เริ่มต้นเรื่องราวของเราเลยน่ะ
เราอายุจะเข้า 30 แล้วค่ะ คบกับแฟนคนปัจจุบัน มาปีกว่า มีการหมั้นหมายกันไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ คุยกันไว้ว่า อีก 2 ปี จะแต่งงาน ขอเวลาช่วยกันเก็บเงินกันก่อน เรื่องราวก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อเราเข้ามาอยู่บ้านแฟน เราเป็นเด็กต่างจังหวัด มาทำงานในจังหวัดนี้ แล้วก่อนหน้านี้ก็เช่าห้องอยู่คนเดียว คบกันกับแฟน แฟนก็จะไปๆมาๆ ระหว่างเรากับบ้านของเขา จนกระทั่งมีการหมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้ว แฟนจึงชวนเราเข้ามาอยู่บ้านด้วยกัน โดยให้เหตุผลว่า ประหยัดค่าใช้จ่าย และจะทำให้เรามีเงินเก็บมากขึ้น เราก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ จึงย้ายเข้ามา บ้านนี้อาศัยอยู่กัน พ่อ แม่ ลูกชาย 3 คน มี แฟนเราเป็นคนกลาง
แล้วในทุกๆวัน เราจะตื่นเช้า เพื่อช่วยแม่แฟนทำกับข้าว ให้ลูกๆ และสามีกินและห่อไปกินที่ทำงาน ด้วยความที่เราก็ชอบทำอาหาร แม่แฟนก็ชอบทำอาหารเหมือนกัน ไม่ชอบซื้อเพราะรสชาติไม่ถูกปากเท่าทำเอง เลยคิดว่าเราจะเข้ากันได้ดีในข้อนี้ 555555 เวลาที่ว่างๆ เราจะช่วยแม่แฟนทำนั่นนี่งานบ้านตลอด ระยะเวลาที่อยู่บ้านนี้ เรารู้สึกถึงความอึดอัดอยู่นิดหน่อย ด้วยที่แม่แฟนเป็นคนชอบนินทา หรือ เล่าเรื่องคนนั้นคนนี้ให้ฟัง ซึ่งส่วนตัวเราไม่ชอบฟังอะไรพวกนี้ก็นั่งฟังไปงั้นๆ จนกระทั่งที่ผ่านมาไม่นานมานี้ งานบวชแฟนเรา เราก็ไปช่วยงาน จนช่วงเวลาอุปสมบทนาคในโบสถ์ ญาติของแฟนก็เรียกให้เราเข้าไปถ่ายรูปในโบสถ์ให้หน่อย แม่แฟนซึ่งนั่งในโบสถ์ พอเห็นเราเข้ามาก็ชักสีหน้าไม่พอใจ แล้วพูดกับเราว่า มาทำไม ไปดูที่ครัวสิ มีอะไรขาดเหลือบ้าง ไปช่วยพี่เขาตักแกงให้แขก เราก็พยักหน้าเดินลงมาจากโบสถ์ ญาติแฟนก็เรียกไว้อีก บอกว่าให้เข้าไปถ่ายรูปในโบสถ์ให้หน่อย เราก็ขึ้นไปอีก จนแม่แฟนแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่า ไม่พอใจมากๆ ถ่าไปได้เพียงไม่กี่ภาพเราก็รีบออกมา สิ่งที่เรามันมีเยอะกว่าที่เราเล่า แต่เราไม่รู้จะอธิบายยังไง 😭 วันนั้นเรากลับมาบ้านก่อน ไม่ได้อยู่ถ่ายรูปกับพระ เราร้องไห้แบบหนักมากๆ ช่วงเวลาที่แฟนบวช เราก็บ้านเขาเช่นเดิม ทุกๆเช้าเราก็ยังตื่นมาทำกับข้าว ใส่บาตรทุกเช้าก่อนไปทำงานจนกระทั่งวันสึก ในวันนั้นแม่แฟนบอกเราว่า ถ้าไม่ติดที่ว่าแฟนเราจะไปบ้านเราที่ต่างจังหวัดด้วยแกคงให้ลูกชายแกบวชนานกว่านี้ เราก็ไม่พูดอะไร แล้วอยู่มาวันนึงเรานั่งอยู่ในห้อง ก็ได้ยินเสียงแม่แฟนกำลังพูดถึงเรา คุยกันเสียงดัง เราอยู่ในห้องยังได้ยินชัดเจน เรานิ่งฟัง พอซักพักเสียงจึงลดลง เย็นวันนั้นจึงเปิดอกคุยกับแฟนว่า อยากย้ายไปอยู่ข้างนอก แฟนถามว่าทำไม เราบอกว่า เราอึดอัด ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเรา แฟนบอกเราว่า ทำไมจะไม่ใช่ นี่แหละบ้านของเรา เราก็ไม่พูดอะไร แล้วเมื่อวานนี้นั่งกินข้าวด้วยกัน 3 คนคือแม่แฟน แฟนและเรา แม่ก็เกริ่นนำเลยว่า ขอเงินจากลูกชายจะไปส่งออมทรัพย์ทุกเดือนๆ เก็บไว้ให้วันแต่งงาน เราก็มองว่ามันก็ดีน่ะ และแม่แฟนยังพูดกับเราว่า ถ้าในอนาคตจะเอาลูกชายเขาไปทำไร่ทำนาที่บ้านเราไม่ได้หรอก เพราะลูกเขาไม่เคยทำ เราก็บอกว่า แม่ค่ะ สมัยนี้ เขาก็จ้างเอาทั้งนั้นพ่อหนูก็จ้างคนงานค่ะ ไม่ได้ทำไร่เอง เพราะพ่อหนูอายุก็มากแล้ว แม่แฟนก็บอกว่า ยังไงก็ต้องทำอยู่ดีแหละไว้ แต่งงานกัน แล้วเก็บตังสร้างบ้าน มาสร้างในที่หลังบ้านนี้ คืนนั้นเราคุยกันกับแฟนว่า เราก็มีพ่อ มีแม่จะต้องดูแลเหมือนกัน จะให้เรามาตั้งหลักฐานที่นี่ไม่ได้หรอก เราเป็นลูกคนโต ซึ่งยังไงเราก้ต้องกลับอยู่ที่บ้านเหมือนเดิม ซึ่งคุยกันทุกครั้งแฟนก็จะมาแนวเดิม คือ ที่นี่ก็บ้าน เราก้กลัวว่า ถ้าเราพุดมากไปกว่านี้อาจทำให้แฟนลำบากใจ ซึ่งข้างนึงก็แม่ ข้างนึงก็แฟน
เรารู้สึกอัดอัดตลอดเวลา แอบไปร้องไห้คนเดียวบ่อยๆก็มี กลับมาบ้านคือต้องเข้าห้องอาบน้ำ นอนเลยเราไม่อยากออกไปเจอคนในครอบครัวเขาเลย เพราะถ้าเจอเราจะรู้สึกแย่ยังไม่รู้ ที่ผ่านมา เราไม่เคยอคติอะไรกับแม่แฟนเลย เราช่วยงานในบ้านตลอด เคารพแม่แฟนและคนในครอบครัวเขามากๆ แต่เพียงเราไม่โอเคกับความคิดของแม่แฟนเท่านั้นเอง เราอาจไม่สามารถอธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้ทั้งหมด อาจมีพิมพ์ตกบ้าง เพราะพิมพ์ในมือถือ ต้องขออภัยด้วยหากใครเคบเจอปัญหาคล้ายเรา แนะนำเราหน่อยค่ะ ว่าเราจะอยู่ยังไงแบบมีความสุข และจะเปลี่ยนความคิดแม่แฟนยังไงดี
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ลูกสะใภ้บ้านไหนเคยมีปัญหากับแม่สามีไหมค่ะ?
เราอายุจะเข้า 30 แล้วค่ะ คบกับแฟนคนปัจจุบัน มาปีกว่า มีการหมั้นหมายกันไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ คุยกันไว้ว่า อีก 2 ปี จะแต่งงาน ขอเวลาช่วยกันเก็บเงินกันก่อน เรื่องราวก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อเราเข้ามาอยู่บ้านแฟน เราเป็นเด็กต่างจังหวัด มาทำงานในจังหวัดนี้ แล้วก่อนหน้านี้ก็เช่าห้องอยู่คนเดียว คบกันกับแฟน แฟนก็จะไปๆมาๆ ระหว่างเรากับบ้านของเขา จนกระทั่งมีการหมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้ว แฟนจึงชวนเราเข้ามาอยู่บ้านด้วยกัน โดยให้เหตุผลว่า ประหยัดค่าใช้จ่าย และจะทำให้เรามีเงินเก็บมากขึ้น เราก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ จึงย้ายเข้ามา บ้านนี้อาศัยอยู่กัน พ่อ แม่ ลูกชาย 3 คน มี แฟนเราเป็นคนกลาง
แล้วในทุกๆวัน เราจะตื่นเช้า เพื่อช่วยแม่แฟนทำกับข้าว ให้ลูกๆ และสามีกินและห่อไปกินที่ทำงาน ด้วยความที่เราก็ชอบทำอาหาร แม่แฟนก็ชอบทำอาหารเหมือนกัน ไม่ชอบซื้อเพราะรสชาติไม่ถูกปากเท่าทำเอง เลยคิดว่าเราจะเข้ากันได้ดีในข้อนี้ 555555 เวลาที่ว่างๆ เราจะช่วยแม่แฟนทำนั่นนี่งานบ้านตลอด ระยะเวลาที่อยู่บ้านนี้ เรารู้สึกถึงความอึดอัดอยู่นิดหน่อย ด้วยที่แม่แฟนเป็นคนชอบนินทา หรือ เล่าเรื่องคนนั้นคนนี้ให้ฟัง ซึ่งส่วนตัวเราไม่ชอบฟังอะไรพวกนี้ก็นั่งฟังไปงั้นๆ จนกระทั่งที่ผ่านมาไม่นานมานี้ งานบวชแฟนเรา เราก็ไปช่วยงาน จนช่วงเวลาอุปสมบทนาคในโบสถ์ ญาติของแฟนก็เรียกให้เราเข้าไปถ่ายรูปในโบสถ์ให้หน่อย แม่แฟนซึ่งนั่งในโบสถ์ พอเห็นเราเข้ามาก็ชักสีหน้าไม่พอใจ แล้วพูดกับเราว่า มาทำไม ไปดูที่ครัวสิ มีอะไรขาดเหลือบ้าง ไปช่วยพี่เขาตักแกงให้แขก เราก็พยักหน้าเดินลงมาจากโบสถ์ ญาติแฟนก็เรียกไว้อีก บอกว่าให้เข้าไปถ่ายรูปในโบสถ์ให้หน่อย เราก็ขึ้นไปอีก จนแม่แฟนแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่า ไม่พอใจมากๆ ถ่าไปได้เพียงไม่กี่ภาพเราก็รีบออกมา สิ่งที่เรามันมีเยอะกว่าที่เราเล่า แต่เราไม่รู้จะอธิบายยังไง 😭 วันนั้นเรากลับมาบ้านก่อน ไม่ได้อยู่ถ่ายรูปกับพระ เราร้องไห้แบบหนักมากๆ ช่วงเวลาที่แฟนบวช เราก็บ้านเขาเช่นเดิม ทุกๆเช้าเราก็ยังตื่นมาทำกับข้าว ใส่บาตรทุกเช้าก่อนไปทำงานจนกระทั่งวันสึก ในวันนั้นแม่แฟนบอกเราว่า ถ้าไม่ติดที่ว่าแฟนเราจะไปบ้านเราที่ต่างจังหวัดด้วยแกคงให้ลูกชายแกบวชนานกว่านี้ เราก็ไม่พูดอะไร แล้วอยู่มาวันนึงเรานั่งอยู่ในห้อง ก็ได้ยินเสียงแม่แฟนกำลังพูดถึงเรา คุยกันเสียงดัง เราอยู่ในห้องยังได้ยินชัดเจน เรานิ่งฟัง พอซักพักเสียงจึงลดลง เย็นวันนั้นจึงเปิดอกคุยกับแฟนว่า อยากย้ายไปอยู่ข้างนอก แฟนถามว่าทำไม เราบอกว่า เราอึดอัด ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเรา แฟนบอกเราว่า ทำไมจะไม่ใช่ นี่แหละบ้านของเรา เราก็ไม่พูดอะไร แล้วเมื่อวานนี้นั่งกินข้าวด้วยกัน 3 คนคือแม่แฟน แฟนและเรา แม่ก็เกริ่นนำเลยว่า ขอเงินจากลูกชายจะไปส่งออมทรัพย์ทุกเดือนๆ เก็บไว้ให้วันแต่งงาน เราก็มองว่ามันก็ดีน่ะ และแม่แฟนยังพูดกับเราว่า ถ้าในอนาคตจะเอาลูกชายเขาไปทำไร่ทำนาที่บ้านเราไม่ได้หรอก เพราะลูกเขาไม่เคยทำ เราก็บอกว่า แม่ค่ะ สมัยนี้ เขาก็จ้างเอาทั้งนั้นพ่อหนูก็จ้างคนงานค่ะ ไม่ได้ทำไร่เอง เพราะพ่อหนูอายุก็มากแล้ว แม่แฟนก็บอกว่า ยังไงก็ต้องทำอยู่ดีแหละไว้ แต่งงานกัน แล้วเก็บตังสร้างบ้าน มาสร้างในที่หลังบ้านนี้ คืนนั้นเราคุยกันกับแฟนว่า เราก็มีพ่อ มีแม่จะต้องดูแลเหมือนกัน จะให้เรามาตั้งหลักฐานที่นี่ไม่ได้หรอก เราเป็นลูกคนโต ซึ่งยังไงเราก้ต้องกลับอยู่ที่บ้านเหมือนเดิม ซึ่งคุยกันทุกครั้งแฟนก็จะมาแนวเดิม คือ ที่นี่ก็บ้าน เราก้กลัวว่า ถ้าเราพุดมากไปกว่านี้อาจทำให้แฟนลำบากใจ ซึ่งข้างนึงก็แม่ ข้างนึงก็แฟน
เรารู้สึกอัดอัดตลอดเวลา แอบไปร้องไห้คนเดียวบ่อยๆก็มี กลับมาบ้านคือต้องเข้าห้องอาบน้ำ นอนเลยเราไม่อยากออกไปเจอคนในครอบครัวเขาเลย เพราะถ้าเจอเราจะรู้สึกแย่ยังไม่รู้ ที่ผ่านมา เราไม่เคยอคติอะไรกับแม่แฟนเลย เราช่วยงานในบ้านตลอด เคารพแม่แฟนและคนในครอบครัวเขามากๆ แต่เพียงเราไม่โอเคกับความคิดของแม่แฟนเท่านั้นเอง เราอาจไม่สามารถอธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้ทั้งหมด อาจมีพิมพ์ตกบ้าง เพราะพิมพ์ในมือถือ ต้องขออภัยด้วยหากใครเคบเจอปัญหาคล้ายเรา แนะนำเราหน่อยค่ะ ว่าเราจะอยู่ยังไงแบบมีความสุข และจะเปลี่ยนความคิดแม่แฟนยังไงดี
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ