West Coast Road Trip ตะลุยขับรถเที่ยวอเมริกากว่า 2,800 กิโลเมตร 7 วัน 7 คืน

สวัสดีจ้า เรามีไรจะมาเล่า คือๆเราไป Road Trip มากับอเมริกาฝั่งตะวันตก ขอบอกก่อนว่าเป็นทริปที่ต้องขับรถเยอะมาก รวมๆแล้วประมาณ 2,800 กิโลเมตรขับกันจนหูอื้อกันเลยทีเดียว นอกจากขับกันหนักหน่วงแล้ว เรายังต้องกินข้าวกันบนรถอีก บอกแล้วว่าต้องขับทรหดจริง!! ทั้งนี้ทั้งนั้นทริปนี้เรามีเวลา 7 วัน 7 คืน ไปกับ 4  รัฐคือ California - Arizona - Utah - Nevada เราขอเกริ่นก่อนว่าเรามาเรียนอยู่ที่อเมริกาแต่เราอยู่ฝั่ง East พอดีมีเวลาช่วงคริสมาสต์ตั้งแต่วันที่ 23-30 ธันวาคม 2561 เราเลยอยากไปเที่ยวฝั่ง West ดู เราไปกันทั้งหมด 5 คนเป็นผู้หญิงทั้งหมด มาดูกันว่าเราจะรอดไหม และจะออกมาเป็นยังไง!

เราเดินทางถึงสนามบิน LAX กันวันที่ 23 ธันวาคม 2561 ดึกๆจากนั้นเราก็เข้าที่พักเลย เราพัก Days Inn by Wyndham Los Angeles ราคา 1 ห้องสำหรับ 5  คน อยู่ที่ 158$ รวมอาหารเช้า มาดูแพลนคร่าวๆกันก่อนดีว่า
Day1; 24-12-61 : Santa Monica >Hollywood Walk of Fame > Hollywood Sign > Las Vegas
Day2; 25-12-61 : Las Vegas > ป้าย Welcome to Las Vegas> 7 Magic Mountains> Page
Day3; 26-12-61 : Page > Antelope Canyon > Horseshoe Bend > Monument Valley > Page
Day4; 27-12-61 : Page > Grand Canyon > Fresno
Day5; 28-12-61 : Fresno > Yosemite National Park > Twin Peak (San Francisco)
Day6; 29-12-61 : Golden Gate > Ghirardelli (Chocolate shop) > Pier 39 > Union Square
Day7; 30-12-61 : Lombard Street > The first Swensen's > California Street > Ferry Building Marketplace

การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
รถเช่า
เรามาเริ่มจากรถเช่ากันก่อนเลยดีกว่า เราได้ได้ทำการจองรถจาก Enterprise.com โดยรับรถจากจุดรับรถของบริษัทที่ใกล้กับสนามบิน LA และเราคืนที่สนามบินซานฟรานซิสโก ขอบอกก่อนว่าเราไม่ได้เช่าทั้งหมด 7 วัน เพราะที่ซานฟรานซิสโกนั้น เราไม่ได้ใช้รถ เพราะที่ค่าที่จอดรถค่อนข้างแพง เราเลยเลือกใช้อูเบอร์แทน

เราเลือกเป็นรถ SUV ของ Hyundai เหมาะสำหรับกรุ๊ป 5  คน เพราะมีพื้นที่เก็บกระเป๋าเยอะ เราเช่าตั้งแต่ 8 โมงเช้าของวันที่ 24 ธันวาคม 2561 ที่สนามบิน LA ถึง 10 โมงเช้าของวันที่ 29 ธันวาคม 2561 ที่สนามบินซานฟรานซิสโก ราคาค่าเช่าทั้งหมดอยู่ที่ 1,190 $

ใบขับขี่สากล
คนที่จะมาขับที่ได้จะต้องมีใบขับขี่สากล ซึ่งสามารถทำมาจากไทยได้ในราคา 505 บาท หรือใครที่อยู่ที่นี่และถือใบขับบี่ของอเมริกาก็สามารถใช้ได้เลย

Pocket Maps Lite
เป็นแอพลิเคชั่นของ Google Maps แต่สามาถใช้แบบ offine ได้ แล้วทำไมต้องมีละ? เพราะว่าบางทีที่เราไปจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ แต่เราจะบอกว่าถ้าใครจะซื้อซิมที่อเมริกา แนะนำให้ใช้ของค่าย Verizon เพราะสัญญาณเขาดีจริงๆ มีสัญญาณครอบคลุมเกือบทั้งเส้นทางขับรถของเรา มีแค่บางที่เท่านั้นที่สัญญาณไม่ถึง

เอาละ ถ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เราก็ไปกันเลย!!
Day1; 24-12-61 : Santa Monica >Hollywood Walk of Fame > Hollywood Sign > Las Vegas

จากคืนที่ 1 ที่เราพักกันที่ LA เราก็ตื่นเช้ากัน กินอาหารเช้าและออกไปรับรถที่จุดรับรถของ Enterprise และมุ่งหน้าไป Santa Monica ซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งของ LA เราไปกันค่อนข้างเช้า ผู้คนยังไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ อากาศกำลังดีไม่ร้อนและไม่หนาวเกินไป เดินเล่นชิลๆ จะช้อปจะกินก็ตามสะดวกเลยจ้า

ที่ถัดไปคือ Hollywood Walk of Fame เป็นที่ๆเราเคยเห็นตามทีวีที่มีจะชื่อของคนมีชื่อเสียงอยู่บนพื้น นั่นแหละคะท่านผู้ชม ตรงนั้นเลย! ตรงนี้ถ้าขับรถมาสามารถจอดรถได้ตาม Public Parking ราคาที่เราจอดคือ 10$


ใครอยากได้ชื่อตัวเองเข้าไปอยู่ในกรอบรูปดาวนั้น เขาก็มีบริการใส่ชื่อคุณลงไป แค่นี้ก็จะมีรูปเกร๋ๆไปโชว์เพื่อนละจ้า

หลังจากนั้นเราก็ไป Hollywood Sign กันเลย เป็นแลนด์มาร์คที่ใครๆก็ต้องมาถ่าย จุดที่ถ่ายภาพที่เราไปนั้น ให้ตั้งค่า GPS เป็น Canyon Lake Dr วิ่งเส้น Franklin Ave. กับ N Beachwood Dr ซึ่งจะวิ่งบนถนน N Beachwood Dr ขึ้นเขาไปจะเจอถนน Canyon Lake Dr ขับไปเรื่อยๆตามทาง อย่าไปกลัวเชื่อเรา เพราะเราได้ทำการกลัวและวกกลับทางเดิม และเสียเวลามาแล้ว เพี้ยนขำหนักมาก


เราออกจาก LA กันก็ประมาณ 5 โมง ลืมบอกว่าหน้าหนาวที่นี่จะเช้าช้ากว่าปกติและมืดเร็วมาก ประมาณ 4.30 ก็พระอาทิตย์ตกละ ใครจะมาช่วงหน้าหนาวก็คำนวณเวลาเที่ยวกันดีๆน้า เราขับจาก LA มุ่งตรงไป Las Vegas ใช้เวลาขับประมาณ 5 ชั่วโมง เราถึงที่พักกันประมาณ 4 ทุ่ม คืนนี้เราพักกันที่ Luxor Las Vegas ซึ่งโรงแรมที่เราพักก็เป็นโรงแรมที่มีบริการคาสิโน สำหรับใครที่สนใจจะเล่น สนนราคาที่พัก 2 ห้องอยู่ที่ 134.08$

เมื่อเช็คอินและเก็บของเรียบร้อยแล้ว เราก็ขับรถมาถนน Strip จริงๆเราสามารถเดินจากโรงแรมได้ แต่เราเลือกขับรถเพราะเราเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว ก็จะมี Public Parking ให้สามารถเลือกจอด ไปเดินเล่นดูความหรูหราหมาเห่า และความอลังการของเวกัสยามค่ำคืน ใครที่มีแรงไปเล่นคาสิโนก็เชิญตามสะดวกค้า ส่วนเรานั้นหัวถึงหมอนก็เป็นอันว่าไม่รู้สึกตัวอีกเลย

------------------------------------------------------------------


Day2; 25-12-61 : Las Vegas > ป้าย Welcome to Las Vegas > 7 Magic Mountains> Page
เริ่มวันที่ 2 ออกจากโรงแรมกันประมาณ 10 โมงเช้า เพื่อไปยังป้าย Welcome to Las Vegas เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ต้องมา!! ผู้คนก็มากมายเหลือเกิน เราใช้เวลาต่อคิวประมาณ 30 นาที

ที่ต่อมาคือ 7 Magic Mountains ขับจากตัวเมือง Las Vegas มาไม่ไกล ก็จะแท่นหินสีๆ 7 แท่งตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่
ช่วงสาระมีอยู่จริง! แล้วเจ้าหินนี่คืออะไร? เจ้าหินสี 7 แท่งเป็นผลงานของศิลปินชาวสวิส ซึ่งหินทั้งเจ็ดแสดงออกถึงการปรากฎตัวของมนุษย์ท่ามกลางทะเลทราย



เราออกจากลาสเวกัสกันประมาณบ่ายสาม ขับมุ่งตรงไปยัง Page ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆในรัฐ Arizona ใช้เวลาขับประมาณ 5  ชั่วโมง เราไปถึงที่พักกันค่ำๆ เราจะพักกันที่นี่ 2 คืน โดยที่อยู่ในอุทยานชื่อ Lake Powell Resorts & Marinas ราคาค่าที่พัก 1 ห้องสำหรับ 2  คืนคือ 267$

------------------------------------------------------------------


Day3; 26-12-61 : Page > Lower Antelope Canyon > Horseshoe Bend > Monument Valley > Page
วันที่ 3 สำหรับการเดินทาง เราตื่นกันตั้งแต่เช้าเพื่อมากินอาหารเช้าของโรงแรม เนื่องจากเมื่อคืนเรามาถึงโรงแรมค่ำแล้วจึงไม่ได้เห็นวิวของโรงแรม แต่เมื่อเราไปกินอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ทำให้เราค่อนข้างตะลึงกับวิวของโรงแรมที่สวยมาก อาหารก็อร่อย ช่างมีความสุขอะไรเช่นนี้อมยิ้ม36

วันนี้ที่เราตื่นกันเช้ามาก เพราะเราจะไป Lower Antelope Canyon ซึ่งเราได้ทำการซื้อทัวร์ก่อนที่จะมาไว้แล้ว เราเลือกทัวร์ของบริษัท Ken's Tour ซึ่งจริงๆแล้ว Antelope Canyon จะมีทั้ง Upper และ Lower แต่เราเลือก Lower เพราะถูกกว่า ราคาต่อคนรวมภาษีอยู่ที่ 50.80$  เราได้เลือกทัวร์เป็นเวลา 8.30 น. โดยจะต้องไปถึงก่อนประมาณ 30 นาที พอไปถึงให้ไปเช็คอินที่เคาร์เตอร์ เโดยแต่ละรอบจะแบ่งเป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีไกด์ 1  คนดูแล เราขอแนะนำให้เซ็ตค่ากล้องไว้ให้เรียบร้อย เพราะเวลาลงไปข้างล่างแล้ว เราจะไม่มีเวลาสำหรับเซ็ตค่ากล้อง เพราะไกด์ดุมาก เป็นทัวร์แบบรีบๆ รีบเดินรีบถ่าย555555








เราเสร็จจากทัวร์ประมาณ 9.30 น. โดยทัวร์แต่ละรอบใช้เวลาประมาณ 1  ชั่วโมง เมื่อเสร็จจากการเดินทัวร์ ก็มีของฝากให้เลือกซื้อกันตามใจชอบ และเราก็เดินทางต่อไปยัง Horseshoe Bend ซึ่งไม่ไกลจาก Lower Antelope Canyon มากนัก ใช้เวลาขับประมาณ 10 นาที โดยที่เราจะสามารถจอดรถได้ที่ Public Parking ราคาค่าฝากคือ 20$ ต่อคัน และจะมีรถรับส่งให้
ขับต่อไม่รอละน้า เราขับกันต่อ จาก Horseshoe Bend ไปยัง Monument Valley ที่อยู่ในรัฐยูทาห์ ตามไหล่ทางจะมีที่ให้จอดพักและถ่ายรูป เราหามุมที่ถูกใจก็จอดและถ่ายได้เลยจ้า



คืนนี้เรากลับมาพักกันที่โรงแรมเดิม ใช้เวลาขับกลับมา 2 ชั่วโมง กลับมาถึง Page เราก็หาอะไรกินและกลับที่พักเพื่อพักผ่อนเอาแรง เพราะวันถัดไปเราต้องขับรถกันอย่างทรหดมากถึงมากที่สุด

------------------------------------------------------------------


Day4; 27-12-61 : Page > Grand Canyon > Fresno

วันนี้เป็นอีกวันที่เราต้องตื่นเช้า กินอาหารเช้าและออกจากโรงแรมประมาณ 8 โมงเช้า เพื่อมุ่งหน้าไปยัง Grand Canyon ฝั่ง South Rim เราสามารถตั้ง GPS ตามชื่อได้เลย จุดที่เราแนะนำคือบริเวณร้านขายของที่ระลึกที่ตั้งอยู่ริมหน้าผาชื่อ Kolb Studio บริเวณ Grand Canyon Village


เราออกเดินทางกันต่อ เป้าหมายของเราคืนนี้คือ Fresno ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆใน California และต้องใช้เวลาขับรถกว่า 10 ชั่วโมงจาก Grand Canyon ระหว่างทางเราก็พบเจอกับป้าย Historic Route 66 ที่เราเคยเห็นป้ายบ่อยๆตามร้านอาหารชิคๆทั้งหลายแหล่ Historic Route 66 คือถนนไฮเวย์ในอดีตของอเมริกา เริ่มจากฝั่งตะวันตกที่ Santa Monica ที่ California จนถึงชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ระยะทางเกือบ 4,000 กิโลเมตร เราได้แวะเข้าไปชม The Arizona Route 66 Museum ที่ตั้งอยู่ที่เมือง Kingman ของ Arizona

เราเดินทางต่อจนถึงเมือง Fresno เราไม่ได้จะเที่ยวที่เมืองนี้ เราแค่พักที่นี่เพื่อวันรุ่งขึ้นสามารถไป Yosemite National Park ไม่ไกลมากนัก คืนนี้เราพักที่โรงแรม Radisson Hotel Fresno 1 ห้องสำหรับ 5 คน อยู่ที่ 119$

------------------------------------------
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่