ออกตัวก่อนนะครับ ว่าผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ทำงานเกี่ยวข้องด้านนี้แต่อย่างใด ( ซึ่งผมมั่นใจว่าข้อมูลผมมันต้องไม่ถูกเป๊ะแน่นอน)
เพียงแต่ชอบอ่าน ฟัง แล้วรู้สึกว่ามันเพลินๆเหมือนกับดูหนังแนว เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด แย่งชิงบัลลังก์อะไรแนวๆนั้น 555
ก็อยากจะเก็บเกี่ยวสิ่งที่เคยได้ยิน ได้ฟัง มาเขียนเล่าให้ฟังแบบย่อๆ
ขอเลือกใช้คำพูดภาษาบ้านๆ จากคนนอกวงการซึ่ง อาจจะดูแปร่งๆ ไปบ้าง ไม่ว่ากันนะฮะ
เริ่มจากสิ่งที่ใครๆ ก็รู้ก่อนนะครับว่าราคาน้ำมัน ขึ้นอยู่กับ
"Supply & Demand"
ผลิตน้อยคนใช้เยอะ --> ราคาก็แพง
ผลิตมากคนใช้น้อย --> ราคาก็ถูก
คำถามคือในโลกของน้ำมันมีอะไรเป็นแฟคเตอร์ที่มีอิมแพคกับราคาบ้าง??
ตอนนี้จะมีอยู่ 4 แฟคเตอร์หลักๆด้วยกัน
1)
Importance of oil : ความต้องการใช้น้ำมัน (demand)เช่น การขนส่ง การผลิต ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกโดยตรง
2)
Monopoly positions : ผู้มีอำนาจกำหนดทิศทางการผลิตน้ำมัน (supply)เช่น OPEC และกลุ่มประเทศอื่นๆ
3)
Geopolitical games : เกมส์การเมือง (เช่นเวเนซูเอล่านั่นแล ที่รัฐบาลมาควบคุมราคาน้ำมันเอง เพื่อพาวเวอร์ทางการเมือง)
4)
Renewable energy : พลังงานทดแทน พลังงานทางเลือก (เช่น พลังงานลม, พลังงานน้ำ, พลังงานแสงอาทิตย์)
ถามว่ามันเกี่ยวข้องกันยังไง ผมจะลองเขียนเล่าสั้นๆ
1) เมื่อ 50 ปีก่อน หลายๆประเทศใช้น้ำมันราคาถูก ที่เมกาคนใช้น้ำมันแสนถูกแค่ 1 cent ต่อลิตร โอ้วว ซื้อน้ำมันมาอาบแทนน้ำยังได้
2) ผู้ผลิตน้ำมันหลัก( Crude Oil ) เวลานั้นคือ เวเนซูเอล่า ซาอุ อิหร่าน อิรัก และคูเวต ซึ่งขายตัดราคากันเองหาลูกค้า พากันจนสิครับ
3) เพราะงั้นเวลาซื้อขายน้ำมันก็ย่อมขาดอำนาจต่อรอง ผู้ซื้อมีสิทธิเลือกซื้อกับใครก็ได้ในราคาที่ถูกกว่า(ใครจะโง่ซื้อแพงล่ะเนอะ)
4) เป็นแบบนั้นอยู่ช่วงหนึ่ง จนถึงยุคที่เศรษฐกิจโลกเติบโตแบบก้าวกระโดด ใครๆก็ต้องการน้ำมันเอาไปใช้ เกิด demand เพิ่มมากขึ้นๆ
5) พอเห็นว่ามี คนอยากได้น้ำมันเยอะ เจ้า 5 ประเทศข้างต้นก็หาวิธีว่าจะทำยังไงให้ชาร์จราคาน้ำมันได้แพงๆ ให้ผู้ซื้อขาดอำนาจต่อรอง
6) พอคิดได้งั้นพี่น้องทั้ง 5 ก็รวมตัวกันก่อตั้งกลุ่มก้อน OPEC และตั้งราคาน้ำมันแบบ One price! ให้ผู้ซื้อต้องจำใจซื้อในราคาที่แพง
7) เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น คนขายก็รวยสิครับ สร้างตึก สร้างบ้าน สร้างอาคารหรูๆ แบบแฟนซีเหมือนหลุดมาจากอวกาศ ใช้เงินกันเป็นว่าเล่น แทบจะแจกน้ำมันกันใช้ฟรีกับคนในประเทศ
8) หลายๆประเทศ พอเห็นว่ากลุ่ม OPEC เริ่มรวยก็อยากเข้าร่วม (ปัจจุบันน่าจะอยู่ที่ 14 ประเทศ) เห็นเค้าฮิโซ ก็อยากมีมั่งไง
9) จนราคาน้ำมันเกิดการกึ่งผูกขาดจากกลุ่ม OPEC ราคาน้ำมันยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ประเทศผู้ผลิตน้ำมันก็รวยๆๆๆ ซื้อลัมโบมาขับเล่นกันทั้งเมือง
10) ในปี 2003 ราคาน้ำมันพุงกระฉูด ประมาณ 150 $ต่อบาาร์เรล ใครๆก็คิดว่าน้ำมันจะหมดโลกและไม่มีวันจะราคาถูกอีกต่อไป
11) จนกระทั่งปี 2011 เมกาก็ป่าวประกาศว่าสามารถ การผลิตน้ำมันจาก Shale Oil(เชื้อเพลิงที่อยู่ในรูปแบบของหินดินดาน) ด้วยเทคโนโลยีใหม่ (fracking)ซึ่งทำให้ต้นทุนราคาน้ำมัน Shale oil ถูกลงเรื่อยๆ
12) ช่วงนั้นราคาน้ำมันเกิน 100$ มาตลอด ขณะที่ต้นทุน Shale Oil ของเมกาแค่ 50$ต่อบาร์เรล แปลว่าถ้าเมกาขายด้วยราคาเดียวกับ OPEC ก็รวยๆๆ กำไรเท่าตัว ซื้อลัมโบมาขับได้เหมือนกัน
13) เมกาก็รีบขายอย่างหนักหน่วงสิ จะรอใครมาตัดริบบิ้น ทำให้มีอิมแพคกับ supply ที่เยอะขึ้นในตลาดโลกและราคาน้ำมันค่อยๆร่วงลงไปเรื่อยๆ
14) ไม่แค่นี้ วันหนึ่งรัสเซียก็สามารถผลิตน้ำมันส่งออกเองและมีเยอะมากซะด้วย สามารถตั้งราคาเองได้ จนเข้ามาคานอำนาจโอเปคแบบเต็มตัว ถ้าโอเปคลดกำลังการผลิตรัสเซียก็เพิ่มกำลังการผลิตตั้งราคาถูกกว่าเรียกลูกค้าซะเลย
15) ยัง ยัง ไม่จบ พี่จีนก็เอากะเค้าด้วย จีนเองแม้จะมีน้ำมันไม่มากแต่ใช้ยุทธศาสตร์การเมืองเข้าไปพัฒนาประเทศในกลุ่มแอฟริกาเพื่ออิมพอร์ทน้ำมันเข้าจีน ทำให้จีนมีน้ำมันเยอะไม่แพ้กัน
16) แล้วก็ยังอีก หลายต่อหลายประเทศ แคนาดา บราซิล และยิบย่อยอีกไม่ถ้วน สามารถผลิตน้ำมันได้มากขึ้น และดูเหมือนกับว่าน้ำมันแม่มเยอะมากจนใช้เท่าไรก็ไม่หมดโลก
17) กลายเป็นว่าตอนนี้ อำนาจต่อรองของโอเปคสั่นคลอนไป ราคาน้ำมันลดฮวบๆๆๆ จากมหาเศรษฐี กลายเป็นแค่เศรษฐี (รวยอยู่นิหว่า)
18) ยังไม่จบๆๆ กลายเป็นพลังงานทางเลือกเข้ามาสั่นคลอนน้ำมันเข้าไปอีก และหากรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาเต็มตัวเมื่อไร บัลลังก์น้ำมันย่อมใกล้ล่มสลายแน่นอน (แน่รึ?)
อยากให้ทุกคนลองจิตนาการต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้??
scenario ที่จะเกิดขึ้นนี้มีอะไรบ้าง
ข้อแรก OPEC WIN?!? :
OPEC จะชนะในเกมส์ราคาน้ำมันนี้อย่างไร เมื่อผู้เล่นมีมากมายขนาดนี้แถมพลังงานทางเลือกกำลังจะมา น้ำมันจะกลับไปราคาแพงได้หรือ?
ข้อสอง Oil producing parties WIN?!? :
เมกา จีน รัสเซียและอื่นๆ กลายเป็นผู้นำแทนและ ราคาน้ำมันต่ำเตี้ยตลอดกาล ทำได้จริงรึ?
แต่เดี๋ยวก่อน !! ต่อให้คิดวิเคราะห์ด้วยตัวเลขมาอย่างแยบยล แต่ทุกอย่างล้วนซับซ้อนและซ่อนเงื่อน เมื่ออยู่ใน global economy
ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่จะมีผลต่อราคาน้ำมันนี้อย่างแท้จริงคือ
Geopolitical games และผู้ผลักดัน Renewable energy
ว่าต้องการให้มันออกมารูปแบบไหน เร็วแค่ไหน ทิศทางเป็นอย่างไร
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น !!
ซึ่งอาจจะไม่มีใครตอบได้...เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์
สมรภูมิน้ำมัน อดีต->ปัจจุบัน->อนาคต (มาเล่าหนุกๆ)
เพียงแต่ชอบอ่าน ฟัง แล้วรู้สึกว่ามันเพลินๆเหมือนกับดูหนังแนว เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด แย่งชิงบัลลังก์อะไรแนวๆนั้น 555
ก็อยากจะเก็บเกี่ยวสิ่งที่เคยได้ยิน ได้ฟัง มาเขียนเล่าให้ฟังแบบย่อๆ
ขอเลือกใช้คำพูดภาษาบ้านๆ จากคนนอกวงการซึ่ง อาจจะดูแปร่งๆ ไปบ้าง ไม่ว่ากันนะฮะ
เริ่มจากสิ่งที่ใครๆ ก็รู้ก่อนนะครับว่าราคาน้ำมัน ขึ้นอยู่กับ "Supply & Demand"
ผลิตน้อยคนใช้เยอะ --> ราคาก็แพง
ผลิตมากคนใช้น้อย --> ราคาก็ถูก
คำถามคือในโลกของน้ำมันมีอะไรเป็นแฟคเตอร์ที่มีอิมแพคกับราคาบ้าง??
ตอนนี้จะมีอยู่ 4 แฟคเตอร์หลักๆด้วยกัน
1) Importance of oil : ความต้องการใช้น้ำมัน (demand)เช่น การขนส่ง การผลิต ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกโดยตรง
2) Monopoly positions : ผู้มีอำนาจกำหนดทิศทางการผลิตน้ำมัน (supply)เช่น OPEC และกลุ่มประเทศอื่นๆ
3) Geopolitical games : เกมส์การเมือง (เช่นเวเนซูเอล่านั่นแล ที่รัฐบาลมาควบคุมราคาน้ำมันเอง เพื่อพาวเวอร์ทางการเมือง)
4) Renewable energy : พลังงานทดแทน พลังงานทางเลือก (เช่น พลังงานลม, พลังงานน้ำ, พลังงานแสงอาทิตย์)
ถามว่ามันเกี่ยวข้องกันยังไง ผมจะลองเขียนเล่าสั้นๆ
1) เมื่อ 50 ปีก่อน หลายๆประเทศใช้น้ำมันราคาถูก ที่เมกาคนใช้น้ำมันแสนถูกแค่ 1 cent ต่อลิตร โอ้วว ซื้อน้ำมันมาอาบแทนน้ำยังได้
2) ผู้ผลิตน้ำมันหลัก( Crude Oil ) เวลานั้นคือ เวเนซูเอล่า ซาอุ อิหร่าน อิรัก และคูเวต ซึ่งขายตัดราคากันเองหาลูกค้า พากันจนสิครับ
3) เพราะงั้นเวลาซื้อขายน้ำมันก็ย่อมขาดอำนาจต่อรอง ผู้ซื้อมีสิทธิเลือกซื้อกับใครก็ได้ในราคาที่ถูกกว่า(ใครจะโง่ซื้อแพงล่ะเนอะ)
4) เป็นแบบนั้นอยู่ช่วงหนึ่ง จนถึงยุคที่เศรษฐกิจโลกเติบโตแบบก้าวกระโดด ใครๆก็ต้องการน้ำมันเอาไปใช้ เกิด demand เพิ่มมากขึ้นๆ
5) พอเห็นว่ามี คนอยากได้น้ำมันเยอะ เจ้า 5 ประเทศข้างต้นก็หาวิธีว่าจะทำยังไงให้ชาร์จราคาน้ำมันได้แพงๆ ให้ผู้ซื้อขาดอำนาจต่อรอง
6) พอคิดได้งั้นพี่น้องทั้ง 5 ก็รวมตัวกันก่อตั้งกลุ่มก้อน OPEC และตั้งราคาน้ำมันแบบ One price! ให้ผู้ซื้อต้องจำใจซื้อในราคาที่แพง
7) เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น คนขายก็รวยสิครับ สร้างตึก สร้างบ้าน สร้างอาคารหรูๆ แบบแฟนซีเหมือนหลุดมาจากอวกาศ ใช้เงินกันเป็นว่าเล่น แทบจะแจกน้ำมันกันใช้ฟรีกับคนในประเทศ
8) หลายๆประเทศ พอเห็นว่ากลุ่ม OPEC เริ่มรวยก็อยากเข้าร่วม (ปัจจุบันน่าจะอยู่ที่ 14 ประเทศ) เห็นเค้าฮิโซ ก็อยากมีมั่งไง
9) จนราคาน้ำมันเกิดการกึ่งผูกขาดจากกลุ่ม OPEC ราคาน้ำมันยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ประเทศผู้ผลิตน้ำมันก็รวยๆๆๆ ซื้อลัมโบมาขับเล่นกันทั้งเมือง
10) ในปี 2003 ราคาน้ำมันพุงกระฉูด ประมาณ 150 $ต่อบาาร์เรล ใครๆก็คิดว่าน้ำมันจะหมดโลกและไม่มีวันจะราคาถูกอีกต่อไป
11) จนกระทั่งปี 2011 เมกาก็ป่าวประกาศว่าสามารถ การผลิตน้ำมันจาก Shale Oil(เชื้อเพลิงที่อยู่ในรูปแบบของหินดินดาน) ด้วยเทคโนโลยีใหม่ (fracking)ซึ่งทำให้ต้นทุนราคาน้ำมัน Shale oil ถูกลงเรื่อยๆ
12) ช่วงนั้นราคาน้ำมันเกิน 100$ มาตลอด ขณะที่ต้นทุน Shale Oil ของเมกาแค่ 50$ต่อบาร์เรล แปลว่าถ้าเมกาขายด้วยราคาเดียวกับ OPEC ก็รวยๆๆ กำไรเท่าตัว ซื้อลัมโบมาขับได้เหมือนกัน
13) เมกาก็รีบขายอย่างหนักหน่วงสิ จะรอใครมาตัดริบบิ้น ทำให้มีอิมแพคกับ supply ที่เยอะขึ้นในตลาดโลกและราคาน้ำมันค่อยๆร่วงลงไปเรื่อยๆ
14) ไม่แค่นี้ วันหนึ่งรัสเซียก็สามารถผลิตน้ำมันส่งออกเองและมีเยอะมากซะด้วย สามารถตั้งราคาเองได้ จนเข้ามาคานอำนาจโอเปคแบบเต็มตัว ถ้าโอเปคลดกำลังการผลิตรัสเซียก็เพิ่มกำลังการผลิตตั้งราคาถูกกว่าเรียกลูกค้าซะเลย
15) ยัง ยัง ไม่จบ พี่จีนก็เอากะเค้าด้วย จีนเองแม้จะมีน้ำมันไม่มากแต่ใช้ยุทธศาสตร์การเมืองเข้าไปพัฒนาประเทศในกลุ่มแอฟริกาเพื่ออิมพอร์ทน้ำมันเข้าจีน ทำให้จีนมีน้ำมันเยอะไม่แพ้กัน
16) แล้วก็ยังอีก หลายต่อหลายประเทศ แคนาดา บราซิล และยิบย่อยอีกไม่ถ้วน สามารถผลิตน้ำมันได้มากขึ้น และดูเหมือนกับว่าน้ำมันแม่มเยอะมากจนใช้เท่าไรก็ไม่หมดโลก
17) กลายเป็นว่าตอนนี้ อำนาจต่อรองของโอเปคสั่นคลอนไป ราคาน้ำมันลดฮวบๆๆๆ จากมหาเศรษฐี กลายเป็นแค่เศรษฐี (รวยอยู่นิหว่า)
18) ยังไม่จบๆๆ กลายเป็นพลังงานทางเลือกเข้ามาสั่นคลอนน้ำมันเข้าไปอีก และหากรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาเต็มตัวเมื่อไร บัลลังก์น้ำมันย่อมใกล้ล่มสลายแน่นอน (แน่รึ?)
อยากให้ทุกคนลองจิตนาการต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้??
scenario ที่จะเกิดขึ้นนี้มีอะไรบ้าง
ข้อแรก OPEC WIN?!? :
OPEC จะชนะในเกมส์ราคาน้ำมันนี้อย่างไร เมื่อผู้เล่นมีมากมายขนาดนี้แถมพลังงานทางเลือกกำลังจะมา น้ำมันจะกลับไปราคาแพงได้หรือ?
ข้อสอง Oil producing parties WIN?!? :
เมกา จีน รัสเซียและอื่นๆ กลายเป็นผู้นำแทนและ ราคาน้ำมันต่ำเตี้ยตลอดกาล ทำได้จริงรึ?
แต่เดี๋ยวก่อน !! ต่อให้คิดวิเคราะห์ด้วยตัวเลขมาอย่างแยบยล แต่ทุกอย่างล้วนซับซ้อนและซ่อนเงื่อน เมื่ออยู่ใน global economy
ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่จะมีผลต่อราคาน้ำมันนี้อย่างแท้จริงคือ
Geopolitical games และผู้ผลักดัน Renewable energy
ว่าต้องการให้มันออกมารูปแบบไหน เร็วแค่ไหน ทิศทางเป็นอย่างไร
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น !!
ซึ่งอาจจะไม่มีใครตอบได้...เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์