แม่ขอขาดสัมพันธ์ เพราะเราจะซิ่วไปเริ่มเรียนใหม่

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เราอยากได้ความช่วยเหลือจากเพื่อนในพันทิป ชีวิตเราตอนนี้เหมือนถูกบั่นทอนจิตใจ กำลังใจในการใช้ชีวิตเราแทบไม่เหลือแล้ว เพราะแม่ต้องการตัดสัมพันธ์ เพียงเพราะช่วงนี้เราคิดจะซิ่ว โดยครอบครัวเห็นด้วยอยู่ 50% แต่มีอะไรหลายอย่างเข้ามาทำให้แม่กับเราต้องทะเลาะกันมากขึ้น จนล่าสุด แม่ขอขาดสัมพันธ์กับเรา

ก่อนปีใหม่
   เรากลับบ้านที่กรุงเทพช่วงปีใหม่พร้อมกับคำถามในใจว่า เกรดเทอมนี้จะไปรอดมั้ย ? เราจะเรียนต่อไหวรึเปล่า เราเครียดมากตั้งแต่ที่ผลการเรียนเริ่มตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ทางบ้านทราบก็ไม่พอใจ ก็มีดุด่าว่ากล่าวด้วยถ้อยคำรุนแรงจากแม่ ว่าเรามันทำตัวไม่มีค่าเหมือนลูกคนอื่นๆ ที่เขาไม่ประสบความสำเร็จ แต่เราก็พยายามในส่วนของเราอย่างเต็มที่ ซึ่งปี 1 กับ ปี 2 ช่วงแรก คงผลการเรียนไว้ได้ที่ 3.40 จนตอนนี้ปี 3 ผลการเรียนเราตกต่ำมาก เนื่องด้วยความตั้งใจของเราถูกบั่นทอนลงด้วย การตัดสินผลการเรียนที่ไม่เป็นธรรมจากอาจารย์ ทำให้เรารู้สึกเฟลติดต่อกันจนเป็นเวลานานลากมาถึงตอนนี้ เราเลยคิดว่า เราจะใช้เหตุผลต่างๆ มาคุยกับแม่ที่อยู่ด้วยกันช่วงปีใหม่นี้ เหตุผลที่เราจะใช้คุยด้วยเพื่อหาทางเริ่มต้นใหม่กับการเรียนคือ 1. ทุนการศึกษาที่มีคนให้คำสัญญาว่าจะส่งจนเรียนจบแต่กลับไม่เคยส่งให้เลยจะมีทางครอบครัวที่สำรองจ่ายาพอส่งใบเสร็จก็ไม่มีความคืบหน้า 2. เหตุผลที่ต้องเรียนไกลบ้านทำให้ไม่มีคณะในใจที่อยากจะเรียนอยู่ตั้งแต่แรก 3. อาจารย์ในสาขาให้เกรดไม่เป็นธรรมกับนักศึกษา 4. สังคมและการใช้ชีวิตทำให้เรารู้สึกลำบากและไม่โอเค 4 เหตุผลนี้เราได้อธิบายให้แม่เข้าใจถึงปัญหาที่เราเผชิญอยู่ว่ามันนักหนาสาหัสสำหรับเรามากตลอด 3 ปี แต่แม่เรากลับมองว่าปัญหาของเรา เป็นปัญหาเล็กน้อยที่เด็กควรเผชิญได้แล้วในวัย 22 ปี แต่เราถามตัวเรามาตลอดว่า 3 ปีที่ผ่านมาเราสู้ไหวมั้ย เราตอบว่าไหว ลองอีกซักตั้ง มาตลอด จนตอนนี้เราเหนื่อยที่จะต้องเผชิญกับปัญหาเดิมๆ แล้ว เราอยากเริ่มต้นใหม่ ในวิชาที่เราอยากเรียน อยู่ใกล้บ้าน อยู่กับครอบครัว เรารู้สึกขาด และไม่อยากต้องทนอยู่เพื่อทำร้ายตัวเอง เราเลยทำทุกวิถีทาง อธิบายถึงสิ่งที่ต้องการ จนข้อสรุปที่ได้คือ

"เราจะทำงานส่งตัวเองเรียน"

   เราทำข้อตกลงกับแม่ว่าเราจะทำงานหาเงินมาจ่ายค่าสมัครสอบ ค่าแรกเข้า ค่าเทอม ช่วงที่รอเปิดเทอม 62 ซึ่งแม่ก็เห็นด้วย แต่เราก็ไม่อยากให้ความตั้งใจที่แม่อยากเรียนให้จบต้องสูญเปล่า เราเลยบอกแม่ ว่าเราจะลองสู้เพื่อตัวเองอีกซักตั้ง เราไม่อยากทิ้งโอกาสโดยที่เรายังไม่ได้ลองดูเลยว่าโค้งสุดท้ายนี้เราจะไหวมั้ย เราเลยตัดสินใจทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้ และกลับมาเรียนตามปกติ

หลังปีใหม่
   เรากลับมาจากบ้านเพื่อกลับมาเรียน ปี 3 เทอม 2 เพื่อลองใจ สู้ดูอีกซักครั้ง และระหว่างนั้น เราก็ติวตัวเองให้กับการสอบเข้า 62 ด้วย โดยที่แม่บอกว่า "ไม่ต้องหางานทำหรอก ให้มันเป็นเรื่องของวันข้างหน้า ไหวไม่ไหวค่อยว่ากัน" เหมือนเราได้รับกำลังใจเต็มเปี่ยม เรารีบเก็บเกี่ยวเวลาที่มีอยู่เพื่อพยายามให้เต็มที่เท่าที่จะทำได้ แต่ก็มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นระหว่างที่เรากลับมาใช้ชีวิตในมหาลัยอีกครั้ง ช่วงแรกของการเปิดเทอม แม่รู้สึกไม่ไว้ใจเรา กลัวว่าเราจะไม่ไปเรียนและมุ่งมั่นกับการสมัครสอบที่อื่น จะชอบส่งข้อความมาถาม "ไปเรียนมั้ย" ถ้าเราไม่เห็นแจ้งเตือน แม่ก็จะโทรมาด่าว่าทำไมเราไม่ตอบข้อความ "แอบหนีเรียน ไม่ไปเรียนหรอ ทำไมไม่ใส่ใจกับสิ่งที่พูดไว้ก่อนหน้าเลย" ซึ่งเราไม่ได้ทำแบบนั้นเลย เราทำตามแผนที่เราทำข้อตกลงกับทางบ้านแล้ว แต่แม่เหมือนกลัวว่าเราจะไม่ทำตามในสิ่งที่พูด ใช่คะ แม่เราไม่เคยไว้ใจเราเลย เพราะตอนเด็กๆ เรากลัวที่จะพูดความจริงเวลาทำผิด แม่ก็จะลงโทษด้วยการฟาดด้วยของหนักต่างๆ จนมีแผลฟกช้ำไปเรียน แม่เริ่มหยุดตีเราตั้งแต่เราเรียน มหาลัยเพราะเราอยู่ห่างไกลจากแม่ แต่แม่ก็จะไม่ไว้ใจอยู่เสมอ หลังจากที่เราสัมผัสถึงความไม่ไว้ใจของแม่ เรารู้สึกลึกๆ ในใจ ว่าเรามีค่าให้แม่เชื่อถือเรามั้ย เราจะทำมันได้มั้ย ใจเรารู้อยู่แล้ว ว่าสู้ต่อไปคงจะไม่ไหว แต่เราก็เรียนๆ ไปให้ถึงที่สุดก่อน จนมีช่วงล่าสุดที่แม่โทรมาหา ถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนนี้ว่าเป็นอะไรยังไงบ้าง เราก็ตอบไป ว่าเหนื่อยนิดหน่อย แต่ก็ยังไหว แต่แม่เรากลับมองว่าเราเริ่มมีความใจเสาะ ไม่สู้ ไม่อยากเรียน แม่เราเลยโมโหด่าตัดพ้อ บั่นทอนกำลังใจเราไปครั้งใหญ่ จนเรารู้สึกว่า เราไม่รู้ควรจะทำยังไง จนกระทั่งแม่พูดถึงเรื่องค่าใช้จ่าย เราเลยเสนอว่า "งั้นหนูจะทำงานหาเลี้ยงค่าขนมเอง แม่ไม่ต้องส่งก็ได้ แต่ได้งานหนูจะบอก" แม่ก็ด่าเรายกใหญ่ บอกว่าเรามันไร้ความรับผิดชอบ พูดอะไรไว้ไม่เคยทำตามที่พูดไว้ได้ เรารู้สึกโดนตัดกำลังใจ ตัดไปเรื่อยๆ จนตอนนี้กำลังใจที่เราจะมีชีวิตต่อแทบไม่มีแล้ว เพราะด้วยคำพูดขอขาดสัมพันธ์

   เป็นเวลา 4 วันแล้วที่เราพยายามติดต่อแม่ทุกช่องทาง แต่เขากลับบล๊อคเบอร์ บล๊อคไลน์เรา และไม่ติดต่อเราอีกเลย เรารู้สึกโดดเดี่ยว เรามีปัญหาอะไร เราไม่เคยคุยกับใครได้เลย เพื่อนก็ให้คำปรึกษาได้แค่ฐานะเพื่อน แต่เราอยากได้คำปรึกษาดีๆ จากแม่ แต่แม่กลับมองว่าปัญหาของเราทุกปัญหา เป็นปัญหาที่เล็กน้อย ไม่อยากฟัง ไม่อยากรับรู้ ตอนนี้เราแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เลย เรารู้สึกว่ามันอ้างว้าง คนที่เป็นแม่ก็ไม่สนใจ ใครจะมาสนใจเรา เราอยากรู้ว่าถ้าเราหายไปจริงๆ เหมือนที่เขาไล่เราไปตาย แม่จะโอเคใช่มั้ย เพราะตอนนี้ จะนอนเราก็คิดแต่เรื่องหาวิธีฆ่าตัวตาย จะตื่นก็อยากตาย จะทำอะไรก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีก เราหางานทำ แต่เราก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ แม่ก็ไม่ได้ส่งเงินมาให้เราใช้เพราะขาดการติดต่อกับเราทุกช่องทาง เราไม่ได้กินข้าวมา 2 วันแล้ว กินแต่น้ำ ถ้าวันพรุ่งนี้ แม่ไม่สนใจเราจริงๆ เราคงรู้สึกอยากตายจริงๆ แล้ว

เพื่อนๆ ช่วยด้วยค่ะ เราไม่รู้จะพูดกับใครแล้ว...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่