจูงใจจัดหนักจัดเต็ม มีที่มาที่ไป ไม่ได้เน้นดราม่า ท้ายเรื่องแอบหลอนอ่อนๆ และสงสารพ่อฆาตกร ภาพของพ่อฆาตกรที่ซ้อนทับภาพโรงหมักอันเงียบเหงาชวนให้รู้สึกหดหู่อยู่หน่อยๆ
เกาะเซย์เร็น : คดียาวจัดเต็มที่สุดของภาค R และมีความคลาสสิก มีบรรยากาศแบบรุ่นเก่าและแบบใหม่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เนื้อเรื่องง่ายๆคือคินดะอิจิ มิยูกิและลุงเค็นโมจิไปแข่งขันตกปลากันบนเกาะห่างไกลผู้คน แต่เกาะนั้นมีตำนานนางเงือกฝรั่งอยู่ แล้วเกาะก็ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก พร้อมเกิดคดีฆาตกรรมขึ้น หลายๆร่องรอยชวนให้คิดว่านี่ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ แต่เป็นฝีมือของนางเงือก ไซเร็น ที่มักปรากฏมาเป็นเสียงกรีดร้องโหยหวนไปทั่วเกาะ เป็นคดีที่มีชั้นเชิง และสามารถวิเคราะห์และคิดตามได้อย่างจริงจัง มิยูกิกับลุงเค็นโมจิไม่ได้มาทำหน้าเด๋ออย่างเดียว เพราะทั้ง 2 คนก็ช่วยคินดะอิจิตีความคดี สืบหากลอุบายอย่างจริงจังตามความสามารถ และถูกต้องด้วย ฆาตกรฉลาด เพราะจัดเต็มมีทริกในทุกคดี ต่างจากคดีหลายคดีที่มักมีทริกแค่ทริกเดียวใหญ่ๆ แรงจูงใจของฆาตกรน่าเห็นใจ ตัวตนของฆาตกรแปลกใหม่ดี คนประมาณนี้ในคินดะไม่ค่อยมีให้เห็นว่าเป็นฆาตกรบ่อยๆ
ลักพาตัวคินดะอิจิ ฟุมิ : ฟุมิโฉมใหม่ แต่ก็ยังหน้าตาเป็นคินดะอยู่ดี คดีปิดท้ายคินดะอิจิ R ที่พาคนไทยมึนกับเรื่องสถานีรถไฟของญี่ปุ่นน่าดู ตัวละครหล่อสวย ชอบที่ยกเรื่องกลุ่มชินเซ็นกุมิเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงจำชื่อตัวละครได้เป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาอะไร ผู้ต้องสงสัยอยู่ในชุดชินเซ็นกุมิแล้วดูดีกันหมดเลย พอถอดออกแล้วกลายเป็นตาสีตาสาหน้าโหล (ฮา) เฉลยเหตุผลของคนร้ายเกือบซึ้ง ถ้าคนร้ายไม่จับมือศพแล้วพูดออกมาว่า "ทำไมมือถึงเย็น?" ตอนจบทำให้รู้ว่าทากาโต้ชอบคินดะมากจริงๆ และนั่นเป็นภาพสุดท้ายของคินดะอิจิในวัย 17 ปี