สืบเนื่องจากกระทู้
วันแรก
https://ppantip.com/topic/38468775 (ปฎิบัติการเปลี่ยนมือถือใหม่กับดีแทค) คำว่า "Free" หมายความว่าอย่างไร ภายใต้การนำของ อเล็กซานดรา ไรช์ CEO, DTAC คนใหม่?
วันที่สอง
https://ppantip.com/topic/38471903 (จาก38468775) Dtacบอกให้รอหมดสัญญาแต่ผมไปต่อไม่รอแล้วนะ มีค่ายฯใด สนใจเสนอดีลที่คิดว่า "ผู้บริโภคพึงพอใจที่สุด" มาได้เลย
วันที่สี่
https://ppantip.com/topic/38481491 (ปฎิบัติการเปลี่ยนมือถือใหม่กับดีแทค)ย่างวันที่5 TruemoveH-AIS โปรฯสมาร์ทโฟนราคาพิเศษSamsungมีเงื่อนไข"ล็อคเครื่อง"ไหม?
และนำไปสู่คำถามถึง กสทช.
https://ppantip.com/topic/38483681 "เครื่องจะถูกล็อค-ระงับ หากค้างชำระค่าบริการ" by Samsung Knox ,Dtac จะสร้างเสริมธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นต่อลูกค้าได้อย่างไร?
...จนนำมาสู่บทสรุปสุดท้ายในกระทู้นี้
เหตุผลที่ยกเลิกปฎิบัติการ
1.เพื่อรักษาชื่อเสียงของผมเอง เพื่อแก้ข้อครหา "เล่นใหญ่ ร้องเรียน กสทช. แค่อยากได้มือถือฟรีและชักดาบไม่ทำตามสัญญา"
2.หามือถือเครื่องใหม่ ค่ายใหม่ และทางออกใหม่ ให้คุณแม่พึงพอใจที่สุดได้แล้ว คิดว่านะ
แก้ข้อครหา
ตกลงผมไม่สนเครื่องฟรีจากดีแทคอีกต่อไปแล้ว ที่อยากได้เครื่องฟรีในตอนแรกก็เพราะอยากทำให้คุณแม่ประทับใจ คุณแม่บอกผมเสมอว่า "ค่าเครื่องไม่ค่อยเท่าไหร่เพราะจ่ายครั้งเดียวแต่อย่าแพงมากนะ จริงๆ อยู่ที่ค่ารายเดือน พวกค่ายมือถือเขาก็ไปเอากำไรคืนที่ค่ารายเดือน" จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมตัดสินใจเลือกมือถือเครื่องนี้ของค่ายนี้ เพราะตอบโจทย์คุณแม่ทุกอย่าง เพียงทว่าที่ผมลังเลเพราะอยากได้แรม3gbที่อยากได้ก็เพราะอยากจะใช้มือถือของคุณแม่เล่นเกมหรือเล่นแอปใหม่ๆ บ้าง สรุปง่ายๆ
มือถือของคุณแม่ก็เหมือนมือถือของคุณลูก ผมจึงตัดสินใจในนาทีสุดท้ายทำตามความต้องการของคุณแม่ทั้งหมดและแก้ข้อครหาเพื่อรักษาชื่อเสียงของตนเองไปด้วยในตัว
ส่วนทางออกใหม่ของซิมมือถือดีแทค ผมจะเสนอทางออกให้คุณแม่ตัดสินใจเองว่าจะเลือกทางไหน
1.เปลี่ยนจากซิมรายเดือนเป็นเติมเงิน หรือ
2.ปิดบัญชีดีแทค เพราะมือถือเครื่องใหม่ก็มีซิมเบอร์ใหม่แถมมาให้1เบอร์
เรื่องสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้เรื่องแรก คือ
การร้องเรียนกับกสทช.
คือผมเห็นครั้งแรกก็ตอนก่อนตั้งกระทู้วันแรก เพราะกำลังหามือถือที่เหมาะสมที่สุด ครั้งแรกที่อ่านถ้อยความ "เครื่องจะถูกระงับ หากค้างชำระค่าบริการ" ในตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าจะบอกไปทำไมเพราะคนทั่วไปย่อมทราบดีอยู่แล้วว่า "หากค้างชำระค่าบริการ" หลายๆ เดือน
ซิมจะถูกระงับใช้ ไม่เว้นแม้กระทั่งซิมเติมเงิน ผมเคยมีประสบการณ์จากซิมเติมเงินของคุณพ่อ กล่าวคือ เงินยังเหลืออยู่ในซิมแต่จำนวนวันหมดและไม่ได้เติมเป็นเวลานานซิมจึงถูกระงับถึงขนาดเติมเงินเข้าไปแล้วซิมก็ยังใช้การไม่ได้ ต้องไปติตต่อที่ศูนย์ใหญ่ในตัวเมืองต้องพาพ่อไปทำเรื่องด้วยตัวเองวุ่นวายมาก พอเปิดมาก็ไม่สามารถซื้อวันได้ ต้องเติมเงินให้ถึงน่าจะ 200บาทและต้องใช้ยอดให้ถึง200บาทอีกด้วยถึงจะเริ่มซื้อวันเพิ่มได้ ยุ่งยากมาก นี่คือประสบการณ์แย่ๆ ที่ได้รับจากการถูกระงับซิมแต่โชคยังดีที่ไม่ถึงกับโดนยกเลิกเบอร์ นั่นจึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่
ผมไม่เห็นด้วยกับการล็อกเครื่อง หากค้างชำระค่าบริการโดยดีแทคเพราะซาบซึ้งถึงขั้นตอนที่ยุ่งยากและวุ่นวายดี และผมยังรู้สึกตกใจกลัว หากคุณแม่หรือผมได้มือถือที่ติดสัญญาการล็อคเครื่องไปใช้ ถึงแม้ทางดีแทคจะบอกว่า จะมีคำเตือนค่าบริการเกินกำหนดส่งมาทางSMSก่อนที่จะถึงเวลาถูกล็อคเครื่อง ในบางครั้งเช่นคุณแม่คุณพ่อ ท่านก็ไม่ได้เปืดอ่านSMSและบางทีเราก็ตั้งค่าความปลอดภัยของSMSไม่ให้โชว์รายละเอียดซึ่งหมายความว่า ต้องกดเข้าไปดูในแอปข้อความและเลือกข้อความที่มาจากดีแทค เราถึงจะรู้ว่ามีการส่งแจ้งเตือนค่าบริการเกินกำหนดมาแล้ว แต่ก็ยังไม่สำคัญเท่าเรายังไม่มีเงินจ่าย บางความคิดเห็นก็อ้างไปว่า
ต้องมีวินัย แต่บางครั้งความมีวินัยก็แพ้อาการขี้ลืม อาการผลัดไปก่อน และอาการเงินช็อต ไม่ใช่ไม่มีเงินจ่ายแต่ต้องเอาเงินไปจ่ายค่าใช้จ่ายที่เร่งด่วนต่างๆ ก่อน เช่น ค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น
----------------------------------
ต่อไปนี้คือเรื่องสมมติเหตุการณ์สมมติที่จะจินตนาการให้เห็นภาพชัดว่า
"การล็อคเครื่องจากระยะไกลโดยผู้ให้บริการ" น่าตกใจกลัวเช่นไร
กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ มีชายหนุ่มได้มือถือเป็นของขวัญจากแม่ของเขา เขาดีใจมากที่ได้มือถือเครื่องนี้ เขาจึงหาสถานที่เพื่อทดสอบคุณภาพและฟังก์ชั่นต่างๆ ของมือถือเครื่องนี้ เขานั่งรถสองแถวจนได้ไปเจอสถานที่อ้างว้างห่างไกลผู้คนแห่งหนึ่ง ระหว่างที่เขาลองเล่นมือถือไปเรื่อยๆ เขาก็เจอะเจอข้อความจากผู้ให้บริการว่า "ขณะนี้เครื่องของท่านค้างชำระค่าบริการ เป็นเวลา xxx วัน โปรดรีบไปชำระด่วน ก่อนที่เครื่องของท่านจะถูกล็อคในเวลา 00:00น. ของวันนี้" เขาก็งงเครื่องจะถูกล็อคได้ไง เขามีแต่ระงับซิม โทรออกไม่ได้แต่ยังไงก็ยังโทรเข้าได้ ไม่รีบดีกว่า ถ่ายรูปต่อ เขาจึงไม่สนใจคำเตือนนั้น และด้วยการเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปจนมืดค่ำ ทำให้รถสองแถวคันสุดท้ายได้จากไปแล้ว เขาครุ่นคิดในใจไม่เป็นไร เขามีมือถือใหม่ที่ได้จากแม่มาอยู่ เดี๋ยวค่อยโทรให้เพื่อนมารับก็ได้ อยู่ถ่ายภาพท้องฟ้าและดวงดาว ตอนดึกๆ ดีกว่า ระหว่างรอให้ท้องฟ้าแจ่มใสเห็นดวงดาว เขาก็เผลอหลับไป ...มาสะดุ้งตื่นอีกทีก็เสียงหมาหอนสอดรับกัน ตัวนู้นก็หอน ตัวนี้ก็หอนตามรับกันเป็นทอดๆ ก้มมองดูเวลาในมือถือ 23:59 ท่ามกลางหมู่ดาวและแสงจากหน้าจอมือถือ เขาเข้าแอปกล้องเตรียมถ่ายรูปท้องฟ้า กดถ่าย แชะ แชะ แชะ สักพักแอปกล้องก็ถูกปิดลง ตามด้วยหน้าจอที่มืดสนิทพร้อมตัวอักษรสีฟ้า อ่านได้ความว่า "เครื่องนี้ถูกล็อค เนื่องจากค้างชำระค่าบริการ" ฉิบ....แล้ว สิ้นเสียงอุทานจากชายหนุ่ม หมาทุกตัวในที่นั้นต่างพากันหอนโดยพร้อมเพรียงกันเหมือนเป็นลางบอกเหตุว่า "มีบางสิ่งกำลังคืบคลานมาแถวนี้"
------------------------------
จบไปแล้วครับเรื่องสมมติเหตุการณ์สมมติ สิ่งที่ผมอยากจะสื่อก็คือ เมื่อมือถือที่สามารถล็อคเครื่องได้จากระยะไกลโดยผู้ให้บริการ ตกอยู่ในมือผู้ใช้บริการที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเงื่อนไขในสัญญาและตกอยู่ในสถานการณ์คับขันที่ถูกที่ถูกเวลา ผู้ใช้บริการจะทำอย่างไร เมื่อไม่สามารถเข้าใช้งานมือถือของตัวเองได้
สิ่งที่ผมคิดว่า ถ้อยความ "เครื่องจะถูกล็อค-ระงับ หากค้างชำระค่าบริการ" มันแปลกๆ
1. เครื่องที่มีข้อตกลงล็อคเครื่อง มีแต่ยี่ห้อ Samsung ยี่ห้ออื่นๆ ไม่มี แม้กระทั่งไอโฟน
2. เครื่องที่มีข้อตกลงล็อคเครื่อง ที่มีแต่ยี่ห้อ Samsung ก็มีเฉพาะบางรุ่นของดีแทคเท่านั้น Samsung รุ่นเดียวกันของค่ายอื่นๆ ก็ไม่มี "ข้อตกลงล็อคเครื่อง"
3. เครื่องที่มีข้อตกลงล็อคเครื่อง ที่มีแต่ยี่ห้อ Samsung ที่ก็มีเฉพาะบางรุ่นของดีแทค จะมีในรุ่นราคาต่ำ ส่วนราคาสูงๆ จะไม่มี แปลกมาก!?
(ในข้อ3ทำให้เกิดการเปรียบเทียบอย่างเห็นได้ชัดว่า
ผู้ใช้บริการที่มีกำลังซื้อต่ำมีโอกาสค้างชำระค่าบริการสูงกว่าผู้ใช้บริการที่มีกำลังซื้อสูง)
หากเปรียบเปรยโซลูชั่น "Samsung Knox Guard" เป็น "ปืน" ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะตัวโซลูชั่นไม่มีเจตนามุ่งร้ายผู้บริโภค แต่มีเจตนาเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือ
การประกันความปลอดภัย ก็เหมือนกับปืนที่อยู่ในมือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ปืนมีทั้งคุณและโทษขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้ถือ "Samsung Knox Guard" ก็ไม่ต่างกัน
ผู้บริโภคทุกท่านครับ ได้โปรดลองไตร่ตรองข้อตกลงกันอีกสักครั้งครับว่า "ข้อตกลง 3.2 ดำเนินการล็อกเครื่องโทรศัพท์หากผู้ใช้บริการละเลยหรือเพิกเฉยการชำระค่าบริการภายในระยะเวลาที่กำหนด"
ดีแทคทำเพื่อใคร?
ป.ล. ปกติแล้วเครื่องทั้งฝั่งiosและandroid ก็มีความสามารถในการล็อคเครื่องได้จากระยะไกลอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า
1.ผู้ใช้สามารถปิด-เปิดการทำงานคำสั่งล็อคได้ด้วยตัวเอง
2.ผู้ใช้เป็นผู้ตัดสินใจได้ด้วยตนเองว่า
จะล็อคเครื่องของตนเองหรือไม่!
(ปฎิบัติการเปลี่ยนมือถือใหม่กับดีแทค) ..........................................................................ยกเลิก!
วันแรก https://ppantip.com/topic/38468775 (ปฎิบัติการเปลี่ยนมือถือใหม่กับดีแทค) คำว่า "Free" หมายความว่าอย่างไร ภายใต้การนำของ อเล็กซานดรา ไรช์ CEO, DTAC คนใหม่?
วันที่สอง https://ppantip.com/topic/38471903 (จาก38468775) Dtacบอกให้รอหมดสัญญาแต่ผมไปต่อไม่รอแล้วนะ มีค่ายฯใด สนใจเสนอดีลที่คิดว่า "ผู้บริโภคพึงพอใจที่สุด" มาได้เลย
วันที่สี่ https://ppantip.com/topic/38481491 (ปฎิบัติการเปลี่ยนมือถือใหม่กับดีแทค)ย่างวันที่5 TruemoveH-AIS โปรฯสมาร์ทโฟนราคาพิเศษSamsungมีเงื่อนไข"ล็อคเครื่อง"ไหม?
และนำไปสู่คำถามถึง กสทช. https://ppantip.com/topic/38483681 "เครื่องจะถูกล็อค-ระงับ หากค้างชำระค่าบริการ" by Samsung Knox ,Dtac จะสร้างเสริมธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นต่อลูกค้าได้อย่างไร?
...จนนำมาสู่บทสรุปสุดท้ายในกระทู้นี้
เหตุผลที่ยกเลิกปฎิบัติการ
1.เพื่อรักษาชื่อเสียงของผมเอง เพื่อแก้ข้อครหา "เล่นใหญ่ ร้องเรียน กสทช. แค่อยากได้มือถือฟรีและชักดาบไม่ทำตามสัญญา"
2.หามือถือเครื่องใหม่ ค่ายใหม่ และทางออกใหม่ ให้คุณแม่พึงพอใจที่สุดได้แล้ว คิดว่านะ
แก้ข้อครหา
ตกลงผมไม่สนเครื่องฟรีจากดีแทคอีกต่อไปแล้ว ที่อยากได้เครื่องฟรีในตอนแรกก็เพราะอยากทำให้คุณแม่ประทับใจ คุณแม่บอกผมเสมอว่า "ค่าเครื่องไม่ค่อยเท่าไหร่เพราะจ่ายครั้งเดียวแต่อย่าแพงมากนะ จริงๆ อยู่ที่ค่ารายเดือน พวกค่ายมือถือเขาก็ไปเอากำไรคืนที่ค่ารายเดือน" จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมตัดสินใจเลือกมือถือเครื่องนี้ของค่ายนี้ เพราะตอบโจทย์คุณแม่ทุกอย่าง เพียงทว่าที่ผมลังเลเพราะอยากได้แรม3gbที่อยากได้ก็เพราะอยากจะใช้มือถือของคุณแม่เล่นเกมหรือเล่นแอปใหม่ๆ บ้าง สรุปง่ายๆ มือถือของคุณแม่ก็เหมือนมือถือของคุณลูก ผมจึงตัดสินใจในนาทีสุดท้ายทำตามความต้องการของคุณแม่ทั้งหมดและแก้ข้อครหาเพื่อรักษาชื่อเสียงของตนเองไปด้วยในตัว
ส่วนทางออกใหม่ของซิมมือถือดีแทค ผมจะเสนอทางออกให้คุณแม่ตัดสินใจเองว่าจะเลือกทางไหน
1.เปลี่ยนจากซิมรายเดือนเป็นเติมเงิน หรือ
2.ปิดบัญชีดีแทค เพราะมือถือเครื่องใหม่ก็มีซิมเบอร์ใหม่แถมมาให้1เบอร์
เรื่องสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้เรื่องแรก คือ การร้องเรียนกับกสทช.
คือผมเห็นครั้งแรกก็ตอนก่อนตั้งกระทู้วันแรก เพราะกำลังหามือถือที่เหมาะสมที่สุด ครั้งแรกที่อ่านถ้อยความ "เครื่องจะถูกระงับ หากค้างชำระค่าบริการ" ในตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าจะบอกไปทำไมเพราะคนทั่วไปย่อมทราบดีอยู่แล้วว่า "หากค้างชำระค่าบริการ" หลายๆ เดือน ซิมจะถูกระงับใช้ ไม่เว้นแม้กระทั่งซิมเติมเงิน ผมเคยมีประสบการณ์จากซิมเติมเงินของคุณพ่อ กล่าวคือ เงินยังเหลืออยู่ในซิมแต่จำนวนวันหมดและไม่ได้เติมเป็นเวลานานซิมจึงถูกระงับถึงขนาดเติมเงินเข้าไปแล้วซิมก็ยังใช้การไม่ได้ ต้องไปติตต่อที่ศูนย์ใหญ่ในตัวเมืองต้องพาพ่อไปทำเรื่องด้วยตัวเองวุ่นวายมาก พอเปิดมาก็ไม่สามารถซื้อวันได้ ต้องเติมเงินให้ถึงน่าจะ 200บาทและต้องใช้ยอดให้ถึง200บาทอีกด้วยถึงจะเริ่มซื้อวันเพิ่มได้ ยุ่งยากมาก นี่คือประสบการณ์แย่ๆ ที่ได้รับจากการถูกระงับซิมแต่โชคยังดีที่ไม่ถึงกับโดนยกเลิกเบอร์ นั่นจึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ผมไม่เห็นด้วยกับการล็อกเครื่อง หากค้างชำระค่าบริการโดยดีแทคเพราะซาบซึ้งถึงขั้นตอนที่ยุ่งยากและวุ่นวายดี และผมยังรู้สึกตกใจกลัว หากคุณแม่หรือผมได้มือถือที่ติดสัญญาการล็อคเครื่องไปใช้ ถึงแม้ทางดีแทคจะบอกว่า จะมีคำเตือนค่าบริการเกินกำหนดส่งมาทางSMSก่อนที่จะถึงเวลาถูกล็อคเครื่อง ในบางครั้งเช่นคุณแม่คุณพ่อ ท่านก็ไม่ได้เปืดอ่านSMSและบางทีเราก็ตั้งค่าความปลอดภัยของSMSไม่ให้โชว์รายละเอียดซึ่งหมายความว่า ต้องกดเข้าไปดูในแอปข้อความและเลือกข้อความที่มาจากดีแทค เราถึงจะรู้ว่ามีการส่งแจ้งเตือนค่าบริการเกินกำหนดมาแล้ว แต่ก็ยังไม่สำคัญเท่าเรายังไม่มีเงินจ่าย บางความคิดเห็นก็อ้างไปว่า ต้องมีวินัย แต่บางครั้งความมีวินัยก็แพ้อาการขี้ลืม อาการผลัดไปก่อน และอาการเงินช็อต ไม่ใช่ไม่มีเงินจ่ายแต่ต้องเอาเงินไปจ่ายค่าใช้จ่ายที่เร่งด่วนต่างๆ ก่อน เช่น ค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น
"การล็อคเครื่องจากระยะไกลโดยผู้ให้บริการ" น่าตกใจกลัวเช่นไร
กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ มีชายหนุ่มได้มือถือเป็นของขวัญจากแม่ของเขา เขาดีใจมากที่ได้มือถือเครื่องนี้ เขาจึงหาสถานที่เพื่อทดสอบคุณภาพและฟังก์ชั่นต่างๆ ของมือถือเครื่องนี้ เขานั่งรถสองแถวจนได้ไปเจอสถานที่อ้างว้างห่างไกลผู้คนแห่งหนึ่ง ระหว่างที่เขาลองเล่นมือถือไปเรื่อยๆ เขาก็เจอะเจอข้อความจากผู้ให้บริการว่า "ขณะนี้เครื่องของท่านค้างชำระค่าบริการ เป็นเวลา xxx วัน โปรดรีบไปชำระด่วน ก่อนที่เครื่องของท่านจะถูกล็อคในเวลา 00:00น. ของวันนี้" เขาก็งงเครื่องจะถูกล็อคได้ไง เขามีแต่ระงับซิม โทรออกไม่ได้แต่ยังไงก็ยังโทรเข้าได้ ไม่รีบดีกว่า ถ่ายรูปต่อ เขาจึงไม่สนใจคำเตือนนั้น และด้วยการเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปจนมืดค่ำ ทำให้รถสองแถวคันสุดท้ายได้จากไปแล้ว เขาครุ่นคิดในใจไม่เป็นไร เขามีมือถือใหม่ที่ได้จากแม่มาอยู่ เดี๋ยวค่อยโทรให้เพื่อนมารับก็ได้ อยู่ถ่ายภาพท้องฟ้าและดวงดาว ตอนดึกๆ ดีกว่า ระหว่างรอให้ท้องฟ้าแจ่มใสเห็นดวงดาว เขาก็เผลอหลับไป ...มาสะดุ้งตื่นอีกทีก็เสียงหมาหอนสอดรับกัน ตัวนู้นก็หอน ตัวนี้ก็หอนตามรับกันเป็นทอดๆ ก้มมองดูเวลาในมือถือ 23:59 ท่ามกลางหมู่ดาวและแสงจากหน้าจอมือถือ เขาเข้าแอปกล้องเตรียมถ่ายรูปท้องฟ้า กดถ่าย แชะ แชะ แชะ สักพักแอปกล้องก็ถูกปิดลง ตามด้วยหน้าจอที่มืดสนิทพร้อมตัวอักษรสีฟ้า อ่านได้ความว่า "เครื่องนี้ถูกล็อค เนื่องจากค้างชำระค่าบริการ" ฉิบ....แล้ว สิ้นเสียงอุทานจากชายหนุ่ม หมาทุกตัวในที่นั้นต่างพากันหอนโดยพร้อมเพรียงกันเหมือนเป็นลางบอกเหตุว่า "มีบางสิ่งกำลังคืบคลานมาแถวนี้"
จบไปแล้วครับเรื่องสมมติเหตุการณ์สมมติ สิ่งที่ผมอยากจะสื่อก็คือ เมื่อมือถือที่สามารถล็อคเครื่องได้จากระยะไกลโดยผู้ให้บริการ ตกอยู่ในมือผู้ใช้บริการที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเงื่อนไขในสัญญาและตกอยู่ในสถานการณ์คับขันที่ถูกที่ถูกเวลา ผู้ใช้บริการจะทำอย่างไร เมื่อไม่สามารถเข้าใช้งานมือถือของตัวเองได้
สิ่งที่ผมคิดว่า ถ้อยความ "เครื่องจะถูกล็อค-ระงับ หากค้างชำระค่าบริการ" มันแปลกๆ
1. เครื่องที่มีข้อตกลงล็อคเครื่อง มีแต่ยี่ห้อ Samsung ยี่ห้ออื่นๆ ไม่มี แม้กระทั่งไอโฟน
2. เครื่องที่มีข้อตกลงล็อคเครื่อง ที่มีแต่ยี่ห้อ Samsung ก็มีเฉพาะบางรุ่นของดีแทคเท่านั้น Samsung รุ่นเดียวกันของค่ายอื่นๆ ก็ไม่มี "ข้อตกลงล็อคเครื่อง"
3. เครื่องที่มีข้อตกลงล็อคเครื่อง ที่มีแต่ยี่ห้อ Samsung ที่ก็มีเฉพาะบางรุ่นของดีแทค จะมีในรุ่นราคาต่ำ ส่วนราคาสูงๆ จะไม่มี แปลกมาก!?
(ในข้อ3ทำให้เกิดการเปรียบเทียบอย่างเห็นได้ชัดว่า ผู้ใช้บริการที่มีกำลังซื้อต่ำมีโอกาสค้างชำระค่าบริการสูงกว่าผู้ใช้บริการที่มีกำลังซื้อสูง)
หากเปรียบเปรยโซลูชั่น "Samsung Knox Guard" เป็น "ปืน" ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะตัวโซลูชั่นไม่มีเจตนามุ่งร้ายผู้บริโภค แต่มีเจตนาเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือ การประกันความปลอดภัย ก็เหมือนกับปืนที่อยู่ในมือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ปืนมีทั้งคุณและโทษขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้ถือ "Samsung Knox Guard" ก็ไม่ต่างกัน
ผู้บริโภคทุกท่านครับ ได้โปรดลองไตร่ตรองข้อตกลงกันอีกสักครั้งครับว่า "ข้อตกลง 3.2 ดำเนินการล็อกเครื่องโทรศัพท์หากผู้ใช้บริการละเลยหรือเพิกเฉยการชำระค่าบริการภายในระยะเวลาที่กำหนด"
ป.ล. ปกติแล้วเครื่องทั้งฝั่งiosและandroid ก็มีความสามารถในการล็อคเครื่องได้จากระยะไกลอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า
1.ผู้ใช้สามารถปิด-เปิดการทำงานคำสั่งล็อคได้ด้วยตัวเอง
2.ผู้ใช้เป็นผู้ตัดสินใจได้ด้วยตนเองว่า จะล็อคเครื่องของตนเองหรือไม่!