ถึงช่วงนี้อากาศบ้านเราจะไม่ค่อยดี แต่กระทู้เรตติ้งในห้องบางขุนพรหมคึกคักน่าดูเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นกระทู้รายงานเรตติ้ง หรือกระทู้ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรตติ้ง แน่นอนว่ากระทู้นี้ก็เป็นกระทู้เรตติ้งเหมือนคนอื่นเขาน่ะแหล่ะ! แค่จะมาสรุปเรตติ้งปีที่แล้ว และคาดการณ์เรตติ้งปี 2019 อีกนิดหน่อย
เอาล่ะค่ะ ก่อนจะเข้าเรื่อง เจ้าของกระทู้จะสัญญาไว้ก่อนเลยว่าตัวหนังสือที่จะเขียนต่อไปทั้งหมดนี้ จะพยายามเขียนให้ดูแย่น้อยที่สุด ส่วนเรื่องติ่งใครอะไรยังไงนี่น้อมรับหมด เพราะไถลไปเรื่อยล่ะค่ะ เปิดทุกช่อง ดูทุกเรื่องที่อยากดู แห้งบ้างสดบ้างแล้วแต่โอกาส
*****************************
เนื่องจากบ้านเราเพิ่งเข้าสู่ยุคดิจิตอลกันอย่างจริงจังในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ เพราะฉะนั้นเรามาเริ่มนับหนึ่งใหม่ไปด้วยกันนะคะ อะไรที่มันแล้วมาในยุคอะนาล็อกก็ให้มันแล้วกันไป แม้บางช่องจะยังคงออกอากาศในระบบอะนาล็อกอยู่ก็ไม่เป็นไรค่ะ สัดส่วนมันไม่ได้มากมายอะไรอยู่แล้วเนอะ เพราะฉะนั้นตัวเลขเก่า ๆ จากยุคโน้นก็เอาไว้ก่อนนะคะ ผู้เขียนเองก็จะพูดถึงเฉพาะปี 61 เป็นต้นมาเหมือนกันค่ะ
อีกเรื่องเถอะ ขออธิบายนิดนึงเผื่อมีบางคนสงสัยว่าเรตติ้งคืออะไร
เรตติ้งคือตัวเลขที่เจ้าขององค์กรว่าจ้างให้บริษัทเอกชนมาวัดให้ ถามว่าทำไมต้องมี ก็เพราะองค์กรเหล่านี้เป็นองค์กรที่แสวงหาผลกำไร แล้วคุณคิดว่าช่องโทรทัศน์เนี่ยเค้าจะหาเงินจากไหนได้ล่ะคะ ในเมื่อละครก็เอามาฉายให้ดูฟรี ๆ อะไรก็ฟรี...ใช่แล้วค่ะ เราน่ะดูฟรี (ไม่จริงหรอก การตลาดมันไม่ยอมให้เราได้อะไรฟรี ๆ อยู่แล้ว จะไม่ขอลงลึกเรื่องนี้นะคะ) แต่สปอนเซอร์เขาไม่ได้ขอลงโฆษณาได้ฟรีนะคะ
เจ้าของผลิตภันฑ์เนี่ย เวลาเขาลงโฆษณาเขาก็อยากให้มีคนเห็นเยอะ ๆ ถูกไหมคะ จริงอยู่ที่ว่าคนดูย้อนหลังเยอะละครก็ดังมีกระแสเหมือนกันนี่นา แต่ เอ้า แล้วมันเกี่ยวอะไรกันกับโฆษณาหน้าจอทีวีล่ะคะ เดี๋ยวนี้การวัดเรตติ้งก็วัดหลายแพลตฟอร์มแล้วด้วย เงื่อนไขคือต้องดูสดพร้อม ๆ กับการแพร่ภาพทางโทรทัศน์เท่านั้นเอง (เป้าหมายคือให้มีคนเห็นโฆษณาเยอะ ๆ)
พอคนดูสดเยอะ เจ้าของผลิตภันฑ์ก็จะมั่นใจได้ว่าโฆษณาของเขาจะมีคนเห็นเยอะ...ใช่ค่ะ จริง ๆ สถานีไม่ได้ต้องการเรตติ้งหรอกค่ะ จะ 0 จะ 1 ก็ไม่สำคัญ สิ่งที่สถานีต้องการคือเงินแค่นั้น แต่มันแย่หน่อยนะคะที่เงินมันมาพร้อมโฆษณา แล้วมูลค่าของโฆษณามันดันพ่วงมากับเรตติ้งเท่านั้นเอง นั่นคือสาเหตุที่ทำไมช่องสามถึงดีใจมากมายที่บุพเพสันนิวาสมีเรตติ้งสูง จนถึงกับต้องเอาไปรีรันต่อทันที ทั้งหมดก็เพื่อการขายของหรือเพื่อเงินนั่นเองค่ะ
เพราะฉะนั้น ใครที่ยังมีความเชื่อว่าเรตติ้งไม่สำคัญ สามารถกดปิดกระทู้ได้เลยค่ะ จะได้ไม่หงุดหงิดใจเปล่า ๆ
*****************************
เริ่มที่ไหนดีล่ะ ตอนนี้มีข้อมูลเยอะแยะมากมายไปหมดเลย
เอาเป็น..เริ่มกันที่การหามาตรฐานเรตติ้งของแต่ละช่องแล้วกันค่ะ จะได้คุยง่ายหน่อย เนื่องจากแต่ละช่องมีมาตรฐานที่แตกต่างกัน ผู้เขียนจะยึดเรตติ้งตลอดปี 2561 ช่องใครช่องมันเป็นมาตรฐานสำหรับกระทู้นี้ รวมถึงเป็นมาตรฐานที่ควรจะทำให้ได้ในปี 2562 ที่เพิ่งเริ่มนี่ด้วยนะคะ
ในปีที่ผ่านมาช่อง 3 มีละครหลังข่าวสองทุ่มทั้งหมด 28 เรื่อง เรื่องที่ได้เรตติ้งเฉลี่ยน้อยที่สุดคือเสน่ห์นางงิ้ว และเรื่องที่ได้เรตติ้งเฉลี่ยมากที่สุดคือบุพเพสันนิวาส ส่วนช่อง 7 มี 24 เรื่อง สัมปทานหัวใจได้มากที่สุด ที่ได้น้อยที่สุด ณ ปัจจุบันนี้และคิดว่าคงไม่มีอะไรคลาดเคลื่อนเพราะเหลืออีกแค่ตอนเดียวเท่านั้นคือเรื่องในคืนหนาวแสงดาวยังอุ่น (จบพุธหน้า)
เพื่อค่าเฉลี่ยที่แม่นยำเราจะตัดสี่เรื่องนี้ออกนะคะ
เหตุผลที่ต้องตัดเลขสูงสุดและเลขต่ำสุดออกเนี่ยก็เพื่อความแม่นยำในการคิดค่าเฉลี่ย..คืองี้ เนื่องจากคณิตศาสตร์ สถิติศาสตร์ของผู้เขียนเองก็ต่ำเตี้ยเหลือเกิน แต่จะพยายามอธิบายเท่าที่ตัวเองเข้าใจแล้วกันนะคะ สมมุติว่ามีคน 99 คนทานอาหารอยู่ในร้านอาหารร้านหนึ่ง ทุกคนมีเงินเดือน ประมาณ 20,000 - 30,000 บาท ค่าเฉลี่ยเงินเดือนของคนที่มาทานอาหารร้านนี้ก็จะอยู่ประมาณนี้แหล่ะ ใกล้เคียงกับตัวเลขจริงมาก ๆ นาทีต่อมาเจ้าสัวซีพีก็เดินเข้ามาในร้าน สมมุติว่าเจ้าสัวมีเงินเดือนประมาณ 10 ล้านบาท ค่าเฉลี่ยเงินเดือนของคนกลุ่มนี้ก็จะผิดปกติทันที เพื่อป้องกันกรณีแบบนี้เราจึงจำเป็นต้องตัดค่าสูงสุดและต่ำสุดออกเพื่อไม่ให้ค่าที่ผิดปกติในชุดตัวเลขถูกนำมาคำนวนได้ค่ะ
ผู้เขียนจะหาค่ามาตรฐานของละครแต่ละตอนโดยการนำเรตติ้งที่ได้จากทุกตอนมารวมกันและหารด้วยจำนวนตอน (อย่างที่บอกนะคะ ตัดสี่เรื่องข้างบนทิ้งไปก่อน เราจะไม่เอาเขามานับในตอนนี้)
เพราะฉะนั้น..ช่องสาม จาก 311 ตอนตลอดปี ค่าเฉลี่ยของแต่ละตอนอยู่ที่ 3.43
ช่องเจ็ด 335 ตอน ค่าเฉลี่ยของแต่ละตอนอยู่ที่ 5.08
มาดูกันว่าจริงไหม โดยเราจะใช้หลักการง่าย ๆ คือ บวกลบ 1 ให้เลขมันดิ้นได้นิดนึง (คราวนี้จะรวมสี่กุมารเข้ามาละ)
ช่อง 3 มีตอนที่ได้เรตติ้งระหว่าง 2.43 - 4.43 อยู่ทั้งหมด 215 ตอนจาก 337 คิดเป็น 64%
ช่อง 7 มีตอนที่ได้เรตติ้งระหว่าง 4.08 - 6.08 อยู่ทั้งหมด 252 ตอนจาก 365 คิดเป็น 69%
โอ้โห แม่นยำใช้ได้แฮะ
อะไรที่มันดี เราจะไม่แก้ไข เพราะฉะนั้น เราจะใช้กฏง่าย ๆ ต่อจากอันนี้ว่า อะไรที่มันต่ำกว่า min คือแย่ และอะไรที่มันสูงกว่า max คือดีย์
ดูซิ
ช่อง 3 มีตอนที่ได้เรตติ้งต่ำกว่า 2.43 (Min) อยู่ 58 ตอนคิดเป็น 17%
และมีตอนที่ได้เรตติ้งสูงกว่า 4.43 (Max) อยู่ 65 ตอนคิดเป็น 19%
ชัด ๆ
ช่อง 7 มีตอนที่ได้เรตติ้งต่ำกว่า 4.08 (Min) อยู่ 47 ตอนคิดเป็น 13%
และมีตอนที่ได้เรตติ้งสูงกว่า 6.08 (Max) อยู่ 66 ตอนคิดเป็น 18%
ชัด ๆ อีกที
เป็นไงคะ สัดส่วนใกล้เคียงกันมากเลยเนอะเวลาดูแบบนี้...ไม่สะใจเลยแฟนช่องเจ็ดบอก ทำไมเวลาฉันดูเรตติ้งก็รู้สึกชนะแทบทุกวันเลย ตอนนี้จะมาสมงเสมอกันแบบนี้มันไม่ด้ายยย ขอเด็ดกว่านี้ชัดกว่าเน้
อ่ะ เอาไป..แล้วอย่าเอาไปบลัฟกันล่ะ
รู้หมือไร่... ช่อง 7 มีตอนละครที่ได้เรตติ้งอยู่ในโซนไฮของช่อง 3 (มากกว่า 4.43) มากถึง 260 ตอน!
แย่กว่านั้นได้อีกถ้าเอาตัวเลขต่ำสุดที่ช่อง 3 รับได้คือ 2.43 มาเป็นมาตรฐานเดียวกับช่อง 7 เราจะได้ตอนที่รอด + เริดมากถึง 364 ตอน!! หมายความว่าอะไร...หมายความว่ามีละครเพียงตอนเดียวเท่านั้นจาก 365 ตอนของช่องเจ็ดที่ไม่รอดเมื่ออยู่ช่องสาม ทายสิเรื่องอะไร...
เฉลย ละครเรื่องในคืนหนาวแสงดาวยังอุ่นที่กำลังออกอากาศอยู่นั่นเอง โดยตอนที่ได้เรตติ้งต่ำกว่า 2.43 คือตอนเปิดตัวน่ะแหล่ะ ได้ไป 2.2 แถมตอนนี้ยังได้รับเกียรติเป็นอย่างสูงจากช่องเจ็ด ได้เป็นตอนที่เรตติ้งต่ำที่สุดของช่องในรอบปี และยังเป็นว่าที่ละครที่เรตติ้งเฉลี่ยต่ำที่สุดอีกเช่นกัน!! แหม่น่าภูมิใจซะจริง
ถ้าใครไม่อยากให้คืนหนาวได้บ๊วยล่ะก็ พุธหน้าไปดูสดกันนะจ๊ะ เหลือตอนเดียวโค้งสุดท้ายเท่านั้น โดยมีเงื่อนไขเดียวด้วยคือต้องได้เลขไม่ต่ำกว่า 6.5! เพื่อให้เรตติ้งเฉลี่ยสูงกว่า 3.60 และเป็นรองบ๊วยแทนพ่อมดเจ้าเสน่ห์ สู้ ๆ นะจ๊ะ
ถ้า...อาทิตย์หน้าละครเรื่องนี้ได้เรตติ้งอย่างน้อย 5.0 เรตติ้งเฉลี่ยจะได้ 3.51 เมื่อไปอยู่ช่องสามจะติดอันดับที่ 11 แทนชั่วโมงต้องมนต์ทันที เหอ ๆ ช่องสามมีละคร 28 เรื่อง เรื่องบ๊วยของช่องเจ็ดอยู่ที่ 11 ของช่องสามนี่มันน่าหวาดหวั่นเหมือนกันนา
ไหนลองกลับกันซิเดี๋ยวจะหาว่าเราเลว อิอิ ช่องสามมีกี่ตอนกันนะที่อยู่ในโซนโลว์ของช่องเจ็ด นับแพ๊บ
.
.
.
254 ตอนเท่านั้นแหละ
อื้อ นั่นแหละ ตามนั้น อย่าย้ำเยอะ มันเจ็บบบ
แล้วอยู่ในโซนไฮกี่ตอนนะ
18 ตอน… อุ๋ย เยอะเหมือนกันนะเนี่ย ก็เยอะกว่าที่คิด อยากรู้ไหมมีเรื่องอะไรบ้าง
ตอนจบของเงินปากผี ลิขิตรัก คมแฝก สองตอนสุดท้ายของอังกอร์ และ และ และ 13 ตอนตั้งแต่ EP ที่ 3 - 15 จากละครบุพเพสันนิวาส!
โดยปกติแล้วละครตอนแรกเรตติ้งจะน้อย บางเรื่องก็น้อยที่สุด ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดี เพราะมันหมายความว่าละครคุณมีคนดูมากขึ้นเรื่อย ๆ หรืออย่างน้อยก็มากกว่าตอนแรก แต่! มันก็มีอะไรที่ผ่าเหล่าผ่ากออยู่บ้างเหมือนกันนะ มีละครอยู่สามเรื่องที่ตอนแรกสุด คือตอนที่ได้เรตติ้งมากที่สุด! หมายความว่าอะไร หมายความว่าระหว่างที่ออนแอร์ ละครเรื่องนั้นไม่สามารถเพิ่มฐานแฟนละครให้ตัวเองได้เลย…โถว
ประกอบด้วย
พ่อมดเจ้าเสน่ห์ 4.9 เปิดตัว และจบที่ 3.98..นี่คือละครรองบ๊วยของช่องเจ็ด
สกาวเดือน เปิดตัวที่ 5.45 จบที่ 4.3 ได้ที่ 18 ไปปีนี้
นางบาป เปิดตัว 2.4 แล้วยังปิดที่ 2.32 อีก! ละครรองบ๊วยของช่องสาม
ก็ละครท้ายตารางกันอยู่แล้วน่ะนะ อย่าไปซีเรียส
เสน่ห์นางงิ้วเป็นละครที่มีเรตติ้งอยู่ตอนหนึ่งต่ำที่สุดของช่องสาม คือ 1.56 และยังเป็นละครบ๊วยของปีนี้ด้วย แต่ตอนจบรื่องนี้กลับได้ไป 3.20 มากกว่าทุกตอนของรักพลิกล็อค นางบาปและดวงใจในไฟหนาว (ถ้าได้แบบนี้ตั้งแต่ต้นก็น่าจะดีเนาะ)
ขอย้อนกลับไปช่วงปีใหม่หน่อยค่ะ ช่วงนั้นก็ตามอ่านอยู่บ้างเห็นคนบ่นเยอะแยะมากเลยว่าทำไมถึงเลือกลิขิตรักมารีรันตอนกลางคืนแบบนี้ เรื่องอื่นที่เรตติ้งมากกว่านี้ก็มี?
ค่ะ มี มีสามเรื่อง บุพเพก็รีรันไปสองรอบแล้ว
คมแฝกได้อยู่ จะเลือกเรื่องนี้ก็ได้ แต่อย่าถามว่าทำไมไม่เลือก เพราะเค้าไม่รู้เหมือนกันจ้า
อังกอร์ก็เอาไปรีรันเย็นแล้ว
หมดแล้วค่ะ มีแค่นี้เองตัวเธอ อย่ากดดันเค้ามาก ช่องเองก็พยายามหาทางออกอยู่ค่ะ
คมแฝกคือละครที่มีเรตติ้งเปิดตัวสูงที่สุดในปีนี้นะรู้ยาง 5.83 แน่ะ ช่องเจ็ดคือสัมปทานหัวใจ 5.66
ช่องเจ็ดฝากบอกว่าเค้ายอมแว้ว แพ้จริง ๆ ยกนี้
เล็กครุฑและหนึ่งด้าวฟ้าเดียวคือละครที่มีจำนวนตอนมากที่สุดของทั้งสองช่อง 17 และ 18 ตอนตามลำดับ
ละครที่เรตติ้งเปิดตัวสูงนี้มีผลเหมือนกันนะคะ ส่วนมากถ้าเปิดตัวสูง ที่เหลือมันก็สูงอ่ะค่ะ เช่นช่องเจ็ด ถ้าเปิดตัว 5 ตอนจบ 6-7-8 สบาย ๆ เลยค่ะ
ช่องสามก็ด้วยนะคะ เปิดตัว 2-3 จบ 6-7 ได้เหมือนกัน เพราะช่องนี้มีแฟนขาจรเยอะมาก ใครหลงเข้ามาติดละก็น่าจะปักหลักกันระยะนึงทีเดียวค่ะ
ละครที่โดดเด่นที่สุดของช่องเจ็ดปีนี้คือสัมปทานหัวใจ มีสถิติดี ๆ มาฝากด้วย
เป็นละครที่เปิดตัวสูงที่สุดของช่อง
เป็นละครที่มีเรตติ้งตอนจบสูงที่สุดของช่อง
และเป็นละครที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงที่สุดของช่องด้วย 9.48
9.48 นี่ก็ดูเยอะนะถ้าเทียบกับอีกช่อง เพราะช่องสามไม่มีละครตอนจบเรื่องไหนมีเรตติ้งถึง 8 เลย! โดนตบ สลบแพ้พ
ย้อเย่น มีเรื่องนึงงง มากกว่า 9.48 เกือบสองเท่า 18.63 แถมเรตติ้งเฉลี่ยก็มากกว่าเกือบสองเท่าเหมือนกัน เรียกได้ว่าเรื่องนี้เรื่องเดียวช่องเจ็ดแพ้ทั้งกระดาน! ไม่ต้องบอกก็รู้เนาะว่าเรื่องไหน ขอแสดงความยินดีด้วยจริง ๆ ค่ะ ในฐานะผู้ชม รู้สึกพอใจที่ได้เห็นปรากฏารณ์แบบนี้ อยากให้ทุกช่องแข่งขันกันทำผลงานดี ๆ แบบนี้เยอะ ๆ ค่ะ กำไร ๆ
บุพเพสันนิวาสคือละครที่มีเรตติ้งสูงที่สุดเท่าที่เคยมีทีวีดิจิตอลมา สามารถทำให้หุ้นขึ้นได้อ่ะคิดดู ใคร ๆ ก็อยากได้แบบนี้แหละค่ะ แต่มันยากเย็นเกินเอื้อมเสียเหลือเกิน..
ศึกนี้ยังอีกยาวนานนักค่ะ มาลุ้นค่ะว่าเรื่องต่อไปที่จะสามารถล้มแชมป์ได้จะเป็นเรื่องอะไร และมาจากช่องไหน ยังไงก็ขอให้ช่องสามช่องเจ็ดเรตติ้งดีวันดีคืนทั้งคู่นะค้า
ช่องเจ็ดไม่ขออะไรมาก ขอละครพี่อั้มสักเรื่องเถอะค่ะ รอมาจะสองปีแล้วจ้า
*******************************
มีต่อค่ะ กระทู้ยาวใช้ได้
สรุป คาดเดา คาดการณ์ สถานการณ์เรตติ้งละครหลังข่าวช่อง 3 และช่อง 7 ปี 2018 - 2019
เอาล่ะค่ะ ก่อนจะเข้าเรื่อง เจ้าของกระทู้จะสัญญาไว้ก่อนเลยว่าตัวหนังสือที่จะเขียนต่อไปทั้งหมดนี้ จะพยายามเขียนให้ดูแย่น้อยที่สุด ส่วนเรื่องติ่งใครอะไรยังไงนี่น้อมรับหมด เพราะไถลไปเรื่อยล่ะค่ะ เปิดทุกช่อง ดูทุกเรื่องที่อยากดู แห้งบ้างสดบ้างแล้วแต่โอกาส
*****************************
เนื่องจากบ้านเราเพิ่งเข้าสู่ยุคดิจิตอลกันอย่างจริงจังในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ เพราะฉะนั้นเรามาเริ่มนับหนึ่งใหม่ไปด้วยกันนะคะ อะไรที่มันแล้วมาในยุคอะนาล็อกก็ให้มันแล้วกันไป แม้บางช่องจะยังคงออกอากาศในระบบอะนาล็อกอยู่ก็ไม่เป็นไรค่ะ สัดส่วนมันไม่ได้มากมายอะไรอยู่แล้วเนอะ เพราะฉะนั้นตัวเลขเก่า ๆ จากยุคโน้นก็เอาไว้ก่อนนะคะ ผู้เขียนเองก็จะพูดถึงเฉพาะปี 61 เป็นต้นมาเหมือนกันค่ะ
อีกเรื่องเถอะ ขออธิบายนิดนึงเผื่อมีบางคนสงสัยว่าเรตติ้งคืออะไร
เรตติ้งคือตัวเลขที่เจ้าขององค์กรว่าจ้างให้บริษัทเอกชนมาวัดให้ ถามว่าทำไมต้องมี ก็เพราะองค์กรเหล่านี้เป็นองค์กรที่แสวงหาผลกำไร แล้วคุณคิดว่าช่องโทรทัศน์เนี่ยเค้าจะหาเงินจากไหนได้ล่ะคะ ในเมื่อละครก็เอามาฉายให้ดูฟรี ๆ อะไรก็ฟรี...ใช่แล้วค่ะ เราน่ะดูฟรี (ไม่จริงหรอก การตลาดมันไม่ยอมให้เราได้อะไรฟรี ๆ อยู่แล้ว จะไม่ขอลงลึกเรื่องนี้นะคะ) แต่สปอนเซอร์เขาไม่ได้ขอลงโฆษณาได้ฟรีนะคะ
เจ้าของผลิตภันฑ์เนี่ย เวลาเขาลงโฆษณาเขาก็อยากให้มีคนเห็นเยอะ ๆ ถูกไหมคะ จริงอยู่ที่ว่าคนดูย้อนหลังเยอะละครก็ดังมีกระแสเหมือนกันนี่นา แต่ เอ้า แล้วมันเกี่ยวอะไรกันกับโฆษณาหน้าจอทีวีล่ะคะ เดี๋ยวนี้การวัดเรตติ้งก็วัดหลายแพลตฟอร์มแล้วด้วย เงื่อนไขคือต้องดูสดพร้อม ๆ กับการแพร่ภาพทางโทรทัศน์เท่านั้นเอง (เป้าหมายคือให้มีคนเห็นโฆษณาเยอะ ๆ)
พอคนดูสดเยอะ เจ้าของผลิตภันฑ์ก็จะมั่นใจได้ว่าโฆษณาของเขาจะมีคนเห็นเยอะ...ใช่ค่ะ จริง ๆ สถานีไม่ได้ต้องการเรตติ้งหรอกค่ะ จะ 0 จะ 1 ก็ไม่สำคัญ สิ่งที่สถานีต้องการคือเงินแค่นั้น แต่มันแย่หน่อยนะคะที่เงินมันมาพร้อมโฆษณา แล้วมูลค่าของโฆษณามันดันพ่วงมากับเรตติ้งเท่านั้นเอง นั่นคือสาเหตุที่ทำไมช่องสามถึงดีใจมากมายที่บุพเพสันนิวาสมีเรตติ้งสูง จนถึงกับต้องเอาไปรีรันต่อทันที ทั้งหมดก็เพื่อการขายของหรือเพื่อเงินนั่นเองค่ะ
เพราะฉะนั้น ใครที่ยังมีความเชื่อว่าเรตติ้งไม่สำคัญ สามารถกดปิดกระทู้ได้เลยค่ะ จะได้ไม่หงุดหงิดใจเปล่า ๆ
*****************************
เริ่มที่ไหนดีล่ะ ตอนนี้มีข้อมูลเยอะแยะมากมายไปหมดเลย
เอาเป็น..เริ่มกันที่การหามาตรฐานเรตติ้งของแต่ละช่องแล้วกันค่ะ จะได้คุยง่ายหน่อย เนื่องจากแต่ละช่องมีมาตรฐานที่แตกต่างกัน ผู้เขียนจะยึดเรตติ้งตลอดปี 2561 ช่องใครช่องมันเป็นมาตรฐานสำหรับกระทู้นี้ รวมถึงเป็นมาตรฐานที่ควรจะทำให้ได้ในปี 2562 ที่เพิ่งเริ่มนี่ด้วยนะคะ
ในปีที่ผ่านมาช่อง 3 มีละครหลังข่าวสองทุ่มทั้งหมด 28 เรื่อง เรื่องที่ได้เรตติ้งเฉลี่ยน้อยที่สุดคือเสน่ห์นางงิ้ว และเรื่องที่ได้เรตติ้งเฉลี่ยมากที่สุดคือบุพเพสันนิวาส ส่วนช่อง 7 มี 24 เรื่อง สัมปทานหัวใจได้มากที่สุด ที่ได้น้อยที่สุด ณ ปัจจุบันนี้และคิดว่าคงไม่มีอะไรคลาดเคลื่อนเพราะเหลืออีกแค่ตอนเดียวเท่านั้นคือเรื่องในคืนหนาวแสงดาวยังอุ่น (จบพุธหน้า)
เพื่อค่าเฉลี่ยที่แม่นยำเราจะตัดสี่เรื่องนี้ออกนะคะ
เหตุผลที่ต้องตัดเลขสูงสุดและเลขต่ำสุดออกเนี่ยก็เพื่อความแม่นยำในการคิดค่าเฉลี่ย..คืองี้ เนื่องจากคณิตศาสตร์ สถิติศาสตร์ของผู้เขียนเองก็ต่ำเตี้ยเหลือเกิน แต่จะพยายามอธิบายเท่าที่ตัวเองเข้าใจแล้วกันนะคะ สมมุติว่ามีคน 99 คนทานอาหารอยู่ในร้านอาหารร้านหนึ่ง ทุกคนมีเงินเดือน ประมาณ 20,000 - 30,000 บาท ค่าเฉลี่ยเงินเดือนของคนที่มาทานอาหารร้านนี้ก็จะอยู่ประมาณนี้แหล่ะ ใกล้เคียงกับตัวเลขจริงมาก ๆ นาทีต่อมาเจ้าสัวซีพีก็เดินเข้ามาในร้าน สมมุติว่าเจ้าสัวมีเงินเดือนประมาณ 10 ล้านบาท ค่าเฉลี่ยเงินเดือนของคนกลุ่มนี้ก็จะผิดปกติทันที เพื่อป้องกันกรณีแบบนี้เราจึงจำเป็นต้องตัดค่าสูงสุดและต่ำสุดออกเพื่อไม่ให้ค่าที่ผิดปกติในชุดตัวเลขถูกนำมาคำนวนได้ค่ะ
ผู้เขียนจะหาค่ามาตรฐานของละครแต่ละตอนโดยการนำเรตติ้งที่ได้จากทุกตอนมารวมกันและหารด้วยจำนวนตอน (อย่างที่บอกนะคะ ตัดสี่เรื่องข้างบนทิ้งไปก่อน เราจะไม่เอาเขามานับในตอนนี้)
เพราะฉะนั้น..ช่องสาม จาก 311 ตอนตลอดปี ค่าเฉลี่ยของแต่ละตอนอยู่ที่ 3.43
ช่องเจ็ด 335 ตอน ค่าเฉลี่ยของแต่ละตอนอยู่ที่ 5.08
มาดูกันว่าจริงไหม โดยเราจะใช้หลักการง่าย ๆ คือ บวกลบ 1 ให้เลขมันดิ้นได้นิดนึง (คราวนี้จะรวมสี่กุมารเข้ามาละ)
ช่อง 3 มีตอนที่ได้เรตติ้งระหว่าง 2.43 - 4.43 อยู่ทั้งหมด 215 ตอนจาก 337 คิดเป็น 64%
ช่อง 7 มีตอนที่ได้เรตติ้งระหว่าง 4.08 - 6.08 อยู่ทั้งหมด 252 ตอนจาก 365 คิดเป็น 69%
โอ้โห แม่นยำใช้ได้แฮะ
อะไรที่มันดี เราจะไม่แก้ไข เพราะฉะนั้น เราจะใช้กฏง่าย ๆ ต่อจากอันนี้ว่า อะไรที่มันต่ำกว่า min คือแย่ และอะไรที่มันสูงกว่า max คือดีย์
ดูซิ
ช่อง 3 มีตอนที่ได้เรตติ้งต่ำกว่า 2.43 (Min) อยู่ 58 ตอนคิดเป็น 17%
และมีตอนที่ได้เรตติ้งสูงกว่า 4.43 (Max) อยู่ 65 ตอนคิดเป็น 19%
ชัด ๆ
ช่อง 7 มีตอนที่ได้เรตติ้งต่ำกว่า 4.08 (Min) อยู่ 47 ตอนคิดเป็น 13%
และมีตอนที่ได้เรตติ้งสูงกว่า 6.08 (Max) อยู่ 66 ตอนคิดเป็น 18%
ชัด ๆ อีกที
เป็นไงคะ สัดส่วนใกล้เคียงกันมากเลยเนอะเวลาดูแบบนี้...ไม่สะใจเลยแฟนช่องเจ็ดบอก ทำไมเวลาฉันดูเรตติ้งก็รู้สึกชนะแทบทุกวันเลย ตอนนี้จะมาสมงเสมอกันแบบนี้มันไม่ด้ายยย ขอเด็ดกว่านี้ชัดกว่าเน้
อ่ะ เอาไป..แล้วอย่าเอาไปบลัฟกันล่ะ
รู้หมือไร่... ช่อง 7 มีตอนละครที่ได้เรตติ้งอยู่ในโซนไฮของช่อง 3 (มากกว่า 4.43) มากถึง 260 ตอน!
แย่กว่านั้นได้อีกถ้าเอาตัวเลขต่ำสุดที่ช่อง 3 รับได้คือ 2.43 มาเป็นมาตรฐานเดียวกับช่อง 7 เราจะได้ตอนที่รอด + เริดมากถึง 364 ตอน!! หมายความว่าอะไร...หมายความว่ามีละครเพียงตอนเดียวเท่านั้นจาก 365 ตอนของช่องเจ็ดที่ไม่รอดเมื่ออยู่ช่องสาม ทายสิเรื่องอะไร...
เฉลย ละครเรื่องในคืนหนาวแสงดาวยังอุ่นที่กำลังออกอากาศอยู่นั่นเอง โดยตอนที่ได้เรตติ้งต่ำกว่า 2.43 คือตอนเปิดตัวน่ะแหล่ะ ได้ไป 2.2 แถมตอนนี้ยังได้รับเกียรติเป็นอย่างสูงจากช่องเจ็ด ได้เป็นตอนที่เรตติ้งต่ำที่สุดของช่องในรอบปี และยังเป็นว่าที่ละครที่เรตติ้งเฉลี่ยต่ำที่สุดอีกเช่นกัน!! แหม่น่าภูมิใจซะจริง
ถ้าใครไม่อยากให้คืนหนาวได้บ๊วยล่ะก็ พุธหน้าไปดูสดกันนะจ๊ะ เหลือตอนเดียวโค้งสุดท้ายเท่านั้น โดยมีเงื่อนไขเดียวด้วยคือต้องได้เลขไม่ต่ำกว่า 6.5! เพื่อให้เรตติ้งเฉลี่ยสูงกว่า 3.60 และเป็นรองบ๊วยแทนพ่อมดเจ้าเสน่ห์ สู้ ๆ นะจ๊ะ
ถ้า...อาทิตย์หน้าละครเรื่องนี้ได้เรตติ้งอย่างน้อย 5.0 เรตติ้งเฉลี่ยจะได้ 3.51 เมื่อไปอยู่ช่องสามจะติดอันดับที่ 11 แทนชั่วโมงต้องมนต์ทันที เหอ ๆ ช่องสามมีละคร 28 เรื่อง เรื่องบ๊วยของช่องเจ็ดอยู่ที่ 11 ของช่องสามนี่มันน่าหวาดหวั่นเหมือนกันนา
ไหนลองกลับกันซิเดี๋ยวจะหาว่าเราเลว อิอิ ช่องสามมีกี่ตอนกันนะที่อยู่ในโซนโลว์ของช่องเจ็ด นับแพ๊บ
.
.
.
254 ตอนเท่านั้นแหละ
อื้อ นั่นแหละ ตามนั้น อย่าย้ำเยอะ มันเจ็บบบ
แล้วอยู่ในโซนไฮกี่ตอนนะ
18 ตอน… อุ๋ย เยอะเหมือนกันนะเนี่ย ก็เยอะกว่าที่คิด อยากรู้ไหมมีเรื่องอะไรบ้าง
ตอนจบของเงินปากผี ลิขิตรัก คมแฝก สองตอนสุดท้ายของอังกอร์ และ และ และ 13 ตอนตั้งแต่ EP ที่ 3 - 15 จากละครบุพเพสันนิวาส!
โดยปกติแล้วละครตอนแรกเรตติ้งจะน้อย บางเรื่องก็น้อยที่สุด ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดี เพราะมันหมายความว่าละครคุณมีคนดูมากขึ้นเรื่อย ๆ หรืออย่างน้อยก็มากกว่าตอนแรก แต่! มันก็มีอะไรที่ผ่าเหล่าผ่ากออยู่บ้างเหมือนกันนะ มีละครอยู่สามเรื่องที่ตอนแรกสุด คือตอนที่ได้เรตติ้งมากที่สุด! หมายความว่าอะไร หมายความว่าระหว่างที่ออนแอร์ ละครเรื่องนั้นไม่สามารถเพิ่มฐานแฟนละครให้ตัวเองได้เลย…โถว
ประกอบด้วย
พ่อมดเจ้าเสน่ห์ 4.9 เปิดตัว และจบที่ 3.98..นี่คือละครรองบ๊วยของช่องเจ็ด
สกาวเดือน เปิดตัวที่ 5.45 จบที่ 4.3 ได้ที่ 18 ไปปีนี้
นางบาป เปิดตัว 2.4 แล้วยังปิดที่ 2.32 อีก! ละครรองบ๊วยของช่องสาม
ก็ละครท้ายตารางกันอยู่แล้วน่ะนะ อย่าไปซีเรียส
เสน่ห์นางงิ้วเป็นละครที่มีเรตติ้งอยู่ตอนหนึ่งต่ำที่สุดของช่องสาม คือ 1.56 และยังเป็นละครบ๊วยของปีนี้ด้วย แต่ตอนจบรื่องนี้กลับได้ไป 3.20 มากกว่าทุกตอนของรักพลิกล็อค นางบาปและดวงใจในไฟหนาว (ถ้าได้แบบนี้ตั้งแต่ต้นก็น่าจะดีเนาะ)
ขอย้อนกลับไปช่วงปีใหม่หน่อยค่ะ ช่วงนั้นก็ตามอ่านอยู่บ้างเห็นคนบ่นเยอะแยะมากเลยว่าทำไมถึงเลือกลิขิตรักมารีรันตอนกลางคืนแบบนี้ เรื่องอื่นที่เรตติ้งมากกว่านี้ก็มี?
ค่ะ มี มีสามเรื่อง บุพเพก็รีรันไปสองรอบแล้ว
คมแฝกได้อยู่ จะเลือกเรื่องนี้ก็ได้ แต่อย่าถามว่าทำไมไม่เลือก เพราะเค้าไม่รู้เหมือนกันจ้า
อังกอร์ก็เอาไปรีรันเย็นแล้ว
หมดแล้วค่ะ มีแค่นี้เองตัวเธอ อย่ากดดันเค้ามาก ช่องเองก็พยายามหาทางออกอยู่ค่ะ
คมแฝกคือละครที่มีเรตติ้งเปิดตัวสูงที่สุดในปีนี้นะรู้ยาง 5.83 แน่ะ ช่องเจ็ดคือสัมปทานหัวใจ 5.66
ช่องเจ็ดฝากบอกว่าเค้ายอมแว้ว แพ้จริง ๆ ยกนี้
เล็กครุฑและหนึ่งด้าวฟ้าเดียวคือละครที่มีจำนวนตอนมากที่สุดของทั้งสองช่อง 17 และ 18 ตอนตามลำดับ
ละครที่เรตติ้งเปิดตัวสูงนี้มีผลเหมือนกันนะคะ ส่วนมากถ้าเปิดตัวสูง ที่เหลือมันก็สูงอ่ะค่ะ เช่นช่องเจ็ด ถ้าเปิดตัว 5 ตอนจบ 6-7-8 สบาย ๆ เลยค่ะ
ช่องสามก็ด้วยนะคะ เปิดตัว 2-3 จบ 6-7 ได้เหมือนกัน เพราะช่องนี้มีแฟนขาจรเยอะมาก ใครหลงเข้ามาติดละก็น่าจะปักหลักกันระยะนึงทีเดียวค่ะ
ละครที่โดดเด่นที่สุดของช่องเจ็ดปีนี้คือสัมปทานหัวใจ มีสถิติดี ๆ มาฝากด้วย
เป็นละครที่เปิดตัวสูงที่สุดของช่อง
เป็นละครที่มีเรตติ้งตอนจบสูงที่สุดของช่อง
และเป็นละครที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงที่สุดของช่องด้วย 9.48
9.48 นี่ก็ดูเยอะนะถ้าเทียบกับอีกช่อง เพราะช่องสามไม่มีละครตอนจบเรื่องไหนมีเรตติ้งถึง 8 เลย! โดนตบ สลบแพ้พ
ย้อเย่น มีเรื่องนึงงง มากกว่า 9.48 เกือบสองเท่า 18.63 แถมเรตติ้งเฉลี่ยก็มากกว่าเกือบสองเท่าเหมือนกัน เรียกได้ว่าเรื่องนี้เรื่องเดียวช่องเจ็ดแพ้ทั้งกระดาน! ไม่ต้องบอกก็รู้เนาะว่าเรื่องไหน ขอแสดงความยินดีด้วยจริง ๆ ค่ะ ในฐานะผู้ชม รู้สึกพอใจที่ได้เห็นปรากฏารณ์แบบนี้ อยากให้ทุกช่องแข่งขันกันทำผลงานดี ๆ แบบนี้เยอะ ๆ ค่ะ กำไร ๆ
บุพเพสันนิวาสคือละครที่มีเรตติ้งสูงที่สุดเท่าที่เคยมีทีวีดิจิตอลมา สามารถทำให้หุ้นขึ้นได้อ่ะคิดดู ใคร ๆ ก็อยากได้แบบนี้แหละค่ะ แต่มันยากเย็นเกินเอื้อมเสียเหลือเกิน..
ศึกนี้ยังอีกยาวนานนักค่ะ มาลุ้นค่ะว่าเรื่องต่อไปที่จะสามารถล้มแชมป์ได้จะเป็นเรื่องอะไร และมาจากช่องไหน ยังไงก็ขอให้ช่องสามช่องเจ็ดเรตติ้งดีวันดีคืนทั้งคู่นะค้า
ช่องเจ็ดไม่ขออะไรมาก ขอละครพี่อั้มสักเรื่องเถอะค่ะ รอมาจะสองปีแล้วจ้า
*******************************
มีต่อค่ะ กระทู้ยาวใช้ได้