สวัสดีค่ะ หลังจากที่หายไปนาน หลังจากที่รักษาสิวด้วยตัวเองจนผิวดีขึ้นในระดับหนึ่ง เราจึงตัดสินใจอยากทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวต่อ วันนี้เลยมาแชร์ประสบการณ์การรักษาหลุมสิว และการดูแลผิวหลังทำเลเซอร์ ใครที่ผิวตายแล้ว อยากเกิดใหม่ลองวิธินี้อาจจะได้ผล 5555

"ภาพเปรียบเทียบระหว่างช่วงที่ผิวเยินจากการรักษา และหลังจากผิวหายดีแล้ว"

          หลังจากวันที่ทำไปนะคะหน้าของเราจะเป็นจุดเล็กๆๆ เต็มทั้งแก้มค่ะ ตรงที่หมอยิงให้ค่ะ ตอนทำจะได้กลิ่นไหม้ๆๆค่ะ นั้นคือกลิ่นขนที่หน้าของเราเองค่ะ  วันแรก หน้าจะแดงๆๆ โห้ยยยยยยย แล้วไม่แต่งหน้าอีก จัดไปเลยค่ะ ต้องทนเพื่อความสวยนะคะเพื่อน ๆ ^^
          ก่อนอื่นขออธิบายเรื่องหลุมสิวตามความเข้าใจของเราก่อนนะคะ (ขอวิชาการนิดนึง 55) ปกติเป็นคนที่เป็นสิวแล้วจะเป็นหลุมเลยแม้จะไม่ได้บีบ ไม่ได้แกะเลยก็ตาม  จากที่หาข้อมูลในกูเกิ้ล หลุมสิวของเราน่าจะเกิดจาก ถ้าเราเป็นสิวจะมีผังผืดใต้รอยแผลสิวดึงผิวให้เป็นหลุม เพราะฉะนั้นการป้องกันไม่ให้หน้าเป็นหลุมที่ดีที่สุดก็คือ ป้องกันและรักษาไม่ให้เป็นสิว  แต่เมื่อเป็นแล้วก็ต้องรักษากันต่อไป ทั้งสิวและหลุม 555555555

"ภาพช่วงที่ผิวเยินก่อนการรักษาหลุมสิว"

          ที่สำคัญหลังการทำเลเซอร์และ Subcision การดูแลผิวเป็นสิ่งสำคัญมาก มาดูว่าการดูแลผิวหลังทำเลเซอร์ และดูแลผิวเพื่อรักษาแผลและป้องกันผิวไม่ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างไรบ้าง
          ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าหลังทำเลเซอร์กลับมาหมอจะทายาฆ่าเชื้อที่เป็นเนื้อขี้ผึ้งเหนียวๆ และห้ามล้างหน้า 24 ชั่วโมง เพราะแผลไม่ควรจะโดนน้ำเพราะอาจติดเชื้อได้ หลังจาก 24 ชั่วโมงค่อยมาล้างหน้าและดูแลผิวต่อไปก็คือ หลังจากแผลแห้งตกสะเก็ดแล้วนั้น 3-4 วันผ่านไปจะรู้สึกคันยิบๆๆๆ  แอบอยากจิกหน้ามากๆๆๆ โอ้ย  โอ้ย  เราใช่เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ค่ะ สะเก็ด จะหลุดหมด เราก็เริ่มทาตัวนี้ค่ะ

          เรารู้จัก NATCARE SCAR CREAM ก็จากกระทู้ของเพื่อน ๆ ที่รีวิวเยอะเห็นแล้วเห้ย! ต้องลองอะ สำหรับตัวเราเอง ต้องการให้แผลฟื้นฟูไวๆ หายเร็ว ๆ คือเค้าไม่ได้ช่วยแค่พวกฟื้นฟูผิวอย่างเดียวนะ อันนี้เค้าช่วยเรื่องรอยแผลเป็นได้ทุกอย่างเลย พวกรอยนูน แผลหลุมพวกนี้ด้วยค่ะ ในส่วนผสมเค้าอันนี้ก็น่าสนใจค่ะ

          ประกอบด้วยส่วนผสมสำคัญ 4 ชนิด คือ Aruba Aloe Vera ว่านหางจระเข้จากเกาะอารูบาซึ่งเป็นเกาะที่มีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมกับการปลูกว่านหางจระเข้ ทำให้ได้สารสำคัญที่มีประสิทธิภาพสูง ผสานพลังควบคู่กับ Jojoba Oil, Vitamin E และ Vitamin C

          ช่วยป้องกันการเกิดแผลนูนแล้วยังลดการอักเสบของแผลได้ดีด้วยค่ะ จริง ๆ  สารสกัดเค้าค่อนข้างเยอะนะ ที่เป็นตัวช่วยสมานแผลเช่น ว่านหางจระเข้ที่เราคุ้น ๆ กันอยู่แล้วเนอะ แล้วก็วิตามินซี ที่ช่วยทำให้แผลนุ่มไม่แข็งเป็นไต ๆ นี่ยกมาแค่ตัวที่เรารู้จักซึ่งมันมีมากกว่านั้นเยอะมากกก เอาเป็นว่าทุกตัวช่วยดูแลรอยแผลเป็นของเราจ้า ^-^





          สำหรับเรื่องกลิ่นค่อนข้างแรงกลิ่นบอกไม่ถูกจริง ๆ ค่ะแต่ว่าไม่ได้เหม็นนะ 555 อยู่ในจุดที่ใช้ทนกลิ่นได้นึกออกมะฮะ 555 เอาเป็นว่าดีทุกอย่างยกเว้นกลิ่นนิดนุงนะ ^^ เพราะเห็นว่าเค้าไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมไงละ


          ผลจากการใช้ระยะเวลารวม 25 วันค่ะ เห็นได้ชัดว่ารอยแดงจากการตกสะเก็ดของเราจางลงเยอะมาก ผิวเริ่มเนียนเสมอกัน ผิวดูฉ่ำๆอิ่มน้ำขึ้นดีคะ
ส่วนรอยดำบริเวณอื่นก็ทานะคะ คือรักษานานมากกว่ารอยแดงอีกนะ! แต่ผ่านพ้นมาได้ถือว่าโอเคค่ะ ก็รักษากันต่อไปพูดเลยว่าต้องใจเย็นมาก ๆ
กับการรักษารอยแผลหลังจากการทำเลเซอร์เนี่ย เป็นอะไรที่บอบบางมากๆ ต้องเป็นระยะเวลาที่รังวังผิวเป็นพิเศษ เราเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังรักษารอยแผลเป็นเหมือนเรานะคะ จำขึ้นใจไว้อย่างเดียวเลยค่ะ “ขยันทา” รับรองเห็นผลแน่นอน

          จะบอกว่าท้อทุกครั้งที่เป็นเป็นแผลจากอะไรก็ตาม กันไว้เลยค่ะ เรื่องแผลเป็นทาไว้ก่อนเลย ก่อนจะรักษาไม่หายจนต้องไปเสียตังทำเลเซอร์แพงๆ T T  เอาเป็นว่าสำหรับกระทู้นี้หวังว่าน่าจะมีประโยชน์ให้กับเพื่อน ๆ ดูเป็นทางเลือกในการรักษารอยแผลเป็นต่างๆนะคะ ^^ ถือว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์ฟื้ฟูผิวหลังจากแผลแห้งตกสะเก็ด
          สำหรับใครที่กำลังเป็นแผลเป็นอยู่ก็ขยันทาครีมลดรอยแผลเป็นนะคะ จะช่วยลดรอยดำ รอยแดงได้ดีขึ้นจ้า  ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้าน๊า วันนี้ไปก่อนแล้ว บ๊าย..บายค๊า