ขบ.เพิ่มโรคลมชัก ห้ามทำใบขับขี่ ยกเว้นแพทย์รับรอง
25 ม.ค. 2562 17:33
ขบ.กำชับตรวจสอบใบรับรองแพทย์ ก่อนสอบและต่ออายุใบขับขี่ เพิ่ม โรคลมชักในสภาวะที่ไม่สามารถควบคุมอาการชักได้” เป็นโรคประจำตัวที่อาจเป็นอันตรายขณะขับรถ ยกเว้นแพทย์ผู้ให้การรักษารับรองว่าผู้ป่วยไม่มีอาการชักเกินกว่า 2 ปี จึงสามารถทำได้
นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก กำหนดให้การขอรับใบอนุญาตขับรถต้องใช้ใบรับรองแพทย์แสดงว่าไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถเป็นหลักฐานประกอบการขอดำเนินการ
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้หารือร่วมกับแพทยสภาอย่างต่อเนื่อง เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการตรวจสุขภาพเพื่อออกใบรับรองแพทย์สำหรับผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถให้เป็นปัจจุบันรองรับสภาวะโรคต่างๆ รวมถึงประเด็นปัญหาของผู้ป่วยโรคลมชักซึ่งเกิดอุบัติเหตุจากอาการชักในระหว่างขับรถ
ล่าสุด คณะกรรมการแพทยสภาได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2560 ให้ “โรคลมชักในสภาวะที่ไม่สามารถควบคุมอาการชักได้” เป็นโรคประจำตัวที่อาจเป็นอันตรายขณะขับรถ เว้นแต่แพทย์ผู้ให้การรักษารับรองว่าผู้ป่วยไม่มีอาการชักเกินกว่า 2 ปี
ดังนั้น กรมการขนส่งทางบกจึงได้ซักซ้อมแนวทางการตรวจสอบให้แก่นายทะเบียนทั่วประเทศ เพื่อให้การตรวจสอบลักษณะต้องห้ามในการขอรับใบอนุญาตขับรถเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสำนักงานขนส่ง โดยให้ตรวจสอบหลักฐานใบรับรองแพทย์ที่ใช้ประกอบคำขอ ดังนี้
ต้องเป็นใบรับรองแพทย์ตามแบบมาตรฐานที่แพทยสภารับรอง ในส่วนที่ 1 ของผู้ขอรับใบรับรองสุขภาพลงลายมือชื่อรับรองตนเอง ประวัติโรคประจำตัว ประวัติอุบัติเหตุและการเข้ารับการผ่าตัดที่สำคัญ
และส่วนที่ 2 ของแพทย์ผู้ตรวจร่างกายรับรอง และในกรณีผู้ขอรับใบรับรองสุขภาพป่วยเป็นโรคลมชักในสภาวะที่ไม่สามารถควบคุมอาการชักได้ต้องได้รับการรับรองว่าผู้ป่วยโรคลมชักไม่มีอาการชักเกินกว่า 2 ปี รวมถึงการรับรองในกรณีอื่น เช่น ไม่เป็นผู้มีร่างกายทุพพลภาพจนไม่สามารถขับรถได้ ไม่ปรากฏอาการของโรคจิต หรือจิตฟั่นเฟือน หรือปัญญาอ่อน ไม่ปรากฏอาการของการติดยาเสพติดให้โทษ ไม่ปรากฏอาการของโรคพิษสุราเรื้อรัง และไม่ปรากฏอาการและอาการแสดงของโรคเรื้อนในระยะติดต่อหรือในระยะปรากฏอาการ วัณโรคในระยะอันตราย โรคเท้าช้างในระยะปรากฏอาการ จึงจะสามารถดำเนินการขอรับใบอนุญาตขับรถได้ตามระเบียบของกรมการขนส่งทางบก
สำหรับใบรับรองแพทย์ตามแบบที่แพทยสภารับรองดังกล่าว สถานพยาบาลส่วนใหญ่ใช้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถหรือใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถควรแจ้งวัตถุประสงค์ในการขอรับใบรับรองแพทย์ให้ชัดเจน เพื่อให้แพทย์ออกใบรับรองแพทย์ให้ถูกต้องตรงกับวัตถุประสงค์การนำไปใช้
ทั้งนี้ สำหรับโรคประจำตัวบางกลุ่มอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถยังอยู่ในระหว่างการหารือร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางบกและแพทยสภาที่อาจกำหนดเพิ่มเติมในอนาคต เช่น โรคเบาหวานระยะที่ต้องฉีดอินซูลิน โรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดทางสมอง ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายที่ผ่านการผ่าตัดหัวใจหรือขยายเส้นเลือดหัวใจซึ่งแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเป็นอุปสรรคต่อการขับรถ เป็นต้น ซึ่งต้องมีการพิจารณาหลักเกณฑ์และกำหนดรายละเอียดของใบรับรองแพทย์ให้สามารถคัดกรองผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถ ได้อย่างปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนรวม
https://mgronline.com/business/detail/9620000008852
ขบ.เพิ่มโรคลมชัก ห้ามทำใบขับขี่ ยกเว้นแพทย์รับรอง
25 ม.ค. 2562 17:33
ขบ.กำชับตรวจสอบใบรับรองแพทย์ ก่อนสอบและต่ออายุใบขับขี่ เพิ่ม โรคลมชักในสภาวะที่ไม่สามารถควบคุมอาการชักได้” เป็นโรคประจำตัวที่อาจเป็นอันตรายขณะขับรถ ยกเว้นแพทย์ผู้ให้การรักษารับรองว่าผู้ป่วยไม่มีอาการชักเกินกว่า 2 ปี จึงสามารถทำได้
นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก กำหนดให้การขอรับใบอนุญาตขับรถต้องใช้ใบรับรองแพทย์แสดงว่าไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถเป็นหลักฐานประกอบการขอดำเนินการ
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้หารือร่วมกับแพทยสภาอย่างต่อเนื่อง เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการตรวจสุขภาพเพื่อออกใบรับรองแพทย์สำหรับผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถให้เป็นปัจจุบันรองรับสภาวะโรคต่างๆ รวมถึงประเด็นปัญหาของผู้ป่วยโรคลมชักซึ่งเกิดอุบัติเหตุจากอาการชักในระหว่างขับรถ
ล่าสุด คณะกรรมการแพทยสภาได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2560 ให้ “โรคลมชักในสภาวะที่ไม่สามารถควบคุมอาการชักได้” เป็นโรคประจำตัวที่อาจเป็นอันตรายขณะขับรถ เว้นแต่แพทย์ผู้ให้การรักษารับรองว่าผู้ป่วยไม่มีอาการชักเกินกว่า 2 ปี
ดังนั้น กรมการขนส่งทางบกจึงได้ซักซ้อมแนวทางการตรวจสอบให้แก่นายทะเบียนทั่วประเทศ เพื่อให้การตรวจสอบลักษณะต้องห้ามในการขอรับใบอนุญาตขับรถเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสำนักงานขนส่ง โดยให้ตรวจสอบหลักฐานใบรับรองแพทย์ที่ใช้ประกอบคำขอ ดังนี้
ต้องเป็นใบรับรองแพทย์ตามแบบมาตรฐานที่แพทยสภารับรอง ในส่วนที่ 1 ของผู้ขอรับใบรับรองสุขภาพลงลายมือชื่อรับรองตนเอง ประวัติโรคประจำตัว ประวัติอุบัติเหตุและการเข้ารับการผ่าตัดที่สำคัญ
และส่วนที่ 2 ของแพทย์ผู้ตรวจร่างกายรับรอง และในกรณีผู้ขอรับใบรับรองสุขภาพป่วยเป็นโรคลมชักในสภาวะที่ไม่สามารถควบคุมอาการชักได้ต้องได้รับการรับรองว่าผู้ป่วยโรคลมชักไม่มีอาการชักเกินกว่า 2 ปี รวมถึงการรับรองในกรณีอื่น เช่น ไม่เป็นผู้มีร่างกายทุพพลภาพจนไม่สามารถขับรถได้ ไม่ปรากฏอาการของโรคจิต หรือจิตฟั่นเฟือน หรือปัญญาอ่อน ไม่ปรากฏอาการของการติดยาเสพติดให้โทษ ไม่ปรากฏอาการของโรคพิษสุราเรื้อรัง และไม่ปรากฏอาการและอาการแสดงของโรคเรื้อนในระยะติดต่อหรือในระยะปรากฏอาการ วัณโรคในระยะอันตราย โรคเท้าช้างในระยะปรากฏอาการ จึงจะสามารถดำเนินการขอรับใบอนุญาตขับรถได้ตามระเบียบของกรมการขนส่งทางบก
สำหรับใบรับรองแพทย์ตามแบบที่แพทยสภารับรองดังกล่าว สถานพยาบาลส่วนใหญ่ใช้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถหรือใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถควรแจ้งวัตถุประสงค์ในการขอรับใบรับรองแพทย์ให้ชัดเจน เพื่อให้แพทย์ออกใบรับรองแพทย์ให้ถูกต้องตรงกับวัตถุประสงค์การนำไปใช้
ทั้งนี้ สำหรับโรคประจำตัวบางกลุ่มอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถยังอยู่ในระหว่างการหารือร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางบกและแพทยสภาที่อาจกำหนดเพิ่มเติมในอนาคต เช่น โรคเบาหวานระยะที่ต้องฉีดอินซูลิน โรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดทางสมอง ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายที่ผ่านการผ่าตัดหัวใจหรือขยายเส้นเลือดหัวใจซึ่งแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเป็นอุปสรรคต่อการขับรถ เป็นต้น ซึ่งต้องมีการพิจารณาหลักเกณฑ์และกำหนดรายละเอียดของใบรับรองแพทย์ให้สามารถคัดกรองผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถ ได้อย่างปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนรวม
https://mgronline.com/business/detail/9620000008852