สวัสดีค่ะ. วันนี้เราจะมารีวิวการเคลียร์ช่องปากที่คุ้มค่าที่สุดกับการใช้สิทธิบัตรทองที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ปล.แบบละเอียด +เทคนิคการเป็น the winner 55555.  ก่อนอื่นแนะนำตัวก่อน. เราเองเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งนอกจากจะได้เป็นนักศึกษาที่นี่แล้วสิ่งที่แถมมาด้วยก็คือการรักษาพยาบาลฟรี !!!!  รวมไปถึงทำฟันฟรี !!!  ด้วยนะเอออ ~ มันดีอย่างงี้นี่เอง 55 5 5 5  

                    แต่ก่อนไม่ค่อยได้ใช้บริการกับโรงพยาบาลสักเท่าไหร่. นอกจากจำเป็นจริงๆ อย่าเอาตามอย่างนะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ลืมตื่นไปสอบ !! แล้วต้องใช้ใบรับรองแพทย์. คราวนี้ล่ะตาตั้งไปโรงบาลเลยทีเดียว 5555 อันนั้นอ่ะไม่ตั้งใจอยากจะไป แต่ครั้งนี้ตั้งใจมากและมีจุดมุ่งหมายอย่างดี ^^ เข้าเรื่องค่ะ พอดีแฟนเราฟันมันเกมากและความฝันของนางคือการจัดฟัน  ได้จังหวะเงินพร้อมบวกกับเป็นช่วงปิดเทอมย่อยด้วยมีเวลาไปทำฟัน เพราะคลินิคในเวลาเปิด จ-ศ ตรงกับเวลาเรียนพอดี ปิดเทอมว่างก็เลยเริ่มไปหาคุณหมอจัดฟันที่คลินิค หมอตรวจแล้วเราปรึกษา แจ้งหมอว่า "ขอใบส่งตัวเคลียร์ช่องปากที่โรงพยาบาล" จากนั้นคลินิคจะออกไปส่งตัวมา 1 ใบว่า ในช่องปากของเรานี่ต้องทำอะไรบ้าง เช่น อุดกี่ซี่ ซี่ไหนบ้าง ถอนฟันไหนบ้าง เป็นต้น

                    เมื่อได้ใบส่งตัวมาแล้วเราก็ตกใจโคตร 555 ปรากฎว่า. เห้ย !! อุดเยอะจังหว่า [คิดว่าฟันตัวเองดีแต่จริงๆแล้วป่าว แค่มันเรียงสวยเฉยๆแต่ความจริงคือ...] ผุ 10 ซี่ ถอน 1 ผ่าฟันคุด 1 ปร๊าดดดดดด ! หาเวลามาทำให้ไวทีเดียวเชียว

           ไปโรงพยาบาลทำฟันครั้งแรก !!

เทคนิคส่วนตัว สามารถเอาไปใช้ได้ สำหรับ the winner เท่านั้นจ้ะ
>>>>>> ควรไปถึงก่อน 7.00 น  เพราะไปก่อน ทำเสร็จไว ไม่ต้องรอนาน : เมื่อก้าวขาเข้าโรงพยาบาลสิ่งที่ต้องทำขั้นแรกคือ

             1) กดบัตรคิว กดให้ได้ กดให้ไว [ตรงนี้สำคัญ]  ย้ำ !!!! สิทธินักศึกษา กดเลข 2 เท่านั้น ถึงจะนัดหรือไม่นัดหรือมาทำอะไรก็ตาม !!! เพราะเราต้องประสานสิทธิแค่ช่องนี้นะคะ ห้ามลืม !

             2) ไปต่อแถววัดความดันกับเครื่องอัตโนมัติ [แอบประชาสัมพันธ์ให้โรงพยาบาล : รอให้เครื่องวัดความดันตัดกระดาษก่อนค่อยหยิบ. ไม่งั้นเครื่องจะมีปัญหาและเจ้าหน้าที่ต้องตามคนมาซ่อมและเสียเวลาคนอื่นๆที่ต้องรักษา]

           สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนขั้นตอนต่อไปคือ 1 บัตรนักศึกษา 2 บัตรประชาชน 3 บัตรโรงพยาบาล [ใครไม่มีต้องไปกรอกใบสมัครก่อนนะจ้ะ]

             3) พอวัดความดันเสร็จแล้วให้ไปที่จุดคัดกรองโดยพยาบาล. ใกล้ๆกับที่วัดความดัน >> ให้มองป้ายด้านบน ช่องริมสุดจะเขียนว่าแถวนี้สำหรับ "พระภิกษุ / เตียงนอน / เจ้าหน้าที่ มธ / นศ มธ " ซึ่งจะมีแถมพิเศษแยกออกมาเพื่อความรวดเร็วมากขึ้น << พอคุณพยาบาลที่คัดกรองถามว่าเป็นอะไรมาคะ ? / หรือ มาทำอะไรคะ ? ให้ตอบไปว่า. "มาทำฟันค่ะ "  คุณพยาบาลจะหยิบใบสำหรับคิวทำฟันซึ่งมีแค่ 50 คิวต่อวันเท่านั้นนะจ๊ะ  ถ้ามาสายคิวเต็มแล้ว. พยาบาลจะตั้งป้ายไว้เลยว่า "คิวทำฟันเต็ม"   ถ้าเห็นป้ายคิวเต็มแล้วล่ะก็ค่อยมาวันหลังนะ [คิวเต็มแล้วแต่บางวัน ปกติ 9 โมงก็เต็มแล้ว]

             4) พอได้ใบคิวให้ไปรอเวชระเบียน ที่ช่อง 6 จากนั้นยื่นทุกอย่างให้เจ้าหน้าที่ [1 บัตรนักศึกษา 2 บัตรประชาชน 3 บัตรโรงพยาบาล 4 ใบคิวทำฟันที่ได้จากคุณพยาบาล 5 ใบวัดความดัน 6 บัตรคิวที่กดไว้ในขั้นตอนที่ 1 << ที่บอกให้รีบกดบัตรมันจะมีประโยชน์ตรงนี้ เหมือนเราจองคิวไว้ก่อนแล้วทำอย่างอื่นไปพลางๆอ่ะ. จะได้ไม่ต้องรอส่วนนี้นาน]  จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะปริ้นสิทธิการรักษาของเราพร้อมทั้งพวกเอกสารต่างๆให้เรา

              5) พอได้ใบแล้วขั้นตอนนี้สำคัญ !! เร็วได้เร็วค่ะ รีบเดินไปตึกทันตกรรมชั้น 2 และยื่นใบให้เจ้าหน้าที่ให้เร็วที่สุด. เพราะตรงนี้เราจะได้คิวทำฟันของแท้เลยล่ะ ไปก่อนได้คิวก่อน ลำดับต้นๆจะได้ทำฟันช่วงเช้า ประมาณ 1-30 คิวแรกถ้าจำไม่ผิด (เดี๋ยวไปอัพเดตข้อมูลมาเป๊ะๆ)  พอได้บัตรคิวมาแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะแจ้งว่าให้ไปพัก ทานข้าวก่อน เวลา 9 โมงจะเริ่มเวลาทำการรักษา อ๋อ ถ้าไปครั้งแรกเค้าจะมีใบให้กรอกเกี่ยวกับข้อมูลโรคประจำตัวต่างๆ
TIP : เส้นทางในการไปเร็วสุดคือ หลังจากได้ใบจากเวชระเบียน หันหลังเดินตรงไปเรื่อยๆ ผ่านช่องจ่ายยา ทะลุโรงอาหารและตึกถัดไปก็คือตึกทันตกรรมเดินไปชั้น 2 เลยจ้า



               6) ไปนั่งพักให้สบายอารมณ์. 9 โมงตรงค่อยขึ้นมา ชั้น 2 อีกที เมื่อเวลา 9 โมงตรงพยาบาลจะเรียกคิวที่ 1-10 ให้เข้าห้องหมายเลข 1 ถ้าใช้สูตรแบบเราที่ไปตั้งแต่ 7 โมง. มั่นใจยังไงก็คิวที่ 1-10 แน่นอน (ล่าสุดเพิ่งไปมาเมื่อเช้า ได้คิวที่ 2 จ้าาาา ยิ้มเลย)  ต่อๆๆ พอพยาบาลเรียกชื่อแล้ว สำหรับการไปครั้งแรก จะต้อง X-ray ฟันก่อน. เค้าก็จะแนะนำ บลาๆๆ ห้อง x-ray อยู่ชั้น 2 ใกล้ๆกัน (ตรงนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าต่างๆถ้าใช้บัตรทอง ฟรีจ้า 0 บาท )


              7) เข้ามาที่ห้องหมายเลข 1 เหมือนเดิม คุณหมอจะเรียกตรวจฟันและให้ดูฟิมล์ในจอคอม ซึ่งเป็นฟันของเราเอง และก็มีคุณหมอคอยอธิบายว่าช่องปากเราเป็นยังไง ตรงไหนคุด ตรงไหนต้องอุดต้องถอน วางแผนการรักษา และให้เราเลือกว่าจะทำอะไรก่อนหลัง [อุดกับถอน]

              8) นั่งรอผู้ช่วยคุณหมอเรียกชื่อและตามเข้าไปทำฟัน  (ถ้าจะขอใบรับรองแพทย์ให้บอกคุณหมอด้วย)

              9) ทำฟันเสร็จแล้วก็ออกมานั่งรอ. สักแปปคุณพยาบาลก็จะให้เราเอาแฟ้มไปให้เรา  เอาไปแฟ้มไปที่การเงิน จะขึ้นราคาการรักษาแบบปกติไม่ต้องตกใจ ฟรี ฟรี ฟรี ท่องไว้ อย่าหวั่นไหว  

              10) ยื่มเอกสารทั้งหมดให้การเงินพี่เค้าก็จะตรวจแล้วก็ถามว่าเราจะนัดต่อมั้ย ถ้านัดต่อก็เอาแฟ้มหลังเคลียร์ค่าใช้จ่ายเสร็จ ให้เราไปยื่นช่องข้างๆ

              11) ยื่นแฟ้มเสร็จก็รอเจ้าหน้าที่เรียก แปปเดียวเท่านั้น จนท. จะถามว่าเราจะนัดทำฟันต่อมั้ย ตกลงวันเวลาที่สะดวกกัน. และ จนท ก็จะออกใบนัดให้  จากนั้นก็. ....... กลับบ้านได้

TIP ! กลั่นกรองจากประสบการณ์
            - ขั้นตอนด้านบนที่เราเดินเข้าไปโรงพยาบาลไปติดต่อทำนู้นนี่ เรียกว่า Walk in สามารถทำฟันได้ 1 ซี่ เท่านั้น เลือกได้จะอุดหรือถอน
            - ถ้ามีนัด หมอจะทำให้มากกว่า 1 ซี่ บางที 2 บางคนน้อยก็ 3 แล้วแต่หมอ
            - ถ้ามีนัด ไปกดบัตรคิว >>> วัดความดัน >>>ไม่ต้องติดต่อพยาบาล >>> ขึ้นมาชั้น 2 ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้เลย >>> จากนั้นก็เอาใบนัดไปวางไว้ที่ตระกร้า ห้อง 3 "ถ้ามีใบนัดมาห้อง 3 ถ้า walk in ห้อง 1"
            - ถ้ามีนัดบ่าย อยากทำฟันช่วงเช้าด้วยก็ได้ แต่ย้ำว่าต้องมาเร็วและกดบัตรคิวให้ได้คิวทำฟันในช่วงเช้าเท่านั้น ! จะได้ไม่เป็นคิวซ้อนกันในช่วงบ่าย ซึ่งอยู๋คนละห้อง เช่น มีนัดทำฟัน 13.00น. แต่มาตอนเช้าได้คิวทำฟัน 1-10 ทำฟันเร็ว เสร็จก่อนเที่ยง >> ไปตามนัดได้ปกติ <<
            - เทคนิคนี้ไป 7 โมง ได้คิวต้นๆ เสร็จ 9.40 - 11.00 น (เราเสร็จก่อนตลอดเพราะไปเร็ว 555 วิถี the winner)
            - ถ้าหมอทำแล้วเสียวฟันมาก หรือไม่ไหว ยกมือซ้าย !
            - ถ้าครั้งต่อไปที่มาเราสามารถเลือกหมอได้ว่าจะเอาคนเดิมหรือหมอท่านอื่น

ปล. ไปทำครั้งแรก. ประทับใจการรักษาของหมอมากกก คือพูดดี พูดเพราะ บอกทุกขั้นตอนว่าทำอะไร บริการดีเหมือนคลินิคเลยอ่ะ (แต่ผู้ช่วยบางคนดุ 555) สะงั้น


แถมอีกนิด !! . ช่วงปลื้มปริ่มกับการรักษาที่ฟรี ฟรี ฟรี !!!

คือ แฟนเรามีฟันฝัง ซึ่งมันอยู่แถวๆกรามเลยอ่ะ เป็นเคสที่ยากและหมอต้องเก่งจริงๆ  ถ้าผ่าข้างนอกคือราคา 7000+ เลยอ่ะ ตอนแรกต้องรอคิวนานมาก ประมาณเป็นปี !! ถึงได้คิวผ่า แต่ไปๆมาๆ คุณหมอบางท่านเค้าก็ส่งตัวให้เลย ได้เร็วแบบ 2-3 อาทิตย์ก็ผ่าได้เลยอ่ะ  

และตัวเราเองตอนแรกต้องรอคิวผ่าฟันคุด 6 เดือน ตอนนั้นที่กำลังนัดเจ้าหน้าที่ถามว่าให้ลงคิวไว้เลยมั้ย เราก็คิวว่ามันนานไปอ่ะ อาจจะไปทำคลินิคข้างนอก เสียตังหน่อยเอาว่ะ. แต่ล่าสุดไปถอนฟันกับคุณหมอท่านนึงมาและหมอถามว่ามีนัดผ่าฟันคุดรึยัง ? เราก็บอกไม่มีเพราะยังไม่ได้นัด. หมอเลยลงคิวให้ ได้แบบเร็วสุด อาทิตย์หน้า โอ้ยยย !! ดีใจสุดขีด เพราะฟรี และที่สำคัญไว้ใจหมอโรงพยาบาลธรรมศาสตร์มาก   ก็เลยโชคดี. การเคลียร์ช่องปากของเราไม่เสียตังค์เลยสักกะบาทเดียว. นี่ลองนั่งๆคำนวน ถ้าเราเคลียร์และจ่ายเงินเอง [กรณีคลินิคในเวลาที่ รพ. ประมาณ 8000 ได้] ส่วนแฟนเราคงเป็นหมื่นอ่ะ เพราะผ่าฟันฝังด้วย   ณ ตอนนี้เราก็ยังต้องไปตามนัดต่อ.เหลือผ่าฟันคุด + อุดอีก 3 ซี่ก็จะได้จัดแย้วววววว เย้ !!!!


        ก่อนจากไป อยากฝากถึงนักศึกษาธรรมศาสตร์ทุกคนให้มาใช้สิทธิ์ให้คุ้มในขณะที่มีสิทธิ์นะจ๊ะ เพราะถ้าจบแล้วสิทธิ์ก็หายวับไปด้วย และต้องจ่ายเองทั้งหมด. และตอนนี้นักศึกษาทุกคนได้สิทธิ์บัตรทองแล้วนะ. ไม่ใช่สิทธิ์นักศึกษาธรรมดาที่ทำฟัน 300/3ครั้ง / ปีการศึกษา อีกต่อไป

ถ้ามีอะไรสงสัยสอบถามได้นะคะ เดี๋ยว จขกท. ไปอีกครั้งจะถ่ายภาพอย่างละเอียดทุกขั้นตอนมาเพิ่ม. รับรองไม่หลง ไม่งง เป็น The Winner  แน่นอนค่ะ อิอิ ขออย่างเดียวอย่าไปก่อนเราน้าาาา 555555 [ล้อเล่นน เราทำเกือบเสร็จแล้วล่ะ ] พูดคุย แนะนำ ติชมได้นะคะ. หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนค่ะ   ครั้งหน้าอาจจะมาแนะนำเกี่ยวกับ "คลินิคทันตกรรมนักศึกษาธรรมศาสตร์". ที่ราคาถูกแสนถูกกกกก  สำหรับคนทั่วไป วันนี้ไม่ขอช้าง ไม่ขอม้า แต่ขอลาไปก่อนจ้าาาาาาาาา