สวัสดีค่ะ เนื่องจากปีใหม่ที่ผ่านมา เราได้ตัดสินใจ สานฝันตัวเอง ไปเค้าท์ดาวน์ที่เมืองนอกครั้งแรกในชีวิต แถมเป็นทริปแรกที่ตปท. ไปคนเดียวอีก (เพราะไม่มีเพื่อนไป 😢) ดังนั้น เราจะลงรายละเอียด และข้อมูลในทริปไว้นะคะ
ระยะเวลา: 27 ธ.ค.18 -3 ม.ค.19
การเดินทาง: รถไฟขบวน 45 เส้นทาง กรุงเทพ-ปาดังเบซาร์
ออกเดินทาง 15:10 - 09:00 น.
ตอนเราโทรจองตั๋วรถไฟทาง รฟท.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.railway.co.th/main/index_en.html
ปัญหาที่เจอ คือ ระบบขึ้นว่าเต็ม พอเราโทรไปสอบถาม ยังเหลือที่นั่งซะงั้น
หลังจากที่จนท.ให้เลขที่นั่ง เราก็นำข้อมูลนี้ พร้อมบัตรปชช. ไปจ่ายเงินและรับตั๋วทางเคาท์เตอร์ค่ะ
แต่.. แต่! ด้วยความสะเพร่า เราดันทำตั๋วหายซะงั้นนี่ เราเลยต้องกลับไปที่สถานีหัวลำโพงอีกรอบ เพื่อไปแจ้งตั๋วหาย ใช้เวลาดำเนินการ 2 ชม. จนท. จะให้ใบโทรเลข เพื่อใช้แทนตั๋วค่ะ (ไม่ต้องไปแจ้งความที่สน.แล้วเน่อ)
วันที่ 27 ม.ค. 15:10 น.
ออกเดินทาง จากสถานีหัวลำโพงกรุงเทพ - ปาดังเบซาร์
เราไม่เคยขึ้นรถไฟนอนมาก่อน และขบวน 45 เป็นขบวนที่เชื่อมต่อกับอีกขบวนที่ไปลง สุไหงโกลก ทำให้ตอนแรก เราขึ้นขบวนผิด 😣
ยังดี ที่นึกขึ้นได้ว่าเป็นรถนอน เลยไปอีกขบวนแทน
ความจริง เราถ่ายรูปเยอะมาก แต่ต้องลบเกือบหมด เพราะเมมจุได้ไม่เกิน 200 รูป อดรีวิวเลย
ระหว่างทาง มีป้าๆขายอาหารตลอด ทั้งก๋วยเตี๋ยวราชบุรี และไก่ทอด หาดใหญ่
วันที่ 28 ธ.ค 09:00 น.
เดินทางถึงปาดังเบซาร์ ตรงนี้ สามารถเลือกได้นะคะ ว่าจะลงฝั่งไทย หรือฝั่งมาเล เรายกเลิกการไปตลาดฝั่งไทย เพราะร้อนและไกลด้วย
เราได้ทำการจองตั๋ว KTM กับเว็บไซต์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.easybook.com/th-th
เส้นทาง Padang Besar - Kl: 14:00- 19:56
เวลาในมาเล เร็วกว่าไทย 1 ชม. อย่าลืมปรับ Time Zone ด้วยนะคะ
ตั๋วรถไฟเต็มไว้มาก ควรพยายามจองทางเว็บไซต์ก่อนนะคะ เพราะวันไป เราเห็นว่าเส้นทางไป Kl เต็มหมดแล้ว
จะมีหน้าจอขึ้น ให้เราสังเกต ที่ PT ว่าเดินไปขึ้นรถทางออกไหน จำไม่ได้ว่า PT 3,4 นี่ล่ะ ที่ปิดทาง ปกติ ถ้าไป KL ให้เดินไปทางออก 1&2 ค่ะ
เสียดาย ที่ลบรูปที่ถ่ายรถไฟ KTM ไป สะดวกสบายมากค่ะ ใช้เวลา 5 ชม. ก็ถึงเมืองหลวง Kuala Lumpur เราพักที่ KL Sentral แต่หากจองไป KL ก็ไม่เป็นไร เพราะ KL Sentral จะอยู่สถานีสุดท้าย ลงได้เลยค่ะ
ปลั๊กไฟที่มาเล เป็นแบบ 3 pin เราก็หยิบยืมพนักงานรถไฟ ไว้ชาร์ตแบต เป็นคนอินเดีย น่ารักมากค่ะ
เดินทางถึงที่พัก ประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ เราเลือกพักที่ Pods the Bacpackers Home & Cafe
สามารถเดินทางห้าง Nu central มาที่โฮสเทลได้เลย ด้านหลังเป็นตลาด Little India
จากนั้น เราก็ไปเจอเจ้านายและเพื่อนเจ้านายที่มาเล เดินทางสถานี KL Sentral - KlCC
เดินผ่านทะลุห้าง Suria KLCC จะเห็นตึกแฝดด้านหลังค่ะ มีลานน้ำพุด้วย
จากนั้น เราก็ไป Chinatown กัน แต่เนื่องจากไปเกือบเที่ยงคืน เลยเหลือร้านเปิด 1-2 ร้าน ลองทานหมี่จีน จำชื่อไม่ได้ค่ะ 55
เจ้านายเราเล่าให้ฟังว่า เนื่องจากมีการปล้น ชิงทรัพย์บ่อยๆ โจรส่วนใหญ่ มีทั้งคนงานต่างด้วย คนจีน คนมาเล คนอินเดียมีบ้าง แต่น้อย ดังนั้นตอนที่เราวางกระเป๋าไว้ ตอนรีบหนิบขึ้นมาเลย
โดยเฉพาะ China town โดนวิ่งราวบ่อยๆค่ะ
Homeless ก็เยอะแยะ ทั้งเมืองเลย..
จากนั้น เดินทางกลับที่พักค่ะ แอบเต๊าะหนุ่มเกาหลีด้วย เสียดาย ไม่ได้เจออีกเลย 😢
Solo trip: เที่ยวคนเดียวก็เฟี้ยวได้ 7 วัน 6 คืน Malaysia- Singapore งบไม่เกิน 20,000 บาท
สวัสดีค่ะ เนื่องจากปีใหม่ที่ผ่านมา เราได้ตัดสินใจ สานฝันตัวเอง ไปเค้าท์ดาวน์ที่เมืองนอกครั้งแรกในชีวิต แถมเป็นทริปแรกที่ตปท. ไปคนเดียวอีก (เพราะไม่มีเพื่อนไป 😢) ดังนั้น เราจะลงรายละเอียด และข้อมูลในทริปไว้นะคะ
ระยะเวลา: 27 ธ.ค.18 -3 ม.ค.19
การเดินทาง: รถไฟขบวน 45 เส้นทาง กรุงเทพ-ปาดังเบซาร์
ออกเดินทาง 15:10 - 09:00 น.
ตอนเราโทรจองตั๋วรถไฟทาง รฟท.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปัญหาที่เจอ คือ ระบบขึ้นว่าเต็ม พอเราโทรไปสอบถาม ยังเหลือที่นั่งซะงั้น
หลังจากที่จนท.ให้เลขที่นั่ง เราก็นำข้อมูลนี้ พร้อมบัตรปชช. ไปจ่ายเงินและรับตั๋วทางเคาท์เตอร์ค่ะ
แต่.. แต่! ด้วยความสะเพร่า เราดันทำตั๋วหายซะงั้นนี่ เราเลยต้องกลับไปที่สถานีหัวลำโพงอีกรอบ เพื่อไปแจ้งตั๋วหาย ใช้เวลาดำเนินการ 2 ชม. จนท. จะให้ใบโทรเลข เพื่อใช้แทนตั๋วค่ะ (ไม่ต้องไปแจ้งความที่สน.แล้วเน่อ)
วันที่ 27 ม.ค. 15:10 น.
ออกเดินทาง จากสถานีหัวลำโพงกรุงเทพ - ปาดังเบซาร์
เราไม่เคยขึ้นรถไฟนอนมาก่อน และขบวน 45 เป็นขบวนที่เชื่อมต่อกับอีกขบวนที่ไปลง สุไหงโกลก ทำให้ตอนแรก เราขึ้นขบวนผิด 😣
ยังดี ที่นึกขึ้นได้ว่าเป็นรถนอน เลยไปอีกขบวนแทน
ความจริง เราถ่ายรูปเยอะมาก แต่ต้องลบเกือบหมด เพราะเมมจุได้ไม่เกิน 200 รูป อดรีวิวเลย
ระหว่างทาง มีป้าๆขายอาหารตลอด ทั้งก๋วยเตี๋ยวราชบุรี และไก่ทอด หาดใหญ่
วันที่ 28 ธ.ค 09:00 น.
เดินทางถึงปาดังเบซาร์ ตรงนี้ สามารถเลือกได้นะคะ ว่าจะลงฝั่งไทย หรือฝั่งมาเล เรายกเลิกการไปตลาดฝั่งไทย เพราะร้อนและไกลด้วย
เราได้ทำการจองตั๋ว KTM กับเว็บไซต์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เส้นทาง Padang Besar - Kl: 14:00- 19:56
เวลาในมาเล เร็วกว่าไทย 1 ชม. อย่าลืมปรับ Time Zone ด้วยนะคะ
ตั๋วรถไฟเต็มไว้มาก ควรพยายามจองทางเว็บไซต์ก่อนนะคะ เพราะวันไป เราเห็นว่าเส้นทางไป Kl เต็มหมดแล้ว
จะมีหน้าจอขึ้น ให้เราสังเกต ที่ PT ว่าเดินไปขึ้นรถทางออกไหน จำไม่ได้ว่า PT 3,4 นี่ล่ะ ที่ปิดทาง ปกติ ถ้าไป KL ให้เดินไปทางออก 1&2 ค่ะ
เสียดาย ที่ลบรูปที่ถ่ายรถไฟ KTM ไป สะดวกสบายมากค่ะ ใช้เวลา 5 ชม. ก็ถึงเมืองหลวง Kuala Lumpur เราพักที่ KL Sentral แต่หากจองไป KL ก็ไม่เป็นไร เพราะ KL Sentral จะอยู่สถานีสุดท้าย ลงได้เลยค่ะ
ปลั๊กไฟที่มาเล เป็นแบบ 3 pin เราก็หยิบยืมพนักงานรถไฟ ไว้ชาร์ตแบต เป็นคนอินเดีย น่ารักมากค่ะ
เดินทางถึงที่พัก ประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ เราเลือกพักที่ Pods the Bacpackers Home & Cafe
สามารถเดินทางห้าง Nu central มาที่โฮสเทลได้เลย ด้านหลังเป็นตลาด Little India
จากนั้น เราก็ไปเจอเจ้านายและเพื่อนเจ้านายที่มาเล เดินทางสถานี KL Sentral - KlCC
เดินผ่านทะลุห้าง Suria KLCC จะเห็นตึกแฝดด้านหลังค่ะ มีลานน้ำพุด้วย
จากนั้น เราก็ไป Chinatown กัน แต่เนื่องจากไปเกือบเที่ยงคืน เลยเหลือร้านเปิด 1-2 ร้าน ลองทานหมี่จีน จำชื่อไม่ได้ค่ะ 55
เจ้านายเราเล่าให้ฟังว่า เนื่องจากมีการปล้น ชิงทรัพย์บ่อยๆ โจรส่วนใหญ่ มีทั้งคนงานต่างด้วย คนจีน คนมาเล คนอินเดียมีบ้าง แต่น้อย ดังนั้นตอนที่เราวางกระเป๋าไว้ ตอนรีบหนิบขึ้นมาเลย
โดยเฉพาะ China town โดนวิ่งราวบ่อยๆค่ะ
Homeless ก็เยอะแยะ ทั้งเมืองเลย..
จากนั้น เดินทางกลับที่พักค่ะ แอบเต๊าะหนุ่มเกาหลีด้วย เสียดาย ไม่ได้เจออีกเลย 😢