เนื่องจากผมพึ่งซื้อตู้เย็นLGมาจากBigC ยังไม่ถึงปี แล้วเกิดอาการตู้เย็นช่องธรรมดาไม่เย็นและไม่มีไอเย็นออกมา จึงโทรแจ้งศูนย์บริการ LG ให้มาดูตู้เย็น
ผ่านไปประมาณ2-3วัน จึงมีช่างจากLG โทรมาบอกว่าจะเข้ามาดูตู้เย็นให้โดยหากมีประกันอยู่จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ผมไม่มีใบเสร็จในการซื้อผมจึงถามว่าทำใบเสร็จหายแล้วยังประกันอยู่มั้ย พนักงานตอบกลับมาว่า เดี๋ยวผมเข้าไปดูเลขบาร์โค้ดที่ติดอยู่ข้างตู้เย็นก็จะรู้ได้ว่าซื้อมาตอนไหน และช่างก็แจ้งอีกว่าถ้าเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ1200-1800บาท แล้วแต่รุ่น เมื่อพนักงานมาถึงได้ทำการตรวจเช็คดูแล้วบอกว่าไม่มีอะไรเสียหายเป็นปกติทุกอย่าง และทำการปรับอุณหภูมิให้ใหม่ แล้วได้ทำการแจ้งเก็บค่าบริการ เป็นเงิน 1,200 บาท บอกว่าเป็นค่าService เป็นระเบียบของทางบริษัทและให้ใบเสร็จมา ซึ่งน้องผมเป็นคนจ่ายตังให้เค้าไป (ผมติดธุระจึงไม่ได้ไปดูด้วยตัวเอง)
คำถามคือ
1.ตู้เย็นยังไม่ถึงปีควรที่จะอยู่ในประกัน แต่ทำไมกลับเสียค่าบริการ
2.ทั้งที่ไม่ได้เปลี่ยนอะไหล่หรืออุปกรณ์ใดๆให้เลยแต่ทำไมถึงต้องเสียตังถึง 1,200 บาท ผมคิดว่ามันมากเกินไป
มีใครเคยเจอประสบการณ์แบบนี้กับการบริการหลังการขายของ ยี่ห้อ LG นี้บ้างเป็นยังไงกันบ้างครับ
การได้รับบริการหลังการขายจากตู้เย็น LG
ผ่านไปประมาณ2-3วัน จึงมีช่างจากLG โทรมาบอกว่าจะเข้ามาดูตู้เย็นให้โดยหากมีประกันอยู่จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ผมไม่มีใบเสร็จในการซื้อผมจึงถามว่าทำใบเสร็จหายแล้วยังประกันอยู่มั้ย พนักงานตอบกลับมาว่า เดี๋ยวผมเข้าไปดูเลขบาร์โค้ดที่ติดอยู่ข้างตู้เย็นก็จะรู้ได้ว่าซื้อมาตอนไหน และช่างก็แจ้งอีกว่าถ้าเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ1200-1800บาท แล้วแต่รุ่น เมื่อพนักงานมาถึงได้ทำการตรวจเช็คดูแล้วบอกว่าไม่มีอะไรเสียหายเป็นปกติทุกอย่าง และทำการปรับอุณหภูมิให้ใหม่ แล้วได้ทำการแจ้งเก็บค่าบริการ เป็นเงิน 1,200 บาท บอกว่าเป็นค่าService เป็นระเบียบของทางบริษัทและให้ใบเสร็จมา ซึ่งน้องผมเป็นคนจ่ายตังให้เค้าไป (ผมติดธุระจึงไม่ได้ไปดูด้วยตัวเอง)
คำถามคือ
1.ตู้เย็นยังไม่ถึงปีควรที่จะอยู่ในประกัน แต่ทำไมกลับเสียค่าบริการ
2.ทั้งที่ไม่ได้เปลี่ยนอะไหล่หรืออุปกรณ์ใดๆให้เลยแต่ทำไมถึงต้องเสียตังถึง 1,200 บาท ผมคิดว่ามันมากเกินไป
มีใครเคยเจอประสบการณ์แบบนี้กับการบริการหลังการขายของ ยี่ห้อ LG นี้บ้างเป็นยังไงกันบ้างครับ