[CR] Wusong Island : Rime ของฉันและวันอันหนาวเหน็บ


สวัสดีจ้า วันนี้อยากจะขอพื้นที่รีวิวประสบการณ์ไปเกาะอู่ซ้ง ( Wusong Island)ประเทศจีน  ที่อยู่ในพื้นที่มณฑลจี๋หลิน (吉林)
เป็นทริปที่ประทับใจมาก เลยอยากจะแชร์สำหรับคนที่กำลังจะวางแผนไปเที่ยวเมืองจีนหรือยังลังเลว่าควรไปดีไหม
คืออยากจะบอกว่าจีนไม่ยากอย่างที่คิดและมีสถานที่สวยๆมากมายที่รอให้เราไปสัมผัส

เกริ่นก่อนว่าแผนการไปเที่ยวดูต้นไรม์ครั้งนี้เกิดจากการเปลี่ยนใจ ซึ่งตอนแรกวางแผนเที่ยวแค่ฮาร์บิ้นเท่านั้น
เลยวางแผนแค่บินจากเซียงไฮ้ไปลงที่ฮาร์บิ้นแล้วชิวๆในฮาร์บิ้น แต่พึ่งมาเปลี่ยนใจกะทันหันไม่กี่เดือนล่วงหน้า
ทริปนี้จึงเกิดขึ้น ดังนั้นจะขอเริ่มทริปจากเซียงไฮ้ก่อนเนอะ

2 Jan 2019 Day 1
เริ่มออกเดินทางจากสนามบินผู่ตง Pudong International Airport ( 上海浦东国际机场 ) ด้วย Shanghai Airline (上海航空)สายการบินนี้เป็นสายการบินลูกของ  China Eastern Airline (东方航空) ซึ่งเป็นหนึ่งใน Sky team  
ได้ตั๋วมาราวๆ 4,450 บาท เวลาเครื่องออกจากเซียงไฮ้ (上海) คือ 7.30  น. เพราะฉะนั้นก็เลยออกจากโรงแรมตีห้าถึงสนามบินราวๆ ตีห้าครึ่ง
เช็คอินโหลดกระเป๋าเสร็จก็ไปผ่าน Security check ถึงแม้ว่าจะเป็นภายในประเทศก็ควรเผื่อเวลา เพราะเขาจะมี Security check ที่รัดกุมยังกับผ่านตม. และบางทีแถวโคตรยาว แต่ๆ..เขาก็มีช่องเร่งด่วนสำหรับ คนจะตกเครื่อง สามารถไปโชว์ตั๋วว่าไอจะตกเครื่องแล้ว เขาจะพิจารณาเวลาบนบอร์ดดิ้งพาสแล้วให้เราผ่านไปได้ แต่ถ้าเวลาไม่ผ่านเกณฑ์ก็มาต่อคิวซะดีๆ
**ปล.  สำหรับการจองเที่ยวบินภายในของประเทศจีนหรือการเดินทางด้วยรถไฟนั้น ช่องทางที่ใช้บ่อยๆ ก็ Ctrip.com หรือบางครั้งผมก็ใช้บริการ Knowchinese.com ครับเป็น supplier ไทยที่ผมใช้ตั้งแต่ไปจีนสมัยแรกๆ เค้าบริการดีครับ โดยเฉพาะสายการบินหน้าหนาวในจีน เลื่อนหรือยกเลือกเที่ยวบินเป็นว่าเล่น ถ้าจองเองต้องคอยติดตามข้อมูล แต่ถ้าใช้บริการของ knowchinese เขาก็ติดตามแจ้งข้อมูลให้ตลอดครับ **
เข้าไปด้านในก็เคว้งคว้าง ร้านรวงยังไม่ค่อยเปิด เพราะว่าเช้าซะ แลวก็รอถึงเวลาขึ้นเครื่องประมาณ 7 โมง
รีวิวสายการ Shanghai Airline ( 上海航空 )
FM9171 เส้นทาง Shanghai Pudong (PVG) T1 -》Harbin Taiping (HRB) T2
เดินทางด้วยเครื่องแบบ : Airbus A330-300 ผังที่นั่งแบบ 3 -3
พันธมิตรการบิน :Sky Team
การบริการของลูกเรือ 8/10 : พนักงานต้อนรับบางคนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีและให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นกันเอง
อาหารบนเครื่อง 6/10 : จานหลักเป็นข้าวต้มขาวกับผักดองและไข้ต้ม ของหวานเป็นเมลอนและเต้าหู้ก้อนกวานๆ ( อารมณ์น้ำเต้าหู้) บนเครื่องมีบริการเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
สิ่งบันเทิง : N/A ไม่มีบริการจอมอนิเตอร์ มีแต่หูฟังที่ใช้ดูรายการที่ฉายแบบจอร่วม
น้ำหนัก : ให้มา 23 กิโลกรัม
โดยรวมถือว่าโอเคกับการบริการของสายการบินนี้
หลังจากใช้เวลาไป  3 ชม. 20 นาที ก็มาถึง ฮาร์บิ้น ( 哈尔滨 ) เวลา10.50 น. ก่อนจะลงนี่พื้นดินฮาร์บิ้นขาวโพลนไปหมด แม่น้ำเป็นน้ำแข็งทุกสาย อากาศเปลี่ยนจาก 1 องศาที่เซียงไฮ้ มาเป็น -24 องศา หนาวไม่หนาวดูกระจกก่อนลง มันจับตัวเป็นน้ำแข็งขู่เราเลย
แถมตอนลงเจอน้องจีนใส่ชุดกันหนาว พร้อมไม่พร้อมดูรูป!!
หลังจากเราได้กระเป๋าเรียบร้อยก็ราวๆ 11.05 ( กระเป๋ามาไวมากกกก )
เดินออกมาซื้อตั๋วรถบัสไปสถานีรถไฟความเร็วสูง มองหาเคาเตอร์ขายตั๋วรถ shuttle busให้หาคำว่า 巴士售票  ( ปาสื๋อโซ่วเพี้ยว )
บอกพนักงานขายว่าไป ฮาเอ๋อปิ่นซีหั่วเชอจ้าน (哈尔滨西火车站 ) หรือฮาเอ๋อปิ่นซีจ้านก็ได้ มันคือสถานีรถไฟฮาร์บิ้นตะวันตกนั่นเอง
หวยก็ออกที่สาย 2 ซึ่งตรงนี้ก็มีรถหลายสาย รวมถึงมีเดินทางเข้าไปที่ตัวเมืองฮาร์บิ้นด้วย ทั้งหมดทั้งมวลราคาเดียวคือ 20 หยวน (ประมาณ 96 บาท)
**ปล. ใครที่ต้องการนั่งแทกซี่เข้าตัวเมืองก็สามารถทำได้ แต่ส่วนใหญ่รถจะค่อนข้างเล็กและไม่สามารถใส่กระเป๋าใบใหญ่ไว้กระโปรงหลังได้ คนขับมักจะเอากระเป๋ามาวางไว้ที่นั่งด้านหลัง ซึ่งก็จะเสียพื้นที่นั่งไปอีก ถ้ามา 1-2 คนก็โอเคอยุ่ แต่สามคนขึ้นไปจะลำบากมากกับแทกซี่ 1 คัน ราคาแทกซี่เข้าเมืองตกราวๆ 120 หยวน ไม่รวมทางด่วนอีก 30 หยวน ก็ราวๆ 720 บาท อัพๆ**
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ก็มาถึงสถานีรถไฟตะวันตก (哈尔滨西火车站) ประมาณเที่ยงวัน
ข้อเสียการนั่ง shuttle bus มาจากสนามบินคือรถพี่แกจะจอดฝั่งตรงข้ามสถานี คือลานหน้าสถานีก็ใหญ่ไปอีก แล้วการลากกระเป๋า 28 นิ้วเดินดุ่ยๆกลางอุณหภูมิ -24 องศาคือไม่ตลกเลยยย แว่บแรกที่ลงจากรถคุณจะรู้สึกว่าโอ้! เย็นสบายๆ ชิลๆ แต่เชื่อเถอะคุณควรใส่ถุงมือ คลุมหัวด้วยฮู้ดหรือหมวก ถ้ามีผ้าปิดปากก็ควรใส่ เพราะคุณจะเดินได้ไม่กี่วินาที ความสามารถในการทนหนาวของคุณจะลดลง เหมือนอุลตร้าแมนที่อยู่บนโลก พอสู้ไปสักพัก อ้าวพลังงานหมด มีไฟเตือนที่หน้าอก ปิ๊บๆๆ ต้องกลับดาวแล้ว อารมณ์นั้นเลย เพราะฉะนั้นใส่อะไรกันหนาวเวลาออกกลางแจ้งเถิดหนา

หลังจากพร่ำเรื่องความหนาวไป เราก็เดินลากกระเป๋าดุ่ยๆ ไปที่จุดขายตั๋ว ให้มองหาคำว่า โซ้วเพี้ยวชู่ (售票处) แปลว่าจุดขายตั๋วนั่นเอง คือเราซื้อตั๋วออนไลน์มาแล้ว เราก็มาทำการขึ้นตั๋วจริงหรือถ้าใครจะมาซื้อตั๋วจริงที่หน้างานเลยก็ได้ไม่ต้องจองล่วงหน้าแต่ก็ควรเผื่อเวลาและลุ้นว่าตั๋วจะเต็มไหม เอกสารยืนยันก็คือเลขจอง ตั๋วและพาสปอร์ตของผู้เดินทางทุกคนที่จะออกตั๋ว
**ปล. สถานีรถไฟของจีนจะใหญ่โตมาก ยังกับสนามบิน มักจะมีจุดออกตั๋วหลายจุด และในปัจจุบันพัฒนาไปเป็น แบบตั๋วอัตโนมัติไปเลยหนึ่งจุด (自动票处) แต่ ณ มกรา 2019 ยังรองรับแค่ประชาชนจีนโดยการคอนเฟิร์มด้วย ID card ของคนจีนเท่านั้น คนไทยก็ควรจะรีบมองหาจุดที่มีคนขายเป็นเคาเตอร์โดยไว**

ซึ่งขบวนที่เราเลือกวันนี้คือ G896 เป็นรถไฟหัวกระสุนเดินทางไปจี๋หลิน (吉林) รอบเวลาบ่าย 4 โมง 5 นาที
รถไฟหัวกระสุนคืออะไร รถไฟหัวกระสุนคือรถไฟความเร็วสูง ( 高速列车) เทียบกะญี่ปุ่นก็คงเป็นชินคันเซ็น วิ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 200  ปลายๆ ถึง 320 กิโลเมตร/ชม.

พอได้บัตรมาแล้วให้เราจ้องไปที่บัตรและดูข้อมูลที่สำคัญจะได้ไม่ตกรถตกรากัน
3 ข้อที่ควรรู้
1)    ชานชาลาหรือเกตที่ต้องไปรอ(检票) ในที่นี่ก็  B12
2)    เดินทางจากไหนไปไหน  哈尔滨西站 ( สถานีฮาร์บิ้นตะวันตก) ขบวน G896  吉林站 ( สถานีจี๋หลิน)
3)     เวลารถออกและนั่งไหน  ให้ดูแถวที่แสดง 16.05 开 ( เวลาออกรถ ), 02 车 ( โบกี้ที่ 2 ) 05A 号 ( ที่นั่ง 5A)
หลังจากนั้นเราก็เข้ามาที่สถานีรถไฟ ผ่านการตรวจตั๋วและแสกนกระเป๋าเรียบร้อยตามสไตล์พี่จีน เราก็เข้ามารออยู่ในอาคารผู้โดยสาร
ด้วยความที่รถไฟของเราเป็นรอบบ่าย 4 โมงเย็น( เพราะเรากลัวเครื่องจากเซียงไฮ้ดีเลย์มาก) จึงต้องมาแก่วประมาณ 2 -3 ชม. เราจึงหาข้าวเที่ยงกิน ที่ชั้นสองก็มีของกินเยอะนะ เราเลือกไม่ได้ระหว่างร้านมิสเตอรลี (李先生) กับร้านหมาล่าทั่ง (麻辣烫) ก็เลยนั่งมันตรงกลางสองร้านสั่งข้ามมากิน เขาก็ไม่ว่านะ ก็ไปต่อรองกะเขาว่ากินสองร้านเลยน้า ก็เลยมาชุดใหญ่ไฟกระพริบ
ขอรีวิวทีละเมนูละกันนะ
1.เหม่ยกันไช้ฮุยกัวโหร่ว(梅干菜回锅肉) หรือหมูสามชั้นโปะหั่มช้อย ( ผักดอง) 8/10
หมูนี่มันละลายไปเลย ไม่มีคำว่ากัดไม่ขาด ถ้าเป็นคนกินมันได้ เมนูนี้แนะนำอย่างแรง ที่เขาใช้คำว่า ฮุยกัว (回锅) น่าจะเพราะเขาปรุงสองครั้งมั้งนะ ตรงมันเลยไม่แข็ง
2.เจียโจวจี (加洲鸡) เป็นอารมณ์ไก่แช่เหล้า อันนี้ก็ดี 8/10
ไก่เด้งสู้ลิ้น มีความ juicy ดี
3.หมาล่าทั่ง (麻辣烫)7/10 เคยกินร้านอื่นเด็ดกว่านี้ แต่ถือว่าเซฟๆ
เป็นร้านสไตล์ที่ให้เลือกผักเลือกลูกชิ้นตามใจชอบชั่งจ่ายตามน้ำหนัก แล้วเขาก็จะต้มใส่ซุปหมาล่ามาให้ คือมันก็ชานลิ้นตามสไตล์หมาล่า แต่จะไม่โหดร้ายเหมือนหม้อไฟหมาล่าของเสฉวน ชามใหญ่เท่าหน้านี่ราคา 28 หยวน
แล้วก็จบด้วยไอศครีมชื่อดังของฮาร์บิ้น ที่ไม่กินคือพลาด ไม่กินคือมาไม่ถึง
4.ไอติม “มาเตียเอ๋อ” (马迭尔) รสเด็ดเลยที่แนะนำก็ French vanilla (法国草莓) 10/10 จริงๆ หอมวานิลลาแต่แอบมีความเมล่อน ( มั้งนะ)ราคาอยู่ที่ 8 หยวน อร่อยมากบอกไม่ถูกรู้สึกได้ถึงวัตถุดิบดีๆ เนื้อก็นุ่มนิ่ม ที่สำคัญไม่หวานมากจนบาดคอ
**ปล. แต่ถ้าไปซื้อในเมืองฮาร์บิ้น แถวถนนจงยาง ( 中央大街) ราคาไม้ละ 5 หยวน **
แล้วก็เดินมานั่งแก่วแถวเกต B12-B13 รอเวลาไปเรื่อยๆ
หลังจากนั้นก็ถึงเวลาบ่าย 4 โมง ประมาณ 5 นาที ก่อนรถออกเขาจะเริ่มเรียกเข้าชานชาลา สังเกตุที่ป้ายจะมีตัวหนังสือสีเขียว ด้านหลังขบวนของเรา อ่านไม่ออกไม่เป็นไร แต่มันคือพร้อมแล้วววว
เราก็เดินไปสอดบัตรแสกนแล้วเดินเข้าไป โปรเซสรถไฟในจีนนี่อารมณ์จะขึ้นเครื่องบินจริงๆ
เดินออกพบความหนาวเย็นไปอีก ออกมาแป็บเดียวก็รู้สึกอยากกลับดาวอีกละ ไอที่ไปสิงในอาคารกินอะไรอุ่นๆตั้งนานก็ไม่ช่วยอะไร ตอนออกมามีหิมะตกเบาๆ เป็นไลท์สโนว์ แต่เหมือนจะเริ่มตกไปนานละ รางรถไฟนี่ขาวไปละ ก็ถ่ายรูปซะหน่อย
ชื่อสินค้า:   Wusong Island
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่