สมัครมาเพื่อตั้งคำถามกับกฏหมายข้อนี้เลยค่ะ
เพิ่งดูข่าวเที่ยงมาเมื่อสักครู่เลยค่ะ
ในความเห็นส่วนตัวของเรา เรารู้สึกว่ากฏหมายกำหนดไว้เกินความเป็นจริงมากไป
ระดับการคุยกันปกติก็ 50-60 เดซิเบลเข้าไปแล้ว
เสียงตอนกลางคืนในห้องนอน ก็อยู่ระดับ 30-40 เดซิเบล
10 เดซิเบล มันระดับเสียงกระซิบ เสียงกวาดถนนก็ดังกว่า 10 เดซิเบลซะอีก
การตั้งกฏหมายแบบนี่ เขาต้องการอะไรเหรอ?
อย่างข้างบ้านเราเขาชอบตะโกนคุยกัน ก็ฟ้องได้เลยสิ
หมาบ้านเราเห่า 1 โฮ่ง ก็โดนฟ้องได้เลยใช่มั้ย?
เราไม่เข้าใจอ่ะ ว่าทำไมกฏหมายถึงไม่อยู่บนความเป็นจริงได้ขนาดนี้
วัดความดังเสียงในหน่วยเดซิเบล (เอ) จะถูกแบ่งออกเป็นระดับเทียบกับเสียงที่พบบ่อยในชีวิตประจำวันได้ ดังนี้
ระดับเบามาก (0-20 dB) เช่น เสียงหายใจ เสียงกระซิบ นั่นแปลว่าเสียงที่มนุษย์เริ่มได้ยินก็คือตั้งแต่ 0 dB เลย
ระดับเบา (30-40 dB)ช่น เสียงในห้องสมุด เสียงห้องนอนตอนกลางคืน
ระดับปานกลาง (50-60 dB) เช่น เสียงฝนตกเบาๆ เสียงพูดคุยทั่วไป
ระดับดัง (70-80 dB) เช่น เสียงเครื่องดูดฝุ่น เสียงนกหวีด และไม่ควรฟังเสียงที่ดังตั้งแต่ 85 dB ขึ้นไปเป็นเวลานานๆ เพราะอาจสูญเสียการได้ยิน
ระดับดังมาก (90-100 dB) เช่น เสียงเครื่องตัดหญ้า เสียงโรงงาน
ระดับดังสุดๆ (110-140 dB) เช่น เสียงเพลงแดนซ์ในผับ เสียงคอนเสิร์ตร็อค เสียงเครื่องบินเจ็ต โดยไม่ควรได้รับเสียงตั้งแต่ 100-120 dB เกิน 1-2 ชม. และเมื่อเสียงดังถึง 130 dB จะเริ่มมีอาการปวดหู
อ้างอิงจาก mangozero.com/sounds-decibel-and-dangers/
แก้ไขเพิ่มเติมเครดิตค่ะ
เสียงดังเกิน 10 เดซิเบลเอในเขต กทม. ถือเป็นเสียงรบกวน โทษปรับ 5000
เพิ่งดูข่าวเที่ยงมาเมื่อสักครู่เลยค่ะ
ในความเห็นส่วนตัวของเรา เรารู้สึกว่ากฏหมายกำหนดไว้เกินความเป็นจริงมากไป
ระดับการคุยกันปกติก็ 50-60 เดซิเบลเข้าไปแล้ว
เสียงตอนกลางคืนในห้องนอน ก็อยู่ระดับ 30-40 เดซิเบล
10 เดซิเบล มันระดับเสียงกระซิบ เสียงกวาดถนนก็ดังกว่า 10 เดซิเบลซะอีก
การตั้งกฏหมายแบบนี่ เขาต้องการอะไรเหรอ?
อย่างข้างบ้านเราเขาชอบตะโกนคุยกัน ก็ฟ้องได้เลยสิ
หมาบ้านเราเห่า 1 โฮ่ง ก็โดนฟ้องได้เลยใช่มั้ย?
เราไม่เข้าใจอ่ะ ว่าทำไมกฏหมายถึงไม่อยู่บนความเป็นจริงได้ขนาดนี้
วัดความดังเสียงในหน่วยเดซิเบล (เอ) จะถูกแบ่งออกเป็นระดับเทียบกับเสียงที่พบบ่อยในชีวิตประจำวันได้ ดังนี้
ระดับเบามาก (0-20 dB) เช่น เสียงหายใจ เสียงกระซิบ นั่นแปลว่าเสียงที่มนุษย์เริ่มได้ยินก็คือตั้งแต่ 0 dB เลย
ระดับเบา (30-40 dB)ช่น เสียงในห้องสมุด เสียงห้องนอนตอนกลางคืน
ระดับปานกลาง (50-60 dB) เช่น เสียงฝนตกเบาๆ เสียงพูดคุยทั่วไป
ระดับดัง (70-80 dB) เช่น เสียงเครื่องดูดฝุ่น เสียงนกหวีด และไม่ควรฟังเสียงที่ดังตั้งแต่ 85 dB ขึ้นไปเป็นเวลานานๆ เพราะอาจสูญเสียการได้ยิน
ระดับดังมาก (90-100 dB) เช่น เสียงเครื่องตัดหญ้า เสียงโรงงาน
ระดับดังสุดๆ (110-140 dB) เช่น เสียงเพลงแดนซ์ในผับ เสียงคอนเสิร์ตร็อค เสียงเครื่องบินเจ็ต โดยไม่ควรได้รับเสียงตั้งแต่ 100-120 dB เกิน 1-2 ชม. และเมื่อเสียงดังถึง 130 dB จะเริ่มมีอาการปวดหู
อ้างอิงจาก mangozero.com/sounds-decibel-and-dangers/
แก้ไขเพิ่มเติมเครดิตค่ะ