[CR] <REVIEW> From France with LOVE : 12 วันในฝรั่งเศส #เที่ยวฝรั่งเศสฉบับติ่ง

สวัสดีค่ะ อันนี้เป็นกระทู้รีวิวการเที่ยวแบบจริงจังครั้งแรกของเราเลยเด้อ มาอ่านกันหน่อย 555

ภาค 2 ตอนจบ อยู่ลิงค์นี้น้าาา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ทริปนี้ เดินทางไปฝรั่งเศส ทั้งหมด 12 วัน ช่วงเดือนตุลาคม 2018 โดยเมืองหลักๆ ของการท่องเที่ยวได้แก่ ปารีส (Paris) / ดิสนีย์แลนด์ (DisneyLand Paris) / สตราสบรูก์ (Strasbourg) / กอลมาร์ (Colmar) / อองเฟลอร์ (Honfleur) / และ มอง แซง มิเชล (Mont Saint  Michel) โดยไปกัน 2 นาง ก็คือเรา และเพื่อนสาวอีก 1 คน ขอเรียกนางว่า “ขุ่นแม่” แล้วกันนะคะ โดยปกติเราจะไปเที่ยวเกาหลีกะขุ่นแม่บ่อยๆ หนนี้ถือเป็นการมายุโรปด้วยกันครั้งแรกเลย และเป็นการมาเยือนยุโรปของขุ่นแม่เป็นครั้งแรกในชีวิตของนางด้วย ซึ่งขุ่นแม่น้านนนน ไม่ได้มีความตื่นเต้นอะไรเลย 5555 (คือเราตื่นเต้นกว่าขุ่นแม่ไปหลายเบอร์ อมยิ้ม07)


ทริปที่แพลนไว้คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ค่ะ
DAY 1 - PARIS (เที่ยวชมเมือง Landmark ต่างๆ)
DAY 2 - PARIS (เที่ยวย่าน Le Marais ปารีสย่านฮิปเกร๋กริ๊บ)
DAY 3 - PARIS (Museum Day) เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคมค่ะ พิพิธภัณ์ส่วนใหญ่ในกรุงปารีสเปิดให้เข้า ฟรี!!
DAY 4 - STRASBOURG
DAY 5 - COLMAR
DAY 6 - DISNEYLAND
DAY 7 - PARIS (เที่ยวโซน Montmartre)
DAY 8 - LE HARVE / HONFLEUR / CAEN
DAY 9 - CAEN / MONT SAINT MICHEL / RENNES
DAY 10 - PARIS (เก็บตกในปารีส เดินเล่น ชอปปิ้ง)
DAY 11 - PARIS (เที่ยวโซน Cite)
DAY 12 - PARIS (ชอปปิ้ง + กลับกรุงเต๊บบบบ)


ขออนุญาตฝากรีวิวเป็น youtube ด้วยนะคะ เผื่อใครอยากดูเป็นคลิป มี 2 EP จบค่ะ

EPISODE 1
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
EPISODE 2
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

อ่ะ มาเริ่มกันเลย...
ถึงแม้จะเป็นการเดินทางไปยุโรปครั้งแรกของขุ่นแม่ แต่เราก็เทขุ่นแม่ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางค่ะ 555 เนื่องจากไปกันคนละสายการบิน 555 ก็ไปนัดเจอกันที่ Charles-de-Gaulle เลย

Bonjour!!! ความพินาศก็เกิดขึ้นทันทีที่เครื่องแตะสนามบิน Charles-de-Gaulle ค่ะ ขุ่นแม่นั้นเดินทางมาถึงฝรั่งเศสตอน 06:30 น. ณ Terminal 2 ส่วนเราเดินทางมาถึงตอน 07:05 น. ณ Terminal 1 และเราซื้อ sim2fly มาใช้ ซึ่งทุกครั้งที่เดินทาง มันดีมากนะคะ ไม่เคยมีปัญหาเลย ครั้งนี้คือความซวยส่วนตัวล้วนๆ ค่ะ คือซิมมันเสีย ขึ้นว่า No SIM Card Installed ถอดซิมเข้าออก ปิดเปิดเครื่องก็ใช้ไม่ได้ ก็โอเค ซิมเสีย 5555 (พอตอนหลังกลับมาเคลม พนักงาน AIS เค้าก็คืนเงินให้ค่ะ และบอกว่าคือกรณีแบบเราเกิดขึ้นน้อยมากกกกก ไม่เป็นไรค่ะ เราเข้าใจได้ เพราะทุกครั้งที่ใช้ไม่เคยมีปัญหาจริงๆ ก็อ่ะ ช่างมัน)  

แล้วขุ่นแม่ล่ะ ทำยังไงกะนาง!!???? เดชะบุญ ที่สนามบิน Charles-de-Gaulle มี Free Wi Fi ค่ะ ก็จัดการเชื่อมต่อ เปิดเครื่องปั๊ป อิขุ่นแม่ก็ส่งข้อความมาบอกว่า สวัสดีจ่ะ กระเป๋าไม่มา 55555 ผี!!! (คือขุ่นแม่นั่งเครื่อง via แล้วเครื่องจากกรุงเทพฯ ดีเลย์จร้า ขุ่นแม่กล่าวว่าหอบร่างตัวเองต่อเครื่องมาทันก็นับว่ามีแต้มบุญดีแล้ว กระเป๋ามาไม่ทันก็อ่ะ เดี๋ยวตามมาเนาะ) ก็โอเค จัดการเคลมเรื่องกระเป๋าอะไรไป คือ ณ จุดนี้ ขุ่นแแม่ไม่มีเวลาดื่มด่ำและตื่นเต้นกับการมาเยือนเมืองยุโรปเป็นหนแรกในชีวิตแต่อย่างใด เพราะทุ่มเทความตื่นเต้นไปกับการตามหากระเป๋าจนหมดล้าวววว เฮ้อ เหนื่อย... (ส่วนการเดินทางเข้าเมืองของเรา เรานั่ง UBER เอานะคะ เนื่องจากเจ้าของที่พัก AIRBNB ฝากซื้อของชิ้นใหญ่ นางจึงมีอภินันทนาการเรียก UBER มารับค่ะ)



ที่พัก
ที่พักของเราเป็นบ้าน AIRBNB ติดกับ Metro Falguiere ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าสะดวกสบายพอใช้ค่ะ เพราะบ้านอยู่ใกล้สถานี Metro มาก เดิน 20 ก้าวถึง และมีครัว ซึ่งอันนี้ช่วยเราประหยัดมาก เพราะสามารถทำอาหารกินเองได้คร่า (โชว์อาหารการกินด้วยอ่ะ 555) และใกล้ๆ บ้านก็มี supermarket ดีไปอีก ...จัดการอาบน้ำแต่งตัวและไปเที่ยวกันคร่า ซึ่งขุ่นแม่ทำไงคะ ขุ่นแม่ใส่ชุดวอมไปค่ะ เนื่องจากกระเป๋ายังมาไม่ถึงและขนาดตัวคนละไซส์ ไม่รู้จะช่วยขุ่นแม่ยังไงจริงๆ ><

การเดินทาง 12 วัน หมดไปประมาณ 4,476 บาท
1.) เราซื้อเป็นตั๋ว Mobilis One Day Pass ราคา 10 EUR ใช้ขึ้นรถเมโทร รถบัสกี่รอบก็ได้ใน 1 วันนะคะ (ใช้ตั๋วแบบนี้ 5 วัน) ซื้อที่สถานีรถไฟใต้ดินได้เลย กดกับตู้เอา
2.) และซื้อตั๋ว Navigo Pass Decouverte ราคา 22.80 EUR + ค่าบัตรอีก 5 EUR = 27.80 EUR ใช้ได้ตั้งแต่วันจันทร์ – อาทิตย์เลยค่ะ ซื้อจากเค้าเตอร์ขายตั๋วในสถานีเมโทร อย่าลืมเอารูปติดบัตรไปด้วยนะคะ
3.) ค่า UBER ขากลับ 80 EUR (หาร 2 คน)
*รายละเอียดตั๋วรถเมโทรของปารีส ดูจากเว็บนี้ได้ค่ะ https://www.ratp.fr/en/titres-et-tarifs/navigo-monthly-and-weekly-travel-passes

DAY 1 - Champs Elysees / Pont Alexandre iii / Place de la Concorde / Fontaines de Jacques Hirtoff / La Tour Eiffel / Bouillon Chartier

Champs Elysees (เมโทร สถานี Franklin D. Roosevelt)
ที่หมายแรกของเราก็คือถนน Champs Elysees เพื่อมาหาซื้อเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มแก่ขุ่นแม่ เพราะไม่รู้ว่าจะได้กระเป๋าเมื่อไหร่ และซื้อ SIM โทรศัพท์ (เราจำยี่ห้อไม่ได้นะ แต่ปรากฏว่าดีมาก เพราะราคา 20 EUR ใช้ได้ยาวนาน 12 วัน และเราก็มีเบอร์ฝรั่งเศสเอาไว้โทรจิกโทรตามหากระเป๋าที่หายไปของขุ่นแม่ค่ะ)
“Champs Elysees” ก็คือถนนสายแฟ ที่รวบรวมแบรนด์ต่างๆ ไว้มากมาย ละลานตา อยากได้อะไรตั้งแต่ของกิน ขนมของเล่น เสื้อผ้า ก็น่าจะหาได้หมดจากถนนสายนี้ค่ะ เท่าที่ทราบเนี่ย Champ Elysees ก็ยังเป็นต้นแบบของ “ถนนราชดำเนิน” บ้านเราด้วย
มาแถวย่านนี้ก็มีที่ถ่ายรูปฮิปเก๋แนะนำ 1 ที่ค่ะ นั่นก็คือหน้าร้าน DIOR ซึ่งมีการ WRAP ตึกเก๋ไก๋ อ่ะ ซักรูปค่ะ ใครอยากมาโพสต์ก็ลอง search หาร้าน Restaurant L’Avenue ค่ะ ร้านอาหารนี้จะอยู่ตรงข้ามกับช็อป DIOR เลยค่ะ


Pont Alexandre iii
สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 เป็นสะพานโค้งแบบไม่มีเสา ศิลปะแบบอาร์ตนูโว (Art Nouveau)สวยงามอลังกาลพาดข้ามแม่น้ำแซน (Seine River) เชื่อมระหว่างฝั่งหอไอเฟลและฝั่งถนน Champs Elysees เดินต่อมาไม่ไกลจาก Champ Elysees ค่ะ เปิด Google Map มา
ความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์นี้ ถ้าใครมีอายุอานามรุ่นๆ เดียวกับเรา ก็คงจะเคยผ่านตามาบ้าง กับฉากสะพาน Pont Alexandre iii ในละครเรื่อง “สี่แผ่นดิน” เวอร์ชั่นพี่ตุ้ย ธีรภัทร์ และพี่อุ้ม สิริยากร 555 จะเป็นซีนที่ชาคริต แย้มนามนะเออ (นางแสดงเป็นลูกแม่พลอย แห่งสี่แผ่นดิน) เดินพูดคุยกับแฟนสาวชาวฝรั่งเศส เล่าว่าทำไมคนไทยถึงมาเรียนปริญญาที่เมืองนอกเมืองนา ก็คือเดินเล่ามาบนสะพานแห่งนี้  หรือว่าจะเป็นตอนฟลุ๊ค เกริกพล (นางแสดงเป็นน้องชาคริต เรียนอยู่ที่อังกฤษ แล้วแวะมาเยี่ยมพี่ชายที่ปารีส) เดินอยู่บนสะพานแห่งนี้กับแก๊งเพื่อนนักเรียนนอกของนาง ชอบมาก 555


ภาพจากละคร "สี่แผ่นดิน" บ้างค่ะ



หรือถ้าเป็นยุคที่สมัยใหม่ขึ้นมาหน่อย ก็ต้องเรื่องนี้เลย "Midnight in Paris" ของ Woody Allen คือเราชอบภาพและดนตรีประกอบของเรื่องนี้มาก ฉากนี้ก็จะเป็นตอนที่พระเอกเดินเล่นอยู่กลางดึก แล้วไปเจอน้องนีพนักงานร้านแผ่นเสียง พระเอกก็จะชวนน้องนีเดินเล่น ปรากฏฝนดันตก น้องนีเลยกล่าวว่า “อ่อ ไม่เป็นไรจ่ะ จริงๆ ปารีสอ่ะ สวยที่สุดตอนฝนตกเนี่ยแหละ” ไปค่ะ!!

ฉากนี้เลย

Place de la Concorde + Fontaines de Jacques Hirtoff
เดินต่อมาไม่ไกลก็จะเจอกับ “Place de la Concorde” ค่ะ จัตุรัสแห่งนี้มีความเป็นมา ก็คือแรกเริ่มเดิมทีสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กับพระนางมารี อ็องตัวแน็ต ก็คือจะเอาเงินไปสร้างพระราชวังแวร์ซายด์ (Versailles Palace) และก็ใช้จ่ายเงินอย่างมหาศาล สิ้นเปลือง ประชาชนก็ไม่พอใจ ออกมาประท้วงไรงี้ จัตุรัสแห่งนี้ก็เลยเป็นที่วางกิโยติน (Guillotine) เป็นที่ตัดหัวประชาชนที่ต่อสู้เด้อ สุดท้ายคือประชาชนจำนวนมากทนไม่ไหว ได้ลุกฮือขึ้นมาต่อสู้ เกิดเป็นสงครามกลางเมือง และเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติฝรั่งเศสในเวลาต่อไป โดยที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กับพระนางมารี อ็องตัวแน็ต ก็ถูกสั่งประหารด้วยกิโยตินอันนี้แหละ ต่อมาได้มีการย้ายกิโยตินออก เอาเสาหินโอเบลิสก์” (L’Obélisque) ซึ่งเป็นของขวัญจากอิยิปต์มาตั้งแทน แล้วก็เปลี่ยนชื่อจัตุรัสมาเป็น Place de la Concorde แปลเป็นภาษาไทยว่า จัตุรัสแห่งความปรองดอง!!


ข้างๆ กันก็จะมีน้ำพุ "Fontaines de Jacques Hirtoff" ซึ่งถูกแล้วคร่า เรามาตามรอยหนัง “The Devil wears Prada” เป็นฉากที่นางเอก Anne Hathaway หรือแอนเดรียในเรื่อง เดินทางไปทำงานเป็นผู้ช่วยของ มิแรนด้า พรีสท์ลี บก.นิตยสารแฟชั่นสุดเป๊ะ นางก็นั่งกันอยู่ในรถแล้วมิแรนด้าก็ได้เอ่ยชมว่า..
มิแรนด้า : แอนเดรีย หล่อนเนี่ยเหมือนฉันจริงๆ เพราะว่าเราต้องเหยียบหัวคนอื่นเพื่อให้ตัวเองอยู่รอ...ไรประมาณเน้
แอนเดรีย : โนวจ้า ฉันไม่เหมือนเธอ ฉันไม่เหยียบใครเพื่อที่จะเอาตัวเองให้รอดเด้อ
มิแรนด้า : อ่อ เธอเหยียบหัวเพื่อนร่วมงานมาแล้วนะ เพื่อที่จะได้มาทำงานนี้ที่ปารีสไง...
นางเอกก็ เออหวะ แล้วก็คิดว่าฉันจะไม่เป็นคนแบบนั้น ก็เลยเปิดประตูรถ เทเจ๊มิแรนด้า แล้วก็โยนมือถือลงไปในน้ำพุแห่งนี้นี่เอง


ส่วน Devil wears Prada เวอร์ชั่นขุ่นแม่ มีพระเอกแถมมาข้างน้ำพุด้วยค่ะ


La Tour Eiffel
จุดหมายสุดท้ายของวันแรกนะคะ ก็คือหอไอเฟลนั่นเอง
ถ้าเกิดอยากเห็นหอไอเฟลแบบไม่เสียตังค์ และเป็นมุมกว้าง ก็ขึ้นเมโทร ลงสถานี Trocadero ได้เลยค่ะ ออกมาจากสถานีเจอเลย เรามาตอนเช้าด้วยรอบนึง ซึ่ง...555 มันย้อนแสงค่ะ ถ่ายออกมาก็คิดซะว่า Silhouette เก๋ๆ มองหน้าตัวเองไม่เห็นเลย แนะนำให้มาตอนเย็นๆ นะคะ 4 โมงไรงี้ แล้วอยู่จนพระอาทิตย์ตกไปโลด สวยมากๆ ค่ะ

อันนี้รูปถ่ายตอนเช้า ประมาณ 10 โมงนะคะ (นี่คือเช้าแล้ว 555)


ส่วนอันนี้ตอนพระอาทิตย์ใกล้จะตกค่ะ
ชื่อสินค้า:   ฝรั่งเศส, ปารีส, Strasbourg, Colmar, Disneyland Paris, Honfleur, Mont Saint Michel
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่