เล่าให้อ่านสั้นๆเหมือนว่าความฝันได้ผ่านไปแล้ว
ผมมีเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง รู้จักกันตั้งแต่มอ.3 ผมอยู่มอ.6 ไม่สนิทกันมาก เพราะอยู่คนละจังหวัด
แต่ผมก็ช่วยเหลือเธอได้หลายอย่าง เธออยู่อุบล ผมอยู่กทม. ชอบดูหนังฟังเพลงเหมือนกัน
เธอเลยให้ผมช่วยซื้อซีดี ดีวีดี ซื้อหนังสือ ซื้อแบบเรียน ผมก็จัดการให้เหมือนเป็นน้องสาวคนหนึ่ง
จนสุดท้ายเธอติดมหาลัยสามย่าน ตอนปีแรกผมยังช่วยเธอสารพัดเรื่อง ทั้งหอนอกหอใน การเดินทาง อะไรสารพัด
เพราะผมคนกทม.ก็จะรู้อะไร ที่ไหน อย่างไร มากกว่าเธอ ปีแรกยังเจอกันเรื่อยๆ แต่พอปี 2 เราก็ไม่ได้เจอกันเท่าไร
มาเจออีกทีตอนเธอปี 4 แล้วเห็นเธอในม็อบหนึ่ง เดินร่วมกับคุณลุง ผมก็เลยถามๆเธอว่าเป็นไงมาไง ผมก็พูดถึง "เพื่อไทย"
เท่านั้นแหละครับ เธอ
"ด่า" น้าแม้ว พี่ปู ผมใช้คำนี้เลย แบบว่าผมตกใจ เพราะผมไม่เคยเห็นเธอในมุมนี้ (ปกติเธอน่ารักสนุกสนาน)
ผมก็เฉยๆ และไม่พูดเรื่องนี้อีก ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ เราไม่ได้ทักทายหรือพูดคุยกันอีกเลยไม่ว่าเรื่องใด ห้าปีผ่านไป ไวจนน่าใจหาย
ห้าปีแล้วหรือนี่ ผ่านไปไวเหมือนโกหก ห้าปีแล้วที่เพื่อนกลับกลายเป็นคนเคยรู้จักกัน
ผมมีเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง รู้จักกันตั้งแต่มอ.3 ผมอยู่มอ.6 ไม่สนิทกันมาก เพราะอยู่คนละจังหวัด
แต่ผมก็ช่วยเหลือเธอได้หลายอย่าง เธออยู่อุบล ผมอยู่กทม. ชอบดูหนังฟังเพลงเหมือนกัน
เธอเลยให้ผมช่วยซื้อซีดี ดีวีดี ซื้อหนังสือ ซื้อแบบเรียน ผมก็จัดการให้เหมือนเป็นน้องสาวคนหนึ่ง
จนสุดท้ายเธอติดมหาลัยสามย่าน ตอนปีแรกผมยังช่วยเธอสารพัดเรื่อง ทั้งหอนอกหอใน การเดินทาง อะไรสารพัด
เพราะผมคนกทม.ก็จะรู้อะไร ที่ไหน อย่างไร มากกว่าเธอ ปีแรกยังเจอกันเรื่อยๆ แต่พอปี 2 เราก็ไม่ได้เจอกันเท่าไร
มาเจออีกทีตอนเธอปี 4 แล้วเห็นเธอในม็อบหนึ่ง เดินร่วมกับคุณลุง ผมก็เลยถามๆเธอว่าเป็นไงมาไง ผมก็พูดถึง "เพื่อไทย"
เท่านั้นแหละครับ เธอ "ด่า" น้าแม้ว พี่ปู ผมใช้คำนี้เลย แบบว่าผมตกใจ เพราะผมไม่เคยเห็นเธอในมุมนี้ (ปกติเธอน่ารักสนุกสนาน)
ผมก็เฉยๆ และไม่พูดเรื่องนี้อีก ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ เราไม่ได้ทักทายหรือพูดคุยกันอีกเลยไม่ว่าเรื่องใด ห้าปีผ่านไป ไวจนน่าใจหาย