สวัสดีครับ ช่วงนี้เห็นในพันทิปคุยกันเรื่องวินัย และก็ความฟิตของนักเตะไทยเรากันเยอะ ผมก็ไม่ค่อยรู้ลายละเอียดการฝึกซ้อมของสโมสรในไทยเท่าไหร่ หาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตไม่ค่อยมี ก็เลยหาข้อมูลของนักเตะพรีเมียร์ลีกแทนแล้วกัน ว่าการที่พวกเค้าจะก้าวไปถึงจุดนั้นได้ต้องมีสภาพร่างกาย และทัศนคติแบบไหน พอดีไปเจอบทความของ BBC เรื่อง “What does it take to be a Premier League footballer?” ก็เลยแปลมาให้อ่านกัน
1. Putting the boot in.
พวกเค้าทำรายได้ในหนึ่งสัปดาห์มากกว่าพวกเราทำงานทั้งปี การมีคฤหาสน์ราคาเป็นล้านปอนด์ พร้อมด้วยชีวิตหรูหราแบบคนดัง แต่คุณอาจจะแปลกใจถ้าได้รู้ว่านักฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนั้น ต้องฝึกหนักแค่ไหนถึงจะสามารถเติมเต็มความฝันด้านฟุตบอลของพวกเค้าได้
คุณจะต้องฟิตขนาดวิ่งตามฟุตบอลได้เก้าสิบนาที นิตยสาร Sports Illustrated พึ่งบอกว่าคริสเตียโน่ โรนัลโด้ได้อันดับที่ 2 ที่จาก 50 คนที่ฟิตที่สุดในโลก ดังนั้นโค้ชต้องทำอย่างไรให้นักเตะสามารถฟิตจนสามารถลงเตะแต่ละสัปดาห์ติดต่อกันได้ ในประสิทธิภาพสูงสุด
2. Train like a pro
นักเตะบางคนสามารถวิ่งได้ถึง 14 กิโลเมตรต่อแมทช์โดยวิ่งเร็วได้ถึง 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดช่วงเวลาเก้าเดือนในฤดูกาลแข่งขัน เพราะฉะนั้นพวกเค้าต้องฝึกซ้อมช่วงก่อนฤดูกาลแข่งขันหนักเท่ากับ ช่วงก่อนและหลังเกมส์ในฤดูกาลแข่งขัน
นักวิทยาศาสตร์การกีฬาและโค้ชต้องคิดรูปแบบการฝึกซ้อม เพื่อจะเพิ่มความเร็ว ความแข็งแกร่ง ความทรหดและความคล่องตัวของนักเตะ หลังจากผ่านแต่ละปี ความฟิตของนักเตะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ต้องขอบคุณสารอาหารและเทคนิคการฝึกซ้อม ฟุตบอลปัจจุบันเป็นเรื่องของการวิ่งระยะทางสั้นลง แต่วิ่งแบบสปริ้นท์มากขึ้น ในหกปีที่ผ่านมาการสปริ้นท์เพิ่มขึ้นถึง 80% ระยะทางรวมน้อยลง 2% และการเคลื่อนที่เร็วเพิ่มขึ้นถึง 30%
3. Energising
ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ต้องใช้พละกำลังสูงมาก นักเตะต้องเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา – วิ่ง กระโดด ล้ม และหมุนตัวเปลี่ยนทางอย่างรวดเร็ว สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนต้องใช้พลังงาน ทำให้สามารถเบิร์นแคลอรี่ได้ถึง 1000 Kcal ภายในหนึ่งเกมส์
อาหารที่เรากินเข้าไปถูกใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับปฏิกิริยาต่าง ๆ ภายในร่างกายของเรา คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีนถูกใช้เพื่อการทำงานของกล้ามเนื้อ โดยการเปลี่ยนพวกมันไปเป็น ATP โดยเซลล์กล้ามเนื้อของพวกเราได้หลายวิธี ซึ่งกระบวนการเหล่านี้สามารถทำให้ดีขึ้นได้ด้วยการฝึกซ้อม
การฝึกซ้อมของนักเตะใช้การฝึกฝนหลายอย่าง ในการพุ่งเป้าหมายไปยัง การหายใจแบบไม่ใช้ออกซิเจนของกล้ามเนื้อแบบทันที และระบบพลังงานของการหายใจแบบไม่ใช้ออกซิเจนระยะสั้น เพื่อที่จะเพิ่มระดับพลังงานของนักเตะในระหว่างเกมส์
การฝึกฝนเหล่านี้ทำให้นักเตะสามารถเข้าถึงพลังงานต่าง ๆ ที่สำรองไว้เมื่อร่างกายต้องการ อย่างในกิจกรรมหนัก ๆ เช่น การบุกเพื่อการทำประตู หรือตั้งรับต้องกันประตู หรือไม่ก็กิจกรรมพื้นฐานต่าง ๆ ในสนาม
4. Food for sport
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนั้นเป็นกีฬาที่ต้องแข็งแรง และเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นนักเตะต้องทานอาหารที่ถูกต้อง นักเตะจะต้องรูปร่างสมส่วน แต่แข็งแรง ดังนั้นพวกเค้าจะกินอาหารสุขภาพอย่างผัก โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตอย่างสมดุลกัน
ก่อนเกมส์นักเตะส่วนใหญ่จะเพิ่มคาร์โบไฮเดรต โดยการกินมันฝรั่ง ขนมปังโฮลวีต ข้าวกล้อง ธัญพืช และพาสตา เพื่อที่จะได้เพิ่มพลังงานที่สามารถอยู่ได้นาน สมองนั้นเป็นไขมันเกือบ 60% และกรดไขมันคือหัวใจหลักของการทำงานของสมอง ถ้าจะพูดให้แคบลงก็คือ ปลาที่มีไขมันเยอะ เช่น แซลมอน และไขมันที่ดีจากอาหารจำพวกถั่ว และธัญพืชนั้นดีเยี่ยมต่อสมอง หลังจากการออกกำลังกาย คาร์โบไฮเดรตก็ใช้สำหรับทดแทนพลังงานที่เสียไป ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีนั้นดีที่สุด เนื่องจากพวกมันจะค่อย ๆ ปล่อยพลังงานออกมาให้ร่างกาย อาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนอย่างนมนั้น สามารถช่วยอาการเจ็บเล็กน้อยหลังการแข่งขัน และช่วยสร้างกล้ามเนื้อที่เสียหายขึ้นมาใหม่
5. How does football compare?
นักฟุตบอลจากท้ายตารางของลีกนั้นมีแนวโน้มที่จะวิ่งมากกว่าในแต่ละเกมส์ สโมสรที่รวยและมีนักเตะที่ดีกว่านั้นมีแนวโน้มที่จะครองบอลได้มากกว่า การส่งบอลที่แม่นยำกว่านั้นทำให้วิ่งน้อยกว่า เช่นเดียวกัน นักเทนนิสที่เก่งกว่านั้นจะบังคับให้คู่แข่งที่อ่อนกว่าวิ่งเยอะมากกว่า อย่างไรก็ดีกีฬาเทนนิสนั้นมีการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ที่มากกว่า และบ่อยกว่าฟุตบอลมาก แต่ว่าเกิดในพื้นที่ที่เล็กกว่า
6. Tracking the action
เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพในเกมส์ใหญ่ สโมสรนั้นไม่ปล่อยโอกาสให้ผ่านไป โดยการเก็บข้อมูลทุกอย่าง และใช้เทคโนโลยี GPS ล่าสุดเพื่อติดตามความฟิตของนักเตะในระหว่างฝึกซ้อมและแข่งขัน
อุปกรณ์ GPS เล็ก ๆ ที่ใส่ไว้ใต้เสื้อของนักเตะ ใช้เก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่มีค่า อย่างเช่น ความเร็ว ความเร่ง ระยะทาง และอัตราการเต้นหัวใจ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกทีมงานสตาฟโค้ชตรวจสอบและติดตามประสิทธิภาพของนักเตะทุกคน
ข้อมูลเหล่านี้ยังสามารถเตือนโค้ชถึงการบาดเจ็บเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าประสิทธิภาพของนักเตะเริ่มจะลดลง มันยังสามารถช่วยในการจัดรูปแบบการฝึกช่วงก่อนฤดูกาลแข่งขัน และถูกใช้ปรับแต่งการฝึกของนักเตะเป็นรายบุคคลได้ เช่น ใช้กำหนดว่าจำเป็นต้องพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบางกลุ่มอย่างเฉพาะเจาะจงได้
7. Making it to the top
ความห่างชั้นของลีกสมัครเล่นกับพรีเมียร์ลีกนั้น ไม่ใช่แค่จำนวนการทำประตู ลองดูว่านักเตะระดับแนวหน้านั้นต้องมีอะไรบ้าง
- สารอาหาร, นักเตะต้องรูปร่างสมส่วน เป็นเครื่องจักรแห่งการวิ่ง -รักษารูปร่างให้สมส่วนและแข็งแรง - ก่อนการแข่งขันนักเตะจะเพิ่มคาร์โบไฮเดรตที่สามารถให้พลังงานได้นานจนจบเกมส์ แต่ก็ต้องจัดการอาหารที่รับประทานในแต่ละวันด้วย
- ความฟิต, ลืมวันหยุดยาวไปเลย นักเตะต้องฝึกซ้อมเกือบตลอดทั้งปี - คุณต้องสามารถเรียกความฟิตได้เสมอ – การฝึกแบบเบาสลับหนักนั้นใช้เพื่อให้นักเตะมีความฟิตมากขึ้น ในระหว่างฤดูกาลแข่งขัน นักเตะจะฝึกซ้อมสามถึงสี่ครั้ง และลงแข่งขันหนึ่งนัดต่อสัปดาห์ (บางครั้งลงแข่ง 2 นัดในหนึ่งสัปดาห์)
- ทัศนคติ, สามารถผ่านการเคี่ยวกรำในทุก ๆ สัปดาห์ - ถ้าคุณมีทัศนคติที่ดีมีความมุ่งมั่น และเตรียมพร้อมที่จะทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา คุณก็จะมีโอกาสที่ดีที่จะได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ
- ทักษะฟุตบอล, ถ้าคุณอยากจะประสบความสำเร็จก็จำเป็นต้องมีทักษะฟุตบอลที่ดี -นักฟุตบอลนั้นชอบที่จะมีฟุตบอลอยู่ที่เท้า นอกจากยิมและการฝึกหนักเบาต่าง ๆ แล้วนั้น จำเป็นต้องใช้เวลาฝึกซ้อมกับลูกฟุตบอลให้มาก ดังนั้นจงฝึกซ้อมทักษะของคุณอยู่เสมอ
สุดท้ายนี้ search google ไปเจอการฝึกซ้อมของ Liverpool เลย แปะ link ให้คนที่สนใจลองเข้าไปดูครับ ขอบคุณครับ
https://www.youtube.com/results?search_query=inside+training+liverpool
What does it take to be a Premier League footballer?
1. Putting the boot in.
พวกเค้าทำรายได้ในหนึ่งสัปดาห์มากกว่าพวกเราทำงานทั้งปี การมีคฤหาสน์ราคาเป็นล้านปอนด์ พร้อมด้วยชีวิตหรูหราแบบคนดัง แต่คุณอาจจะแปลกใจถ้าได้รู้ว่านักฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนั้น ต้องฝึกหนักแค่ไหนถึงจะสามารถเติมเต็มความฝันด้านฟุตบอลของพวกเค้าได้
คุณจะต้องฟิตขนาดวิ่งตามฟุตบอลได้เก้าสิบนาที นิตยสาร Sports Illustrated พึ่งบอกว่าคริสเตียโน่ โรนัลโด้ได้อันดับที่ 2 ที่จาก 50 คนที่ฟิตที่สุดในโลก ดังนั้นโค้ชต้องทำอย่างไรให้นักเตะสามารถฟิตจนสามารถลงเตะแต่ละสัปดาห์ติดต่อกันได้ ในประสิทธิภาพสูงสุด
2. Train like a pro
นักเตะบางคนสามารถวิ่งได้ถึง 14 กิโลเมตรต่อแมทช์โดยวิ่งเร็วได้ถึง 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดช่วงเวลาเก้าเดือนในฤดูกาลแข่งขัน เพราะฉะนั้นพวกเค้าต้องฝึกซ้อมช่วงก่อนฤดูกาลแข่งขันหนักเท่ากับ ช่วงก่อนและหลังเกมส์ในฤดูกาลแข่งขัน
นักวิทยาศาสตร์การกีฬาและโค้ชต้องคิดรูปแบบการฝึกซ้อม เพื่อจะเพิ่มความเร็ว ความแข็งแกร่ง ความทรหดและความคล่องตัวของนักเตะ หลังจากผ่านแต่ละปี ความฟิตของนักเตะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ต้องขอบคุณสารอาหารและเทคนิคการฝึกซ้อม ฟุตบอลปัจจุบันเป็นเรื่องของการวิ่งระยะทางสั้นลง แต่วิ่งแบบสปริ้นท์มากขึ้น ในหกปีที่ผ่านมาการสปริ้นท์เพิ่มขึ้นถึง 80% ระยะทางรวมน้อยลง 2% และการเคลื่อนที่เร็วเพิ่มขึ้นถึง 30%
3. Energising
ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ต้องใช้พละกำลังสูงมาก นักเตะต้องเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา – วิ่ง กระโดด ล้ม และหมุนตัวเปลี่ยนทางอย่างรวดเร็ว สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนต้องใช้พลังงาน ทำให้สามารถเบิร์นแคลอรี่ได้ถึง 1000 Kcal ภายในหนึ่งเกมส์
อาหารที่เรากินเข้าไปถูกใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับปฏิกิริยาต่าง ๆ ภายในร่างกายของเรา คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีนถูกใช้เพื่อการทำงานของกล้ามเนื้อ โดยการเปลี่ยนพวกมันไปเป็น ATP โดยเซลล์กล้ามเนื้อของพวกเราได้หลายวิธี ซึ่งกระบวนการเหล่านี้สามารถทำให้ดีขึ้นได้ด้วยการฝึกซ้อม
การฝึกซ้อมของนักเตะใช้การฝึกฝนหลายอย่าง ในการพุ่งเป้าหมายไปยัง การหายใจแบบไม่ใช้ออกซิเจนของกล้ามเนื้อแบบทันที และระบบพลังงานของการหายใจแบบไม่ใช้ออกซิเจนระยะสั้น เพื่อที่จะเพิ่มระดับพลังงานของนักเตะในระหว่างเกมส์
การฝึกฝนเหล่านี้ทำให้นักเตะสามารถเข้าถึงพลังงานต่าง ๆ ที่สำรองไว้เมื่อร่างกายต้องการ อย่างในกิจกรรมหนัก ๆ เช่น การบุกเพื่อการทำประตู หรือตั้งรับต้องกันประตู หรือไม่ก็กิจกรรมพื้นฐานต่าง ๆ ในสนาม
4. Food for sport
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนั้นเป็นกีฬาที่ต้องแข็งแรง และเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นนักเตะต้องทานอาหารที่ถูกต้อง นักเตะจะต้องรูปร่างสมส่วน แต่แข็งแรง ดังนั้นพวกเค้าจะกินอาหารสุขภาพอย่างผัก โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตอย่างสมดุลกัน
ก่อนเกมส์นักเตะส่วนใหญ่จะเพิ่มคาร์โบไฮเดรต โดยการกินมันฝรั่ง ขนมปังโฮลวีต ข้าวกล้อง ธัญพืช และพาสตา เพื่อที่จะได้เพิ่มพลังงานที่สามารถอยู่ได้นาน สมองนั้นเป็นไขมันเกือบ 60% และกรดไขมันคือหัวใจหลักของการทำงานของสมอง ถ้าจะพูดให้แคบลงก็คือ ปลาที่มีไขมันเยอะ เช่น แซลมอน และไขมันที่ดีจากอาหารจำพวกถั่ว และธัญพืชนั้นดีเยี่ยมต่อสมอง หลังจากการออกกำลังกาย คาร์โบไฮเดรตก็ใช้สำหรับทดแทนพลังงานที่เสียไป ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีนั้นดีที่สุด เนื่องจากพวกมันจะค่อย ๆ ปล่อยพลังงานออกมาให้ร่างกาย อาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนอย่างนมนั้น สามารถช่วยอาการเจ็บเล็กน้อยหลังการแข่งขัน และช่วยสร้างกล้ามเนื้อที่เสียหายขึ้นมาใหม่
5. How does football compare?
นักฟุตบอลจากท้ายตารางของลีกนั้นมีแนวโน้มที่จะวิ่งมากกว่าในแต่ละเกมส์ สโมสรที่รวยและมีนักเตะที่ดีกว่านั้นมีแนวโน้มที่จะครองบอลได้มากกว่า การส่งบอลที่แม่นยำกว่านั้นทำให้วิ่งน้อยกว่า เช่นเดียวกัน นักเทนนิสที่เก่งกว่านั้นจะบังคับให้คู่แข่งที่อ่อนกว่าวิ่งเยอะมากกว่า อย่างไรก็ดีกีฬาเทนนิสนั้นมีการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ที่มากกว่า และบ่อยกว่าฟุตบอลมาก แต่ว่าเกิดในพื้นที่ที่เล็กกว่า
6. Tracking the action
เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพในเกมส์ใหญ่ สโมสรนั้นไม่ปล่อยโอกาสให้ผ่านไป โดยการเก็บข้อมูลทุกอย่าง และใช้เทคโนโลยี GPS ล่าสุดเพื่อติดตามความฟิตของนักเตะในระหว่างฝึกซ้อมและแข่งขัน
อุปกรณ์ GPS เล็ก ๆ ที่ใส่ไว้ใต้เสื้อของนักเตะ ใช้เก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่มีค่า อย่างเช่น ความเร็ว ความเร่ง ระยะทาง และอัตราการเต้นหัวใจ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกทีมงานสตาฟโค้ชตรวจสอบและติดตามประสิทธิภาพของนักเตะทุกคน
ข้อมูลเหล่านี้ยังสามารถเตือนโค้ชถึงการบาดเจ็บเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าประสิทธิภาพของนักเตะเริ่มจะลดลง มันยังสามารถช่วยในการจัดรูปแบบการฝึกช่วงก่อนฤดูกาลแข่งขัน และถูกใช้ปรับแต่งการฝึกของนักเตะเป็นรายบุคคลได้ เช่น ใช้กำหนดว่าจำเป็นต้องพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบางกลุ่มอย่างเฉพาะเจาะจงได้
7. Making it to the top
ความห่างชั้นของลีกสมัครเล่นกับพรีเมียร์ลีกนั้น ไม่ใช่แค่จำนวนการทำประตู ลองดูว่านักเตะระดับแนวหน้านั้นต้องมีอะไรบ้าง
- สารอาหาร, นักเตะต้องรูปร่างสมส่วน เป็นเครื่องจักรแห่งการวิ่ง -รักษารูปร่างให้สมส่วนและแข็งแรง - ก่อนการแข่งขันนักเตะจะเพิ่มคาร์โบไฮเดรตที่สามารถให้พลังงานได้นานจนจบเกมส์ แต่ก็ต้องจัดการอาหารที่รับประทานในแต่ละวันด้วย
- ความฟิต, ลืมวันหยุดยาวไปเลย นักเตะต้องฝึกซ้อมเกือบตลอดทั้งปี - คุณต้องสามารถเรียกความฟิตได้เสมอ – การฝึกแบบเบาสลับหนักนั้นใช้เพื่อให้นักเตะมีความฟิตมากขึ้น ในระหว่างฤดูกาลแข่งขัน นักเตะจะฝึกซ้อมสามถึงสี่ครั้ง และลงแข่งขันหนึ่งนัดต่อสัปดาห์ (บางครั้งลงแข่ง 2 นัดในหนึ่งสัปดาห์)
- ทัศนคติ, สามารถผ่านการเคี่ยวกรำในทุก ๆ สัปดาห์ - ถ้าคุณมีทัศนคติที่ดีมีความมุ่งมั่น และเตรียมพร้อมที่จะทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา คุณก็จะมีโอกาสที่ดีที่จะได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ
- ทักษะฟุตบอล, ถ้าคุณอยากจะประสบความสำเร็จก็จำเป็นต้องมีทักษะฟุตบอลที่ดี -นักฟุตบอลนั้นชอบที่จะมีฟุตบอลอยู่ที่เท้า นอกจากยิมและการฝึกหนักเบาต่าง ๆ แล้วนั้น จำเป็นต้องใช้เวลาฝึกซ้อมกับลูกฟุตบอลให้มาก ดังนั้นจงฝึกซ้อมทักษะของคุณอยู่เสมอ
สุดท้ายนี้ search google ไปเจอการฝึกซ้อมของ Liverpool เลย แปะ link ให้คนที่สนใจลองเข้าไปดูครับ ขอบคุณครับ https://www.youtube.com/results?search_query=inside+training+liverpool