สวัสดีค๊า มาพบกับน้องหน่อยบรอดแคส กันอีกแล้วนะคะ แน่นอนคะ ถ้าเจอกับน้องหน่อยแสดงว่าต้องมีเรื่องราวมารีวิวกัน
อีกเช่นเคยที่ครั้งนี้จะมารีวิว เกี่ยวกับทริปท่องเที่ยวล่าสุด ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมานะคะ ทริปนี้มีความพิเศษสุดๆค่ะ ถามว่าพิเศษยังไง ? เพราะเป็นการเที่ยวที่ต่างประเทศคนเดียวครั้งแรกในชีวิตเลย เพราะปกติก็มีไปเที่ยวคนที่ที่ต่างจังหวัดมาบ้าง แต่สิ่งที่รู้สึกได้คือ ความเหงาแบบถึงใจถึงอารมณ์แบบสุดไปเลยค่ะ ความเป็นมาของทริปนี้เริ่มจาก ที่ว่าในวันที่ 31 ธันวาคม ยังไม่ได้มีแพลนไปไหน ไปในประเทศก็เบียดเสียดไปหมด จึงคิดว่าเอ๊ะ ลองไปต่างประเทศดูบ้าง จึงเลือกไปที่ใกล้ๆ และใช้งบประมาณไม่สูง จึงเลือกประเทศมาเลเซียค่ะ ณ ตอนนั้นไม่ได้ศึกษาข้อมูลอะไรเลยเกี่ยวกับที่นี่ ก็จองไปกัวลาลัมเปอร์ ค่ะ ในวันที่ 31 ธันวา -3 มกราคม แต่เมื่อศึกษาข้อมูลไปๆมาๆ จึงคิดว่าอยากจะไปเที่ยวที่ เกาะปีนังด้วย จึงเบือกที่จะจองเครื่องบินจากกัวลาลัมเปอร์ ไปปีนังด้วย ด้วยความที่ศึกษาข้อมูลมาน้อยและจองไปกลัว KL เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แพลนในทริปนี้ จึงเป็น วันที่ 31 อยู่เคาท์ดาวน์ที่ KL และวันที่ 1 และ 2 เที่ยวปีนัง และวันที่ 3 กลับมาเที่ยว KL อีกครั้งนึง และกลับไฟลท์ที่ค่ำที่สุด
ข้ามมาเรื่อยๆจนถึงวันเดินทาง บอกตรงๆว่าก่อนเดินทางก๋ค่อนข้างจะอ่านรีวิวของคนที่เคยมาเที่ยวแล้วอยู่หลายรีวิวเลย มแต่คนบอกว่า โอ้ยยย……ไปมาเลเซียง่าย เดินทางง่าย รถไฟง่าย คือง่ายไม่ซับซ้อนน
เอาหละคะพอมาถึงวันเดินทางเท่านั้นแหละค่ะ งงตึ้บเลยย
น้องหน่อยเลือกเดินทางไปกับสายการบิน MALAYSIA AIRLINE นะคะ ไม่ได้เจาะจงแต่สายการินไหนถูกก็เลิกสายการบินนั้น
บนเครื่องก็ดี๊ดี มีหนังดู มีที่ชาร์ตแบต มีรีโมทให้กดปุ่มได้ พร้อมทั้งอาหารอีกด้วยเด้อ
และแล้วตอนนี้เราก็เดินทางมาถึง KL ที่ท่าอากาศยาน KLIA กันแล้วแบบงง เราก็ถึงทางตรวจคนเข้าประเทศ วันนั้นที่เดินทางไปตรวจช้ามากๆ เพราะพนักงานค่อนข้างจะน้อย สงสัยพักร้อนกันยาวๆ
และหลักจากนั้นเราก็เดินทางไปซื้อ ซิมการ์ด จะเป็นของอะไรก็ได้เอาที่คุณสบายใจอะนะคะ เพราะคนขายจะถามเราอยู่แล้วว่าเรามากี่วันแล้วนาก็จะนำเสนอให้ว่าเราควรซื้อแบบไหน แต่เราซื้อแบบเน็ต 4กิ๊ก และโทรได้อีกเท่าไรไม่รู้ ในราคา 46 ริงกิต
หลังจากที่ซื้อซิมและสามารถเล่นเตกันได้แล้ว ตอนนี้เราก็พร้อมที่จะท่องโลกกว้างกันแล้ว สิ่งที่เราจะต้องทำคือ เดินทางเข้าตัวเมืองและวิธีที่เราจะเดินทางเข้าตัวเมืองนั้น อาจจะงง หน่อยสำหรับคนที่พึ่งไปครั้งแรก สำหรับเรางงมาก แต่น้องหน่อยแนะนำแบบนี้นะคะจะได้ไม่ต้องไปเดินหลง คือ ในชั้น 1 มันจะมีป้ายที่นำทางขึ้นไป ที่ รถบัสนะคะ โดยที่นี่จะใช้คำว่า BAS อะไรสักอย่างมันจะพาเราไป และเราก็เดินลงบันไดเลื่อนลงไป จะเจอเคาท์เตอร์ ซื้อตั๋วโดยสารรถบัสนะคะ มันมีลงได้สถานที่เลย แต่สำหรับคนที่จะเดินทางเที่ยวในเมืองก็ไปลงที่ KL SENTRAL ในราคา 10 ริงกิต มีโปรคือ ซื้อสองเที่ยวทั้งไปและกลับเลยจะอยู่ในราคาเพียง 18 ริงกิต หลังจากซื้อเสร็จแล้วนะคะ เราก็เดินทางขึ้นรถได้เลย รถมีออกทุกครึ่งชั่วโมง รถเต็มก็ออกจบปึ้ง ใช้เวลาเดินทางไปถึง KL SENTRAL ประมาณหนึ่งชั่วโมง
นี่คือหน้าตาตั๋วของเรานะคะ (ขากลับคุณก็เอาตั๋วมาแลกที่เคาน์เตอร์ของบริษัทที่คุณซื้ออีกรอบนึงอย่าลืมถ่ายรูปเก็บไว้กันลืมกันหายนะคะ )
หน้าเคาน์เตอร์ซื้อตั๋ว
และพอเราเดินทางมาถึงแล้วรถบัสของเราจะพาเรามาส่งที่ ที่ชั้นใต้ดินที่ไหนสักที่ ตอนนั้นงงมากๆ ว่าเอ๊ะ เอาตุ๊ดมาปล่อยที่ไหน เดินมั่วซั่วเลยคะ ขึ้นลิฟตามคนอื่นเค้าไป ก็ไปโผล่ในห้างเฉยเลย ไม่ต้องตกใจนะคะ ห้างที่คุณกำลังเดินอยู่นั้นชื่อ NU CENTRAL ซึ่งห้างนี้จะมีทางเชื่อมเข้าไป สถานีรถไฟได้เลย พอคุณเจอสถkนีรถไฟ แล้วนั้นคุณจะรู้สึกโคตรงง และอยากด่าคนที่เคยรีวิวว่ามันง่ายมากๆ โอ้ย ทำไมไม่ไม่ง่ายเลย อีด_ก งง วุ่นวายและหลายช่องทางมากๆ มีทั้ง รถไฟใต้ดินดิน ไฟฟ้า ลอยฟ้า
โอ้ย เครื่องซื้อตั๋วตรงไหนทางไหน ตุ๊ดงงตึ้บเลยค่ะ ขอให้คุณตั้งสติค่ะ แล้วเดินหาป้ายที่มีชื่อว่า LRT เท่านั้น LRT คือรถไฟไฟฟ้าเหมือนบีทีเอส ต่อจากนี้น้องหน่อยกำลังจะเดินทางไปที่พักเพื่อเก็บกระเป๋ากันก่อนที่ ไชน่าทาวน์ แต่เอ๊ะคุณอาจจะงว่า ไชน่าทาวน์ ต้องลงที่สถานีอะไร ถ้าคุรไปถามเค้าว่า How can I go to the Chinatown ? คนที่นั่นจะบอกคุณว่า Please speak in English. ตอนนั้นบอกตรงๆว่างงเลยว่าเอ๊ะ กูไม่ได้พูดภาษาอังกฤษอยู่หรอ จึงเปิดรูปภาพไชน่าทาวน์ให้นางดู เท่านั้นและนางอ๋อ และพูดว่า ไชน่าตาว !!! โอเครู้เรื่อง เข้าเรื่องต่อค่ะ เราต้อเดินทาจาก KL SENTRAL ไปลงที่สถานี PASA SENI ซึ่งอยู่ห่างกันแค่ สถานีเดียว ซึ่งราคาแค่ 1.60 ริงกิหรือเท่าไหร่เนี่ยแหละคะ จำไม่ได้ ก่อนขึ้นอย่าลืมดูป้ายด้วยนะคะว่าขึ้นฝั่งไหน เย้ สำรวจขั้นแรกไปได้แล้ว ตอนนี้เราก็เดินทางมาถึง ไชน่าทาวน์ ของที่นี่แล้ว นำสัมภาระไปเก็บกันสักหน่อย (กว่าจะหาโรมแรมเจอก็บ่ายสองแล้ว )
โรงแรมที่เราเลือกจองคือ โรงแรม HOTEL CHINATOWN INN ในราคาคืนละ 97 ริงกิต และมีค่ามัดจำคีย์การ์ดอีก 30 ริงกิต โดยจองผ่าน www.booking.com
สภาพโรงแรมก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหล่ สะอาดสะอ้านอยู่ได้ และที่สำคัญคืออยู่ในกลางเมือง
พอมาถึงเอ๊ะ เสียบปลั๊กไม่ได้ นี่คือสื่งที่สำคัญนะคะ อย่าลืมนำหัวพ่วงปลั๊กแบบนี้มา
และนี่คือไชน่าทาวน์คะ ส่วนใหญ่จะชายของพวกเสื้อผ้า ต่างๆนาๆ ซึ่งของดูไม่น่าสนใจอะไรมากมายเท่าไรคนเยอะแยะ เหมือนจะมีของที่มาจากไทยเยอะด้วยแหละคะ
หลักจากที่เก็บของเสร็จแล้วก็ถึงเวลาลุยของเราแล้วค่ะ จุดหมายแรกของน้องหน่อยนั่นก็คือ ไปไหว้พระเพิ่มความสิริมงคลก่อน เราเดินทางไปที่วัด Sri Maha Mariamman Temple ซึ่งอยู่ใกล้กับไชน่าทาวน์เลย อย่าถามว่าไปอย่างไรนะคะ ขอให้คุณ เปิด แผนที่และให้นางนำคุณไป ไม่ว่าคุณจะไปไหนก็ตาม อย่าคิดอยากจะฝึกภาษามากมาย เพราะคนที่นี่ไม่ได้น่ารักทุกคน
และตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงแล้วที่วัดนี้ เหมือนวัดแขกของเราเนี่ยแหละคะ แต่ของเราอลังกว่าอยู่ ฝากรองเท้าไว้ข้างหน้าวัด และเข้าไปสักการะด้านในคะ
สภาพภายในวัดคะ
เอาหละคะทุกคนขา และสถานที่ต่อไปที่น้องห่อยเลือกไปนะคะ นั่นก็คือ BATU CAVES ค่ะ เป็นอีกสถานที่ต้องไปเลย เพราะที่นี่มความสวยงามตามท้องเรื่องมากๆ โดยมีเอกลักษณ์อยู่ที่ มีพระศิวะ และองค์เทพขนาดใหญ่อยู่ด้วย วิธีการเดินทางนะคะ เราก็ไปขึ้นรถไฟ LRT ที่เดินที่ๆเราลงมา และไปลงที่ KL SENTRAL ก่อน ให้จำเอาไว้ง่ายๆว่า KL SETRAL เป็นจุดศูนย์กลางในการเดิรทางไม่ว่าจะไปไหนก็ตาม….. พอมาถึง KL SENTRAL แล้วเป็นที่เรียบร้อยก็งงอีกแล้คะ มากดซื้อตั๋วที่ตู้เดินไม่เจอ เอ้าแล้วจะไปยังไงคะ ผิดแล้วคะ ให้คุณนะคะ มองหาป้าย รถไฟ KTM Komuter และไปซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์ ไม่มีตู้หยอดนะคะ และเดินทาไปที่รถไฟสายสีแดง สุดสายที่สถานี Batu Caves ใช้เวลาเกือบ 40 นาที ในราคาเพียง 2 ริงกิตกว่าๆ รถไฟจะมาทุก 20-30 นาทีรอหน่อยนะคะ นานนิสนุง
และตอนนี้นะคะเราก็เดินทางมาถึง ที่ Batu Caves เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่นี่ไม่ต้องหาอะไรเยอะ เพราะถ้ำติดกับสถานีเลย ก็เดินๆตามทางไป ระหว่างทาวก็จะมีขายของขายขนม และตอนนี้นะคะเราก็ถึงแล้ว จะมีทางให้เข้าไปข้าในเสียค่าผ่านทางเป็นราคา 5 ริงกิต ด้านในก็จะมีเป็นเหมือนรูปปั้นที่บอกเล่าที่ประวัติ ความเป็นมาอะนะคะ
ภายในถ้ำ
ออกมาจากถ้ำนี้ก็เดินต่อไป จะมีบันได สูงๆ ให้ขึ้นไปอีก การเดินที่สูงชัน บวกกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว สภาพความสวยหมดตรงนั้นเลยค่ะ
ตอนที่เราขึ้นไปเค้ากำลังทำพิธีอะไรสักอย่างอยู่ด้วย
หลังจากเที่ยวที่ Batu Caves เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น น้องหน่อยก็รู้สึกอยากจะไปช๊อปปิ้งขึ้นมา ซึ่งสถานที่ที่เราจะไปนั่นก็คือ Bukit Bintang นั่นเองคะ วิธีการเดินทางก็คือ หลังจากที่เรานั่งรถไฟกลับมาลงที่ KL Sentral เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้คุณมองห้ายรถไฟ LRT อีกครั้งหนึ่ง และเลือกลงที่สถานี DANG WANGI ซึ่งถัดไปจาก KL Sentral ไม่กี่สถานีเท่านั้น
DANG WANGI
และหลังจากนั้นพอคุณถึงสถานีแล้ว ใหคุณเดินตามไปที่ชี้ว่าไปสถานีอักสถานีหนึ่งที่มีชื่อว่า BUKIT NANAS ซึ่งจะต้องข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าอีกสายหนึ่ง อาจจะงงนิดหน่อยนะคะ แต่เดินตามเส้นทางที่ชี้ไปเลย ข้ามสะพานลอย และเดินไปอีกหน่อยก็จะถึงแล้ว หลังจากที่เราถึงสถานี BUKIT NANAS ไปแล้วเราก็ทำการซื้อตั๋วนะคะ ไปลงที่สถานี BUKIT BINTUNG อ๊ะๆ แต่อย่าลืมดูก่อนนะคะว่าต้องขึ้นฝั่งไหน
BUKIT NANAS
เดินไปตามทางเลยค่ะ
ภายในรถไฟฟ้า
แล้วตอนนี้เราก็ถึงสถานี BUKIT BINTUNG เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในย่านนี้จะมีห้างสรรพสินค้ามากมายให้คุณได้เลือกชม เปรียบเสมือน สยาม ของเรานี่แหละคะ ส่วนผู้ชายในโซนนี้ไม่ต้องบอกอะไรมากค่ะ กินได้ จบๆ เราก็เดินเล่นในห้างแถบนี้กันไปก่อน ไม่ว่าจะเป็น SEPHORA หรือ Pavillion
[CR] รีวิว "ตุ๊ดลุยเดี่ยวเที่ยวมาเล กัวลา-ปีนัง" ปังๆ
อีกเช่นเคยที่ครั้งนี้จะมารีวิว เกี่ยวกับทริปท่องเที่ยวล่าสุด ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมานะคะ ทริปนี้มีความพิเศษสุดๆค่ะ ถามว่าพิเศษยังไง ? เพราะเป็นการเที่ยวที่ต่างประเทศคนเดียวครั้งแรกในชีวิตเลย เพราะปกติก็มีไปเที่ยวคนที่ที่ต่างจังหวัดมาบ้าง แต่สิ่งที่รู้สึกได้คือ ความเหงาแบบถึงใจถึงอารมณ์แบบสุดไปเลยค่ะ ความเป็นมาของทริปนี้เริ่มจาก ที่ว่าในวันที่ 31 ธันวาคม ยังไม่ได้มีแพลนไปไหน ไปในประเทศก็เบียดเสียดไปหมด จึงคิดว่าเอ๊ะ ลองไปต่างประเทศดูบ้าง จึงเลือกไปที่ใกล้ๆ และใช้งบประมาณไม่สูง จึงเลือกประเทศมาเลเซียค่ะ ณ ตอนนั้นไม่ได้ศึกษาข้อมูลอะไรเลยเกี่ยวกับที่นี่ ก็จองไปกัวลาลัมเปอร์ ค่ะ ในวันที่ 31 ธันวา -3 มกราคม แต่เมื่อศึกษาข้อมูลไปๆมาๆ จึงคิดว่าอยากจะไปเที่ยวที่ เกาะปีนังด้วย จึงเบือกที่จะจองเครื่องบินจากกัวลาลัมเปอร์ ไปปีนังด้วย ด้วยความที่ศึกษาข้อมูลมาน้อยและจองไปกลัว KL เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แพลนในทริปนี้ จึงเป็น วันที่ 31 อยู่เคาท์ดาวน์ที่ KL และวันที่ 1 และ 2 เที่ยวปีนัง และวันที่ 3 กลับมาเที่ยว KL อีกครั้งนึง และกลับไฟลท์ที่ค่ำที่สุด
ข้ามมาเรื่อยๆจนถึงวันเดินทาง บอกตรงๆว่าก่อนเดินทางก๋ค่อนข้างจะอ่านรีวิวของคนที่เคยมาเที่ยวแล้วอยู่หลายรีวิวเลย มแต่คนบอกว่า โอ้ยยย……ไปมาเลเซียง่าย เดินทางง่าย รถไฟง่าย คือง่ายไม่ซับซ้อนน
เอาหละคะพอมาถึงวันเดินทางเท่านั้นแหละค่ะ งงตึ้บเลยย
น้องหน่อยเลือกเดินทางไปกับสายการบิน MALAYSIA AIRLINE นะคะ ไม่ได้เจาะจงแต่สายการินไหนถูกก็เลิกสายการบินนั้น
บนเครื่องก็ดี๊ดี มีหนังดู มีที่ชาร์ตแบต มีรีโมทให้กดปุ่มได้ พร้อมทั้งอาหารอีกด้วยเด้อ
และแล้วตอนนี้เราก็เดินทางมาถึง KL ที่ท่าอากาศยาน KLIA กันแล้วแบบงง เราก็ถึงทางตรวจคนเข้าประเทศ วันนั้นที่เดินทางไปตรวจช้ามากๆ เพราะพนักงานค่อนข้างจะน้อย สงสัยพักร้อนกันยาวๆ
และหลักจากนั้นเราก็เดินทางไปซื้อ ซิมการ์ด จะเป็นของอะไรก็ได้เอาที่คุณสบายใจอะนะคะ เพราะคนขายจะถามเราอยู่แล้วว่าเรามากี่วันแล้วนาก็จะนำเสนอให้ว่าเราควรซื้อแบบไหน แต่เราซื้อแบบเน็ต 4กิ๊ก และโทรได้อีกเท่าไรไม่รู้ ในราคา 46 ริงกิต
หลังจากที่ซื้อซิมและสามารถเล่นเตกันได้แล้ว ตอนนี้เราก็พร้อมที่จะท่องโลกกว้างกันแล้ว สิ่งที่เราจะต้องทำคือ เดินทางเข้าตัวเมืองและวิธีที่เราจะเดินทางเข้าตัวเมืองนั้น อาจจะงง หน่อยสำหรับคนที่พึ่งไปครั้งแรก สำหรับเรางงมาก แต่น้องหน่อยแนะนำแบบนี้นะคะจะได้ไม่ต้องไปเดินหลง คือ ในชั้น 1 มันจะมีป้ายที่นำทางขึ้นไป ที่ รถบัสนะคะ โดยที่นี่จะใช้คำว่า BAS อะไรสักอย่างมันจะพาเราไป และเราก็เดินลงบันไดเลื่อนลงไป จะเจอเคาท์เตอร์ ซื้อตั๋วโดยสารรถบัสนะคะ มันมีลงได้สถานที่เลย แต่สำหรับคนที่จะเดินทางเที่ยวในเมืองก็ไปลงที่ KL SENTRAL ในราคา 10 ริงกิต มีโปรคือ ซื้อสองเที่ยวทั้งไปและกลับเลยจะอยู่ในราคาเพียง 18 ริงกิต หลังจากซื้อเสร็จแล้วนะคะ เราก็เดินทางขึ้นรถได้เลย รถมีออกทุกครึ่งชั่วโมง รถเต็มก็ออกจบปึ้ง ใช้เวลาเดินทางไปถึง KL SENTRAL ประมาณหนึ่งชั่วโมง
นี่คือหน้าตาตั๋วของเรานะคะ (ขากลับคุณก็เอาตั๋วมาแลกที่เคาน์เตอร์ของบริษัทที่คุณซื้ออีกรอบนึงอย่าลืมถ่ายรูปเก็บไว้กันลืมกันหายนะคะ )
หน้าเคาน์เตอร์ซื้อตั๋ว
และพอเราเดินทางมาถึงแล้วรถบัสของเราจะพาเรามาส่งที่ ที่ชั้นใต้ดินที่ไหนสักที่ ตอนนั้นงงมากๆ ว่าเอ๊ะ เอาตุ๊ดมาปล่อยที่ไหน เดินมั่วซั่วเลยคะ ขึ้นลิฟตามคนอื่นเค้าไป ก็ไปโผล่ในห้างเฉยเลย ไม่ต้องตกใจนะคะ ห้างที่คุณกำลังเดินอยู่นั้นชื่อ NU CENTRAL ซึ่งห้างนี้จะมีทางเชื่อมเข้าไป สถานีรถไฟได้เลย พอคุณเจอสถkนีรถไฟ แล้วนั้นคุณจะรู้สึกโคตรงง และอยากด่าคนที่เคยรีวิวว่ามันง่ายมากๆ โอ้ย ทำไมไม่ไม่ง่ายเลย อีด_ก งง วุ่นวายและหลายช่องทางมากๆ มีทั้ง รถไฟใต้ดินดิน ไฟฟ้า ลอยฟ้า
โอ้ย เครื่องซื้อตั๋วตรงไหนทางไหน ตุ๊ดงงตึ้บเลยค่ะ ขอให้คุณตั้งสติค่ะ แล้วเดินหาป้ายที่มีชื่อว่า LRT เท่านั้น LRT คือรถไฟไฟฟ้าเหมือนบีทีเอส ต่อจากนี้น้องหน่อยกำลังจะเดินทางไปที่พักเพื่อเก็บกระเป๋ากันก่อนที่ ไชน่าทาวน์ แต่เอ๊ะคุณอาจจะงว่า ไชน่าทาวน์ ต้องลงที่สถานีอะไร ถ้าคุรไปถามเค้าว่า How can I go to the Chinatown ? คนที่นั่นจะบอกคุณว่า Please speak in English. ตอนนั้นบอกตรงๆว่างงเลยว่าเอ๊ะ กูไม่ได้พูดภาษาอังกฤษอยู่หรอ จึงเปิดรูปภาพไชน่าทาวน์ให้นางดู เท่านั้นและนางอ๋อ และพูดว่า ไชน่าตาว !!! โอเครู้เรื่อง เข้าเรื่องต่อค่ะ เราต้อเดินทาจาก KL SENTRAL ไปลงที่สถานี PASA SENI ซึ่งอยู่ห่างกันแค่ สถานีเดียว ซึ่งราคาแค่ 1.60 ริงกิหรือเท่าไหร่เนี่ยแหละคะ จำไม่ได้ ก่อนขึ้นอย่าลืมดูป้ายด้วยนะคะว่าขึ้นฝั่งไหน เย้ สำรวจขั้นแรกไปได้แล้ว ตอนนี้เราก็เดินทางมาถึง ไชน่าทาวน์ ของที่นี่แล้ว นำสัมภาระไปเก็บกันสักหน่อย (กว่าจะหาโรมแรมเจอก็บ่ายสองแล้ว )
โรงแรมที่เราเลือกจองคือ โรงแรม HOTEL CHINATOWN INN ในราคาคืนละ 97 ริงกิต และมีค่ามัดจำคีย์การ์ดอีก 30 ริงกิต โดยจองผ่าน www.booking.com
สภาพโรงแรมก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหล่ สะอาดสะอ้านอยู่ได้ และที่สำคัญคืออยู่ในกลางเมือง
พอมาถึงเอ๊ะ เสียบปลั๊กไม่ได้ นี่คือสื่งที่สำคัญนะคะ อย่าลืมนำหัวพ่วงปลั๊กแบบนี้มา
และนี่คือไชน่าทาวน์คะ ส่วนใหญ่จะชายของพวกเสื้อผ้า ต่างๆนาๆ ซึ่งของดูไม่น่าสนใจอะไรมากมายเท่าไรคนเยอะแยะ เหมือนจะมีของที่มาจากไทยเยอะด้วยแหละคะ
หลักจากที่เก็บของเสร็จแล้วก็ถึงเวลาลุยของเราแล้วค่ะ จุดหมายแรกของน้องหน่อยนั่นก็คือ ไปไหว้พระเพิ่มความสิริมงคลก่อน เราเดินทางไปที่วัด Sri Maha Mariamman Temple ซึ่งอยู่ใกล้กับไชน่าทาวน์เลย อย่าถามว่าไปอย่างไรนะคะ ขอให้คุณ เปิด แผนที่และให้นางนำคุณไป ไม่ว่าคุณจะไปไหนก็ตาม อย่าคิดอยากจะฝึกภาษามากมาย เพราะคนที่นี่ไม่ได้น่ารักทุกคน
และตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงแล้วที่วัดนี้ เหมือนวัดแขกของเราเนี่ยแหละคะ แต่ของเราอลังกว่าอยู่ ฝากรองเท้าไว้ข้างหน้าวัด และเข้าไปสักการะด้านในคะ
สภาพภายในวัดคะ
เอาหละคะทุกคนขา และสถานที่ต่อไปที่น้องห่อยเลือกไปนะคะ นั่นก็คือ BATU CAVES ค่ะ เป็นอีกสถานที่ต้องไปเลย เพราะที่นี่มความสวยงามตามท้องเรื่องมากๆ โดยมีเอกลักษณ์อยู่ที่ มีพระศิวะ และองค์เทพขนาดใหญ่อยู่ด้วย วิธีการเดินทางนะคะ เราก็ไปขึ้นรถไฟ LRT ที่เดินที่ๆเราลงมา และไปลงที่ KL SENTRAL ก่อน ให้จำเอาไว้ง่ายๆว่า KL SETRAL เป็นจุดศูนย์กลางในการเดิรทางไม่ว่าจะไปไหนก็ตาม….. พอมาถึง KL SENTRAL แล้วเป็นที่เรียบร้อยก็งงอีกแล้คะ มากดซื้อตั๋วที่ตู้เดินไม่เจอ เอ้าแล้วจะไปยังไงคะ ผิดแล้วคะ ให้คุณนะคะ มองหาป้าย รถไฟ KTM Komuter และไปซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์ ไม่มีตู้หยอดนะคะ และเดินทาไปที่รถไฟสายสีแดง สุดสายที่สถานี Batu Caves ใช้เวลาเกือบ 40 นาที ในราคาเพียง 2 ริงกิตกว่าๆ รถไฟจะมาทุก 20-30 นาทีรอหน่อยนะคะ นานนิสนุง
และตอนนี้นะคะเราก็เดินทางมาถึง ที่ Batu Caves เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่นี่ไม่ต้องหาอะไรเยอะ เพราะถ้ำติดกับสถานีเลย ก็เดินๆตามทางไป ระหว่างทาวก็จะมีขายของขายขนม และตอนนี้นะคะเราก็ถึงแล้ว จะมีทางให้เข้าไปข้าในเสียค่าผ่านทางเป็นราคา 5 ริงกิต ด้านในก็จะมีเป็นเหมือนรูปปั้นที่บอกเล่าที่ประวัติ ความเป็นมาอะนะคะ
ภายในถ้ำ
ออกมาจากถ้ำนี้ก็เดินต่อไป จะมีบันได สูงๆ ให้ขึ้นไปอีก การเดินที่สูงชัน บวกกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว สภาพความสวยหมดตรงนั้นเลยค่ะ
ตอนที่เราขึ้นไปเค้ากำลังทำพิธีอะไรสักอย่างอยู่ด้วย
หลังจากเที่ยวที่ Batu Caves เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น น้องหน่อยก็รู้สึกอยากจะไปช๊อปปิ้งขึ้นมา ซึ่งสถานที่ที่เราจะไปนั่นก็คือ Bukit Bintang นั่นเองคะ วิธีการเดินทางก็คือ หลังจากที่เรานั่งรถไฟกลับมาลงที่ KL Sentral เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้คุณมองห้ายรถไฟ LRT อีกครั้งหนึ่ง และเลือกลงที่สถานี DANG WANGI ซึ่งถัดไปจาก KL Sentral ไม่กี่สถานีเท่านั้น
DANG WANGI
และหลังจากนั้นพอคุณถึงสถานีแล้ว ใหคุณเดินตามไปที่ชี้ว่าไปสถานีอักสถานีหนึ่งที่มีชื่อว่า BUKIT NANAS ซึ่งจะต้องข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าอีกสายหนึ่ง อาจจะงงนิดหน่อยนะคะ แต่เดินตามเส้นทางที่ชี้ไปเลย ข้ามสะพานลอย และเดินไปอีกหน่อยก็จะถึงแล้ว หลังจากที่เราถึงสถานี BUKIT NANAS ไปแล้วเราก็ทำการซื้อตั๋วนะคะ ไปลงที่สถานี BUKIT BINTUNG อ๊ะๆ แต่อย่าลืมดูก่อนนะคะว่าต้องขึ้นฝั่งไหน
BUKIT NANAS
เดินไปตามทางเลยค่ะ
ภายในรถไฟฟ้า
แล้วตอนนี้เราก็ถึงสถานี BUKIT BINTUNG เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในย่านนี้จะมีห้างสรรพสินค้ามากมายให้คุณได้เลือกชม เปรียบเสมือน สยาม ของเรานี่แหละคะ ส่วนผู้ชายในโซนนี้ไม่ต้องบอกอะไรมากค่ะ กินได้ จบๆ เราก็เดินเล่นในห้างแถบนี้กันไปก่อน ไม่ว่าจะเป็น SEPHORA หรือ Pavillion