- - เช็คให้ดีก่อนกินบุตเฟ่ต์ - -
วันนี้เรากับที่ทำงานอยากกินหอยนางรมเลยเสิร์จหา เจอว่าที่ grand mercure fortune มีบุฟเฟต์หอยนางรม เราเลยโทรไปเช็คกับทางโรงแรมประมาณ 16.50 น. ว่าวันนี้หอยนางรมมีลงไลน์อาหารมั้ย ทาง พนง แจ้งว่า วันนี้มีค่ะ มีซีฟู้ด ปู กุ้ง หอยนางรม อื่นๆ และ แซลมอนลมควัน ราคา 790 บาท net เครื่องดื่มต่างหาก อาหารลงประมาณ 18.45 น. ค่ะ ทางเราก็จองไป 3 ที่ และชวนเพื่อนไปเพิ่ม เพราะคิดว่าจะปาร์ตี้เจอกันซะเลย เลยโทรเพิ่มโต๊ะประมาณ 17.01 น. อีก 2 เป็น 5 ที่ พอไปถึงเราก็แจ้งกับทาง receptions หน้าห้องอาหารให้เค้าพาไปโต๊ะ ระหว่างเดินไปโต๊ะเราก็ดูไลน์อาหารไปพลางๆๆ เพราะพี่ที่ทำงานที่ยังมาไม่ถึงย้ำว่าให้เช็คอาหารที่เราอยากกิน (หอยนางรม) ก่อนเลยนะ เราก็เดินรอบแบบแอบผิดหวัง เพราะก่อนมา ได้เข้าเว็บดูหน้าตาอาหารมา แต่ทำไมอาหารค่อนข้างน้อย และดันไม่เจอซีฟู้ดกับหอยนางรมที่พวกเราตามหา เราก็เลยเดินไปถาม พนง. ผช ในห้องอาหารตรงเคาน์เตอร์ ถามว่า “โทษนะคะ ไม่ทราบว่าโซนซีฟู้ดกับหอยนางรมอยู่ตรงไหนคะพอดีไม่เห็นเลย“ พนง. ก็ชี้ไปโซนตรงกลางห้อง “อยู่บริเวณโซนกลางครับ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ลง” เราก็รีบเดินมาบอกพี่ๆ ที่โต๊ะ ว่าหอยนางรมกำลังจะลง ก็ไม่ได้เอะใจอะไร พี่ๆ ก็เลยเดินไปตักอาหารอย่างอื่นจะมากินพลางๆ ส่วนเราก็นั่งรอที่โต๊ะอาหาร สักพัก พนง. ผช คนเดิมเดินมาบอกเราว่า “ขอโทษนะครับ วันนี้เราไม่มีหอยนางรมในไลน์อาหาร” เราก็แบบอ้าว ก็เช็คแล้วนะ เราถึงนั่งโต๊ะกัน แล้วเริ่มตักอาหารกัน “อ้าว แต่เราโทรเช็คย้ำแล้วนะคะว่ามี” พนง.ก็บอกว่า “ไม่ทราบว่า สอบถาม พนง. คนไหนชื่ออะไรครับ วันนี้เป็นไลน์อาหารเป็นอาเซียน” เราก็บอกไปว่า “reception ค่ะ แต่เค้าไม่ได้แจ้งชื่อไว้” พี่ๆ ก็เดินมาที่โต๊ะพอดี เราเลยบอกไปว่าวันนี้ไม่มีหอยนางรม เอาสิ!! ก็เดือดกันสิคะคุณ!!! นี่โทรมาจองดิบดีและสอบถามก่อนจะเริ่มเดินทางกันมาที่โรงแรม นึกสิคะคนเพิ่งเลิกงาน หิ้วท้องมากินบุตเฟ่ต์กัน และที่สำคัญที่จองมากินโรงแรมนี้เพราะหอยนางรมเลย แล้วก็ย้ำตรวจไลน์อาหารก่อน ถามพนักงานเมื่อมาถึงร้านอีกเรื่องหอยนางรม นึกภาพตามสิคะ!! เราพูดเรื่องหอยนางรมตลอด ก็มีแอบอายนะ ขนาดเช็คมายังผิดหวังเลย!!!
เหตุการณ์ต่อมาเมื่อพี่หัวหน้าเราที่ตั้งใจมาทานอาหารเพื่อเลี้ยงส่งกัน ก็จัดการเดินไปสอบถามถึงที่มาที่ไป ได้ความเช่นเดิม เพิ่มเติมคือการปัดความผิดกันไปมาว่าพนักงานคนโน้นคนนี้แจ้งลูกค้าผิด แล้วไงคะ!! แต่ที่ปี๊ดสุดเห็นจะเป็นพนักงานต้อนรับผู้หญิงด้านหน้าที่หัวหน้าเราเดินไปสอบถามและเรียบเรียงเหตุการณ์การจองให้ฟัง แต่นางดันยกมือสัญลักษณ์บอกว่าให้หัวหน้าเราหยุดพล่ำ กิริยาแบบนี้สมควรกระทำเหรอคะ? มีแต่เขาจะยืนกุมมือและรับฟังลูกค้าก่อน แล้วค่อยชี้แจงเหตุผลของตัวเอง และที่สำคัญเรามั่นใจว่าพนักงานหญิงคนนี้นี่แหละที่รับโทรศัพท์จองเรา เพราะตอนเรามาถึงนางรู้รายละเอียดการจองมาก ยังแอบประมาณชื่นชมนะที่เก็บรายละเอียดปลีกย่อยดีกว่าพนักงานปกติที่รับจองทางโทรศัพท์ทั่วไป เช่น คุณผู้หญิงมาแล้วเหรอคะ เอ่ยชื่อและกระตือรือร้นรีบบอกให้เราประทับใจว่า เราจองโซนติดกระจก ต้องการความเป็นส่วนตัวเพราะอยากมาคุยเล่นกันกับเพื่อนๆ ดูใส่ใจมาก แต่ดันไม่ออกมายอมรับความผิด แล้วยังโยนความผิดไปมาให้ลูกค้าฟังอีก พีคอีกตรงนางถามพวกเราว่า “คุณผู้หญิงอยากทานหอยนางรมกันเหรอคะ” มองเข้าข้างตัวเองหน่อยนะ คือจะถามย้ำลูกค้าทำไมว่าอยากกินหอยนางรม อารมณ์ตรูก็อายนะมาเพื่อหอยนางรม นี่มากินราคาไม่ใช่ถูกๆ ไลน์อาหารกับพนักงานก็ไม่สมกับเป็นอาหารโรงแรมอีก เหตุการณ์ต่อมา พนักงานผู้หญิงดังกล่าวบอกจะไปตามเชฟ จะถามเชฟว่าถ้าพวกเราอยากกินหอยนางรมกันจริงๆ น่าจะมีสต๊อคหอยอยู่ เดี๋ยวให้เชฟทำให้เป็นพิเศษ แต่ต้องขอให้เชฟมาคุย ฟังแบบนี้คิดว่ายังไงคะ? ให้ลูกค้าโวยวายก่อนเลยมีหอยนางรมให้เหรอคะ!!! แต่พวกเราใจเด็ดค่ะ แจ้งไปว่าไม่รับค่ะ เพราะจะมั่นใจได้ยังไงว่าจะได้กินของสด และจำนวนของจะพอใจสำหรับพวกเรา…..
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1.ความจริงใจต่อลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ผิดก็ขอโทษแค่นั้นก็จบ
2.การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของเจ้าหน้าที่ ที่ไม่ใช่การโยนความผิดกันไปมา
3.กิริยามารยาทของพนักงานสำคัญสุด มันจะยิ่งส่งผลต่อเหตุการณ์ที่จะตามมาแน่นอน
4.สุดท้ายการประสานงานกันภายในเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องมาสื่อสารกับลูกค้าเป็นสิ่งที่ต้องไปปรับปรุงมากๆ ค่ะ มีก็บอกมี ไม่มีก็บอกไม่มี เราจะได้ไม่เสียเวลากันทั้งสองฝ่าย
[CR] หอยนางรมอยู่ไหน !!!!!!!
วันนี้เรากับที่ทำงานอยากกินหอยนางรมเลยเสิร์จหา เจอว่าที่ grand mercure fortune มีบุฟเฟต์หอยนางรม เราเลยโทรไปเช็คกับทางโรงแรมประมาณ 16.50 น. ว่าวันนี้หอยนางรมมีลงไลน์อาหารมั้ย ทาง พนง แจ้งว่า วันนี้มีค่ะ มีซีฟู้ด ปู กุ้ง หอยนางรม อื่นๆ และ แซลมอนลมควัน ราคา 790 บาท net เครื่องดื่มต่างหาก อาหารลงประมาณ 18.45 น. ค่ะ ทางเราก็จองไป 3 ที่ และชวนเพื่อนไปเพิ่ม เพราะคิดว่าจะปาร์ตี้เจอกันซะเลย เลยโทรเพิ่มโต๊ะประมาณ 17.01 น. อีก 2 เป็น 5 ที่ พอไปถึงเราก็แจ้งกับทาง receptions หน้าห้องอาหารให้เค้าพาไปโต๊ะ ระหว่างเดินไปโต๊ะเราก็ดูไลน์อาหารไปพลางๆๆ เพราะพี่ที่ทำงานที่ยังมาไม่ถึงย้ำว่าให้เช็คอาหารที่เราอยากกิน (หอยนางรม) ก่อนเลยนะ เราก็เดินรอบแบบแอบผิดหวัง เพราะก่อนมา ได้เข้าเว็บดูหน้าตาอาหารมา แต่ทำไมอาหารค่อนข้างน้อย และดันไม่เจอซีฟู้ดกับหอยนางรมที่พวกเราตามหา เราก็เลยเดินไปถาม พนง. ผช ในห้องอาหารตรงเคาน์เตอร์ ถามว่า “โทษนะคะ ไม่ทราบว่าโซนซีฟู้ดกับหอยนางรมอยู่ตรงไหนคะพอดีไม่เห็นเลย“ พนง. ก็ชี้ไปโซนตรงกลางห้อง “อยู่บริเวณโซนกลางครับ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ลง” เราก็รีบเดินมาบอกพี่ๆ ที่โต๊ะ ว่าหอยนางรมกำลังจะลง ก็ไม่ได้เอะใจอะไร พี่ๆ ก็เลยเดินไปตักอาหารอย่างอื่นจะมากินพลางๆ ส่วนเราก็นั่งรอที่โต๊ะอาหาร สักพัก พนง. ผช คนเดิมเดินมาบอกเราว่า “ขอโทษนะครับ วันนี้เราไม่มีหอยนางรมในไลน์อาหาร” เราก็แบบอ้าว ก็เช็คแล้วนะ เราถึงนั่งโต๊ะกัน แล้วเริ่มตักอาหารกัน “อ้าว แต่เราโทรเช็คย้ำแล้วนะคะว่ามี” พนง.ก็บอกว่า “ไม่ทราบว่า สอบถาม พนง. คนไหนชื่ออะไรครับ วันนี้เป็นไลน์อาหารเป็นอาเซียน” เราก็บอกไปว่า “reception ค่ะ แต่เค้าไม่ได้แจ้งชื่อไว้” พี่ๆ ก็เดินมาที่โต๊ะพอดี เราเลยบอกไปว่าวันนี้ไม่มีหอยนางรม เอาสิ!! ก็เดือดกันสิคะคุณ!!! นี่โทรมาจองดิบดีและสอบถามก่อนจะเริ่มเดินทางกันมาที่โรงแรม นึกสิคะคนเพิ่งเลิกงาน หิ้วท้องมากินบุตเฟ่ต์กัน และที่สำคัญที่จองมากินโรงแรมนี้เพราะหอยนางรมเลย แล้วก็ย้ำตรวจไลน์อาหารก่อน ถามพนักงานเมื่อมาถึงร้านอีกเรื่องหอยนางรม นึกภาพตามสิคะ!! เราพูดเรื่องหอยนางรมตลอด ก็มีแอบอายนะ ขนาดเช็คมายังผิดหวังเลย!!!
เหตุการณ์ต่อมาเมื่อพี่หัวหน้าเราที่ตั้งใจมาทานอาหารเพื่อเลี้ยงส่งกัน ก็จัดการเดินไปสอบถามถึงที่มาที่ไป ได้ความเช่นเดิม เพิ่มเติมคือการปัดความผิดกันไปมาว่าพนักงานคนโน้นคนนี้แจ้งลูกค้าผิด แล้วไงคะ!! แต่ที่ปี๊ดสุดเห็นจะเป็นพนักงานต้อนรับผู้หญิงด้านหน้าที่หัวหน้าเราเดินไปสอบถามและเรียบเรียงเหตุการณ์การจองให้ฟัง แต่นางดันยกมือสัญลักษณ์บอกว่าให้หัวหน้าเราหยุดพล่ำ กิริยาแบบนี้สมควรกระทำเหรอคะ? มีแต่เขาจะยืนกุมมือและรับฟังลูกค้าก่อน แล้วค่อยชี้แจงเหตุผลของตัวเอง และที่สำคัญเรามั่นใจว่าพนักงานหญิงคนนี้นี่แหละที่รับโทรศัพท์จองเรา เพราะตอนเรามาถึงนางรู้รายละเอียดการจองมาก ยังแอบประมาณชื่นชมนะที่เก็บรายละเอียดปลีกย่อยดีกว่าพนักงานปกติที่รับจองทางโทรศัพท์ทั่วไป เช่น คุณผู้หญิงมาแล้วเหรอคะ เอ่ยชื่อและกระตือรือร้นรีบบอกให้เราประทับใจว่า เราจองโซนติดกระจก ต้องการความเป็นส่วนตัวเพราะอยากมาคุยเล่นกันกับเพื่อนๆ ดูใส่ใจมาก แต่ดันไม่ออกมายอมรับความผิด แล้วยังโยนความผิดไปมาให้ลูกค้าฟังอีก พีคอีกตรงนางถามพวกเราว่า “คุณผู้หญิงอยากทานหอยนางรมกันเหรอคะ” มองเข้าข้างตัวเองหน่อยนะ คือจะถามย้ำลูกค้าทำไมว่าอยากกินหอยนางรม อารมณ์ตรูก็อายนะมาเพื่อหอยนางรม นี่มากินราคาไม่ใช่ถูกๆ ไลน์อาหารกับพนักงานก็ไม่สมกับเป็นอาหารโรงแรมอีก เหตุการณ์ต่อมา พนักงานผู้หญิงดังกล่าวบอกจะไปตามเชฟ จะถามเชฟว่าถ้าพวกเราอยากกินหอยนางรมกันจริงๆ น่าจะมีสต๊อคหอยอยู่ เดี๋ยวให้เชฟทำให้เป็นพิเศษ แต่ต้องขอให้เชฟมาคุย ฟังแบบนี้คิดว่ายังไงคะ? ให้ลูกค้าโวยวายก่อนเลยมีหอยนางรมให้เหรอคะ!!! แต่พวกเราใจเด็ดค่ะ แจ้งไปว่าไม่รับค่ะ เพราะจะมั่นใจได้ยังไงว่าจะได้กินของสด และจำนวนของจะพอใจสำหรับพวกเรา…..
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1.ความจริงใจต่อลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ผิดก็ขอโทษแค่นั้นก็จบ
2.การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของเจ้าหน้าที่ ที่ไม่ใช่การโยนความผิดกันไปมา
3.กิริยามารยาทของพนักงานสำคัญสุด มันจะยิ่งส่งผลต่อเหตุการณ์ที่จะตามมาแน่นอน
4.สุดท้ายการประสานงานกันภายในเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องมาสื่อสารกับลูกค้าเป็นสิ่งที่ต้องไปปรับปรุงมากๆ ค่ะ มีก็บอกมี ไม่มีก็บอกไม่มี เราจะได้ไม่เสียเวลากันทั้งสองฝ่าย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้