เรื่องคือแฟนเราเดินไปดูรถเราถอยออกจากบ้าน แล้วหมาบ้านอื่น (ห่างออกไป 2-3 หลัง) วิ่งมากัดแฟนเราจนจมเขี้ยว แฟนเราพยายามหนีจนล้มศอกแตก หมามันยังจะวิ่งมากัดแฟนเราอีก เราเห็นก็วิ่งเข้าไปไล่มัน มันเลยหนีเข้าบ้านไป เราเห็นแฟนเลือดออกเต็มน่อง เลยรีบพาแฟนไปรพ. โดยยังไม่ได้บอกเรื่องกับเจ้าของหมา

พอทำแผล ฉีดยาเสร็จ ค่าใช้จ่ายเกือบหมื่นบาท (พิษสุนัขบ้า 4 พัน + บาดทะยัก 2 พัน ค่าทำแผล 1.5 พัน ฯลฯ) และยังต้องทำแผลต่ออีกเป็นสัปดาห์ๆ และฉีดยาตามนัดอีก คำนวณแล้วเฉพาะค่ารักษาก็ 2-3 หมื่น (ถ้าช่วงหลังๆ เราทำแผลเอง)

เรื่องเกิดอีกว่าแฟนเราเป็นพริตตี้ ซึ่งต้องใช้หน้าตาทำงาน แผลที่รักษา เธอกลัวมากว่าจะเป็นรอยแผลเป็น (ซึ่งหมอบอกว่าจากรูปแผลก็มีแนวโน้มสูงว่าจะเป็นแผลเป็นลึก) ทำให้ถ้าเป็นแผลเป็น ต้องลงคอร์สรักษาแผลเป็นอีกหลายหมื่นกว่าจะหายสนิท นอกจากนี้ช่วง 1 ดือนนี้ เธอยังต้องยกเลิกงานใหญ่ๆที่เธอเซ็นต์รับไปแล้ว (มีสัญญา) อีก 3-4 งาน ซึ่งมูลค่าแสนกว่าบาท ไม่นับงานย่อยๆที่ไม่ได้มีสัญญาอีก

พอเราเจอเจ้าของหมา เลยไปคุยรายละเอียด พร้อมเอาคลิปจากวงจรปิดหน้าบ้านเราไปยืนยัน + ใบเสร็จ + ใบนัดจากรพ. สิ่งแรกที่เจ้าของหมาพูดคือทำไมเราไปรพ.เอกชน มันแพง เขาขอจ่ายให้แค่ 2 พันแล้วจบเรื่องได้ไหม ทำให้เรากับเจ้าของหมาทะเลาะกัน เขาหาว่าเราจะไปปอกลอกเขา ญาติเขาก็โวยวายใส่เราใหญ่

แฟนเราก็บอกไม่อยากมีเรื่องยาว ยอมไม่คิดค่าเสียหายเรื่องงานที่เสียไป แต่จะให้เจ้าของหมารับผิดชอบค่ารักษาทั้งหมด รวมทั้งค่ารักษาแผลเป็น (ถ้ามี) จนหายสนิท ซึ่งเราก็สรุปให้เขาฟังว่าประมาณ 5 หมื่นเป็นอย่างน้อย เจ้าของหมาก็ยังไม่ยอม ยืนยันแค่ว่าจะจ่าย 2 พันแล้วจบเรื่อง

สรุปตกลงกันไม่ได้ เราเลยคิดว่าคงจะฟ้องร้องค่าเสียหายจากอีกฝ่ายโดยรวมทั้งค่ารักษา ค่าเสียหายเรื่องงาน ฯลฯ ซึ่งอย่างคงราวๆ 2 แสน (อย่างน้อย) ถ้าแบบนี้ ถือว่าเราโหดกับอีกฝ่ายเกินไปไหมครับ