สวัสดีค่ะ พ่อแม่พี่น้องทุกท่าน จขกท ขอเสนอ.... ภูเขาฉางไป๋ซาน ประเทศจีน ติดชายแดนเกาหลีเหนือ
ภูเขาฉางไป๋ซาน (Changbai Mountains) หรือเทือกเขาฉางไป๋ซาน (Changbaishan) สถานที่ท่องเที่ยวสุดแสนโรแมนติกในมณฑลจี๋หลิน ประเทศจีน ที่ต้องหาโอกาสมาเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต ภูเขาฉางไป๋ซานเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการเดินทางมาฮันนีมูนเป็นอย่างมาก!!!

เนื่องมาจาก จขกท.นั้น เรียนอยู่ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน แล้วก็เผอิญว่า ช่วงนี้เป็นวันหยุดชาติของจีน เลยได้มีโอกาสไปเยือนแดนสวรรค์ ที่อยากไปมานานมากแล้ว .... คนไทยอาจจะไม่ค่อยรู้จักกันสักเท่าไร เลยอยากจะมารีวิวให้ได้ดูกันค่ะ ว่านอกจาก ปักกิ่ง เซียงไฮ้ คุนหมิง ฯลฯ ที่ขึ้นชื่อในจีนแล้ว ยังมีอีกที่ที่อยากให้ได้ลองไปกันค่ะ มันสวยมากกก จริงๆค่ะ แต่อาจจะเดินทางลำบากนิดหน่อย แต่คุ้มค่าค่ะ จขกท. รับประกันความสวยงาม ( รูปที่ถ่ายใช้กล้องFuji Xa2 , Iphone6,Iphone4s,Xiao Yi camere )
งั้นเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ ครั้งนี้เป็นรีวิวครั้งแรกค่ะ หากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ด้วยน่ะคะ
วันที่ 1 : ออกเดินทางจากปักกิ่งโดยรถไฟนอน ใช้เวลาเดินทางจากปักกิ่ง ไปยัง เมืองจี๋หลิน ประมาณ 14 ชม.
ปล. จขกท เดินทางไปเมื่อวันที่ 2-6 ตุลาคมค่ะ สภาพอากาศปักกิ่งประมาณ15-20องศา ส่วนเมืองจี๋หลินจะอยู่ที่ 0-12องศาค่ะ
ถ้าจะไปช่วงนี้ต้องเตรียมเสื้อกันหนาวแบบหนามากๆ เลยค่ะ
วันที่ 2 : ถึงสถานีรถไฟจี๋หลิน ตอนประมาณ 7 โมงเช้าค่ะ
จขกท ซื้อทัวร์เอาไว้ค่ะ เพราะ การเดินทางไปเองค่อนข้างลำบาก และไกลมาก เลยซื้อทัวร์ไว้ 4วัน ราคา 1550 หยวน (1550x6=9300บาท)
ทัวร์นี้ รวม ที่พัก 2 คืน เพราะที่เหลือคือต้องนอนบนรถไฟค่ะ มีอาหารเช้าจากโรงแรมให้ มีอาหารกลางวันให้ แค่ 2 วัน อาหารเย็น1มื้อ ที่เหลือก็
หาซื้อกินเองค่ะ5555 บอกเลยว่าต้องทำใจกับทัวร์จีน อีกอย่างสถานที่ไปคือเขา ไม่ได้สะดวกสบายอะไร เป็นไปได้ก็เตรียมมาม่าไปเยอะๆค่ะ เผื่อ
ไม่ชินกับอาหารจีน
หลังจากออกมาจากสถานีรถไฟ จะมีไกด์จีน ยืนถือธงรอรับเราอยู่หน้าสถานีค่ะ เพื่อจะพาเราไปขึ้นรถ นั่งต่อไปอีก 5.5 ชม. ค่ะ (งานนี้เน้นนั่งรถ
ยาวไปๆ )
ระหว่างทางไปมีเเวะพัก และแวะพาเที่ยว แต่!!!!ต้องจ่ายเงินเพิ่มจากที่จ่ายมาแล้วค่ะ ซึ่งพาแวะร่องแก่งกับน้ำน้อยๆ ในราคา 95 หยวน พวกเราดู
แล้วไม่โอเค เลยนั่งรอให้คนจีนคนอื่นเล่นไปค่ะ อันนี้บ้านเราสวยกว่าเยอะ เราเลยเลือกจะ นั่งรอ!!อีก 2ชม.เลยค่ะ
รถขับมาถึงที่พักประมาณ 19:00 ที่พักอยู่ในป่าค่ะ แต่โชคดี ที่ยังมีโรงแรมอยู่ เป็นโรงแรมสามดาว ไม่หรู แต่สะดวกในการเดินทางไปเขาฉางไป๋
ซาน เพราะโรงแรมนี้อยู่ห่างจากเขา ขับรถประมาณ10นาทีถึงค่ะ ราคาห้องพักอยู่ที่ 240หยวน ปล. ในห้องไม่มีฮิตเตอร์ค่ะ และ น้ำเย็นมากกก
อากาศตอนดึกก็ติดลบ ผ้าห่มก็เอาไม่อยู่ค่ะ นอนหนาวกัน ค่อนข้างทรมาน แต่ก็ทนได้ 5555
วันที่ 3 : วันนี้ต้องออกเดินทางตั้งแต่ 5:30เพราะต้องรีบไปซื้อตั๋วขึ้นเขา เนื่องจากเป็นวันหยุดคนจึงเยอะมากเป็นพิเศษ ใช้เวลานั่งรถไปประมาณ10-15นาทีก็ถึงตีนเขาทางที่เราจะขึ้นไปดูบ่อสวรรค์ รอไกด์ไปซื้อตั๋วให้ เราก็ถ่ายรูปบริเวณตีนเขาเล่น คือ ดีงามมากค่ะ

ได้ตั๋วแล้วก็ต้องไปต่อแถวเพื่อนั่งรถขึ้นเขาไปอีกประมาณ20นาที ถึงประมาณกลางๆเขา แล้วถึงจะเดินปีนเขาขึ้นไปดูบ่อสวรรค์อีก การเดินทางหลายหลายรูปแบบมากๆค่ะ กว่าจะถึง และที่ทำให้ช็อคมากที่สุดคือ ทางเจ้าหน้าที่ประกาศว่า วันนี้ไม่สามารถขึ้นไปดู บ่อสวรรค์บนยอดเขาได้เนื่องจากบนยอดเขาหิมะตกหนักมาก การเดินทางขึ้นไปจะลำบากและอันตรายมากเพราะพื้นมีแต่หิมะที่เกาะตัวเป็นน้ำแข็งและลื่นมาก จึงได้ปิดการเดินทาง !!!! เสียใจหนักมากกกค่ะ !!! เราตั้งใจมาเพื่อบ่อสวรรค์นี้ แต่กลับปิดทำการ เพราะสภาพอากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ได้
ปล. ไกด์บอกว่า อากาศบนยอดเขา กลางเขา และตีนเขา ต่างกันมาก เราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าอากาศจะเป็นยังงัย ต้องอาศัยดวงอย่างเดียวเลยค่ะ สรุปคือ อดไปดูบ่อสวรรค์ แต่.. ทางไกด์ก็พาเราไปดูน้ำตกที่ตกลงมาจากบ่อสวรรค์แทน ต้องปีนเขาขึ้นไปดูน้ำตกแทน ก็สวยเหมือนกันค่ะ

ที่มาของบ่อสวรรค์ คือ ภูเขาไฟที่ระเบิดมาแล้วกว่าสามร้อยปี เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ พอฝนตกลงมาก็สะสมน้ำจนกลายเป็น บ่อสวรรค์อย่างที่เห็นในรูปค่ะ
พอรู้ว่าไม่ได้ไปดูบ่อสวรรค์ก็แอบเสียใจ แต่ก็ไม่เป็นไร ไปดูน้ำตกที่น้ำตกลงมาจากบ่อสวรรค์แทนก็ได้

ทางขึ้นเต็มไปด้วยหิมะ หนาวและทางลื่นมากกก

หิมะหนามากก

ระหว่างเดินขึ้นก็เจอพายุหิมะแบบนี้เลยค่ะ ลมแรงมาก มือเท้าชาไปหมด ขนาด จขกท ใส่เสื้อ6ชั้น กางเกง3ชั้น ยังเอาไม่อยู่เลยค่ะ

ถึงละค่ะ ...น้ำตก.. ที่ตกลงมาจากบ่อสวรรค์ ..

ก่อนเดินลงเขา แวะแชะรูป แล้วเดินต่อไปยังสระมรกต

ถึงแล้วค่ะ สระมรกต สวยสมคำล่ำลือจริงๆ

เดินฝ่าพายุ ลมหนาว มาเรียบร้อยแล้วก็เดินลงเขามาเพื่อนั่งรถกลับที่พัก อีกที่หนึ่ง ต้องนั่งรถต่อไปอีก2-3 ชม. ถึงจะถึง ที่พักค่ะ
ขับรถมาถึงที่พักประมาณ 6 โมงเย็น เข้าที่พักใหม่ อันนี้เข้ามาในตัวเมืองตุนฮวา ซึ่งค่อนข้างเจริญ กว่าเมื่อวานนี้มากและที่พักดีกว่าถึง10เท่าเลยก็ว่าได้ค่ะ วันนี้ก็พักยาวไปๆ
วันที่ 4 : สำหรับวันนี้ ไกด์พาไปเที่ยว ทะเลสาบจิ้งโปหู การเดินทางใช้เวลานั่งรถไปอีก3ชม.ถึงค่ะ นั่งกันจนเมื่อยก้นไปหมด ทริปนี้นั่งรถเยอะมาก
ถึงละค่ะ ทะเลสาบ เดี๋ยวนั่งเรือต่อไปอีก2ชม. เพื่อไปดูน้ำตก (อีกแล้ว)

วิวถ่ายจากบนเรือ

ขึ้นท่าเรือมาทานอาหารกลางวัน แล้วนั่งรถต่อไปประมาณ10นาที ไปที่น้ำตกค่ะ

ถึงละค่ะ น้ำตก !!

ใบไม้ปลี่ยนสี อากาศตอนกลางวันเย็นสบาย
สิ้นสุดทริปการเที่ยวลงที่ทะเลสาบที่นี่ค่ะ หลังจากนั้นก็นั่งรถต่อไปยังสถานีรถไฟจี๋หลิน ที่เดิมที่นั่งมา ใช้เวลา 6 ชม. ถึงสถานีรถไฟจี๋หลิน รอรถไฟเร็วรอบ20:04 ไปลงที่เมืองฉางชุน นั่งรถไฟนอนจากฉางชุนไปปักกิ่ง อีก12ชม. ถึงปักกิ่งเวลา7:55 น.
ครั้งนี้เป็นการเที่ยวที่ทรหด เน้นนั่งรถ เหนื่อยมากกก แต่สิ่งที่ได้เห็นก็สวยมากเช่นกัน
ดั่งคำกล่าวที่ว่า " ของสวยงามมักมาพร้อมกับความโหดร้าย และความอันตราย .... ผู้หญิงก็เช่นกัน " 5555555
ปล. ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านรีวิวค่ะ พิมพ์ผิดพิมพ์ถูก พิมพ์งง ยังงัยก็ขออภัยด้วยนะคะ

[CR] เที่ยวเมืองจีน สถานที่ที่ไม่ควรพลาด ฉางไป๋ซาน (Changbai Mountain) ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปเยือน!!!
ภูเขาฉางไป๋ซาน (Changbai Mountains) หรือเทือกเขาฉางไป๋ซาน (Changbaishan) สถานที่ท่องเที่ยวสุดแสนโรแมนติกในมณฑลจี๋หลิน ประเทศจีน ที่ต้องหาโอกาสมาเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต ภูเขาฉางไป๋ซานเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการเดินทางมาฮันนีมูนเป็นอย่างมาก!!!
เนื่องมาจาก จขกท.นั้น เรียนอยู่ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน แล้วก็เผอิญว่า ช่วงนี้เป็นวันหยุดชาติของจีน เลยได้มีโอกาสไปเยือนแดนสวรรค์ ที่อยากไปมานานมากแล้ว .... คนไทยอาจจะไม่ค่อยรู้จักกันสักเท่าไร เลยอยากจะมารีวิวให้ได้ดูกันค่ะ ว่านอกจาก ปักกิ่ง เซียงไฮ้ คุนหมิง ฯลฯ ที่ขึ้นชื่อในจีนแล้ว ยังมีอีกที่ที่อยากให้ได้ลองไปกันค่ะ มันสวยมากกก จริงๆค่ะ แต่อาจจะเดินทางลำบากนิดหน่อย แต่คุ้มค่าค่ะ จขกท. รับประกันความสวยงาม ( รูปที่ถ่ายใช้กล้องFuji Xa2 , Iphone6,Iphone4s,Xiao Yi camere )
งั้นเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ ครั้งนี้เป็นรีวิวครั้งแรกค่ะ หากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ด้วยน่ะคะ
วันที่ 1 : ออกเดินทางจากปักกิ่งโดยรถไฟนอน ใช้เวลาเดินทางจากปักกิ่ง ไปยัง เมืองจี๋หลิน ประมาณ 14 ชม.
ปล. จขกท เดินทางไปเมื่อวันที่ 2-6 ตุลาคมค่ะ สภาพอากาศปักกิ่งประมาณ15-20องศา ส่วนเมืองจี๋หลินจะอยู่ที่ 0-12องศาค่ะ
ถ้าจะไปช่วงนี้ต้องเตรียมเสื้อกันหนาวแบบหนามากๆ เลยค่ะ
วันที่ 2 : ถึงสถานีรถไฟจี๋หลิน ตอนประมาณ 7 โมงเช้าค่ะ
จขกท ซื้อทัวร์เอาไว้ค่ะ เพราะ การเดินทางไปเองค่อนข้างลำบาก และไกลมาก เลยซื้อทัวร์ไว้ 4วัน ราคา 1550 หยวน (1550x6=9300บาท)
ทัวร์นี้ รวม ที่พัก 2 คืน เพราะที่เหลือคือต้องนอนบนรถไฟค่ะ มีอาหารเช้าจากโรงแรมให้ มีอาหารกลางวันให้ แค่ 2 วัน อาหารเย็น1มื้อ ที่เหลือก็
หาซื้อกินเองค่ะ5555 บอกเลยว่าต้องทำใจกับทัวร์จีน อีกอย่างสถานที่ไปคือเขา ไม่ได้สะดวกสบายอะไร เป็นไปได้ก็เตรียมมาม่าไปเยอะๆค่ะ เผื่อ
ไม่ชินกับอาหารจีน
หลังจากออกมาจากสถานีรถไฟ จะมีไกด์จีน ยืนถือธงรอรับเราอยู่หน้าสถานีค่ะ เพื่อจะพาเราไปขึ้นรถ นั่งต่อไปอีก 5.5 ชม. ค่ะ (งานนี้เน้นนั่งรถ
ยาวไปๆ )
ระหว่างทางไปมีเเวะพัก และแวะพาเที่ยว แต่!!!!ต้องจ่ายเงินเพิ่มจากที่จ่ายมาแล้วค่ะ ซึ่งพาแวะร่องแก่งกับน้ำน้อยๆ ในราคา 95 หยวน พวกเราดู
แล้วไม่โอเค เลยนั่งรอให้คนจีนคนอื่นเล่นไปค่ะ อันนี้บ้านเราสวยกว่าเยอะ เราเลยเลือกจะ นั่งรอ!!อีก 2ชม.เลยค่ะ
รถขับมาถึงที่พักประมาณ 19:00 ที่พักอยู่ในป่าค่ะ แต่โชคดี ที่ยังมีโรงแรมอยู่ เป็นโรงแรมสามดาว ไม่หรู แต่สะดวกในการเดินทางไปเขาฉางไป๋
ซาน เพราะโรงแรมนี้อยู่ห่างจากเขา ขับรถประมาณ10นาทีถึงค่ะ ราคาห้องพักอยู่ที่ 240หยวน ปล. ในห้องไม่มีฮิตเตอร์ค่ะ และ น้ำเย็นมากกก
อากาศตอนดึกก็ติดลบ ผ้าห่มก็เอาไม่อยู่ค่ะ นอนหนาวกัน ค่อนข้างทรมาน แต่ก็ทนได้ 5555
วันที่ 3 : วันนี้ต้องออกเดินทางตั้งแต่ 5:30เพราะต้องรีบไปซื้อตั๋วขึ้นเขา เนื่องจากเป็นวันหยุดคนจึงเยอะมากเป็นพิเศษ ใช้เวลานั่งรถไปประมาณ10-15นาทีก็ถึงตีนเขาทางที่เราจะขึ้นไปดูบ่อสวรรค์ รอไกด์ไปซื้อตั๋วให้ เราก็ถ่ายรูปบริเวณตีนเขาเล่น คือ ดีงามมากค่ะ
ได้ตั๋วแล้วก็ต้องไปต่อแถวเพื่อนั่งรถขึ้นเขาไปอีกประมาณ20นาที ถึงประมาณกลางๆเขา แล้วถึงจะเดินปีนเขาขึ้นไปดูบ่อสวรรค์อีก การเดินทางหลายหลายรูปแบบมากๆค่ะ กว่าจะถึง และที่ทำให้ช็อคมากที่สุดคือ ทางเจ้าหน้าที่ประกาศว่า วันนี้ไม่สามารถขึ้นไปดู บ่อสวรรค์บนยอดเขาได้เนื่องจากบนยอดเขาหิมะตกหนักมาก การเดินทางขึ้นไปจะลำบากและอันตรายมากเพราะพื้นมีแต่หิมะที่เกาะตัวเป็นน้ำแข็งและลื่นมาก จึงได้ปิดการเดินทาง !!!! เสียใจหนักมากกกค่ะ !!! เราตั้งใจมาเพื่อบ่อสวรรค์นี้ แต่กลับปิดทำการ เพราะสภาพอากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ได้
ปล. ไกด์บอกว่า อากาศบนยอดเขา กลางเขา และตีนเขา ต่างกันมาก เราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าอากาศจะเป็นยังงัย ต้องอาศัยดวงอย่างเดียวเลยค่ะ สรุปคือ อดไปดูบ่อสวรรค์ แต่.. ทางไกด์ก็พาเราไปดูน้ำตกที่ตกลงมาจากบ่อสวรรค์แทน ต้องปีนเขาขึ้นไปดูน้ำตกแทน ก็สวยเหมือนกันค่ะ
ที่มาของบ่อสวรรค์ คือ ภูเขาไฟที่ระเบิดมาแล้วกว่าสามร้อยปี เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ พอฝนตกลงมาก็สะสมน้ำจนกลายเป็น บ่อสวรรค์อย่างที่เห็นในรูปค่ะ
พอรู้ว่าไม่ได้ไปดูบ่อสวรรค์ก็แอบเสียใจ แต่ก็ไม่เป็นไร ไปดูน้ำตกที่น้ำตกลงมาจากบ่อสวรรค์แทนก็ได้
ทางขึ้นเต็มไปด้วยหิมะ หนาวและทางลื่นมากกก
หิมะหนามากก
ระหว่างเดินขึ้นก็เจอพายุหิมะแบบนี้เลยค่ะ ลมแรงมาก มือเท้าชาไปหมด ขนาด จขกท ใส่เสื้อ6ชั้น กางเกง3ชั้น ยังเอาไม่อยู่เลยค่ะ
ถึงละค่ะ ...น้ำตก.. ที่ตกลงมาจากบ่อสวรรค์ ..
ก่อนเดินลงเขา แวะแชะรูป แล้วเดินต่อไปยังสระมรกต
ถึงแล้วค่ะ สระมรกต สวยสมคำล่ำลือจริงๆ
เดินฝ่าพายุ ลมหนาว มาเรียบร้อยแล้วก็เดินลงเขามาเพื่อนั่งรถกลับที่พัก อีกที่หนึ่ง ต้องนั่งรถต่อไปอีก2-3 ชม. ถึงจะถึง ที่พักค่ะ
ขับรถมาถึงที่พักประมาณ 6 โมงเย็น เข้าที่พักใหม่ อันนี้เข้ามาในตัวเมืองตุนฮวา ซึ่งค่อนข้างเจริญ กว่าเมื่อวานนี้มากและที่พักดีกว่าถึง10เท่าเลยก็ว่าได้ค่ะ วันนี้ก็พักยาวไปๆ
วันที่ 4 : สำหรับวันนี้ ไกด์พาไปเที่ยว ทะเลสาบจิ้งโปหู การเดินทางใช้เวลานั่งรถไปอีก3ชม.ถึงค่ะ นั่งกันจนเมื่อยก้นไปหมด ทริปนี้นั่งรถเยอะมาก
ถึงละค่ะ ทะเลสาบ เดี๋ยวนั่งเรือต่อไปอีก2ชม. เพื่อไปดูน้ำตก (อีกแล้ว)
วิวถ่ายจากบนเรือ
ขึ้นท่าเรือมาทานอาหารกลางวัน แล้วนั่งรถต่อไปประมาณ10นาที ไปที่น้ำตกค่ะ
ถึงละค่ะ น้ำตก !!
ใบไม้ปลี่ยนสี อากาศตอนกลางวันเย็นสบาย
สิ้นสุดทริปการเที่ยวลงที่ทะเลสาบที่นี่ค่ะ หลังจากนั้นก็นั่งรถต่อไปยังสถานีรถไฟจี๋หลิน ที่เดิมที่นั่งมา ใช้เวลา 6 ชม. ถึงสถานีรถไฟจี๋หลิน รอรถไฟเร็วรอบ20:04 ไปลงที่เมืองฉางชุน นั่งรถไฟนอนจากฉางชุนไปปักกิ่ง อีก12ชม. ถึงปักกิ่งเวลา7:55 น.
ดั่งคำกล่าวที่ว่า " ของสวยงามมักมาพร้อมกับความโหดร้าย และความอันตราย .... ผู้หญิงก็เช่นกัน " 5555555
ปล. ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านรีวิวค่ะ พิมพ์ผิดพิมพ์ถูก พิมพ์งง ยังงัยก็ขออภัยด้วยนะคะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น