Kuala Lumpur(กัวลาลัมเปอร์) ผู้หญิงเดินทางคนเดียวไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

Kuala Lumpur(กัวลาลัมเปอร์) ผู้หญิงเดินทางคนเดียวไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
**ข้อมูลละเอียดยิบๆๆเลยละจ้าเพราะว่าเราไปลองเดิน ลองหลงมาหมดแล้วเลยอยากให้คนอ่านไปได้แบบไม่หลง เราเที่ยวแบบฉบับของเราเองนะ เน้นเดิน ไม่เน้นกิน ** เดินทางจากเชียงใหม่นะจ่ะ
$$ค่าใช้จ่ายโดยรวม
ตั๋วเครื่องบิน Air asia ไปกลับ 3001 บาท (ไม่รวมกระเป๋า+ค่าธรรมเนียมตอนจ่ายเงิน)
ค่าที่พัก 203 ริงกิต
ค่าอาหาร 230 ริงกิต (ไม่เน้นกินนะค่ะเพราะลองแล้วไม่ชอบส่วนใหญ่เข้าเซเว่น)
ค่าเดินทาง 50 ริงกิต
ค่าเดินทางไปกลับสนามบิน 67 ริงกิต
สรุปค่าใช้จ่าย โดยประมาณ 7500 บาท/ 1 คน(ไม่รวมค่าช็อปปิ้ง)
กัวลาลัมเปอร์เป็นเมืองหลวงของประเทศ มาเลเซีย ซึ่งคนไทยสามารถไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า กัวลาลัมเปอร์เป็นเมืองที่เดินทางง่ายสะดวกเพราะเขามี ทั้ง LRT MRT ที่ตั๋วถูกมั๊กมาก แถมยังสามารถเข้าถึงทุกสถานที่ท่องเที่ยวเลยเชียวหล่ะ ค่าครองชีพก็ไม่สูง อยู่ใกล้บ้านเรา งบน้อยก็เที่ยวได้
เราจองตั๋วของสายการบิน Air Asia ก่อนเดินทางประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ก็ยังได้ตั๋วที่ถูกมากๆ ราคาไปกลับ 3070 บาท(ไม่รวมโหลดกระเป๋า) ซึ่ง Air Asia จะนำท่านผู้โดยสารไปลงที่สนามบิน KLIA2 เป็นสนาบินราคาถูกและทั้งสนามบินมีสายการบินเดียว(เท่าที่เห็น) ไปรอบนี้กะไปแบบแบ็คแพค ก็เลยไม่ได้ซื้อน้ำหนักกระเป๋าสายการบินให้ผู้โดยสารถือกระเป๋าขึ้นได้ 2 ใบ
พอไปถึงสนามบินมาเลเซีย ตม เขาก็ใจถามทั่วไปว่าพักที่ไหนมากี่วันกลับวันไหนขอดูตั๋วกลับขอดูใบจองที่พักหน่อยไรงี้ไม่ต้องกลัวเรื่องภาษาเพราะเราก็ไม่ได้เก่าเหมือนกันและก็รอดมาได้
หลังจากออกจาก ตม ด้านหน้าประตูก็จะมีร้านขายซิมมากมายให้ท่านได้เลือก แต่เราซื้อซิม 2Fly ของ AIS ราคา 399 มีเน็ต 4GB ใช้ได้ 8วันไปด้วยก็เลยไม่ได้กังวลเรื่องซิมเครื่องถึงพื้นก็ใช้อินเตอร์เน็ตได้เลย จากนั้นก็จะต้องเตรียมตัวเข้าเมือง สถานที่ๆเราทุกคนต้องไปตั้งหลักคือ KL SENTRAL เพราะเป็นศูนย์รถบัส รถ เมย์ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน บลาๆๆ
การเดินทางไป KL SENTRAL ระยะทางประมาณ 60 กม มีวิธีง่ายๆสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆอยู่ 2 วิธี
1.รถไฟฟ้าKLIA ekspres ใช้เวลา 30
2.รถบัส ใช้เวลา 1:00-1:30 ชั่วโมง ราคา 12 ริงกิต
เราเลือกนั่งรถบัสเพราะไม่รีบ ตอนซื้อตั๋วก็บอกเขา Go to KL sentral พนง เขาก็เข้าใจละ พนงก็จะบอกเราให้ไปรอที่ชาญชลาไหนยังไง ถ้าไปไม่เป็นอ่านไม่ออกก็ต้อง ถามจ้าาาา ในระหว่างทางเข้าเมืองก็หาข้อมูลไป ที่พัก ใช้ Google Map ได้เลยมันไม่หลอกเราแน่นอน 5555 Google จะบอกเราอย่างละเอียดว่าต้องนั่งรถไฟฟ้าสายไหน และก็จะขึ้นตามสีด้วย แต่ถ้ายังไม่เข้าใจก็ต้อง ถามเหมือนเดิมเพราะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

ต่อไปจะเป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว+วิธีการไปแบบคร่าวๆ(ใช้รถไฟฟ้าทั้งหมด)ขอบอกเป็นสีๆนะค่ะ เพราะดูไม่เป็นสายไหนเป็นสายไหน เดี๋ยวแปะผังของรถไฟฟ้าให้เด้อค่า
Day1
หลังจากเราเข้าที่พักเก็บอะไรเรียบร้อยก็ เป็นเวลา 4 โมงกว่าแล้ว ก็เลยเดินสำรวจ เดินแตร่ๆ ดันบังเอิญเดินไปเจอ
เป้าหมายที่ 1.Petronas Twin Towersตึกแฝดปีโตรนาส เนื่องจากที่พักค่อนข้างใกล้ก็เลยเดินไปได้
การเดินทางมาที่ตึกแฝด คือ
1.ขึ้นรถไฟฟ้าสาย(สีแดง)ลงที่สถานนี KLCC ออกมาหน้าตึกเลย
2.ขึ้นรถไฟฟ้าสาย(สีเขียว)ลงที่สถานี Bukit Nanas แล้วก็จะมองเห็นตึกแฝดแต่ต้องเดินประมาน 300เมตร
ตึกแฝดเขาจะเปิดไฟเวลา 1 ทุ่มแต่เรามาก่อนเวลาแล้วไม่อยากรอนานก็เลยไม่รอและไปหาไรกินดีก่า !
Day2
วันนี้ตื่นสายๆ เน้นชิวๆ กินขนมเซเว่นละก็ตลุยเล๊ย ที่แรกที่ไปก็คือ Little India หมู่บ้านอินเดีย
ก็นั่งรถไฟฟ้าสายไหนก็ได้มาลงที่ KL Sentral แล้วก็ Google Map พี่กูเกิ้นเขาก็จะพาเราไปจ้า ไม่ไกลมากนะประมาน 500 เมตร เองมั๊ง
หลังจากเดินเตร่ๆลองกินนั้นกินนี้เสร็จ ก็เดินกลับไปที่สถานนี้รถไฟฟ้า KL Sentral เพื่อจะไป KL Tower หรือ หอคอยกัวลาลัมเปอร์นั่นเอง
นั่งรถไฟฟ้า สายสีเขียวไปลงสถานที Bukit nanas แล้วเดินไปประมาณ 700 เมตร ก็ใช้ Google map เหมือนเดิม
พอไปถึงประตูทางเข้า เขาก็จะมีรถรับส่ง (ฟรีจะมีป้าติดไว้)!!เพื่อขึ้น ที่ตีนหอคอย เพราะทางค่อนข้างชัน แต่เดินได้ไม่ไกลมากค่ะ แต่เรานั่งรถฟรี 555555 พอขึ้นไปก็ไปถ่ายรูปนู้นนี้นั่นเสร็จจะขึ้นไปด้านบนก็ได้นะค่ะ แต่เราก็ไม่ขึ้น งกค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ เลยเดินไปด้านข้างหอคอยเพื่อที่จะไป Eco Park ไปเดินสพานแขวนอะแกรรรร แบบว่า สะพานแขวนของเขาคือยาวมากจริงๆเลี้ยวไปมารวมๆน่าจะเป็นกิโลอยู่นะ ไปถ่ายรูปสวยก็ได้อยู่ แถวนั่นมีห้าเย๊อะสามารถเดินเล่นช็อปปิ้งได้ พอดีเราเดินจนค่ำก็เลยหาอะไรกินละก็กลับที่พักเลยจ้า
Day 3
วันนี้ตั้งใจจะไป Batu cave ถ้ำบาตู เป็นถ้ำหินปูนอยู่บนยอดเขาโดยการปีนผ่านบรรไดสายรุ้งละก็จะมีวัดและศาลเจ้าฮินดูอยู่ข้างใน ซึ่งถ้ำนี้เป็นสถานที่ที่ถ้า ใครมาเที่ยวกัวลาลัมเปอร์แล้วก็ต้องมานั้นเองและที่สำคัญ มัน ฟรี ฟรี ฟรี !
วิธีเดินทางก็คือ ต้องไปขึ้นรถไฟ KTM แล้วไปลงที่สถานนี้ Batu cave การจะไปนั่งรถไฟ KTM ก็ต้องไปตั้งหลักที่สถานนี้ KL Sentral เหมือนวันแรกเลย หลังจากนั้นจะมีตู้ขายตั๋ว รถไฟ KTM ตั้งอยู่ข้าง รถไฟฟ้า KLIA ekspres หรือรถไฟฟ้าไปสานมบินนั้นเอง ตอนที่ซื้อตั๋ว พนง ก็จะถามว่าเราจะไปแบบเที่ยวเดียวหรือ ไปกลับ ราคาตั๋วไปกลับ เหมือนจะอยู่ที่ 6 ริงกิตนะ พอได้ตั๋วมาแล้วทางเข้าก็จะอยู่ข้างๆตู้ขายตั๋วเลยมีทางเดียว
รถไฟฟ้า KTM จะมี 2 สาย แต่ว่า จะเดินทางเป็น 4 เส้น มันอาจจะดู งงๆ เดี๋ยวลองนึกภาพตามนะ คือรถไฟทุกคันทุกเส้นจะมาจอดที่สถานนี KL Sentral และก็กลับไปทางเดิม จะไม่เดินหน้าต่อ ฉะนั้นอย่าคืดว่ารถไฟด้านนี้ไป Batu Cave ฉันก็จะขึ้นคันนี้แหละ แนะนำให้ถามเจ้าหน้าที่ว่าคันไหนไปที่ถ้ำบาตู เจ้าหน้าที่เขาจะบอกเราเวลาที่รถมา เพราะเราเองเดิน งง เดินหลงอยู่ในนั้นแถมขึ้นผิดอีกต่างหากเพราะไม่ได้ถามเจ้าหน้าที่สุดท้ายก็ต้องกลับมาถาม รถไฟจะไปจอดใกล้ๆพอลงรถไฟบุ๊บก็จะมองเห็นรูปปั่นใหญ่ๆเลย นั้นแหละแปลว่าเรามาถึงแล้ว รายละเอียดก็ไม่มีอะไรมากก็มีชาวอินเดียมาทำพิธีตาม ศาสนาของเขา(ไม่บอก!ต้องไปดูเอง) ส่วนการจะขึ้นไปบนถ้ำนั้นไม่มี กระเช้า สลิง หรือรถยนต์ อะไรทั้งนั่น ต้องปีอย่างเดียว บรรไดค่อนข้างชั้นและอันตราย แต่ก็มาถึงแล้วก็ขึ้นไปดูซะหน่อยเน๊อะ……….
ส่วนขากลับก็กลับไปลงที่ KL Sentral เหมือนเดิมเพิ่มเติมคือดีหน่อยไม่ต้อง งง เท่าไหร่เพราะ Batu Cave เป็นสถานีสุดท้ายไม่ต้องกังวลว่าจะหลง จะขึ้นรถผิด ทางสถานีเขาจะมีตารางเดินรถไฟติดอยู่ที่ทางเข้าจะบอกว่ารถไฟจะมาถึงกี่โมง ออกอีกทีกี่โมงเราก็แค่ทำเวลาหรือว่าจะมานั่งรอ ก็ได้ ไม่ว่ากัน ส่วนใครที่ตอนมาซื้อตั๋วเที่ยวเดียวก็อย่าลืมซื้อตั๋วขากลับด้วยนะจ่ะ
หลังกลับจาก Batu Cave แล้วก็ค่อนข้างจะเย็นเราก็เลยเดินหาอะไรกินที่ KL Sentral แล้วก็ตั้งใจจะไป ช็อปปิ้งที่ Bukit Bintang ศูนย์รวมของแบรนเนมมากมาย ถ้าเปรียบบ้านเราก็คล้ายๆสยามอะแหละ แต่ของเขามันถู๊กกกกกมากเลยค่ะคุณ เราซื้อครีมมาให้แม่ราคาถูกกว่าบ้านเราเป็นพันเลย เตรียมกระเป๋าใบใหญ่ๆไปด้วยหล่ะเดี๋ยวขนกลับไม่ไหว 555555 ช็อปเพลินจนลืมถ่ายรูป
จาก KL sentral ไป Bukit bintang นั่งรถไฟฟ้าสาย(สีเขียว) ไปลงที่สถานี Bukit bintang เดินออกมาก็จะเห็นห้างมากมายเดินเล่นตามสะดวกเลยจ้า แถวนี้จะมีถนนของกิน ชื่อว่า Jalan Alor อยู่ใกล้ๆแต่เราไม่ได้ไปเพราะไม่รู้จะไปกินอะไร แต่ถ้าใครสนใจก็ Google ดูได้เล๊ย
ช็อปปิ้งเสร็จก็เข้าที่พัก จบไปอีกวันหนึ่ง
Day 4
วันสุดท้ายก่อนกลับพรุ่งนี้ เลยเลือกเดินเก็บสถานที่สำคัญต่างๆ เพราะ สถานที่ต่อไปนี้อยู่ใกล้กันแค่นิดเดียว
ก่อนอื่นก็ นั่งรถไฟฟ้าสาย(สีแดง)ไปลงที่สถานี Jamek Mosque Station
พอลงรถไฟปุ๊บจะเจอกับ Jamek Mosque สุเร่าจาแม็ค อยู่ข้างสถานนีรถไฟฟ้าเลย เราสามารถเข้าไปเยี่ยมชมด้านในได้แต่ว่าคนที่เฝ้าหน้าประตูเขาก็จะให้เราเขียนชื่อ เขียนประเทศของเรา ละก็จะให้เราใส่ชุดคลุมที่เขาเตรียมไว้ให้ แต่ก็เข้าฟรีน่ะ
ต่อไปด้านข้างของสุเหร่าก็จะเป็นDataran merdeka จัตุรัสเมอร์เดก้า และSultan Abdul Samad Buildinf อาคารสุลต่านอับดุลซาหมัด ส่วนตัวคิดว่าเป็นที่เดียวกันแต่ว่าตรงนี้เปรียบเสมือนกลางเมืองนั้นเอง ที่นี้ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปด้านในเราก็เลยได้แต่ถ่ายรูปรอบๆ
เยื้องๆกัน เราจะมองเห็น Kuala Lumper Gallery หอศิลป์กแห่งกัวลาลัมเปอร์ จะมีป้ายที่ถ้าใครได้อ่านหลายๆรีวิวก็จะคุ้นเคยกับป้าย I LOVE KL
หลักจากนั้นเดินเปิด Google เดินไปประมาณ 400เมตร จะเจอกับ Central Market เป็นตลดขายของกิน ของฝาก ด้วยราคาที่เป็นมิตร ถ้าใครคิดจะไปซื้อของฝากแนะนำที่นี้เลย มีให้เลือกทุกอย่างเลย
พอเดินตลาดเสร็จ ด้านขวาของตลาด(หันหน้าออกจากตลาด) ก็คือไชน่าทาวที่โด่งดังนั่นเองงง ถ้าไปตอนกลางวันจะมีของกินของขายมากมาย คล้ายๆกับ Central Market แต่ว่าของใช้เอย อาหารเอย แน้นไปทางจีนๆหมดเลยพวกของฝากไม่ค่อยน่าสนใจแต่ถ้าใครจะมากินทีนี้มีร้านดังให้เลือกกินเต็มไปหมดเลย
กินเสร็จก็เดินเล่นใกล้ ก็จะมีสถาปัตยกรรมที่แบบเออเขาสร้างไว้สวยๆ มีรูปวาดอาร์ทๆให้เราได้ถ่ายรูปอีกด้วย ใกล้ๆกัน ไชน่าทาวมี Shi maha Mariamman Hinda Temple วัดอินเดีย ถ้าไม่รู้มายังไงก็ Google มาได้เลย เพราะใกล้มากจริงๆ
ส่วนเราก็ลับไปเดินช็อปปิ้งต่ออีกรอบเพราะยังไม่ค่ำมาก ตอนแรกตั้งใจจะไปถ่ายไฟที่ตึกแฝดตอน 1 ทุ่ม แต่ดันฝนตกก็เลยเดินเล่นในห้างไป ละก็กลับที่พัก แอบเซ็งนิดๆ
Day 5 เราเลือกนั่งรถไฟ KLIA ekspres จากสถานี KL Sentral ไปลงที่ KLIA2 เสียดายตังแต่ก็กลัวไม่ทันเครื่องบิน แต่ก็เดินทางรวดเร็วมากและก็กลับถึ่งไทยโดยสวัสดิภาพค่ะ ขอบคุณที่อ่านนะค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่