เอาจริงนะ เขาไม่ได้หล่อไม่ได้ถูกสเป็คอะไรเราเลย ทำไมเราชอบและหลงเขาได้ขนาดนี้วะ ย้อนกลับไปตอนรู้จักกัน เริ่มคุยกัน เออมันมาแบบเพื่อนแบบพี่น้องแบบคนรู้จักอะ เราเลยมองข้ามรูปลักษณ์หน้าตาภายนอกไป ยิ่งเป็นเพื่อนคนรู้จักหรือการเชื่อมโยงใกล้เคียงกัน มันยิ่งทำให้คุยกันง่าย แล้วมันก็กลายเป็นคุยเรื่อยๆ แต่แบบอาจจะยังไม่รู้สึกอะไร แล้วมันเริ่มมารู้สึกให้กันตอนไหนนี่สิ แล้วมันเป็นความรู้สึกจริงหรือเปล่าวะ คือชอบอะมันก็ชอบได้พร้อมกันหลายคนช้ะ แต่รักน่ะมันรักได้คนเดียว คำว่ารักยังไกลตัวอยู่ในตอนนั้น เอาที่สปาร์คกันก่อน มันก่อตัวได้ยังไง เราล้ำเส้นกันมาขนาดนั้นเลยเหรอ ความจริงเรามีเงื่อนไขหลายอย่างที่ไม่สมควรจะก้าวมาหากันนะ แต่มันก็ดึงเราทั้งสองให้ตกอยู่ใต้แรงโน้มถ่วงเดียวกัน มันดูแปลกดี เราต่างมีอะไรที่ดึงดูดเหมือนกัน ในตอนนั้นนะที่เราคุยกัน มีอะไรบางอย่างคล้ายๆกัน ชอบอะไรเหมือนๆกัน เหมือนกำแพงเราค่อยๆพังทลาย บวกกับการเสน่หาที่รุนแรงด้วยล่ะมั้ง เรามีความต้องการในกันและกัน เราพูดเราแสดงความคิดเรื่องอย่างว่าได้ชัดเจนไม่เขินอาย เราชอบแบบไหนต้องการแบบไหน เราสามารถพูดออกมาได้เลย คือมันก็ดีนะ เราจะได้เข้าใจกันทั้งสองฝ่ายว่าความชอบความต้องการเราเป็นแบบไหน และมันก็ดีสำหรับตัวเรา ที่เราเหมือนต้องการคำตอบและความสุขจากสิ่งนี้ เพรา่ผ่านมาการจะเปิดใจคุยกับใครเรื่องแบบนี้มันยาก แม้กระทั่งคนรักของตัวเอง เชื่อว่าผู้หญิงคงประสบปัญหาเรื่องบนเตียงที่ไม่รู้ความต้องการของตัวเองเป็นแบบไหน อยากให้ผู้ชายทำอะไรกับเราบ้าง แต่กับคนนี้เรากล้าที่จะพูด ทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เล่าเรื่องต่างๆว่าเคยเจอมาแบบไหนทำไรบ้าง มันก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น วูบวาบเร้าใจ จนได้มีการนัดเจอกันในที่สุด และใช่เลย พอได้เจอมันชัดเจนมากขึ้น ตอกย้ำว่าเราชอบเขาแค่ไหน เอาจริงเห็นตอนแรกก็ดูต่างจากรูปหน่อยๆ แต่ไม่ซีเรียส สิ่งที่ตอกย้ำว่ายิ่งชอบเขา มันไม่ใช่เรื่องบนเตียงนะ มันคือการที่เขา treat เรา ทั้งการพูดจาการแสดงออก โอ้โห... คุณเคยรู้สึกเป็นเหมือนเจ้าหญิงมั้ยล่ะ เคยรู้สึกว่าได้รับการปฏิบัติดีๆหรือเปล่า สำหรับเรา ผู้หญิงมี่ทำอะไรด้วยตัวเองเสมอๆ พอได้เจอแบบนี้คือมัน appreciate มากๆ มันอาจจะเป็นเครื่องธรรมดาสำหรับคนอื่นนะ แต่สำหรับเราคือโคตรพิเศษ เพราะเราไม่เคยได้รับเลย เขาแค่ยกกระเป๋าให้ ถือกระเป๋าให้ ถามเราว่าเดินทางเหนื่อยหรือเปล่า มันเป็นคำง่ายๆ ที่เราปลื้มปริ่มมากนะ (ตอนพิมพ์นี่น้ำตาจะไหล5555555) บวกกับน้ำเสียงของเขา เป็นเสียงที่ไพเราะและหล่อนะ เพราะเขาร้องเพลงได้ด้วย ยิ่งรู้สึกดีไปใหญ่มี่ได้ฟังเสียงใกล้ๆจริงๆสักที พอได้อยู่ด้วยกัน ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน และได้ทำสิ่งนั้นร่วมกัน คือ เซ็กส์ ใช่... มันเยี่ยมยอดจริงๆ แบบเรารู้สึกได้เลยว่าคนนี้ดีที่สุดที่เราเคยทำด้วยมา มันไม่ใช่ดีแต่ลีลานะ มันเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน ความละมุน และความเป็นกันเอง มันเหมือนเราโหยหาต้องการสิ่งนี้มานาน แล้วเราก็เจอสักที สภาพร่างกายเขาก็จัดว่าดี เราเลยมามองดูตรงนี้ เออ เขาก็ถือว่าเป็นคนที่เพอร์เฟคคนนึงเลยนะ สูงยาว 180+ มีกล้ามท้องและส่วนอื่นๆของร่างกายที่พอดี ดูสวยงาม สุขลักษณะก็ดี ดูมีอนามัย สะอาดสะอ้าน คือนี่ก็เป็นสิ่งที่หายากจากผู้ชายด้วยนะ ผู้ชายบางคนก็ไม่รู้จักการดูแลเฉพาะจุด แต่นี่ถือว่าดีมากสะอาดไร้กลิ่น ผ่าน! แถมขนาดก็อู้ว เกินมาตรฐานชายไทยนิดหน่อย รูปทรงสวยงาม ไม่เบี้ยวไม่งอ (นี่มันรีวิวหรือเปล่าซะ 555 ขอโทษที่นอกประเด็น แค่จะแสดงความ appreciate กับคนนี้ในด้านนี้ด้วยส่วนนึง เพราะเป็นหนึ่งในเหตุผลทีเราชอบและประทับใจเขามากๆ)
แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ได้ดีตลอด นั่นมันช่วงแรก หรือเป็นเพราะเรารู้จักกันไม่มากพอต่างหาก ใช่ เรายังรู้จักกันไม่มากพอ
พอเราชอบกันมาก หรือเขาชอบเรามากก่อนก็ไม่รู้ เพราะตอนนั้นเรายังไม่คิดที่จะปล่อยให้ความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไร เพราะจากการที่คุยกันแล้ว เออ ทัศนคติ้ราก็ดูใกล้เคียงกันนะ คือเขายังไม่ลืมแฟนเก่า และเราเพิ่งเลิกกับแฟนได้ไม่นาน มันเลยทำให้เราทั้งสองยังไม่ตัดสินใจคบหาหรือเป็นแฟนกันอย่างแน่นอน แต่อาจจะคงสถานะแบบนี้ไปเรื่อยๆ
เขาเป็นเหมือนทั้งเพื่อน ทั้งพี่ชาย ทั้งที่ปรึกษาของเรา เราคบกับแฟนเก่าจนเลิก เจอคนคุยใหม่ เจอปัญหาอะไร เราจะเล่าให้คนนี้ฟังตลอดว่าเนี่ย ทะเลาะกันอีกแล้ว เนี่ยเลิกกันแล้วนะ เนี่ยคนคุยใหม่เยอะกับเรามาก เขาก็รับฟัง และเข้าใจเรา เขาเคยบอกว่าเราเหมือนตกอยู่ในสถานะใกล้เคียงกัน ตอนคบกับแฟน เรารักและทำเพื่อแฟนมาก แต่อีกฝ่ายดูไม่ค่อยจะสนใจ ใช่ เขาก็บอกแบบนี้กับเรา เพราะเขาก็โดนอีกฝ่ายไม่ค่อยสนใจ เหมือนมาปลอบใจกัน
เราก็แบบเออดีนะ มีคนเข้าใจเรา ตอนนันยังไม่สปาร์คกันเลย แบบนานทีคุย มาสปาร์คหลังจากเราเลิกกับแฟนนี่แหละ
เราก็ยังมีคนมาคุยบ้างนะในตอนแรก เราก็ตอบเราก็คุยให้เขาเห็น คิดว่าคงไม่เป็นไร แต่อยู่ๆเขาก็หงอยไป เงียบไป แอบเห็นเขาน้ำตาไหล เราก็สงสัยว่าเป็นไร ตอนแรกเขาไม่บอกไม่พูด จนต้องลาจาก เขาถึงพิมพ์แชทมาบอกเราว่า อยู่ๆ ก็รู้สึกแบบนอยๆ พอเห็นเราคุยกับคนอื่น รู้สึกแปลกๆ แต่ไม่อยากทำให้เราคิดมาก หรือวุ่นวายในชีวิตเรา เขาบอกจะตัดรวามรู้สึกทิ้งไป และใช่ เขาตัดมันออกไปได้... แล้วผลนั้นมันตกมาอยู่ที่เรา เราที่ไม่คิดจะชอบเขาเลยสักนิด พอเห็นเขาดูซึมๆ กำแพงกับหัวใจเรามันเบาบางลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ นั่นแหละ ที่เราเริ่มรับเขาเข้ามาในหัวใจ เราชอบเขาแล้วว่ะ
ทำไมเราถึงชอบเขาได้มากขนาดนี้
แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ได้ดีตลอด นั่นมันช่วงแรก หรือเป็นเพราะเรารู้จักกันไม่มากพอต่างหาก ใช่ เรายังรู้จักกันไม่มากพอ
พอเราชอบกันมาก หรือเขาชอบเรามากก่อนก็ไม่รู้ เพราะตอนนั้นเรายังไม่คิดที่จะปล่อยให้ความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไร เพราะจากการที่คุยกันแล้ว เออ ทัศนคติ้ราก็ดูใกล้เคียงกันนะ คือเขายังไม่ลืมแฟนเก่า และเราเพิ่งเลิกกับแฟนได้ไม่นาน มันเลยทำให้เราทั้งสองยังไม่ตัดสินใจคบหาหรือเป็นแฟนกันอย่างแน่นอน แต่อาจจะคงสถานะแบบนี้ไปเรื่อยๆ
เขาเป็นเหมือนทั้งเพื่อน ทั้งพี่ชาย ทั้งที่ปรึกษาของเรา เราคบกับแฟนเก่าจนเลิก เจอคนคุยใหม่ เจอปัญหาอะไร เราจะเล่าให้คนนี้ฟังตลอดว่าเนี่ย ทะเลาะกันอีกแล้ว เนี่ยเลิกกันแล้วนะ เนี่ยคนคุยใหม่เยอะกับเรามาก เขาก็รับฟัง และเข้าใจเรา เขาเคยบอกว่าเราเหมือนตกอยู่ในสถานะใกล้เคียงกัน ตอนคบกับแฟน เรารักและทำเพื่อแฟนมาก แต่อีกฝ่ายดูไม่ค่อยจะสนใจ ใช่ เขาก็บอกแบบนี้กับเรา เพราะเขาก็โดนอีกฝ่ายไม่ค่อยสนใจ เหมือนมาปลอบใจกัน เราก็แบบเออดีนะ มีคนเข้าใจเรา ตอนนันยังไม่สปาร์คกันเลย แบบนานทีคุย มาสปาร์คหลังจากเราเลิกกับแฟนนี่แหละ
เราก็ยังมีคนมาคุยบ้างนะในตอนแรก เราก็ตอบเราก็คุยให้เขาเห็น คิดว่าคงไม่เป็นไร แต่อยู่ๆเขาก็หงอยไป เงียบไป แอบเห็นเขาน้ำตาไหล เราก็สงสัยว่าเป็นไร ตอนแรกเขาไม่บอกไม่พูด จนต้องลาจาก เขาถึงพิมพ์แชทมาบอกเราว่า อยู่ๆ ก็รู้สึกแบบนอยๆ พอเห็นเราคุยกับคนอื่น รู้สึกแปลกๆ แต่ไม่อยากทำให้เราคิดมาก หรือวุ่นวายในชีวิตเรา เขาบอกจะตัดรวามรู้สึกทิ้งไป และใช่ เขาตัดมันออกไปได้... แล้วผลนั้นมันตกมาอยู่ที่เรา เราที่ไม่คิดจะชอบเขาเลยสักนิด พอเห็นเขาดูซึมๆ กำแพงกับหัวใจเรามันเบาบางลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ นั่นแหละ ที่เราเริ่มรับเขาเข้ามาในหัวใจ เราชอบเขาแล้วว่ะ