ก่อนอื่นต้องออกตัวไว้ก่อนเลยนะครับว่า จขกท.มิได้มีเจตนาที่จะทำให้ทางค่ายฝึกหรือใครเสื่อมเสียชื่อเสียงนะครับ กระทู้นี้ตั้งขึ้นมามีจุดประสงค์เพื่อต้องการถ่ายทอดประสบการณ์การเข้าค่ายภาคสนาม รด. ตลอดจนการเตรียมตัว และแนวทางการปฏิบัติตัวเท่านั้น ถ้าตรงไหนใช้คำที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ


เข้าเรื่องกันเลยครับ จขกท.เรียนอยู่โรงเรียนประจำจังหวัดแห่งนึง ซึ่งได้เรียน รด.ไปด้วย ศูนย์ฝึกของโรงเรียน จขกท.ขึ้นอยู่กับมณฑลทหารบกที่ 13 หรือเค้าเรียกกันสั้นๆว่า มทบ.13  ซึ่งในชั้นปีที่ 2 และ 3 จะต้องมาเข้าภาคสนามที่ค่ายฝึกเขาจีนแล ส่วนในกระทู้นี้จะเล่าถึงในระดับชั้นปีที่ 3 เท่านั้น ถ้าน้องๆหรือเพื่อนๆคนไหนอยากสอบถามหรืออยากให้เล่าประสบการณ์ของภาคสนามปี 2 สามารถหลังไมค์มาได้นะครับ


ผลัดของ จขกท.นั้นได้เข้าเป็นผลัดที่ 2 ตั้งเเต่วันที่ 18 - 22 ม.ค. 2562 (กลับมาจากค่ายก็มาตั้งกระทู้สดๆร้อนๆกันเลยทีเดียว ฮ่าๆ)  การเตรียมตัวก็ไม่มีอะไรมากครับ มาเริ่มจากการจัดกระเป๋ากันเลยดีกว่า ค่ายฝึกนี้มีจุดเด่นอยู่เรื่องนึงคือ "การไม่ได้อาบน้ำ" ทั้งชั้นปีที่ 2 และ 3 เลยนะครับ เพราะฉะนั้นพวกอุปกรณ์อาบน้ำ เช่น สบู่ ยาสระผม ไม่ต้องนำไปครับหนักเป้เอาเปล่าๆ


รายการของที่ จขกท.นำไปครับ

จขกท.ทำเป็น Check List ไว้ครับ ตั้งเเต่เนิ่นๆเลย นึกได้ว่าควรนำอะไรไปก็พิมพ์ๆไว้ พอไกล้ถึงวันไปก็จัดหาของตามที่เรา List ไว้ รายการไหนที่เตรียมเเล้วก็ใส่เครื่องหมายถูกไว้ครับ จะง่ายต่อการเตรียมมากๆ วิธีนี้ไม่หวงนะครับ น้องๆหรือเพื่อนๆคนไหนอยากทำตามก็ทำตามได้เลยครับ
เดี๋ยว จขกท.จะไล่อธิบายให้ทีละอันครับว่าแต่ละอันเอาไปทำอะไรบ้าง

ตัดผม - อันนี้แน่นอนว่าต้องตัดไปอยู่แล้วหัวเกรียน ขาว 3 ด้าน
เป้เขียว - หรือที่เรียกกันว่าเป้สนาม จุของได้เยอะมากครับ ส่วนตัวชอบมากสะพายแล้วดูเท่
ชุด รด. + หมวก - อันนี้เน้นว่าอย่าลืมหมวกดีกว่าครับ ชุดเราก็ต้องใส่กันไปอยู่แล้วเนอะ ฮ่าาาา
เสื้อยืดเขียว - อยู่ 5 วัน 4 คืน ต้องบริหารจัดการดีๆนะครับ จขกท.เอาไปเอง 3 ตัว เดี๋ยวครูฝึกจะแจกให้อีก 1 ตัว รวมเป็น 4 ครับ
กกน. - จขกท. เอาไป 4 ตัว รวมตัวที่ใส่ไปก็ 5 ครับ เปลื่ยนทุกวัน ป้องกันการอับชื้น
ทิชชู่เปียก - ข้อนี้สำคัญมากครับ เพราะว่าเราไม่ได้อาบน้ำ นี่แหละคือตัวช่วยทำความสะอาดร่างกาย กะปริมาณให้พอใช้นะครับ
ยา - ใครที่มีโรคประจำตัว หรือมียาที่ต้องกินทุกวัน ให้นำติดไปด้วยนะครับ ทางค่ายจะมีแค่ยาพื้นฐาน พวกพาราอะไรทำนองนี้ ใครที่ต้องกินยาเฉพาะของ
ตัวเอง ให้นำติดไปด้วยครับ
ไฟฉาย - ข้อนี้ก็สำคัญครับ เอาไว้หาของในเต็นท์เวลากลางคืน
ช้อนสั้น - สำคัญครับต้องพกติดตัวตลอด เวลาทานข้าวเราจะใช้ช้อนอันนี้ตลอดการฝึกครับ
ถุงเท้า - แนะนำให้เอาไปหลายๆคู่นะครับ เพราะเราต้องอยู่ถึง 5 วัน แต่ละวันถอดมานี่กลิ่นแรงแบบสุดๆ
ถุงพลาสติกเปล่า - เอาไปใส่พวกทิชชู่เปียกที่ใช้แล้ว พวกขยะ แล้วก็ชุดที่ใส่แล้วครับ
เงิน - ข้อนี้สำคัญมากครับ ในค่ายจะมีร้านค้าที่ชื่อว่า PX เอาไว้ซื้อของกินครับ เครื่องดื่ม ขนม นม เนย มีขายเยอะมาก ถ้าไปแล้วกลับมาน้ำหนักขึ้นก็ไม่ต้องสงสัยครับ เอฟเฟกจากร้านนี้ ฮ่าๆ
ยาสีฟัน+แปรง+ขวดน้ำ - ขวดเอาไว้ใส่น้ำมาแปลงฟันตอนเช้าครับ
แล้วก็พวกของใช้ เช่น แป้ง ผ้าเช็ดหน้า ยากันยุง อะไรทำนองนี้ก็พกไปด้วยครับ
โทรศัพท์มือถือเอาไปได้ครับแต่ก้เล่นได้แค่ในระหว่างที่นั่งรถเท่านั้นพอถึงค่ายต้องฝากครูฝึกหรือครูผู้กำกับของโรงเรียนไว้เท่านั้นครับ ทางค่ายไม่อนุญาติให้ใช้โทรศัพท์ในระหว่างทำการฝึกเลยซึ่งต่างจากเขาชนไก่ (รูปในระหว่างการฝึกต่อไปนี้เป็นรูปจากกล้องของอาจารย์ผู้กำกับของโรงเรียน จขกท. นะครับตัว จขกท.เองไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปด้วยแต่อย่างใด)
หน้าตาของหนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง

กรอกข้อมูลให้ครบเรียบร้อยทุกช่องแล้วเก็บไว้กับตัวครับ พอไปถึงค่ายครูฝึกเค้าจะให้นำไปส่งส่งให้ที่กองพันปกครอง
หลังจากเตรียมของเสร็จแล้วก็ไม่มีอะไรแล้วครับ ที่เหลือก็แค่เตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ เวลาฝึกจะได้ไม่เพรียครับ

วันที่ 1 : 18 ม.ค. 62
ตื่นนอนมา 04:00 อาบน้ำ แต่งชุดให้เรียบร้อย ตรวจดูของในเป้อีกทีว่าไม่ลืมอะไร จากนั้นก็นั่งรถไปโรงเรียนเพื่อไปรอเช็คชื่อครับ

ของพร้อม  กายพร้อม  ใจพร้อม  ออกเดินทางกันครับ
ถึงโรงเรียนทำการเข้าแถวเช็คชื่อ แล้วก็ขึ้นรถครับ ถึงค่ายฝึกประมาณ 09:30 ลงรถแล้วเข้าแถวรายงานตัวเซ็นชื่อในเล่มของครูฝึกอ่ะครับ จขกท.เองก็ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร เซนต์ประมาณ 5 ชื่อได้ ตรงนี้สำคัญนะครับ ใครเซ็นไม่ครบหรือไม่ได้เซ็นตรงนี้ไม่จบนะครับ พอเซ็นเสร็จแล้วก็ไปจ่ายเงิน 150 บาท
150 บาทแบ่งเป็น ค่าเสื้อยืด 80 บาท ค่าผ้าพันคอ 50 บาท และค่า Ear Plug สำหรับอุดหูตอนยิงปืน 20 บาทครับ หลังจากรายงานตัว จ่ายเงินเรียบร้อยแล้วก็มาพักทานข้าวเที่ยง มื้อแรกเป็นแกงกะทิฟักทองไก่ อร่อยดีครับ รสชาติไม่ได้แย่เลย หลังจากนั้นช่วงบ่ายก็เข้าสถานีการยิงปืนด้วยกระสุนจริง สนุกดีครับ เดินออกจากกองพันไปประมาณ 500 เมตร ก็ถึงแล้ว สถานีนี้ถ้าใครยิงเข้าเป้าและได้คะแนนเยอะที่สุดในวันกลับจะมีมอบโล่ประกาศให้ด้วยนะครับ
พอยิงปืนเสร็จก็กลับมากองพัน ครูฝึกก็จะตรวจของในเป้สัมภาระว่ามีอะไรที่ผิดกฏหมายหรื่อเปล่า เช่น พวกบุหรี่ สุรา ไฟแช็ก ของมีคม อะไรทำนองนี้ครับ
เสร็จแล้วก็จับคู่บั้ดดี้กับเพื่อน ครูฝึกไม่ได้บังคับนะครับ เราสนิทกับใครก็จับคู่กับเพื่อนที่เราสนิทได้เลย แล้วก็เลือกเต็นท์นอน เต็นท์จะมีโซน A B C แต่ละโซนจะมีประมาณ 50 หลังได้ เราจะนอนตรงไหนก็เลือกเอาได้เลยครับ เลือกแล้วให้จำหมายเลขและโซนเต็นท์ของตัวเองไว้ เพื่อตอนกลางคืนการยืนเฝ้าเวรจะจัดตามหมายเลขเต็นท์นั่นเองครับ

จากนั้นก็ทำการจัดหมวดหมู่ เสร็จแล้วก็ทานข้าวเย็นครับ มื้อเย็นเป็นต้มยำหมู (เพิ่มเติมนิดนึง ใครที่นับถืออิสลามสามารถบอกครูฝึกได้นะครับ จะมีเมนูเฉพาะให้ เช่นพวกปลากระป๋องอะไรทำนองนี้) ค่ำคืนแรกจะมีนายทหารพยาบาลมาอบรมเกี่ยวกับโรคต่างๆและอาการของโรครุนแรง เช่นพวก โรคลมร้อน อะไรทำนองนี้ครับ 21:00 ก็สวดมนต์ และเข้านอน


วันที่ 2 : 19 ม.ค. 62
ตื่นนอน 05:30 ทำกายบริหารตอนเช้า แบ่งหน้าที่กันทำความสะอาดเขตสุขาภิบาล หมวดของ กขกท.นี่โดนห้องน้ำตลอด ฮ่าๆ จากนั้นก็ทานข้าวเช้า มื้อนี้เป็นต้มจืดหมู+ปลาท่องโก๋และโอวัลติน จากนั้นก็ไปรับปืน ปลย. ใครนึกภาพไม่ออกก็เป็นปืนสมัยสงครามโลกอ่ะครับ สนิมขึ้นเต็มเลย น้ำหนักประมาณ 5-6 กิโลได้ ที่สำคัญไม่มีสายสะพายให้ด้วย ต้องแบกเอาเอง ฮ่าๆ เสร็จแล้วก็ไปเคารพธงชาติ และแบ่งเป็นกองร้อยไปเข้าสถานี ผลัดของ จขกท.มี 3 กองร้อย โดยวันแรกกองร้อยของ จขกท.ได้ไปสถานีการอ่านแผนที่เข็มทิศและการดำรงชีพในป่า ก็ไม่มีอะไรมากครับส่วนใหญ่ก็นั่งฟังครูบรรยาย มีตอนเย็นที่ต้องทำอาหารกินเอง โดยจะมีข้าว น่องไก่ เครื่องต้มยำมาให้ ต้องหุงข้าวเองและทำต้มยำไก่เอง โชคดีไปครับหมู่ของ จขกท.มีคนทำกับข้าวเก่งถือว่าอร่อยใช้ได้เลย จากนั้นก็กลับกองพันครับ คืนปืน และเคารพธงชาติตอนเย็น ฟังครูเวรชี้แจงเรื่องต่างๆพอถึงเวลา 21:00 ก็สวดมนต์และเข้านอน


วันที่ 3 : 20 ม.ค. 62
เหมือนเดิมครับ ตื่น 05:30 ทำกายบริหารตอนเช้า ทำความสะอาดเขตสุขาภิบาล ทานข้าวเช้า มื้อนี้เป็นต้มจืดหมู+ปลาท่องโก๋โอวัลติน จากนั้นรับปืนและไปเคารพธงชาติ วันนี้กองร้อยของ จขกท.ไปสถานีพลปืนเล็กในการเข้าตี (เป็นสถานีที่เหนื่อยที่สุดในทุกสถานี) เดินออกจากกองพันไปประมาณ 1.5 กิโลได้ จากนั้นก็ฟังครูฝึกบรรยาย เกี่ยวกับการเข้าตี และตำเเหน่งต่างๆของหมู่ปืนเล็ก จากนั้นก็ทำการซ้อมเข้าตีก่อน 1 รอบ (เหนื่อยสุดๆ) แล้วก้พักทานข้าวเที่ยง มื้อนี้เป็นแกงกะทิหน่อไม้หมู จากนั้นก็พักผ่อนออมแรงเต็มที่ครับประมาณ 2 ชั่วโมงได้ ครูฝึกจะให้นอนหมอบซุ่มอยู่ตามกกต้นไม้ ให้หลับพักผ่อนได้ ด้วยความซวย จขกท.และบั้ดดี้ได้นอนใต้ต้นที่มีรังผึ้งอยู่ใหญ่มากครับนอนไประแวงไป ฮ่าๆ พอถึงเวลาก็ทำการเข้าตีจริง ของจริงเหนื่อยมากครับ แต่ก็สนุกด้วยเช่นกัน บางทีสนุกจนลืมเรื่องเหนื่อยไปเลย ได้หมอบ ซุ่ม คลานลอดลวดหนาม

พอเสร็จแล้วก็กลับกองพันครับ สถานีนี้เนื่องจากฝึกหนักที่สุดจึงได้กลับกองพันก่อนเป็นสถานีแรก ทำให้มีเวลาพักเยอะหน่อย พอกลับมาครบทุกกองร้อยแล้วก็คืนปืน ทานข้าว มื้อนี้เป็นผัดหน่อไม้หมู+กุนเชียง และเคารพธงชาติตอนเย็น ฟังบรรยายจากครูเวร 21:00 สวดมนต์ เข้านอน



วันที่ 4 : 21 ม.ค. 62
ตื่น 05:30 กายบริหาร ทำความสะอาดเขตสุขาภิบาล และแน่นอนหมวดของ จขกท.โดนห้องน้ำอีกเช่นเคย ฮ่าๆ เสร็จแล้วก็ทานข้าวเช้า มื้อนี้เป็นพะโล้+โอวัลติน จากนั้นรับปืน เข้าแถวเคารพธงชาติ วันนี้กองร้อยของ จขกท.ได้เข้าสถานีหมู่ปืนเล็กในการตั้งรับและถอนตัว ก็ไม่มีอะไรมากครับสถานีนี้ นั่งฟังบรรยายและสอนเกี่ยวกับการตั้งรับและถอนตัว ตำแหน่งต่างๆ จากนั้นพักเที่ยงทานข้าว มื้อนี้เป็นต้มข่าไก่ผักกาด แล้วก็พักผ่อนยาวๆครับ 2 ชั่วโมงได้ เพราะสถานีนี้ต้องรอให้สถานีเข้าตี ตีมาก่อน ถึงจะทำการตั้งรับได้ ก็รอไปจนได้เวลาก็ตั้งรับตามที่ครูฝึกสอนไว้ครับ เข้าไปหลบในหลุมพลาง สนุกดีครับ เสร็จแล้วก็ทานข้าวเย็น มื้อนี้เป็นผัดผัดรวม+น่องไก่ทอด จากนั้นก็กลับกองพัน ทำการเคารพธงชาติตอนเย็น คืนปืน ช่วงหัวค่ำรับฟังการอบรมจากหัวหน้าศูนย์ฝึก 21:00 สวดมนต์ เข้านอน


วันที่ 5 : 22 ม.ค. 62
วันสุดท้ายแล้ว ตื่น 05:30 วันนี้ไม่มีกายบริหารครับ ทำความสะอาดเขตสุขาภิบาล จากนั้นก็ทานข้าวเช้า มื้อนี้เป็นต้มจืดหมูหัวไชเท้า จากนั้นก็เก็บของสัมภาระภายในเต็นท์ ซ้อมพิธีปิด 08:00 ทำการเคารพธงชาติและทำพิธีปิดการฝึก มีการถ่ายรูปรวม จากนั้นก็ชิวๆนั่งรอรถมารับครับ ประมาณ 09:00 รถมาก็ขึ้นรถกลับโรงเรียนครับ


จบแล้วครับประสบการณ์ภาคสนามปี 3 ของผมกับค่ายฝึกเขาจีนแล จขกท.หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวสำหรับพื่อนๆผลัดต่อไปหรือน้องๆในรุ่นต่อๆไป ถ้ากระทู้นี้ผิดพลาดประการใด จขกท.ต้องขออภัยอีกครั้งนะครับ ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนจบครับ  ขอบคุณครับ