เราทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่ง ที่นี่สภาพแวดล้อมดีมาก เจ้านายเป็นผู้ชายใจดี
พี่ที่สอนงานก็ใจดี ไม่วีน ไม่เหวี่ยง แม้จะสอนรัวและเร็วไปหน่อย แต่เวลาเราพลาด เค้าก็เข้าใจเสมอ
แต่เราก็ยังแอบไปสมัครงานที่อื่นไว้ค่ะ เป็นตำแหน่งนักวิจัย ซึ่งเป็นงานที่เราใฝ่ฝันอยากทำมากๆ
เข้าไปทดลองงานวันแรก เค้าก็ยื่นข้อมูลดิบให้เราคีย์ เราก็คีย์ทั้งวันยังไม่เสร็จ เพราะข้อมูลมันเยอะมากจริงๆ
แต่กลับโดนพูดแซะจากเพื่อนร่วมงาน ว่าไม่มีปฎิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานเลย ดูคนอื่นสิ เรานี่งงเลย
คือที่นี่ไม่เคยมีนักวิจัยมาก่อนค่ะ มีแต่พนักงานธุรการทั่วไป ซึ่งงานธุรการ
มันต้องลุกไปติดต่อประสานงานกับคนอย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว แตกต่างจากงานวิจัย
มีข้อมูลมา ก็ต้องนั่งคีย์ลงคอมทั้งวัน ไม่ใช่ว่าเราไม่พูดคุยกับเค้านะคะ เราพยายามพูดด้วยแล้ว
แต่พวกเค้าก็มักไม่สนใจ หันไปพูดคุยเรื่องงานของพวกเค้าเหมือนเดิม จะให้เราทำไง
เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า ถ้าได้งานที่นี่ จะทำจริงเหรอ ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่เรารักนะ แต่เพื่อนร่วมงานไม่โอเคเลย
ระหว่าง ชอบงานแต่ไม่ชอบสภาพแวดล้อมที่ทำงาน กับ ไม่ชอบงานแต่ชอบสภาพแวดล้อมที่ทำงาน
พี่ที่สอนงานก็ใจดี ไม่วีน ไม่เหวี่ยง แม้จะสอนรัวและเร็วไปหน่อย แต่เวลาเราพลาด เค้าก็เข้าใจเสมอ
แต่เราก็ยังแอบไปสมัครงานที่อื่นไว้ค่ะ เป็นตำแหน่งนักวิจัย ซึ่งเป็นงานที่เราใฝ่ฝันอยากทำมากๆ
เข้าไปทดลองงานวันแรก เค้าก็ยื่นข้อมูลดิบให้เราคีย์ เราก็คีย์ทั้งวันยังไม่เสร็จ เพราะข้อมูลมันเยอะมากจริงๆ
แต่กลับโดนพูดแซะจากเพื่อนร่วมงาน ว่าไม่มีปฎิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานเลย ดูคนอื่นสิ เรานี่งงเลย
คือที่นี่ไม่เคยมีนักวิจัยมาก่อนค่ะ มีแต่พนักงานธุรการทั่วไป ซึ่งงานธุรการ
มันต้องลุกไปติดต่อประสานงานกับคนอย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว แตกต่างจากงานวิจัย
มีข้อมูลมา ก็ต้องนั่งคีย์ลงคอมทั้งวัน ไม่ใช่ว่าเราไม่พูดคุยกับเค้านะคะ เราพยายามพูดด้วยแล้ว
แต่พวกเค้าก็มักไม่สนใจ หันไปพูดคุยเรื่องงานของพวกเค้าเหมือนเดิม จะให้เราทำไง
เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า ถ้าได้งานที่นี่ จะทำจริงเหรอ ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่เรารักนะ แต่เพื่อนร่วมงานไม่โอเคเลย