ออกตัวก่อนว่าผมเป็นคนดูหนัง Super hero แล้วเบื่อๆ ซะ 70-80% คือมันการ์ตูนจ๋ามาก คือดูได้ แต่ไม่รู้สึกอินอะไร หนัง Super hero ที่ชอบมากๆ ก็เลยออกแนวเรียลๆ หน่อย อย่าง X-men first class /Kick-ass Watchmen หรืออย่างซีรีส์ดาร์คไนท์ WW อะไรแบบนี้มากกว่า (ส่วนใหญ่จะเป็น DC แต่มาร์เวลที่ชอบก็ GG อันนี้ชอบที่มันแฟนตาซีครบเครื่อง) อันนี้คือต้องการปูให้เห็นว่า Glass ก็มาแนวทางนี้ คือถ้าใครชอบสไตล์มาร์เวล ผมว่าได้หลับๆ ตื่นๆ แน่นอน แต่ถ้าใครชอบแนวเรียลๆ ยิ่งถ้าดูสองภาคแรกแล้วไม่หลับ มีความติดใจ อยากบอกว่าตีตั๋วเรื่องนี้ไปดูเถอะครับ ไม่ต้องสนคะแนนมะเขือเน่าเลย ตรงกันข้ามคุณอาจจะดูจบแล้วมองโลกเปลี่ยนไป รู้สึกฮึกเหิมสเปเชียลไปกับสิ่งที่หนังเรื่องนี้สื่อออกมามากๆ
เรื่องนี้เล่าไปก็เหมือนสปอยล์ แม้แต่บทของลูกชายพระเอกในภาคแรกที่กลับมา ก็เป็นอะไรที่พิเศษมากๆ เอ็มไนท์เก่งครับที่คิดผูกต่อติดกันได้ อ่านจากเบื้องหลังเห็นว่าจริงๆ คิดเรื่อง Split ไว้แล้ว แต่ว่าไม่สามารถเอามาใส่ไว้ในภาคแรกได้ ด้วยว่าหนังจะยาวไป ก็ไม่รู้ว่าเฮียดองไปนานหรือเปล่า แต่มาได้ถูกจังหวะกับกระแสหนังทางเลือกใหม่ ที่มีคนส่วนหนึ่งเบื่อ Super hero ทั่วไปพอดี ต้องขอบคุณเอ็มไนท์ที่รักในการ์ตูน แล้วต่อเติมจินตนาการความรักนี้สร้างจักรวาลหนังเรื่องนี้ออกมาครับ ผมเชื่อว่าถ้าใครเด็กๆ ชอบเรื่องคนพิเศษ พลังเหนือธรรมชาติไม่ว่าเล็กๆ น้อยๆ ต้องชอบเรื่องนี้แน่ๆ คือในโลกจริงตอนนี้ก็มีคนแบบนี้มากอยู่พอสมควร ซึ่งเราก็ได้เห็นตามข่าวไป แต่แค่มันไม่ได้เว่อร์เท่านั้น แต่ก็นั่นแหละนี่คือสิ่งที่เอ็มไนท์กำลังจะบอกทุกคน ว่าอะไรก็เป็นพลังพิเศษได้ อย่างที่ Glass คุยกับเฮดวิก (เควินร่าง 9 ขวบ) ว่า พลังพิเศษของเธอคือ
"การมองโลกในมุมมองของเด็กที่ไม่มีวันเปลี่ยนไป" ถ้าใครเข้าใจประโยคนี้ แล้วคิดว่ามันสเปเชียลได้ตามที่ Glass บอก คุณดูหนังเรื่องนี้สนุกแน่นอนครับ
ภาคนี้คือภาคที่โชว์ความสามารถพิเศษของทั้ง 3 คนกันอย่างเต็มอิ่ม โดยเฉพาะ Mr.Glass เจ้าของชื่อภาคนี้นี่แหละครับ กับตอนจบที่แบบไม่รักก็เกลียดกันไปเลย (อันนี้คนที่เข้าใจแบบอินหน่อยก็คงจะเป็นแฟนการ์ตูนเท่านั้น) ส่วนตัวผมอยู่ในจุดที่ชอบตอนจบแบบนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รู้สึกว่าเอ็มไนท์กล้า และก็ Beginning ไปพร้อมกันแบบที่ Glass บอก
ทุกอย่างในเรื่องนี้เรียกว่าเล่าแล้วเสียอรรถรสหมดเลยก็ได้ อยากให้ไปดูเลยดีกว่าครับ ส่วนตัวยกเรื่องนี้ให้สูสีใกล้เคียงกับ Watchmen /Kick-ass ครับ คือมันดีในแบบที่แตกต่าง เรียลในแบบที่ไม่เหมือนใคร ชอบทุกอย่างในเรื่องนี้ มีติก็นิดหน่อยอย่างนางเอกภาคก่อนบทน้อยไป (แต่ความสวยอึ๋มไม่เปลี่ยน) รีวิวนี้ก็เรียกว่าชวนดู ไม่อยากให้เรื่องนี้เจ๊ง อยากดูจักรวาลนี้ต่ออีก (อันนี้ต้องภาวนากันเลยล่ะ ว่าเอ็มไนท์กับรายได้ที่ออกมาจะเพียงพอไหม)
ปล.ที่หลายคนบอกหนังคุยกันทั้งเรื่อง ไม่จริงนะครับ หนังถือว่าแอ็กชั่นเยอะกว่า Split มากมาย ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย คือที่คุยนี่ก็เพราะเจ้าเคลวินที่เปลี่ยนร่างไปมาตลอดเวลานั่นแหละครับ (ภาคนี้มีบางอย่างทำให้เคลวินต้องเปลี่ยนร่างบ่อย) ถ้าใครมองว่านี่เป็นความสนุก เป็นความสามารถพิเศษที่ใช้การแสดงของเจมส์ล้วนๆ ก็จะสนุกกับการที่เห็นเขาเปลี่ยนบุคลิกฉับพลันไปตลอดเรื่องครับ
[CR] รีวิว Glass ถ้าชอบ Unbreakable ชอบ Split ไม่ยากเลยที่จะอินกับจักรวาล Real-life superhero ของเอ็มไนท์ (No spoil)
ออกตัวก่อนว่าผมเป็นคนดูหนัง Super hero แล้วเบื่อๆ ซะ 70-80% คือมันการ์ตูนจ๋ามาก คือดูได้ แต่ไม่รู้สึกอินอะไร หนัง Super hero ที่ชอบมากๆ ก็เลยออกแนวเรียลๆ หน่อย อย่าง X-men first class /Kick-ass Watchmen หรืออย่างซีรีส์ดาร์คไนท์ WW อะไรแบบนี้มากกว่า (ส่วนใหญ่จะเป็น DC แต่มาร์เวลที่ชอบก็ GG อันนี้ชอบที่มันแฟนตาซีครบเครื่อง) อันนี้คือต้องการปูให้เห็นว่า Glass ก็มาแนวทางนี้ คือถ้าใครชอบสไตล์มาร์เวล ผมว่าได้หลับๆ ตื่นๆ แน่นอน แต่ถ้าใครชอบแนวเรียลๆ ยิ่งถ้าดูสองภาคแรกแล้วไม่หลับ มีความติดใจ อยากบอกว่าตีตั๋วเรื่องนี้ไปดูเถอะครับ ไม่ต้องสนคะแนนมะเขือเน่าเลย ตรงกันข้ามคุณอาจจะดูจบแล้วมองโลกเปลี่ยนไป รู้สึกฮึกเหิมสเปเชียลไปกับสิ่งที่หนังเรื่องนี้สื่อออกมามากๆ
เรื่องนี้เล่าไปก็เหมือนสปอยล์ แม้แต่บทของลูกชายพระเอกในภาคแรกที่กลับมา ก็เป็นอะไรที่พิเศษมากๆ เอ็มไนท์เก่งครับที่คิดผูกต่อติดกันได้ อ่านจากเบื้องหลังเห็นว่าจริงๆ คิดเรื่อง Split ไว้แล้ว แต่ว่าไม่สามารถเอามาใส่ไว้ในภาคแรกได้ ด้วยว่าหนังจะยาวไป ก็ไม่รู้ว่าเฮียดองไปนานหรือเปล่า แต่มาได้ถูกจังหวะกับกระแสหนังทางเลือกใหม่ ที่มีคนส่วนหนึ่งเบื่อ Super hero ทั่วไปพอดี ต้องขอบคุณเอ็มไนท์ที่รักในการ์ตูน แล้วต่อเติมจินตนาการความรักนี้สร้างจักรวาลหนังเรื่องนี้ออกมาครับ ผมเชื่อว่าถ้าใครเด็กๆ ชอบเรื่องคนพิเศษ พลังเหนือธรรมชาติไม่ว่าเล็กๆ น้อยๆ ต้องชอบเรื่องนี้แน่ๆ คือในโลกจริงตอนนี้ก็มีคนแบบนี้มากอยู่พอสมควร ซึ่งเราก็ได้เห็นตามข่าวไป แต่แค่มันไม่ได้เว่อร์เท่านั้น แต่ก็นั่นแหละนี่คือสิ่งที่เอ็มไนท์กำลังจะบอกทุกคน ว่าอะไรก็เป็นพลังพิเศษได้ อย่างที่ Glass คุยกับเฮดวิก (เควินร่าง 9 ขวบ) ว่า พลังพิเศษของเธอคือ "การมองโลกในมุมมองของเด็กที่ไม่มีวันเปลี่ยนไป" ถ้าใครเข้าใจประโยคนี้ แล้วคิดว่ามันสเปเชียลได้ตามที่ Glass บอก คุณดูหนังเรื่องนี้สนุกแน่นอนครับ
ภาคนี้คือภาคที่โชว์ความสามารถพิเศษของทั้ง 3 คนกันอย่างเต็มอิ่ม โดยเฉพาะ Mr.Glass เจ้าของชื่อภาคนี้นี่แหละครับ กับตอนจบที่แบบไม่รักก็เกลียดกันไปเลย (อันนี้คนที่เข้าใจแบบอินหน่อยก็คงจะเป็นแฟนการ์ตูนเท่านั้น) ส่วนตัวผมอยู่ในจุดที่ชอบตอนจบแบบนี้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทุกอย่างในเรื่องนี้เรียกว่าเล่าแล้วเสียอรรถรสหมดเลยก็ได้ อยากให้ไปดูเลยดีกว่าครับ ส่วนตัวยกเรื่องนี้ให้สูสีใกล้เคียงกับ Watchmen /Kick-ass ครับ คือมันดีในแบบที่แตกต่าง เรียลในแบบที่ไม่เหมือนใคร ชอบทุกอย่างในเรื่องนี้ มีติก็นิดหน่อยอย่างนางเอกภาคก่อนบทน้อยไป (แต่ความสวยอึ๋มไม่เปลี่ยน) รีวิวนี้ก็เรียกว่าชวนดู ไม่อยากให้เรื่องนี้เจ๊ง อยากดูจักรวาลนี้ต่ออีก (อันนี้ต้องภาวนากันเลยล่ะ ว่าเอ็มไนท์กับรายได้ที่ออกมาจะเพียงพอไหม)
ปล.ที่หลายคนบอกหนังคุยกันทั้งเรื่อง ไม่จริงนะครับ หนังถือว่าแอ็กชั่นเยอะกว่า Split มากมาย ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย คือที่คุยนี่ก็เพราะเจ้าเคลวินที่เปลี่ยนร่างไปมาตลอดเวลานั่นแหละครับ (ภาคนี้มีบางอย่างทำให้เคลวินต้องเปลี่ยนร่างบ่อย) ถ้าใครมองว่านี่เป็นความสนุก เป็นความสามารถพิเศษที่ใช้การแสดงของเจมส์ล้วนๆ ก็จะสนุกกับการที่เห็นเขาเปลี่ยนบุคลิกฉับพลันไปตลอดเรื่องครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้