ต้นเหตุปัญหา เกิดจากใครกันแน่ สามี ตัวเรา หรือแม่สามี!!

กระทู้คำถาม
Part:1
เมื่อเกือบ5ปีที่แล้วเราเริ่มรู้จักกับแฟน คบกันมาสักพักไม่กี่อาทิตย์บังเอิญแม่แฟนมาที่บ้านพักของแฟน เจอกันครั้งแรก แม่แฟนก็พูดถึงแต่เรื่องเงิน จะต้องเอาเงินให้เขาเดือนละ 3-4 พัน แต่พูดตอนลับหลังแฟน โดยเรียกเราไปคุยหลังบ้าน ช่วงแรกๆ โทรคุยกับเรา โทรมาบอกเลขบัญชีและชื่อเขาให้เราโอนเงินไปให้ ซึ่งตอนนั้นเรางงมาก ทำไมเราต้องให้เขา ค่าอะไร หลังจากนั้นก็ได้รู้ว่าค่าหนี้ที่ลูกชายเคยสร้างไว้ก่อนมาเจอกับเราเพราะเขากู้ไปเที่ยวเตร่ กู้มาจัดงานแต่งงาน (สามีเคยแต่งงานมาแล้ว) ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ซื้อของแบรนด์เนมให้แฟนเก่า (แอบไปดูไอจีแฟนเก่ามาเลยรู้) ซึ่งเราเองคิดว่ามันไม่ใช่หน้าที่เรา ไม่ใช่หนี้ที่เราต้งรับผิดชอบ แม่แฟนก็โทรมาบ่อยเข้า จะเอาแต่เงิน เราเลยตัดสินใจบอกแฟน ว่าจะทำอย่างไร แฟนก็บอกว่าอย่าไปสนใจ ปล่อยให้เขาพูดไปแล้วบอกว่าไม่มีเงิน ปัญหาคือเรารู้สึกแย่ครั้งแรก แต่เราคุยกับแฟนว่าถ้าแบบนี้เราขอเลิกนะ เพราะเราน่าจะไปต่อกันไม่ได้ ความรักไม่ได้มีแค่เรา2คน เรายังต้องมีแม่มาคอยชี้นำอีก เราอึดอัดนะ แฟนขอร้องให้เราอยู่และเล่าว่าแม่ก็เป็นแบบนี้กับแฟนเขาทุกคน คนที่แต่งงานแม่ก็บังคับให้เลิกเพราะไม่มีเงินให้แม่เขา " เธอต้องเอาชนะใจแม่ให้ได้สิ "เราก็อดทน กับทุกคำด่า คำบ่นจากแม่เขา จนคบมา เราก็ท้องก่อนแต่ง เราบอกพ่อแม่ฝั่งแฟนก่อนเพราะตอนนั้นเราแพ้ท้องหนักมากและมีภาวะแท้งคุกคามแฟนเราขึ้นมาทำงานที่ กทม.ชั่วคราว เราเลยนั่งรถตู้มาหาแฟน และแฟนก็พาไปที่บ้านเขา เราแพ้ท้องอ้วกทั้งวัน แม่สามีก็บ่น พูดแต่เรื่องเงินเรื่องจะให้เลิกให้หาเมียใหม่ที่รวยๆ และไล่เรากลับไปที่ทำงานที่ ตจว.เพื่อไม่ให้ลูกชายเขาต้องเดินทางจากที่ทำงานใน กทม.ของเขามาที่บ้านกลัวลูกชายจะลำบาก หว่านล้อมเราสารพัดบอกว่าอย่าบอกลูกชายเขานะเดี๋ยวเขาจะไปส่งเอง เราก็บอกแฟนเราแฟนเลยพาออกจากบ้านไปพักกะพี่สาวเราแทน(เราลางาน) หลังจากนั้น3เดือนเราเลยบอกพ่อแม่เรา พ่อแม่เราเสียใจมาก แต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้วและเราก็โตแล้วมีงานมีการทำก็เลย ตกลงกับแฟนเราว่างั้นก็จัดงานแต่งซะ เพื่อลูกสาวคนเดียวของครอบครัว แล้วนัดเจอแม่และพ่อแฟน แต่พวดเขาไม่ยอมมาที่บ้าน บ่ายเบี่ยงว่าติดงาน  พ่อแม่เรายอมบอกนัดเจอกันครึ่งทาง แต่หมายถึงพ่อแม่เราขับรถกว่า 570 กิโลเมตร มาถึงที่ที่เราอยู่ พ่อแม่แฟน ขับมาแค่198 กิโลเมตร พอพ่อแม่เรามาถึง เขากลับไม่ยอมมาเบี้ยวนัด บอกติดงาน (แต่เรารู้ว่าเขาโกหก)เพราะเขาบอกว่าจะไม่ยอมเสียค่าสินสอดเลยไม่มา จนถึงวันงานที่กระชั้นชิด ชุดขาวเจ้าบ่าว ชุดลอดซุ้มกระบี่ เราตัดให้ เครื่องหมายชุบเงินอย่างดีของเจ้าบ่าวเราเป็นคนออกเงิน เองทั้งหมด จนจะถึงวันงานพ่อแม่เจ้าบ่าวจะไม่ยอมมางานแต่ง ลูกชายโทรขอร้องอ้อนวอนและเล่าให้เราฟังว่าแต่งงานครั้งที่แล้วพวกเขาก็ไม่ยอมไปงานแต่ง ครั้งนี้ขอให้มาเงินที่เหลือจากค่าจัดงานจะให้พ่อแม่ฝ่ายชายทั้งหมด (อันนี้แฟนเราพูดกะพ่อแม่เขานะ) ตอนแรกเราคิดว่าเขาจะไม่มาแล้วแต่เขามาเย็นก่อนวันงาน 1 คืน สรุป ไม่ได้คุยค่าสินสอดเพราะที่ผ่านมาเขาไม่ยอมคุยเลย  ไม่ช่วยเงินค่าจัดงาน แม้กระทั่งค่าซองประตูเงินประตูทอง  เราออกเองทั้งหมด (บังเอิญงานขาดทุนไปกว่า 2แสน)หลังเสร็จงาน เช้ามาพ่อแม่สามีรีบขึ้นรถกลับบ้านที่ กทม. แล้วโทรกลับมาทวงเงินว่าเหลือจากช่วยงานเท่าไหร่เอาไปปิดหนี้ลูกเขา คือเรารู้สึกแย่มาก ถึงมากที่สุดรวมถึงครอบครัวเราด้วย จนเราคลอดลูก พ่อแม่สามีไป ที่ รพ. มานั่งพูดเแต่เรื่องเงินจะเอาเงินถ้าไม่มีเงินก็เลิกให้ลูกชายไปหาเมียรวยๆ ใหม่ ตอนนั่นเราเพิ่งคลอดลูกมาได้แค่2วัน(คลอดธรรมชาติ) ต้องมานั่งฟังกับอะไรก็ไม่รู้ ตอนนั้นแม่กับป้าเราไปจัดเตรียมบ้านเพื่อจะรอรับหลานกลับบ้านพัก พ่อแม่สามีมานอนที่บ้านด้วย แม่สามีค้นบ้าน รื้อนั่น จัดนี่ หาของที่ตัวเองอยากได้ และ กระเป๋าสะพายหลังที่เราซื้อคู่กับแฟน เขาอยากได้บอกจะเอาไปให้หลานถามเราว่าใช้ไหม เราบอกยังใช้แต่เขาก็บอกจะเอาแล้วก็เอาไปและมีกระเป๋าใบนึงสีเหลืองที่ได้มาจาก รพ.เขาอยากได้แต่เขาไม่ยอมบอกเรา เขาจะหยิบไป ป้าเราเห็นวางไว้ก็เอาไปเก็บให้ แม่สามีเลยโกรธมาก แล้วไม่กลับมาอีกเลย โทรด่าลูกชายด่าเราทางโทรศัพท์ทุกวันเรื่องเงิน( อ่อ ที่เขาทวงเพราะเขาเป็นคนส่งค่าหนี้ให้ลูกชายเขาที่เหลือก่นที่จะมาเจอเรา) และบังคับว่าห้ามไปจดทะเบียนสมรสนะ สามีเราก็เชื่อแม่ หลังจากนั้น เราลาคลอดและกลับไปอยู่บ้าน จังหวะที่สามีย้ายไปทำงานที่ กทม.พอดี เราจึงย้ายของทั้งหมดกลับบ้าน เพราะกลับมาทำงานกะจะหาบ้านเช่าใหม่ระหว่างรอได้บ้านพัก

---- ยังไม่จบ เรื่องราวยาวมาก จะมาเล่าต่อ-----
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่