เรื่องเล่า เมื่อไปทัวร์เกาหลีกับพฤติกรรมของของคนหนีทัวร์ (ผีน้อย)

เมื่อกลางเดือนมกราคม ปีนี้ (62) ผมได้ไปเที่ยวเกาหลีกับแฟน พอดีทริปนี้ขี้เกียจจัดเลยเลือกซื้อทัวร์ไปจะได้สบายๆ ทริปนี้ไปปูซาน ผมเคยไปโซลมา 3 ครั้งและไปเชจูมา 1 ครั้ง ครั้งนี้ซื้อทัวร์ไป ราคา 13400 บาท โปรแกรม 4 วัน 2 คืน

ก่อนเดินทางสัก 5 วัน บ.ทัวร์ได้ส่งใบเตรียมตัวมาให้ ระบุว่ากรุ๊ปที่เราไป ไม่มีหัวหน้าทัวร์ จะมีไกด์มารอรับที่เกาหลีเลย เราก็รู้ทันที่ว่ากรุ๊ปเราคงมีไม่กี่คน พอถึงวันเดินทาง ไปสุวรรณภูมิตามเวลา พบบริษัททัวร์ ได้ให้เอกสารมา และทางทัวร์ให้ add line ของไกด์ที่เกาหลีไว้ ก็ add แล้วก็ทักไป เค้าก็ตอบกลับมาไม่มีปัญหาอะไร

ผมก็ดูรายชื่อผู้ร่วมทัวร์ มีกันแค่ 10 คน โดยเท่าที่ดูพบว่ามากับเป็นคู่ๆ ครบคู่ ช,ญ พอดี มีคู่นึงที่ใช้นามสกุลเดียวกัน ไฟลต์บินนี้เป็นไฟลต์เหมาลำสัญชาติเกาหลี ตอนไปเช็คอินพบว่าในคิวมีแต่คนเกาหลีทั้งนั้น ไม่เจอคนไทยเลย

ขึ้นเครื่องไปผมก็นั่งติดกับสาวเกาหลี พอดีได้นั่งหน้าเครื่องแถวที่ 9 แต่แถวท้ายๆสุดก็ยังพอมีที่ว่างสัก 6-7 ที่นั่ง

เมื่อถึงเกาหลีระหว่างรอคิวผ่านตม. เห็นกรุ๊ปคนไทยที่ต้องแยกตัวออกมาตอนผ่านตม.เพราะคนเกาหลีต้องไปอีกช่องนึง ผมสังเกตคนที่อยู่แถวเดียวกับเราดูๆก็น่าจะเป็นกรุ๊ปทัวร์ของเรานี่แหละ เพราะถือซองเอกสารที่ทัวร์แจกให้มาเหมือนกัน

คนที่อยู่ด้านหน้าผม เป็นชายหนุ่มมากับคุณแม่ อ้อ คู่นี้น่าจะเป็นคู่ที่ใช้นามสกุลเดียวกันนี่เอง ถัดจากเราก็เป็นคู่หนุ่มสาวอายุน้อย หน้าตาดี ดูดีทั้งคู่คือแบบคุณหนูเลยทั้งช ญ ถัดไปเป็น คู่ ชญ.หน้าตาบ้านๆหน่อย (ขออภัยที่ใช้คำแบบนี้แต่ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี) อายุน่าจะ 30 ++ แต่ก็แต่งตัวดีผู้หญิงตัวเล็กๆใส่โคทสีดำ  

อีกคู่ถัดไป ผู้หญิงใส่โค้ทแดง กับผู้ชาย แต่ก็ออกแนวบ้านๆเหมือนกัน แต่แต่งตัวดีทั้งคู่ ก็ดูแล้วว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรสำหรับกรุ๊ปเรา

ตอนผ่านตม.ที่ปูซานเค้าก็ไม่ได้ตรวจอะไรมากมาย คู่แม่ลูกหน้าเราก็ผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว ผู้หญิงโค้ทดำมาต่อแถวเดียวกับผม หลังจากนั้นไปรอรับกระเป๋า ก็พบว่าผ่านออกมากันได้หมดทุกคน

รับกระเป๋าเสร็จ เดินผ่านทางออกก็พยายามมองหาป้าย บ.ทัวร์แต่ก็ไม่เจอ วนไปวนมาก็ไม่เจอ ก็คิดว่าเค้าอาจจะยังไม่มา แต่ยังไงก็มีไลน์ของหัวหน้าทัวร์ ผมเลี้ยวออกไปทางขวา ไปแวะรื้อเอาเสื้อกันหนาวออกมาใส่ จากนั้นก็เดินกลับมามองหาป้าย ก็ยังไม่เจอ

ผมมองไปที่เก้าอี้นั่งอีกด้าน เจอสาวโค้ทแดงกรุ๊ปเรานั่งอยู่ ถัดไปอีกจุดนึง คู่แม่ลูกก็ยืนรออยู่ห่างๆ ผมเลยเดินไปทักคู่แม่ลูกว่า เจอหัวหน้าทัวร์ไหมครับ คุณแม่ยิ้มแล้วตอบมาว่ายังไม่เห็นเลย

จังหวะนั้นไลน์เข้ามาพอดี บอกให้เรารอที่หน้าเซเว่นเดี๋ยวไกด์เกาหลีจะมารับ ผมก็ไปลากกระเป๋ามารอ คู่หนุ่มสาวหน้าตาดีก็มาสมทบ แปปนึงไกด์เกาหลีก็มาพอดี ก็ทักทายกัน แฟนผมซื้อกาแฟอยู่ผมเลยรีบไปตามแล้วก็รีบวิ่งตามไกด์ไปขึ้นรถ

ขึ้นไปเป็นรถแวน 8 ที่นั่ง ซึ่งเป็นรถแท็กซี่ มีลูกทัวร์ 6 คน ไกด์ 1 คนขับอีก 1 ผมก็งงๆแต่ก็ไม่ได้คุยอะไร จนไกด์เกาหลีพาไปถึงโรงแรมก็พบไกด์สาวไทย อยู่กับกรุ๊ปทัวร์อีกกลุ่มนึง เป็นกรุ๊ปที่มาก่อนหน้าเรา 1 วัน กรุ๊ปนั้นมี 8 คน รวมกับกรุ๊ปเราอีก 6 คน เป็น 14 คน

น้องผู้หญิงกรุ๊ปเราก็ถามขึ้นมาว่าอีก 4 คนไปไหนล่ะ ไกด์สาวไทยบอก โดดไปแล้วค่ะ เค้าไม่ได้ add line หนูตั้งแต่แรกเลย หนูก็เดาว่าเค้าน่าจะโดดอยู่แล้ว

ผมคิดในใจ โห ง่ายอย่างนี้เลยเหรอ น้องผู้หญิงคุยกับผมบอก หนูเห็นพี่คนโค้ทแดงนั่งอยู่ หนูก็ไปถามเค้าว่าเจอหัวหน้าทัวร์ไหม เค้าก็ไม่ตอบหนู หนูก็งงๆ ผมก็นึกได้ว่าตอนผมไปตามแฟนที่ซื้อกาแฟ ผมก็ไม่เห็นเค้าแล้ว เพราะก็มองหาเค้าอยู่จะบอกว่าไกด์มาแล้ว

สรุปกรุ๊ปเราเลยต้องไปจอยด์ทัวร์กับกรุ๊ปที่มาก่อนเราและจัดโปรแกรมเที่ยวใหม่ให้สอดคล้องกัน ถามไถ่กรุ๊ปก่อนหน้าเรา กรุ๊ปนั้นก็มีคนโดดไป 1 คน เป็นน้องผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ของเราหนักกว่า หายไป 4 เลย

ได้จอยด์ทัวร์กัน 1 วันครึ่ง ก็ต้องมาเที่ยวกันเองแบบ 6 คนไม่งั้นโปรแกรมของกรุ๊ปแรกมันจะซ้ำ ผมไม่เคยไปทัวร์ที่มีคนน้อยขนาดนี้มาก่อนเลย แปลกดี

ลึกๆก็รู้สึกแย่นะที่คนไทยมาทำแบบนี้ แม้จะได้ยินเรื่องราวมาบ้างแต่ก็ไม่เคยเจอกะตัวเอง ไกด์ไทยบอกว่า เดือนนึงมีคนหนีมาประมาณ 5 หมื่นคน โห ขนาดนั้นเลยเหรอ

จากนั้นเราก็เที่ยวไปตามโปรแกรมจนวันกลับ ก็เช็คอินที่เคาเตอร์ ก็เหมือนเดิมคือ มีแต่คนเกาหลีทั้งนั้น แทบจะมีกรุ๊ปเรา 6 คนนี่แหละที่เป็นคนไทย

คราวนี้ผมได้ที่นั่งบนเครื่องแทบจะท้ายเครื่องเลย ผมได้แถว 31 เครื่องมี 32 แถว ที่นั่งเป็นแบบ 3-3 ผมขึ้นไปที่นั่ง ก็มีผู้หญิงโค้ทดำนั่งอยู่ที่แถวผม 1 คน นั่งริมหน้าต่าง ผมกับแฟนก็นั่งถัดมา ด้านหน้าผมเป็นลุงเกาหลี 3 คน คู่แม่ลูกก็นั่งเยื้องไปด้านหน้าผมอีกฝั่งนึง

ส่วนด้านข้างผม 3 ที่นั่งกับด้านหลัง 6 ที่นั่งยังว่าง ผมก็นึกดีใจว่า เดี๋ยวจะนอนยาวเลย ถ้าไม่มีคน แต่เผลอแปปเดียว มีสาวๆชาวไทยขึ้นมานั่งเต็มหมดทั้ง 9 ที่นั่ง ผมนี่แอบเซ็ง แถมนางยังคุยกันเสียงดัง ภาษาพ่อขุนรามมาเชียว ผมยังนึกในใจว่า แย่แล้ว นางจะคุยกันเสียงดังแบบนี้ตลอดทางไหมเนี่ย

แปปนึง แอร์ฯชาวเกาหลีเดินมาคุยอะไรไม่รู้กับสาวที่นั่งถัดจากผม ผมก็ไม่ได้สนใจมาก จนกระทั่งได้ยินแอร์เหมือนพูดย้ำๆแล้วเค้าฟังไม่รู้เรื่องเลยตั้งใจฟัง เผื่อจะช่วยแปลให้ ก็จับใจความได้เพียงว่า ให้พวกเธอนั่งอยู่ตรงนี้ก่อนนะ และพาสปอร์ตอยู่ที่เค้า

เฮ้ย..แปลกๆนะ ผมก็เลยสังเกตสาวๆเหล่านั้น ก็ดูแต่งตัวดีกันทุกคน ใส่โคท ใส่หมวก ผ้าพันคอ ก็ดูดีกันหมด วัยพวกเค้าก็ใกล้ๆกันน่าจะอยู่ในช่วง 25-30 กันหมดทุกคน แต่เอาจริงๆก็ดูเป็นสาวบ้านๆ (ถ้ามีคำไหนดีกว่าคำนี้แนะนำหน่อยนะครับ ผมจะได้แก้ไข ไม่ให้ดูเป็นการเหยียด ไม่มีเจตนาจริงๆ) จนเครื่องเทคออฟ

พอแอร์เริ่มจำหน่ายอาหาร พวกสาวๆด้านหลังและด้านข้างผม สั่งอาหารทานกันทุกคน สั่งเยอะแยะ ทั้งโค๊ก น้ำแข็ง มาม่า ขนม จ่ายเงินวอนกันให้ว่อนเลย แอร์ขลุกอยู่ตรงนี้นานมากกว่าจะบริการกลุ่มนี้เสร็จ คนอื่นรอกันนานเลย

ผมสังเกตพวกเค้าก็ดูยิ้มแย้ม พูดคุยกัน ไม่ได้มีอาการแบบว่ามีความผิดใดๆ พวกเค้าก็อย่างที่บอก แต่งตัวดี ใช้โทรศัพท์แบบ ไอโฟน ซัมซุงรุ่นดีๆ นั่งดูหนังสือ ดูของดิ้วตี้ฟรี นานๆไปก็นั่งเล่นเกมส์ในมือถือ พูดคุยกันเป็นระยะๆ แต่ไม่ได้เสียงดังอะไร ผมเองตอนนี้ยังตำหนิตัวเองนิดๆที่ไปนั่งสังเกตเค้าเหมือนหาเรื่อง รู้สึกตัวเองนิสัยไม่ดีเลยที่ไปจับผิดเค้า

หลังจากบินไป 5 ชม. จนเครื่องลงจอด ผมได้ยินสาวด้านหลังบ่นกับเพื่อนบอก คราวหลังเมิงจองการบินไทยนะ ลำนี้นั่งไม่สบายเลย แถวหลังเอนก็ไม่ได้ พอเครื่องจอดสนิท ผู้โดยสารทุกคนก็ลุกขึ้นหยิบของตามปกติ ได้ยินสาวข้างหลังโทรศัพท์เสียงดังเช็คกับโรงแรมว่าโรงแรมที่จองเป็นยังไงบ้าง คอนเฟิร์มไหม ส่วนสาวข้างๆโทรหาคุณแม่

หลังจากนั้น แอร์ฯคนเดิม เดินมาหาพวกนางแล้วบอกว่า ให้นั่งอยู่ก่อน อย่าเพิ่งลุกขึ้นจนกว่าคนอื่นจะออกไปหมดแล้ว ทีนี้เลยมั่นใจเลยว่ากรุ๊ปนี้เป็นกรุ๊ปหนีเข้าเมืองแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่าถูกส่งกลับ หรือว่าเข้าไปทำงานแล้วเพิ่งจะกลับ

ผมกับแฟนก็ลุกขึ้นไปเป็น 2 คนสุดท้าย อ้าว..สาวโค้ทดำที่นั่งข้างๆผมก็ไม่ได้ลุกออกมาด้วย เธอก็ด้วยอีกคนหรือเนี่ย สรุปสาวๆที่นั่งรอบๆผม 10 คน ใช่ทั้งหมดเลยครับ มิน่าละว่าทำไมผมถึงรู้สึกว่าสาวๆกรุ๊ปนี้เค้าเหมือนจะมองเราอยู่ตลอด  คือถ้าหันไปนี่ ต้องมีได้สบตาจนผมไม่กล้ามองเลย

พอผมออกมาแปปนึง หันไปมองด้านหลัง สาวๆกำลังเดินตามออกมาเป็นแถวเรียง 1 โดยมีคนคุมเดินขนาบข้างมาด้วย

อืม เฮ่อ ได้เห็นอะไรแปลกๆแบบนี้ด้วยตัวเองก็รู้สึกงงๆ นึกตำหนิพวกนางในใจว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ที่สำคัญคือ ไม่มีความสลดหรือรู้สึกผิดใดๆให้เห็นเลยครับ (เว้นแต่สาวโค้ทดำข้างๆที่นั่งนิ่งๆ ดูหน้าจ๋อยๆ ไม่ได้สั่งอะไรทานเลย ไม่พูดไม่คุย ใส่แว่นดำแล้วนอนอย่างเดียว)

อีกสิ่งนึงที่ผมรู้สึกคือรู้สึกอายชาวเกาหลีมากๆที่คนไทยไปทำอะไรแบบนี้ และเสียใจแทนคนที่จะไปเที่ยวจริงๆว่าจะต้องลำบาก และเดาได้เลยว่าในอนาคตอันใกล้ เราคงได้ขอวีซ่าไปเที่ยวเกาหลีแน่ๆ ถ้าคนไทยยังคงหนีเข้าเมืองกันเยอะแยะแบบนี้ครับ

***อาจจะเขียนเวิ่นเว้อไปบ้างต้องขออภัย คือพยายามถ่ายทอดบรรยากาศและเรื่องราวให้ได้มากที่สุดครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่