กรณีที่พนักงานเอารถของบริษัทไปคว่ำในขณะทำงาน ใครเป็นคนควรจ่ายคะ

เริ่มด้วย วันที่ 5 มกราคม ปีนี้เลยค่ะ เปิดงานปกติแล้ว แล้วก็ให้พนักงานคนนี้ขับรถไปขนงานค่ะ ซึ่งพนักงานคนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเราค่ะ เขาขับรถไปขึ้นงานแถวโพธิ์แจ้ กลับมานครปฐม โดยใช้รถสิบล้อติดคีบ บรรทุกงานกลับมา แล้วระหว่างทางเกิดอุบัติเหต โดยที่ฝั่งทางเรารถเสียหลัก ช่วงเปลี่ยนเลนค่ะ เพราะถนนเส้นนั้นลื่นด้วยค่ะ ตอนนั้นอยู่ในช่วงฝนตกค่ะ เลยทำให้คนขับฝั่งเราคุมรถไม่อยู่ และดันทำให้รถฝั่งเราข้ามเกาะกลางไปชนรถอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งรถอีกคันเป็นรถขนน้ำมัน หัวหน้ารถอีกฝั่งหนึ่งบุบเข้าไปค่ะ แต่คนขับอีกฝั่งนึงมีอาการเจ็บสาหัสค่ะ แต่สุดท้ายนำส่งไปรพ.ปลอดภัยแล้วค่ะ ส่วนคนขับฝั่งเรา คอเคล็ด มีแผนถลอก ช่วงหลัง , ต้นคอค่ะ แต่ตอนนี้ทั้ง 2 ฝ่าย ปลอดภัยแล้วนะคะ และทางรถคู่กรณีเราเรียกประกันมาแล้วค่ะ ประกันบอกว่าจะซ่อมของทางคู่กรณีให้ แต่ทางของเราต้องซ่อมเอง ซึ่งรถทางสภาพเราอาการหนักมากๆ คอกทั้ง2ข้างยุบเข้ามาหากัน เป็นคอกสูง เหมือนคอกรถสิบล้อทั่วไปค่ะ ยางระเบิด หัวรถพังค่ะ แบบว่ารถดูสภาพเละมากๆค่ะ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายวันแรกที่เกิดเหต ที่เป็นค่าเคลียทาง , เคลียตำรวจ , ค่ายกรถขึ้น , ค่าย้ายรถมาไว้ข้างถนน , ค่าพยาบาล 1ของคนขับฝั่งทางเรา จ่ายไป 10,000 รวมๆแล้วอยู่ที่ 40,000 บาทค่ะ ทางครอบครัวเราได้จ่ายให้ และวันที่ 2 ต่อมา ทางคนขับฝั่งทางเรา หมอได้นัดและต้องไปพบหมอที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ซึ่งมันก็จะมีค่าใช้จ่าย แต่ไม่มากเท่าไหร่ แค่หลักร้อยหรือหลักพัน แล้วทางลูกพี่ลูกน้องคนนี้ได้โทรมาหาทางเราว่าจะเอาค่ายา เพราะพรุ่งนี้หมอนัด เราเลยไปปรึกษาทางครอบครัวเรา และพ่อเราก็บอกว่า ทางนั้นจะไม่ออกอะไรเลยหรอ เพราะอุบัติเหตุครั้งนี้เขาเป็นคนผิดเอง พ่อเราก็เลยโทรกลับไปบอกเขาว่า ให้ออกค่าใช้จ่ายเองบ้าง เพราะค่าซ่อมรถพ่อก็ต้องเป็นคนออกเองหมด ค่าใช้จ่ายวันแรกก็ออกไปให้แล้ว 40,000 สรุปทางคนขับฝั่งเราก็ออกเองค่ะ ส่วนตรงที่เขาออกเอง เขาก็ต้องได้เงินคืนอยู่แล้วเพราะเขาทำเรื่องเบิกประกัน .. ซึ่งก็มีค่าซ่อมรถฝั่งทางเรา พ่อแม่เราเองก็รับรู้ในส่วนตรงนี้ตรงที่จะรับผิดชอบแทนคือโดยการออกค่าซ่อมรถอยู่ฝ่ายเดียว  แล้วทีนี้ทางแม่ของคนขับฝั่งเรา ซึ่งเขาเป็นพี่สาวของพ่อเราค่ะ เขาโทรมาบอกว่าจะเอาเงินจากทางเราไปให้ทางคู่กรณี เพราะทางคู่กรณีเรียกค่าทำขวัญมา 15,000 เราก็เลยคิดและปรึกษากับครอบครัวว่า เห้ย มันจะมากไปแล้วนะ เหมือนเขาเห็นแก่ตัวเกินไปอะ ตรงที่ว่าตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุทางพ่อแม่เราก็ออกค่าใช้จ่ายแทนให้เขาทุกอย่างแล้ว แล้วไหนจะต้องเสียค่าซ่อมรถครั้งนี้ประมาณ 400,000 อีกด้วย คือเขากะจะให้เราออกให้ทุกอย่างเลยอะ เราคิดว่ามันเกินไป เราอยู่กลางนะคะ ตรงนี้เราพูดในฐานะลูกเจ้าของบริษัท แต่ไม่ใช่บริษัทอะไรใหญ่โตนะคะ พ่อเราจ้างลูกพี่ลูกน้องคนนี้ให้มาทำหน้าที่ ขับสิบล้อ ได้เงินเดือนอยู่ 30,000-40,000 บาท  เราปรึกษากับครอบครัวว่านี่ถ้าเป็นบริษัทอื่น จริงๆเขาต้องหักเงินค่าซ่อมรถครึ่งนึงด้วยนะ แต่เราก็อุตส่าห์ช่วยเขาโดยไม่หักอะไรเลย เท่ากับว่าทางครอบครัวเราจ่าย ค่าซ่อมรถ และ ค่าใช้จ่ายวันแรกอยู่ฝ่ายเดียว แต่เขายังโทรมาจะเอาค่านู้นค่านี่ค่านั่นจากทางครอบครัวเราโดยที่เขาจะไม่ใช้เงินตัวเองสักบาทเลย เราก็อยากให้เขาช่วยออกค่าใช้จ่ายเองบ้าง ไม่ใช่จะมาเอาที่ทางครอบครัวเราหมดเลย ตัวเขาเองก็ได้เงินเดือนเยอะกว่าคนอื่นในบริษัท เราไม่ชอบคนที่เอาเปรียบค่ะ มันต้องช่วยกันสิ เราคิดแบบนี้ .. ก็เลยอยากจะขอความคิดเห็นจากชาวพันทิปค่า ว่าถ้าคุณเจอเหตการณ์แบบนี้จะทำยังไงคะ ( ถ้าไม่เข้าใจบอกตรงไหนบอกด้วยนะคะ ขอโทษด้วยค่ะ และเดี๋ยวจะพิมพ์อธิบายใหม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ )
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่