***
สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปที่เคารพรักทุกท่าน สืบเนื่องจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปงานจับมือน้องๆ "BNK48" ที่ไบเทคฯเป็นครั้งแรก จึงอยากจะมาขอเล่าประสบการณ์ที่น่าผิดหวังเป็นอุทาหรณ์สอนใจแก่เพื่อนๆกันหน่อยนะครับ โดย "งานจับมือ" นี้อันที่จริงผมเล็งไว้ว่าจะไปตั้งแต่รอบก่อนแล้วครับ แต่ห้วงนั้นเผอิญติดธุระด่วนบางประการจึงต้องรอคอยอย่างใจจดใจจ่อมาจนถึงเดือนมกราคมแต่ทว่า! สิ่งที่ได้รับกลับมาหลังจากการอดทนรอคอยอันแสนยาวนานก็คือ...
ตรงนี้ผมจะขอรวบรัดเลยนะครับโดยน้องคนแรกที่ผมได้มีโอกาสเข้าไปจับมือคือเจ้าแมวน้ำจอมแก่น "อรอุ๋งคนจีเนียส" รอบเวลาประมาณบ่าย3โมง แต่ผมไปช้านิดหน่อยจึงเข้าไปเกือบท้ายๆเลนช่วงใกล้จะหมดเวลาแล้ว ทีนี้พอตรวจบัตร ล้างมือ วางของตามขั้นตอนเสร็จกำลังจะเดินเข้าไปหน้าจุดจับมือ ทว่าพอเห็นน้องอรมองสบตามาที่ตัวเองเป็นครั้งแรกในชีวิต จู่ๆสันกรามและขากรรไกรท่อนล่างมันก็ขยับขึ้นลงโดยอัตโนมัติเหมือนเจ้าเข้าและไม่สามารถหยุดอาการดังกล่าวได้เลย(ผมไม่ได้เป็นโรคชักกระตุกนะฮะ) คำพูดที่เตรียมไปจะขอบคุณน้องก็มาจุกอยู่ที่ลูกกระเดือกไม่สามารถพูดอะไรได้ทั้งสิ้นนอกจาก อะ อะ อะ เอ่อ! (ใช่แล้วครับ! หลังรอคอยมาแสนนานประโยคที่ผมได้มีโอกาสพูดกับน้องๆ "BNK" เป็นคำแรกก็คือ อะ อะ อะ เอ่อ! -_-") ทั้งที่ปรกติผมไม่ใช่คนพูดเสียงค่อยแต่ไม่รู้ทำไมวันนี้โทนเสียงมันจูนต่ำมาเองโดยอัตโนมัติ และที่เลวร้ายกว่านั้นคือด้วยความที่ไปครั้งแแรกผมจึงเผลอเอามือตัวเองไปวางแถวๆราวกั้น เท่านั้นแหละครับที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้นมาทันที เมื่อจู่ๆน้อง "อรอุ๋ง" เธอก็มาดึงมือผมไปจับไว้เบาๆโดยไม่ทันได้ตั้งตัว!
คือต้องขอบอกก่อนว่าถึงจะไปงานจับมือแต่ความตั้งใจของผมคือไปขอบคุณและให้กำลังใจน้องๆสองคน ที่เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงของชีวิตตัวเองช่วงระยะหลังๆ ดังนั้นผมจึงไม่ได้คิดจะไปแตะเนื้อต้องตัวหรือจับมือถือแขนอะไรน้องๆทั้งสิ้น แต่แล้วจู่ๆน้อง "อรอุ๋งคนจีเนียส" กลับคว้ามืออันแสนหยาบกร้านของผมไปจับไว้เฉยเลย "ฮืออออ ใจร้ายที่สุด น้องอรทำแบบนี้กับหัวใจอันบอบบางของพี่ได้ยังไงฮะ"
ตอนนั้นสายตาผมมองหน้าน้องอรเขาก็จริงแต่ขาทั้งสองมันสั่นพั่บๆๆจนจะทรุดไปกองกับพื้นอยู่แล้ว สมงสมองมันเบลอไปหมดจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าน้องใส่ชุดอะไร ความรู้สึกน่าจะเหมือนตอน "หนำฉา" เอ๊ย! "หยำฉา" โดนมนุษย์ดัดแปลงรุ่นลุงเอามืออุดปากและดูดพลังงานจนหมดร่างใน "ดราก้อนบอล" ยังไงยังงั้น
ความรู้สึกของผมตอนถูก "อุ๋งๆ" จับมือทั้งสองข้าง!
แถมที่ร้ายกว่าการไปยีนอึ้ง สันกรามสั่น พูดติดขัดแล้ว คำพูดขอบคุณที่เตรียมไว้ก็เลือนหายไปจากสมองหมดสิ้น ในโสตประสาทหูของผมได้ยินเสียงเล็กๆของน้องพูดกลับมาแบบจับใจความไม่ค่อยชัด ผมเองเหมือนจะบอกอะไรน้องไปว่ามาครั้งแรก ขอบคุณ ตั้งแต่ตามวงมาชีวิตแฮปปี้ อะไรซักอย่างก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกัน แล้วจู่ๆเสียงระฆังก็มาช่วยไว้เมื่อการ์ดด้านข้างบอกว่าหมดเวลาและผมดึงสติตัวเองกลับมาได้ แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์สาปส่งซ้ำสองเมื่อน้องอุ๋งๆยิ้มแป้นส่งนิ้วก้อยมาเหมือนจะเกี่ยวก้อย แต่สมองส่วนกลางผมตอนนั้นมันเบลอไปหมดจึงได้แต่ยืนเสียงสั่นขอบคุณน้องแล้วรีบซอยเท้าหนีออกมาจากบริเวณดังกล่าวอย่างงงงวยและน่าทุเรศเวทนาตัวเองเป็นที่สุด (ขอโทษอุ๋งๆด้วยนะฮะ T_T)
ทีนี้มาถึงน้องคนที่สองที่ทำผมผิดหวังอีกราย ใช่ครับ! "น้องเจน" สลอธน้อยแสนน่ารักขวัญใจแม่ยกนี่เอง หลังจากจับมือน้องอรไปแล้วทำให้ผมเริ่มได้สติสตังค์ขึ้นมาและมีค่าประสบการณ์กับสกิลเพิ่มขึ้นมาบ้าง คราวนี้รอบจับมือ "น้องเจน" ช่วง4โมงครึ่งเลยตั้งใจจะไม่ให้ผิดหวังและ Fail อีก จึงเตรียมตัวมาอย่างดีโดยคราวนี้มั่นใจว่าต้องไม่มีอะไรผิดพลาดแน่ หลังจากต่อแถว ล้างมือ ยื่นบัตร ฝากของเสร็จคราวนี้ผมเอามือซุกเสื้อแจ็คเก็ตเลยครับเพื่อตั้งใจจะขอบคุณน้องอย่างเดียว แต่ถึงเวลาพอผมสบตากับน้องเจนปุ๊บ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ตาน้องสีเข้มสวยมาก! ปรกติเคยเห็นน้องแต่ในรูปและคลิปเท่านั้นไม่เคยได้เจอในระยะเผาขนขนาดนี้มาก่อน ใช่แล้วครับ!โรคสันกรามค้างกำเริบขึ้นอีกครั้งคราวนี้พ่วงด้วยอาการ "ลิ้นเปลี้ย" เพิ่มมาอีก1เคสต์ น้องเจนเองเริ่มบอกทักทายแต่สิ่งที่แฟนคลับน้องสลอธอย่างผมพูดเป็นครั้งแรกกับเมมเบอร์ที่ตนเองชื่นชอบคือ "อะ..อะ..เอ่อ" (ฮ่วยย
) และก็แน่นอนครับ เหมือนมีใครมาจูนเสียงตัวเองให้ต่ำลง50เดซิเบลโดยอัตโนมัติ ณ จุดนั้น น้ำลายมันจุกที่คอ มือที่ล้วงกระเป๋าอยู่เปียกไปหมด ก่อนการ์ดด้านข้างจะเตือนสติหมดเวลาผมจึงรีบซอยเท้าออกมาอย่างขายขี้หน้าประชาชีและธารกำนัลเป็นรอบที่สองในเวลาติดๆกัน T_T
นอกจากนั้นความผิดหวังยังไม่หมดครับ เมื่อความตั้งใจแต่แรกคือจะไปจับมือ "เจ้าสลอธน้อย" รอบพิเศษด้วย ผมจึงรวบรวมบัตร10ใบและความกล้าในหัวใจไปหา "น้องเจน" อีกครั้งในรอบพิเศษ คราวนี้มั่นใจว่าคงไม่ Fail แน่เพราะมีประสบการณ์มาสองรอบแล้ว หลังจากต่อแถวรอบพิเศษและคุยกับน้องๆแฟนคลับในแถวไปซักพัก ก็ตามขั้นตอนครับ ล้างมือด้วยเจล(จุดนี้แหละที่ผมว่ามันแปลกๆ แต่เดี๋ยวจะเล่าอีกที!) ตรวจบัตร ฝากของ พอคนก่อนหน้าเดินออกไป ผมรวบรวมความกล้าเดินไปหาน้องโดยไม่ลืมจะเอาสองมือซุกแจ็คเก็ตตัวโปรดเหมือนเดิม(เห็นไหมว่าเริ่มมีทักษะแล้ว อิ อิ) แต่แล้วเรื่องงามหน้าก็บังเกิดครับพอผมสบตาขึ้นไปเห็น "น้องเจน" ยิ้มแฉ่งเท่านั้นแหละฮะภาพตรงหน้ามันเหมือน "ดอกทานตะวัน" ในฤดูร้อนอันแสนสดใสกำลังผลิบานพร้อมๆกับเสียงเพลง "เวลาเธอยิ้ม" ของ "โพลี่แคท" ดังก้องออกมายังไงยังงั้น ตอนนั้นเองระบบ "Processor" ประมวลผลในหัวสมองมันเบลอและErrorไปหมด จนลืมสิ้นทุกสิ่งอย่างเหมือนโลกมันหยุดหมุนไปชั่วขณะ สคริปต์ที่เตรียมมาว่าจะพูดอะไรกับเจ้าสลอธน้อยในเวลา80วิจู่ๆก็โดนลบทิ้งหายเกลี้ยง ตอนนั้นตัวเองยืนสตั๊นท์อยู่ครู่หนึ่งไม่พอดันทะลึ่งพล่ามแบบไร้สติออกมาหาน้องว่าต้องเป็นเพราะเจลล้างมือแน่ๆที่ทำให้ลืมหมด (อนาถจริง ปลิงเรียกพี่
)
ภาพที่ผมเห็น เมื่อเจ้าสลอธน้อยส่งยิ้มมา
ที่สำคัญน้องเจนเองก็ถามย้ำมาว่า "ไหนลองคิดซิว่าพี่จะมาพูดอะไร" แล้วทำหน้าอมยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ใส่ จุดนี้แทนที่ผมจะคิดได้กลับสมองกลวงหนักยิ่งกว่าเดิม กล้ามเนื้อแฮมสตริงค์ที่ขาสั่นยิ่งกว่าเจ้าเข้าและพร้อมจะทิ้งดิ่งลงไปวัดพื้นได้ทุกเมื่อ แต่ ณ ตอนนั้นต้องแกล้งยืนตรงให้น้องเห็นว่าเรายังประคองสติไว้ได้ เพราะไม่อยากกลายเป็น "จำเลยบาป" บนข่าวหน้าหนึ่ง "โอตะชราเป็นลมล้มฟุบสิ้นสติหน้าเลนส์จับมือน้องเจนไอดอลสาวBNKกลางไบเทค" แต่ถ้าน้องเจนสังเกตุดีๆคงจะเห็นว่าร่างกายซีกขวาของผมมันเริ่มง่อยเปลี้ยเสียกำลังยืนไม่ตรงไปแปดส่วนแล้ว จากนั้นเวลาที่เหลือของผมก็ถูกใช้ไปอย่างรวดเร็วด้วยการด้นสดแบบไร้สติที่สุดในชีวิต ตอนนั้นมองหน้าน้องแล้วพล่ามเรื่องไร้สาระไปเรื่อยเปื่อยน่าจะประมาณ มาครั้งแรก อยากมาขอบคุณ ตามน้องแล้วเหมือนชีวิตได้รับพลังบวก จิ๊กซอว์ บลาๆๆผมเองก็จำไม่ค่อยได้แม่น ขนาดชุดที่น้องใส่ก็จำไม่ได้จนบัดนี้ แต่ที่แน่ๆคือน้ำเสียงสั่นเครือมากแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนราวกับตอนเห็นของลดราคาใน Shopee ถูกคนแย่งตัดหน้าซื้อไปแล้วชนิดเส้นยาแดงผ่าแปดยังไงยังงั้น
เท่านั้นยังไม่พอเมื่อน้องStaffเข้ามาบอกหมดเวลาผมเลยรีบขอบคุณน้องด้วยอาการประหม่าแล้วซอยเท้าหนีออกมาจากจุดเกิดเหตุโดยเร็ว แต่น้องเจนเร็วกว่าขั้นหนึ่งด้วยการเรียกไล่หลังมาว่า "แล้วครั้งหน้ามารับพลังบวกใหม่นะคะ" โอยยย พ่อแก้วแม่แก้ว จุดนั้นแทบอยากจะสวมวิญญาณขอมดำดินแทรกพื้นปูนหนีไปเลยครับแต่ทำอะไรไม่ถูกเลยได้แต่หันไปยิ้มแห้งๆและผงกหัวหงึกๆเป็นนกแก้วนกขุนทองด้วยสภาพที่แลดูไม่จืดที่สุด (ขอโทษด้วยนะฮะเจ้าสลอธที่พี่ไปทำเรื่องเปิ่นๆน่าอับอายใส่ ฮือๆๆ) พอเดินออกมาจากแดนเจอร์โซนแล้วผมเข้าใจความรู้สึกพี่ "โอ๊ต ปราโมทย์" ขึ้นมาทันทีเลยครับ คือก่อนหน้านี้ตอนเห็นพี่โอ๊ตหวีดน้องเจนและเสียอาการแบบรุนแรงตามสื่อต่างๆผมเคยนึกขำพี่เขานะ ว่าเฮ้ย!พี่โอ๊ตเล่นใหญ่รัชดาลัยไปรึเปล่าว้า แค่ได้มาอยู่ใกล้น้องๆเมมเบอร์ที่ตัวเองปลื้มก็เป็นไปขนาดนี้เลยรึ มาตอนนี้ผมต้องขอโทษพี่โอ๊ตมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ผมเข้าใจความรู้สึกของพี่แล้วครับ
และหลังจากจับมือเสร็จผมจึงได้มานั่งทบวนกับตัวเองว่าอะไรที่ทำให้คนจิตใจแกร่งกล้าปานหินผาเช่นผมกลายเป็นแบบนี้ได้ และเมื่อลองย้อนนึกภาพดูดีๆจึงพบสาเหตุ "เจลล้างมือ" นั่นเองครับ ใช่แล้ว!มันต้องเป็นที่ "เจลล้างมือหน้า" เลนแน่นอนที่ทำให้ผมเสียอาการได้อย่างมากมายแบบนี้ เพราะก่อนหน้าที่จะทาเจลร่างกายผมไม่มีปฏิกริยา ขากรรไกรค้าง ลิ้นเปลี้ย กล้ามเนื้ออ่อนแรง สมองเลอะเลือนเลย แต่หลังจากละเลงเจลลึกลับดังกล่าวบนฝ่ามือซักครู่อาการเหล่านี้ก็บังเกิดขึ้นแทบจะพร้อมๆกันทุกครั้ง ดังนั้นผมว่าใน "เจลล้างมือ" มันต้องมีสารประกอบแปลกปลอมอะไรซักอย่างที่ออกฤทธิ์โดยตรงต่อระบบประสาท กล้ามเนื้อ และสมองส่วนกลางอย่างแน่นอน รึว่านี่จะเป็น "ยาป้ายมอมเมาในตำนาน" ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาจนเป็นผลสำเร็จและได้เริ่มเอามาทดลองใช้กับผู้คนในวงกว้างโดยองค์กรลับบางกลุ่ม จึงอยากจะใคร่ขอเรียกร้องไปทางอฟช.ให้รีบตรวจสอบผู้จัดส่งเจลล้างมือดังกล่าวมาในงานโดยทันทีครับ ไม่แน่อาจมีผู้ประสงค์ร้ายใช้งานจับมือนี้เป็นสถานที่ทดลองยาตัวใหม่ก็เป็นได้ ฮิฮิ
**และนี่คือประสบการณืจับมือครั้งแรกอันแสนน่าผิดหวังและ Fail สุดๆของผมครับ ใช่ครับ!มันน่าผิดหวังมาก ผิดหวังจริงๆอย่างถึงที่สุด เพราะผมควรจะเตรียมตัวเตรียมใจและบัตรจับมือไปให้มากกว่านี้ ฮิฮิฮิ ขอโทษ อุ๋งๆและน้องเจนด้วยนะฮะ ที่พี่เจไดไปทำอะไรกะเปิ๊บกะป๊าบที่หน้าเลนส์ งานจับมือวันอาทิตย์ที่ผ่านมาพี่มีความสุขมากๆเลยฮะ รู้สึกร่างกายเหมือนได้รับการชาร์ตพลังงานจากน้องๆทั้งสองคนจนเต็มเปี่ยม พร้อมจะกลับมาต่อสู้ฟาดฟันเพื่อนำพาชีวิตตัวเองไปให้ถึงเป้าหมายที่วาดฝันได้อีกครั้งขอบคุณมากๆเลยครับ และสำหรับทุกท่านที่อดทนอ่านมาจนบรรทัดนี้ได้ผมหวังว่าเพื่อนๆจะได้รับบทเรียนเป็นอุทาหรณ์สอนใจจากกรณีดังกล่าวกันไม่บ้างก็น้อยครับ อิ อิ อิ ..ขอบคุณครับ..
ป.ล. น้องอรตัวจริงไม่อ้วนเลยและสวยมากๆ(ก.ไก่ล้านตัว) ต่อไปนี้ใครมาบอกว่าอุ๋งๆอ้วนอีกผมขอเถียงสุดใจขาดดิ้นเลยครับ ส่วนน้องเจนสวยน่ารักมาก(ก.ไก่ล้านตัวยกกำลังสอง)โดยเฉพาะดวงตาอันแสนสดใสคู่นั้น งื้ออออออออ
ป.ล.2 ขอบคุณเพื่อนๆ "ด้อมสลอธ" และ "ด้อมแมวน้ำ" ด้วยนะครับ เสื้องู้ยและโปสเตอร์อรอุ๋งจาก "กาชาอร" สวยมากครับ ^_^
(May the Sloth be with you)
ขอสลอธน้อยจงสถิตย์อยู่กับท่าน
*ฝากข่าวประชาสัมพันธ์จากบ้านสลอธฮะ*
เคยไหมที่อยากซื้อสินค้าที่ระลึกของแฟนคลับแต่ไม่กล้าใส่เพราะกลัวคำครหาหรือกลัวคนรู้ใจหาว่าหวีดเมมเบอร์มากกว่า วันนี้เราแก้ปัญหาเหล่านี้ได้แล้วครับกับเสื้องู้ย เสื้อยืดแฟนคลับที่คุณสามารถสวมใส่ไปได้ทุกแห่งหน โดยไม่มีใครรู้ว่าคุณเป็นแฟนคลับของวงBNKเพราะการออกแบบเสื้องู้ยย นั้นผู้ออกแบบตั้งใจให้มีความเป็นกลางและสามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส ตัวเสื้อตัดเย็บอย่างปราณีตสวมใส่สบายมีให้เลือกสามสีด้วยกัน ไม่ว่าคุณจะหวีดน้องๆคนไหนก็สามารถใส่เสื้องู้ยไปจับมือน้องๆได้เลย
พึ่งไปงานจับมือน้องๆ(BNK48)เป็นครั้งแรก รู้สึกผิดหวังและFailกับการจับมือ"น้องเจน"สลอธน้อย และน้อง"อรอุ๋ง"มากๆเลยครับ!
สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปที่เคารพรักทุกท่าน สืบเนื่องจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปงานจับมือน้องๆ "BNK48" ที่ไบเทคฯเป็นครั้งแรก จึงอยากจะมาขอเล่าประสบการณ์ที่น่าผิดหวังเป็นอุทาหรณ์สอนใจแก่เพื่อนๆกันหน่อยนะครับ โดย "งานจับมือ" นี้อันที่จริงผมเล็งไว้ว่าจะไปตั้งแต่รอบก่อนแล้วครับ แต่ห้วงนั้นเผอิญติดธุระด่วนบางประการจึงต้องรอคอยอย่างใจจดใจจ่อมาจนถึงเดือนมกราคมแต่ทว่า! สิ่งที่ได้รับกลับมาหลังจากการอดทนรอคอยอันแสนยาวนานก็คือ...
ตรงนี้ผมจะขอรวบรัดเลยนะครับโดยน้องคนแรกที่ผมได้มีโอกาสเข้าไปจับมือคือเจ้าแมวน้ำจอมแก่น "อรอุ๋งคนจีเนียส" รอบเวลาประมาณบ่าย3โมง แต่ผมไปช้านิดหน่อยจึงเข้าไปเกือบท้ายๆเลนช่วงใกล้จะหมดเวลาแล้ว ทีนี้พอตรวจบัตร ล้างมือ วางของตามขั้นตอนเสร็จกำลังจะเดินเข้าไปหน้าจุดจับมือ ทว่าพอเห็นน้องอรมองสบตามาที่ตัวเองเป็นครั้งแรกในชีวิต จู่ๆสันกรามและขากรรไกรท่อนล่างมันก็ขยับขึ้นลงโดยอัตโนมัติเหมือนเจ้าเข้าและไม่สามารถหยุดอาการดังกล่าวได้เลย(ผมไม่ได้เป็นโรคชักกระตุกนะฮะ) คำพูดที่เตรียมไปจะขอบคุณน้องก็มาจุกอยู่ที่ลูกกระเดือกไม่สามารถพูดอะไรได้ทั้งสิ้นนอกจาก อะ อะ อะ เอ่อ! (ใช่แล้วครับ! หลังรอคอยมาแสนนานประโยคที่ผมได้มีโอกาสพูดกับน้องๆ "BNK" เป็นคำแรกก็คือ อะ อะ อะ เอ่อ! -_-") ทั้งที่ปรกติผมไม่ใช่คนพูดเสียงค่อยแต่ไม่รู้ทำไมวันนี้โทนเสียงมันจูนต่ำมาเองโดยอัตโนมัติ และที่เลวร้ายกว่านั้นคือด้วยความที่ไปครั้งแแรกผมจึงเผลอเอามือตัวเองไปวางแถวๆราวกั้น เท่านั้นแหละครับที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้นมาทันที เมื่อจู่ๆน้อง "อรอุ๋ง" เธอก็มาดึงมือผมไปจับไว้เบาๆโดยไม่ทันได้ตั้งตัว!
คือต้องขอบอกก่อนว่าถึงจะไปงานจับมือแต่ความตั้งใจของผมคือไปขอบคุณและให้กำลังใจน้องๆสองคน ที่เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงของชีวิตตัวเองช่วงระยะหลังๆ ดังนั้นผมจึงไม่ได้คิดจะไปแตะเนื้อต้องตัวหรือจับมือถือแขนอะไรน้องๆทั้งสิ้น แต่แล้วจู่ๆน้อง "อรอุ๋งคนจีเนียส" กลับคว้ามืออันแสนหยาบกร้านของผมไปจับไว้เฉยเลย "ฮืออออ ใจร้ายที่สุด น้องอรทำแบบนี้กับหัวใจอันบอบบางของพี่ได้ยังไงฮะ" ตอนนั้นสายตาผมมองหน้าน้องอรเขาก็จริงแต่ขาทั้งสองมันสั่นพั่บๆๆจนจะทรุดไปกองกับพื้นอยู่แล้ว สมงสมองมันเบลอไปหมดจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าน้องใส่ชุดอะไร ความรู้สึกน่าจะเหมือนตอน "หนำฉา" เอ๊ย! "หยำฉา" โดนมนุษย์ดัดแปลงรุ่นลุงเอามืออุดปากและดูดพลังงานจนหมดร่างใน "ดราก้อนบอล" ยังไงยังงั้น
แถมที่ร้ายกว่าการไปยีนอึ้ง สันกรามสั่น พูดติดขัดแล้ว คำพูดขอบคุณที่เตรียมไว้ก็เลือนหายไปจากสมองหมดสิ้น ในโสตประสาทหูของผมได้ยินเสียงเล็กๆของน้องพูดกลับมาแบบจับใจความไม่ค่อยชัด ผมเองเหมือนจะบอกอะไรน้องไปว่ามาครั้งแรก ขอบคุณ ตั้งแต่ตามวงมาชีวิตแฮปปี้ อะไรซักอย่างก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกัน แล้วจู่ๆเสียงระฆังก็มาช่วยไว้เมื่อการ์ดด้านข้างบอกว่าหมดเวลาและผมดึงสติตัวเองกลับมาได้ แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์สาปส่งซ้ำสองเมื่อน้องอุ๋งๆยิ้มแป้นส่งนิ้วก้อยมาเหมือนจะเกี่ยวก้อย แต่สมองส่วนกลางผมตอนนั้นมันเบลอไปหมดจึงได้แต่ยืนเสียงสั่นขอบคุณน้องแล้วรีบซอยเท้าหนีออกมาจากบริเวณดังกล่าวอย่างงงงวยและน่าทุเรศเวทนาตัวเองเป็นที่สุด (ขอโทษอุ๋งๆด้วยนะฮะ T_T)
ทีนี้มาถึงน้องคนที่สองที่ทำผมผิดหวังอีกราย ใช่ครับ! "น้องเจน" สลอธน้อยแสนน่ารักขวัญใจแม่ยกนี่เอง หลังจากจับมือน้องอรไปแล้วทำให้ผมเริ่มได้สติสตังค์ขึ้นมาและมีค่าประสบการณ์กับสกิลเพิ่มขึ้นมาบ้าง คราวนี้รอบจับมือ "น้องเจน" ช่วง4โมงครึ่งเลยตั้งใจจะไม่ให้ผิดหวังและ Fail อีก จึงเตรียมตัวมาอย่างดีโดยคราวนี้มั่นใจว่าต้องไม่มีอะไรผิดพลาดแน่ หลังจากต่อแถว ล้างมือ ยื่นบัตร ฝากของเสร็จคราวนี้ผมเอามือซุกเสื้อแจ็คเก็ตเลยครับเพื่อตั้งใจจะขอบคุณน้องอย่างเดียว แต่ถึงเวลาพอผมสบตากับน้องเจนปุ๊บ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ตาน้องสีเข้มสวยมาก! ปรกติเคยเห็นน้องแต่ในรูปและคลิปเท่านั้นไม่เคยได้เจอในระยะเผาขนขนาดนี้มาก่อน ใช่แล้วครับ!โรคสันกรามค้างกำเริบขึ้นอีกครั้งคราวนี้พ่วงด้วยอาการ "ลิ้นเปลี้ย" เพิ่มมาอีก1เคสต์ น้องเจนเองเริ่มบอกทักทายแต่สิ่งที่แฟนคลับน้องสลอธอย่างผมพูดเป็นครั้งแรกกับเมมเบอร์ที่ตนเองชื่นชอบคือ "อะ..อะ..เอ่อ" (ฮ่วยย ) และก็แน่นอนครับ เหมือนมีใครมาจูนเสียงตัวเองให้ต่ำลง50เดซิเบลโดยอัตโนมัติ ณ จุดนั้น น้ำลายมันจุกที่คอ มือที่ล้วงกระเป๋าอยู่เปียกไปหมด ก่อนการ์ดด้านข้างจะเตือนสติหมดเวลาผมจึงรีบซอยเท้าออกมาอย่างขายขี้หน้าประชาชีและธารกำนัลเป็นรอบที่สองในเวลาติดๆกัน T_T
นอกจากนั้นความผิดหวังยังไม่หมดครับ เมื่อความตั้งใจแต่แรกคือจะไปจับมือ "เจ้าสลอธน้อย" รอบพิเศษด้วย ผมจึงรวบรวมบัตร10ใบและความกล้าในหัวใจไปหา "น้องเจน" อีกครั้งในรอบพิเศษ คราวนี้มั่นใจว่าคงไม่ Fail แน่เพราะมีประสบการณ์มาสองรอบแล้ว หลังจากต่อแถวรอบพิเศษและคุยกับน้องๆแฟนคลับในแถวไปซักพัก ก็ตามขั้นตอนครับ ล้างมือด้วยเจล(จุดนี้แหละที่ผมว่ามันแปลกๆ แต่เดี๋ยวจะเล่าอีกที!) ตรวจบัตร ฝากของ พอคนก่อนหน้าเดินออกไป ผมรวบรวมความกล้าเดินไปหาน้องโดยไม่ลืมจะเอาสองมือซุกแจ็คเก็ตตัวโปรดเหมือนเดิม(เห็นไหมว่าเริ่มมีทักษะแล้ว อิ อิ) แต่แล้วเรื่องงามหน้าก็บังเกิดครับพอผมสบตาขึ้นไปเห็น "น้องเจน" ยิ้มแฉ่งเท่านั้นแหละฮะภาพตรงหน้ามันเหมือน "ดอกทานตะวัน" ในฤดูร้อนอันแสนสดใสกำลังผลิบานพร้อมๆกับเสียงเพลง "เวลาเธอยิ้ม" ของ "โพลี่แคท" ดังก้องออกมายังไงยังงั้น ตอนนั้นเองระบบ "Processor" ประมวลผลในหัวสมองมันเบลอและErrorไปหมด จนลืมสิ้นทุกสิ่งอย่างเหมือนโลกมันหยุดหมุนไปชั่วขณะ สคริปต์ที่เตรียมมาว่าจะพูดอะไรกับเจ้าสลอธน้อยในเวลา80วิจู่ๆก็โดนลบทิ้งหายเกลี้ยง ตอนนั้นตัวเองยืนสตั๊นท์อยู่ครู่หนึ่งไม่พอดันทะลึ่งพล่ามแบบไร้สติออกมาหาน้องว่าต้องเป็นเพราะเจลล้างมือแน่ๆที่ทำให้ลืมหมด (อนาถจริง ปลิงเรียกพี่)
ที่สำคัญน้องเจนเองก็ถามย้ำมาว่า "ไหนลองคิดซิว่าพี่จะมาพูดอะไร" แล้วทำหน้าอมยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ใส่ จุดนี้แทนที่ผมจะคิดได้กลับสมองกลวงหนักยิ่งกว่าเดิม กล้ามเนื้อแฮมสตริงค์ที่ขาสั่นยิ่งกว่าเจ้าเข้าและพร้อมจะทิ้งดิ่งลงไปวัดพื้นได้ทุกเมื่อ แต่ ณ ตอนนั้นต้องแกล้งยืนตรงให้น้องเห็นว่าเรายังประคองสติไว้ได้ เพราะไม่อยากกลายเป็น "จำเลยบาป" บนข่าวหน้าหนึ่ง "โอตะชราเป็นลมล้มฟุบสิ้นสติหน้าเลนส์จับมือน้องเจนไอดอลสาวBNKกลางไบเทค" แต่ถ้าน้องเจนสังเกตุดีๆคงจะเห็นว่าร่างกายซีกขวาของผมมันเริ่มง่อยเปลี้ยเสียกำลังยืนไม่ตรงไปแปดส่วนแล้ว จากนั้นเวลาที่เหลือของผมก็ถูกใช้ไปอย่างรวดเร็วด้วยการด้นสดแบบไร้สติที่สุดในชีวิต ตอนนั้นมองหน้าน้องแล้วพล่ามเรื่องไร้สาระไปเรื่อยเปื่อยน่าจะประมาณ มาครั้งแรก อยากมาขอบคุณ ตามน้องแล้วเหมือนชีวิตได้รับพลังบวก จิ๊กซอว์ บลาๆๆผมเองก็จำไม่ค่อยได้แม่น ขนาดชุดที่น้องใส่ก็จำไม่ได้จนบัดนี้ แต่ที่แน่ๆคือน้ำเสียงสั่นเครือมากแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนราวกับตอนเห็นของลดราคาใน Shopee ถูกคนแย่งตัดหน้าซื้อไปแล้วชนิดเส้นยาแดงผ่าแปดยังไงยังงั้น
เท่านั้นยังไม่พอเมื่อน้องStaffเข้ามาบอกหมดเวลาผมเลยรีบขอบคุณน้องด้วยอาการประหม่าแล้วซอยเท้าหนีออกมาจากจุดเกิดเหตุโดยเร็ว แต่น้องเจนเร็วกว่าขั้นหนึ่งด้วยการเรียกไล่หลังมาว่า "แล้วครั้งหน้ามารับพลังบวกใหม่นะคะ" โอยยย พ่อแก้วแม่แก้ว จุดนั้นแทบอยากจะสวมวิญญาณขอมดำดินแทรกพื้นปูนหนีไปเลยครับแต่ทำอะไรไม่ถูกเลยได้แต่หันไปยิ้มแห้งๆและผงกหัวหงึกๆเป็นนกแก้วนกขุนทองด้วยสภาพที่แลดูไม่จืดที่สุด (ขอโทษด้วยนะฮะเจ้าสลอธที่พี่ไปทำเรื่องเปิ่นๆน่าอับอายใส่ ฮือๆๆ) พอเดินออกมาจากแดนเจอร์โซนแล้วผมเข้าใจความรู้สึกพี่ "โอ๊ต ปราโมทย์" ขึ้นมาทันทีเลยครับ คือก่อนหน้านี้ตอนเห็นพี่โอ๊ตหวีดน้องเจนและเสียอาการแบบรุนแรงตามสื่อต่างๆผมเคยนึกขำพี่เขานะ ว่าเฮ้ย!พี่โอ๊ตเล่นใหญ่รัชดาลัยไปรึเปล่าว้า แค่ได้มาอยู่ใกล้น้องๆเมมเบอร์ที่ตัวเองปลื้มก็เป็นไปขนาดนี้เลยรึ มาตอนนี้ผมต้องขอโทษพี่โอ๊ตมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ผมเข้าใจความรู้สึกของพี่แล้วครับ
และหลังจากจับมือเสร็จผมจึงได้มานั่งทบวนกับตัวเองว่าอะไรที่ทำให้คนจิตใจแกร่งกล้าปานหินผาเช่นผมกลายเป็นแบบนี้ได้ และเมื่อลองย้อนนึกภาพดูดีๆจึงพบสาเหตุ "เจลล้างมือ" นั่นเองครับ ใช่แล้ว!มันต้องเป็นที่ "เจลล้างมือหน้า" เลนแน่นอนที่ทำให้ผมเสียอาการได้อย่างมากมายแบบนี้ เพราะก่อนหน้าที่จะทาเจลร่างกายผมไม่มีปฏิกริยา ขากรรไกรค้าง ลิ้นเปลี้ย กล้ามเนื้ออ่อนแรง สมองเลอะเลือนเลย แต่หลังจากละเลงเจลลึกลับดังกล่าวบนฝ่ามือซักครู่อาการเหล่านี้ก็บังเกิดขึ้นแทบจะพร้อมๆกันทุกครั้ง ดังนั้นผมว่าใน "เจลล้างมือ" มันต้องมีสารประกอบแปลกปลอมอะไรซักอย่างที่ออกฤทธิ์โดยตรงต่อระบบประสาท กล้ามเนื้อ และสมองส่วนกลางอย่างแน่นอน รึว่านี่จะเป็น "ยาป้ายมอมเมาในตำนาน" ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาจนเป็นผลสำเร็จและได้เริ่มเอามาทดลองใช้กับผู้คนในวงกว้างโดยองค์กรลับบางกลุ่ม จึงอยากจะใคร่ขอเรียกร้องไปทางอฟช.ให้รีบตรวจสอบผู้จัดส่งเจลล้างมือดังกล่าวมาในงานโดยทันทีครับ ไม่แน่อาจมีผู้ประสงค์ร้ายใช้งานจับมือนี้เป็นสถานที่ทดลองยาตัวใหม่ก็เป็นได้ ฮิฮิ
**และนี่คือประสบการณืจับมือครั้งแรกอันแสนน่าผิดหวังและ Fail สุดๆของผมครับ ใช่ครับ!มันน่าผิดหวังมาก ผิดหวังจริงๆอย่างถึงที่สุด เพราะผมควรจะเตรียมตัวเตรียมใจและบัตรจับมือไปให้มากกว่านี้ ฮิฮิฮิ ขอโทษ อุ๋งๆและน้องเจนด้วยนะฮะ ที่พี่เจไดไปทำอะไรกะเปิ๊บกะป๊าบที่หน้าเลนส์ งานจับมือวันอาทิตย์ที่ผ่านมาพี่มีความสุขมากๆเลยฮะ รู้สึกร่างกายเหมือนได้รับการชาร์ตพลังงานจากน้องๆทั้งสองคนจนเต็มเปี่ยม พร้อมจะกลับมาต่อสู้ฟาดฟันเพื่อนำพาชีวิตตัวเองไปให้ถึงเป้าหมายที่วาดฝันได้อีกครั้งขอบคุณมากๆเลยครับ และสำหรับทุกท่านที่อดทนอ่านมาจนบรรทัดนี้ได้ผมหวังว่าเพื่อนๆจะได้รับบทเรียนเป็นอุทาหรณ์สอนใจจากกรณีดังกล่าวกันไม่บ้างก็น้อยครับ อิ อิ อิ ..ขอบคุณครับ..
ป.ล. น้องอรตัวจริงไม่อ้วนเลยและสวยมากๆ(ก.ไก่ล้านตัว) ต่อไปนี้ใครมาบอกว่าอุ๋งๆอ้วนอีกผมขอเถียงสุดใจขาดดิ้นเลยครับ ส่วนน้องเจนสวยน่ารักมาก(ก.ไก่ล้านตัวยกกำลังสอง)โดยเฉพาะดวงตาอันแสนสดใสคู่นั้น งื้ออออออออ
ป.ล.2 ขอบคุณเพื่อนๆ "ด้อมสลอธ" และ "ด้อมแมวน้ำ" ด้วยนะครับ เสื้องู้ยและโปสเตอร์อรอุ๋งจาก "กาชาอร" สวยมากครับ ^_^
(May the Sloth be with you)
ขอสลอธน้อยจงสถิตย์อยู่กับท่าน
*ฝากข่าวประชาสัมพันธ์จากบ้านสลอธฮะ*
เคยไหมที่อยากซื้อสินค้าที่ระลึกของแฟนคลับแต่ไม่กล้าใส่เพราะกลัวคำครหาหรือกลัวคนรู้ใจหาว่าหวีดเมมเบอร์มากกว่า วันนี้เราแก้ปัญหาเหล่านี้ได้แล้วครับกับเสื้องู้ย เสื้อยืดแฟนคลับที่คุณสามารถสวมใส่ไปได้ทุกแห่งหน โดยไม่มีใครรู้ว่าคุณเป็นแฟนคลับของวงBNKเพราะการออกแบบเสื้องู้ยย นั้นผู้ออกแบบตั้งใจให้มีความเป็นกลางและสามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส ตัวเสื้อตัดเย็บอย่างปราณีตสวมใส่สบายมีให้เลือกสามสีด้วยกัน ไม่ว่าคุณจะหวีดน้องๆคนไหนก็สามารถใส่เสื้องู้ยไปจับมือน้องๆได้เลย