หรือคำว่าจ้าวเป็นเพียงแค่แพะรับบาป เวลาที่นลทขาดทุนแล้วโทษคนอื่นถ้าราคาหุ้นมันขึ้นหรือลงแบบหวือหวามาก ส่วนตัวผมไม่แน่ใจว่าจะมีจ้าวหรือไม่ เพราะยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดแต่ผมเชื่อว่ามีคนสร้างราคาของหุ้น แต่ขอแยกเป็น2กลุ่ม
1.หุ้นที่ราคาต่ำกว่าบาทหรือไม่ถึง5บาทหรือหุ้นเน่า น่า/หรืออาจจะมีจ้าวคุม เพราะการใช้เงินโยนซื้อเพื่อให้ราคาขยับจาก Bid ไป Offer ไม่ต้องใช้เงินมาก สามารถลากได้ถึง+/- 10% หรือมากกว่า หุ้นยิ่งถูกก็ใช้เงินน้อยมาซื้อไล่ราคา อาจจะ2-5 ล้านบาท สำหรับหุ้นที่ราคาต่ำกว่า 1บาท หุ้นพวกนี้หลายตัวจัดอยู่ในกลุ่มไม่สามารถลงทุนได้ (uninvestable) เป็นธรรมดาที่ไม่มีกองทุนและต่างชาติมาถือครองหุ้น เพราะผลประกอบการขาดทุนหรือธุรกิจใหม่ กองทุนก็เข้าซื้อไม่ได้เพราะเป็นหุ้นที่เข้ากฎห้ามซื้อขายเพราะกองทุนนั้นเอาเงินประชาชนไปลงทุน ต่างชาติก็คงไม่ซื้อเพราะไม่รู้จักธุรกิจ แต่นักลงทุนรายย่อยนั้นชอบเพราะราคาถูก ซื้อจำนวนหุ้นได้มากแต่ผลตอบก็เสี่ยงตามไปด้วย ผมเชื่อว่ามีนักลงทุนไม่น้อยอ่านงบไม่ได้ อ่านจากนสพข่าวหุ้นว่าราคาเป้าหมายและซื้อเลย
2.ต่างกับหุ้นที่ราคามากกว่า 40 บาท เนื่องจากเป็นหุ้นที่หนักกว่าและต้องใช้เงินจำนวนมากในการให้ราคาขยับหรือจะสร้างราคาและได้กำไรไม่มากเหมือนหุ้นตัวเล็ก แต่หุ้นที่เป็น blue chip หรือมีคุณภาพเป็นธรรมดาที่1.รายใหญ่ 2.กองทุนและ 3.ต่างชาติถือเป็นจำนวนมาก เวลา3กลุ่มนี้ซื้อหรือขายเป็นธรรมดาที่ราคาต้องขยับเพราะเม็ดเงินไหลเข้าหรือออกจำนวนมหาศาล เช่น SCB ขายหนักในวันนี้ คงไม่มีใครเอาเงินมาปั่นหุ้นตัวนี้เพราะทำไปเพื่ออะไร ต้องใช้เงินเท่าไหร่มาสร้างราคา ถึงทำไปก็คงได้ไม่เท่าไหร่ SCB วันนี้ถูกขายไปเกือบ6% และสรุปการซื้อขายวันนี้ กองทุนขาย -2.737 ล้านบาท ส่วนตัวผมเชื่อว่ากองทุนขายเพื่อโยกเงินไปซื้อหุ้นตัวอื่นที่สามารถทำกำไรได้ดีกว่า SCB ราคาคงน่าจะอยู่บริเวณนี้จนกว่าผลประกอบการณ์จะดีขึ้นกว่านี้
เพื่อนๆคิดอย่างไรกับความสัมพันธ์ระหว่างจ้าวและหุ้นกันบ้างครับ ส่วนตัวผมคำว่าจ้าวอาจจะเป็นเป็นคำอุปมาหมายถึงผู้ที่ถือครองหุ้นจำนวนมาก มันก็จะกลับไปมองที่กองทุน ต่างชาติและนักลงทุนรายใหญ่ที่ถูกเรียกว่าเสี่ยหรือไม่ ผมนี่อยากเห็นหน้าจ้าวจริงๆว่าหน้าตาเป็นอย่างไร
จ้าวในตลาดหุ้นมีจริงหรือ
1.หุ้นที่ราคาต่ำกว่าบาทหรือไม่ถึง5บาทหรือหุ้นเน่า น่า/หรืออาจจะมีจ้าวคุม เพราะการใช้เงินโยนซื้อเพื่อให้ราคาขยับจาก Bid ไป Offer ไม่ต้องใช้เงินมาก สามารถลากได้ถึง+/- 10% หรือมากกว่า หุ้นยิ่งถูกก็ใช้เงินน้อยมาซื้อไล่ราคา อาจจะ2-5 ล้านบาท สำหรับหุ้นที่ราคาต่ำกว่า 1บาท หุ้นพวกนี้หลายตัวจัดอยู่ในกลุ่มไม่สามารถลงทุนได้ (uninvestable) เป็นธรรมดาที่ไม่มีกองทุนและต่างชาติมาถือครองหุ้น เพราะผลประกอบการขาดทุนหรือธุรกิจใหม่ กองทุนก็เข้าซื้อไม่ได้เพราะเป็นหุ้นที่เข้ากฎห้ามซื้อขายเพราะกองทุนนั้นเอาเงินประชาชนไปลงทุน ต่างชาติก็คงไม่ซื้อเพราะไม่รู้จักธุรกิจ แต่นักลงทุนรายย่อยนั้นชอบเพราะราคาถูก ซื้อจำนวนหุ้นได้มากแต่ผลตอบก็เสี่ยงตามไปด้วย ผมเชื่อว่ามีนักลงทุนไม่น้อยอ่านงบไม่ได้ อ่านจากนสพข่าวหุ้นว่าราคาเป้าหมายและซื้อเลย
2.ต่างกับหุ้นที่ราคามากกว่า 40 บาท เนื่องจากเป็นหุ้นที่หนักกว่าและต้องใช้เงินจำนวนมากในการให้ราคาขยับหรือจะสร้างราคาและได้กำไรไม่มากเหมือนหุ้นตัวเล็ก แต่หุ้นที่เป็น blue chip หรือมีคุณภาพเป็นธรรมดาที่1.รายใหญ่ 2.กองทุนและ 3.ต่างชาติถือเป็นจำนวนมาก เวลา3กลุ่มนี้ซื้อหรือขายเป็นธรรมดาที่ราคาต้องขยับเพราะเม็ดเงินไหลเข้าหรือออกจำนวนมหาศาล เช่น SCB ขายหนักในวันนี้ คงไม่มีใครเอาเงินมาปั่นหุ้นตัวนี้เพราะทำไปเพื่ออะไร ต้องใช้เงินเท่าไหร่มาสร้างราคา ถึงทำไปก็คงได้ไม่เท่าไหร่ SCB วันนี้ถูกขายไปเกือบ6% และสรุปการซื้อขายวันนี้ กองทุนขาย -2.737 ล้านบาท ส่วนตัวผมเชื่อว่ากองทุนขายเพื่อโยกเงินไปซื้อหุ้นตัวอื่นที่สามารถทำกำไรได้ดีกว่า SCB ราคาคงน่าจะอยู่บริเวณนี้จนกว่าผลประกอบการณ์จะดีขึ้นกว่านี้
เพื่อนๆคิดอย่างไรกับความสัมพันธ์ระหว่างจ้าวและหุ้นกันบ้างครับ ส่วนตัวผมคำว่าจ้าวอาจจะเป็นเป็นคำอุปมาหมายถึงผู้ที่ถือครองหุ้นจำนวนมาก มันก็จะกลับไปมองที่กองทุน ต่างชาติและนักลงทุนรายใหญ่ที่ถูกเรียกว่าเสี่ยหรือไม่ ผมนี่อยากเห็นหน้าจ้าวจริงๆว่าหน้าตาเป็นอย่างไร