การเลือกตั้ง Senbatsu General Election ของ BNK48 วันนี้ก็มีผลด่วนรอบที่สอง อยากคิดกิจกรรมชวนคนมาโหวตมิวสิคมากขึ้น แต่เราไม่ได้มีความสามารถอะไรนัก ดังนั้นเลยเขียนอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้อ่านกัน ปาสลิปไปด้วย อ่านไปด้วยเพลิน ๆ เนอะ มีกิจกรรมอะไรให้เล่นกันในด้อมก็มาบอกกันด้วยเน้อ
ปล. เนื้อเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงจินตนาการ
-----------
แพรวาวันฝนโปรย
: Praewa and her Shine
แพรวาเกลียดเม็ดฝนที่ร่วงหล่นโปรยปราย
เกลียดแอ่งน้ำขังบนฟุตบาท
เกลียดความเย็นฉ่ำที่ทำให้รู้สึกสดชื่น
เกลียดแม้กระทั่งสายรุ้งที่อยู่คนละฟากฝั่งกับดวงอาทิตย์หลังฝนตกใหม่
เราต่างรู้
สายรุ้งช่างดูมหัศจรรย์และเม็ดฝนที่ร่วงหล่นไม่มีความผิดอะไร
แต่ช่างโชคร้ายที่แพรวามีความทรงจำแสนเจ็บปวดในช่วงเวลาที่ความเย็นชุ่มฉ่ำเกาะกุมหัวใจ
ช่วงเวลาของสายรุ้งท่ามกลางฤดูฝน
ช่วงเวลาที่เธอเคยตกหลุมรักเสียหมดจิตหมดใจ
.
.
“คุณเป็นใครเหรอคะ”
เด็กหญิงแพรวาในชุดกันฝนสีเหลืองวิ่งเตาะแตะมาหยุดตรงหน้าก่อนจะเอียงคอถามบุคคลปริศนาที่ปรากฏตัวพร้อมกับสายรุ้ง
ใช่แล้ว...
เมื่อสายรุ้งปรากฏที่นอกหน้าต่าง เด็กหญิงแพรวาจะเห็นหญิงสาวร่างกายบอบบางบนตัวมีเพียงชิ้นผ้าสีขาวโบกพลิ้วยืนอยู่นอกสวนหลังบ้านถัดจากรั้วไม้ระแนงสีขาวที่เริ่มลอกร่อน
“เธอเห็นฉันด้วยเหรอ”
“ไม่อยากให้เห็นก็เห็นซะแล้วล่ะค่ะ”
“น่าแปลก”
“คุณมาจากที่ไหนเหรอ”
“จากที่ไกล ๆ ”
“มาทำไม”
“ฉันเป็นลูกสาวคนเล็กของผู้ยิ่งใหญ่ มาทำหน้าที่ที่ต้องทำ แต่ตอนนี้ฉันจะต้องไปแล้ว”
“ไม่เล่นกันก่อนสักหน่อยเหรอคะ”
“เด็กน้อย...” หญิงสาวนัยน์ตาประกายดุจแสงวาวของดวงดาวนับล้านบนท้องฟ้าในคืนเดือนมืด จ้องมองเด็กหญิงชุดกันฝน “ครั้งหน้าเมื่อสายรุ้งปรากฏ ฉันจะมาเล่นกับเธอ”
“สัญญามั้ย?”
“สัญญา”
“แล้วสายรุ้งจะมาเมื่อไรคะ”
“เธอรู้นี่”
ใช่... เธอรู้ เด็กหญิงตัวน้อยรู้ว่าสายรุ้งจะมากินน้ำหลังจากฝนหยุดตก ฟ้ามืดครึ้มหลังฝนที่จากไปเหลือไว้ซึ่งความเย็นชุ่มฉ่ำกับวาวแดดแสงอุ่น ดังนั้นเมื่อไรที่ก้อนเมฆก่อตัวอ้วนอวบ มีเสียงฟ้าร้องฮึ่ม ๆ เธอก็จะมาเฝ้ารอให้ฝนหยุดเพื่อจะได้เห็นรุ้งกินน้ำที่ริมหน้าต่างบานเดิม
สายตาจับจ้องที่ริมรั้วเมื่อแสงเริ่มสาดส่อง
“มาแล้ว!”
เสียงแป๋นแหล๋นตะโกนดีอกดีใจ เท้าน้อย ๆ วิ่งตุ้บตั้บออกไปไม่สนใจเสียงดุของคนเป็นแม่
“สายรุ้งมาแล้ว”
“ใช่ ฉันมาแล้วตามสัญญา”
“เล่นกัน ๆ ”
“อยากเล่นอะไรล่ะ”
“เล่นปลูกต้นไม้ แพรชอบดอกไม้”
“ชื่อแพรเหรอ”
“ใช่ค่ะ ชื่อเด็กหญิงแพรวา คุณครูที่โรงเรียนสอนให้คัดลายมือร้อยรอบ”
“งั้นเหรอ ฮ่ะ ๆ แต่รู้อะไรไหมเด็กหญิงแพรวา ฉันเล่นปลูกต้นไม้กับเธอไม่ได้หรอก ฉันไม่มีเวลามากมายขนาดนั้น”
“ทำไม...”
“เพราะสายรุ้งต้องการฉัน”
ริมฝีปากหยักได้รูปกระตุกยิ้มอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเห็นว่าเด็กหญิงตัวเล็กเริ่มหน้ามุ่ย
“ฉันเองก็ชอบดอกไม้สวย ๆ นะ ครั้งหน้าปลูกดอกไม้ไว้รอฉันสิ”
“แบบนั้นมันจะสนุกตรงไหน”
“ก็เธอชอบดอกไม้ไม่ใช่เหรอ แค่ได้ลงมือทำก็น่าสนุกแล้วนะ”
“อยากมีเพื่อนเล่นมากกว่านะคะ”
“ฉันก็จะเป็นเพื่อนเธอ คอยเอาใจช่วยดอกไม้สวย ๆ ของเธอให้เติบโตขึ้นเป็นอย่างดีไงล่ะ”
“สัญญานะ”
“สัญญา”
เด็กหนอเด็ก...
เด็กหญิงแพรวาในวัย 8 ขวบ พรวนดินทำแปลงดอกไม้ที่สวนหลังบ้าน ริมรั้วไม้ระแนงสีขาวลอกร่อน เนื้อตัวมอมแมมแต่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม เธอเริ่มด้วยการปลูกดาวเรืองจากความช่วยเหลือของพ่อ
พ่อบอกว่าดาวเรืองปลูกง่าย ดอกโตเหลืองอร่าม แถมยังให้แม่เอาไปใช้ไหว้พระได้อีกด้วย
“คุณคิดว่าดอกไม้พวกนี้มันจะฟังเพลงรู้เรื่องไหม?”
แปลงดอกไม้ริมรั้วตอนนี้ไม่ได้มีแค่ดาวเรืองแล้ว ดอกไม้หลากสีตั้งแต่เบญจมาศ กุหลาบ มะลิ พุดซ้อน กลิ่นหอมอบอวลขณะที่ฤดูฝนกำลังจะผ่านพ้นไปอีกปี
กี่ฤดูฝนผ่านมาแล้วนะ
แพรวาตัวสูงขึ้นอีกแล้ว...
“อยากร้องเพลงให้พวกมันฟังบ้างเหรอ”
“แพรอยากฟังคุณร้องต่างหาก”
“อยากฟังเองแล้วจะถามทำไมว่าดอกไม้ฟังรู้เรื่องหรือเปล่า”
“ก็เผื่อคุณร้องไม่เพราะ ถ้าดอกไม้ฟังรู้เรื่องก็กลัวว่ามันจะเหี่ยวเฉาตายจากกันไป”
“แล้วเธอล่ะ”
“ถึงคุณร้องไม่เพราะ แพรก็จะตั้งใจฟัง”
“หึ ๆ ”
นี่แหละหนา...หัวใจที่มีความรัก
น้ำต้มผักก็ว่าหวาน
แม้เธอตรงหน้าจะเป็นบุคคลลึกลับที่แพรวาไม่ได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม รู้เพียงว่าเธอเป็นลูกสาวคนเล็กของผู้ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับสายรุ้ง และจากไปเมื่อยามเส้นสีของสายรุ้งเริ่มจางหาย
กระนั้นแพรวาก็ตกหลุมรักเธอจากเรื่องราวสามัญธรรมดา
เมื่อเสียงฝนบรรเลงเป็นเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง
แพรวาตกหลุมรักเธอ
เมื่อวาวแดดสีอ่อนสะท้อนกับปลายผมดำขลับ
แพรวาตกหลุมรักเธอ
เมื่อหยดน้ำที่ค้างอยู่บนกิ่งใบเขียวชอุ่มร่วงหล่นลงสู่พื้นดินในแปลงดอกไม้
แพรวาตกหลุมรักเธอ
สิ่งสามัญเหล่านี้ที่ผู้คนต่างหลงลืมและเมินเฉย แพรวาตั้งใจรักมันอย่างหนักแน่น
มากเกินกว่าเด็กสาวคนหนึ่งจะรักได้
แพรวาคิดถึงเธอในช่วงหน้าหนาวกับหน้าร้อน และเฝ้ารอเธอในฤดูฝน
แม้บางครั้งจะมีความรู้สึกเหงาหรือว่าโดดเดี่ยว
คิดว่าทำไมมันช่างนานแสนนาน
แต่มันก็คุ้มค่าที่จะรอเสมอ
“วันนี้เป็นวันเกิด อายุ 18 แล้วล่ะค่ะ”
“สุขสันต์วันเกิดนะ”
“คุณไม่เคยมาหาแพรในฤดูหนาวแบบนี้ รู้ไหมว่าดีใจมาก ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ”
“น่าเสียดายที่ฉันไม่มีของขวัญ”
“แค่นี้ก็ดีมากแล้ว”
“อยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”
“ได้เหรอคะ?”
“ก็...ถ้าให้ได้นะ”
“...”
“อย่าคิดนานนักสิ อีกเดี๋ยวฉันก็ต้องไปแล้วนะ”
“งั้นขอให้ไม่ไปได้ไหม”
“...”
“ไม่ได้สินะ”
“แพร”
“คะ?”
“เธอเชื่อในโชคชะตาหรือเปล่า”
“ไม่...ไม่รู้สินะคะ แม่บอกว่าหมอดูคู่กับหมอเดา ร่างทรงชอบมอมเมาคนให้งมงาย”
“ไม่ใช่แบบนั้น ฉันหมายถึงโชคชะตาจริง ๆ อย่างเช่นอะไรบางอย่างที่ทำให้เรามาเจอกัน เธอมองเห็นฉันทั้งที่ไม่มีใครบนโลกใบนี้รับรู้การมีตัวตนอยู่ของฉันเลย”
“สรุปคือคุณเป็นผีเหรอ สร้างกิมมิคด้วยการมากับสายรุ้ง?”
“เอาที่สบายใจ”
“ล้อเล่น”
“จริงจังนะ”
“โอเค ๆ โชคชะตาคือแบบที่คุณว่า แล้วยังไงต่อ”
“พ่อของฉันเป็นเทพเจ้าที่โอบกอดสรรพสิ่ง ฉันเป็นลูกสาวคนเล็กของเขา โชคชะตากำหนดฉันให้เป็นผู้นำแสงสีขาวคอยส่องสะท้อนละอองฝนจนเกิดเป็นสายรุ้งปรากฏไปทุก ๆ ที่ ถ้าฉันเอาแต่อยู่ตรงนี้เสมอ แล้วสายรุ้งล่ะ? ฉันก็ต้องออกเดินทางไปพร้อมกับเมฆฝนที่คอยมอบความชุ่มฉ่ำ แค่เธอมองเห็นฉันที่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้ ฉันก็อยากจะขอบคุณมาก ๆ แล้ว ขอบคุณมากนะที่มองเห็น”
ในขณะที่อีกคนร่ายยาวและขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจ หัวสมองของแพรวาก็กำลังประมวลผล มีแต่ความคิดสับสนเต็มไปหมด เธอกำลังตกหลุมรักลูกสาวของเทพเจ้าอย่างนั้นเหรอ
เรื่องจริงเหรอ?
บอกว่าเธอคนนี้เป็นผีสางนางไม้ยังจะน่าเชื่อกว่าอีก
แต่ตกหลุมรักผี?
เฮ้อ...ก็แย่พอกัน
ลูกสาวคนเล็กเสียด้วย พ่อจะหวงมากไหมนะ?
“เอ่อ...ขอบคุณเช่นกันนะคะที่มาให้เห็น”
“แต่เดี๋ยวก็ต้องไป ฉันมีหน้าที่ เธอเองก็มีสิ่งที่ชอบทำ ดอกไม้ที่เธอชอบน่ะ ไม่ว่าอะไรที่เธอรักก็อย่ายอมแพ้ล่ะ ทำมันต่อไปนะ...” หญิงสาวพรูลมหายใจเบา ๆ “ที่จะบอกคือให้สู้ ๆ นะ ถึงแม้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้ก็ตาม”
“ค่ะ”
“แต่จะว่าไป บางครั้งฉันก็แอบโกงอยู่เหมือนกันนะ”
“คุณเป็นเด็กดื้อไง”
“ก็ใครบ้างที่ไม่อยากลิขิตชะตาของตัวเอง”
“นั่นสินะ”
เป็นถึงลูกสาวคนเล็กของเทพเจ้า...
ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าแพรวารู้สึกยังไง
สายตาโกหกอะไรไม่ได้หรอกนะ เธออยากจะพูดตรง ๆ ออกไปแบบนั้น
แต่ติดอยู่ที่ว่าเธอเองก็รู้สึกเหมือนกัน
ไม่อยากจะชี้ทางให้เด็กบื้อหันมาจับผิด
เป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว
ยิ้มสุดริมฝีปากยืดตึงเป็นรูปหัวใจจนเห็นฟันเกือบครบทุกซี่
แก้มยกขึ้นดันตาปิดจนเป็นสระอิทั้งสองข้าง
ไหนจะเขี้ยวน่ารักนั่นอีก
ตกหลุมรักวิธีการยิ้มแบบนี้ไปเสียแล้ว
วันเกิดก็ไปขอร้องคุณก้อนเมฆตั้งเยอะแยะให้ทำฝนตกบริเวณนั้น
ทั้งที่เป็นหน้าหนาว...
จะเป็นความสัมพันธ์แบบไหนก็แล้วแต่
แต่เป็นสิ่งพิเศษ
สิ่งมหัศจรรย์
สิ่งน่ารัก
สิ่งที่ทำให้รู้สึกขอบคุณ
ขอบคุณนะที่มีชีวิตอยู่
จากนี้ฝนหลงฤดูอาจจะมาบ่อยหน่อยนะ
คุณแพรวา
-----------
***ขออภัยที่ไม่มีต่อแล้วนะคะ เพราะต่อยอดเป็นพล็อตนิยายและไปอัพที่เว็บอ่านนิยายออนไลน์แล้วค่ะ
สามารถติดตามน้องมิวสิคได้ที่
ig : music.bnk48official
fb : Music BNK48
เรื่องสั้นฉบับมินิ "แพรวาวันฝนโปรย : Praewa and her Shine" (Music BNK48)
ปล. เนื้อเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงจินตนาการ
-----------
แพรวาวันฝนโปรย
: Praewa and her Shine
แพรวาเกลียดเม็ดฝนที่ร่วงหล่นโปรยปราย
เกลียดแอ่งน้ำขังบนฟุตบาท
เกลียดความเย็นฉ่ำที่ทำให้รู้สึกสดชื่น
เกลียดแม้กระทั่งสายรุ้งที่อยู่คนละฟากฝั่งกับดวงอาทิตย์หลังฝนตกใหม่
เราต่างรู้
สายรุ้งช่างดูมหัศจรรย์และเม็ดฝนที่ร่วงหล่นไม่มีความผิดอะไร
แต่ช่างโชคร้ายที่แพรวามีความทรงจำแสนเจ็บปวดในช่วงเวลาที่ความเย็นชุ่มฉ่ำเกาะกุมหัวใจ
ช่วงเวลาของสายรุ้งท่ามกลางฤดูฝน
ช่วงเวลาที่เธอเคยตกหลุมรักเสียหมดจิตหมดใจ
.
.
“คุณเป็นใครเหรอคะ”
เด็กหญิงแพรวาในชุดกันฝนสีเหลืองวิ่งเตาะแตะมาหยุดตรงหน้าก่อนจะเอียงคอถามบุคคลปริศนาที่ปรากฏตัวพร้อมกับสายรุ้ง
ใช่แล้ว...
เมื่อสายรุ้งปรากฏที่นอกหน้าต่าง เด็กหญิงแพรวาจะเห็นหญิงสาวร่างกายบอบบางบนตัวมีเพียงชิ้นผ้าสีขาวโบกพลิ้วยืนอยู่นอกสวนหลังบ้านถัดจากรั้วไม้ระแนงสีขาวที่เริ่มลอกร่อน
“เธอเห็นฉันด้วยเหรอ”
“ไม่อยากให้เห็นก็เห็นซะแล้วล่ะค่ะ”
“น่าแปลก”
“คุณมาจากที่ไหนเหรอ”
“จากที่ไกล ๆ ”
“มาทำไม”
“ฉันเป็นลูกสาวคนเล็กของผู้ยิ่งใหญ่ มาทำหน้าที่ที่ต้องทำ แต่ตอนนี้ฉันจะต้องไปแล้ว”
“ไม่เล่นกันก่อนสักหน่อยเหรอคะ”
“เด็กน้อย...” หญิงสาวนัยน์ตาประกายดุจแสงวาวของดวงดาวนับล้านบนท้องฟ้าในคืนเดือนมืด จ้องมองเด็กหญิงชุดกันฝน “ครั้งหน้าเมื่อสายรุ้งปรากฏ ฉันจะมาเล่นกับเธอ”
“สัญญามั้ย?”
“สัญญา”
“แล้วสายรุ้งจะมาเมื่อไรคะ”
“เธอรู้นี่”
ใช่... เธอรู้ เด็กหญิงตัวน้อยรู้ว่าสายรุ้งจะมากินน้ำหลังจากฝนหยุดตก ฟ้ามืดครึ้มหลังฝนที่จากไปเหลือไว้ซึ่งความเย็นชุ่มฉ่ำกับวาวแดดแสงอุ่น ดังนั้นเมื่อไรที่ก้อนเมฆก่อตัวอ้วนอวบ มีเสียงฟ้าร้องฮึ่ม ๆ เธอก็จะมาเฝ้ารอให้ฝนหยุดเพื่อจะได้เห็นรุ้งกินน้ำที่ริมหน้าต่างบานเดิม
สายตาจับจ้องที่ริมรั้วเมื่อแสงเริ่มสาดส่อง
“มาแล้ว!”
เสียงแป๋นแหล๋นตะโกนดีอกดีใจ เท้าน้อย ๆ วิ่งตุ้บตั้บออกไปไม่สนใจเสียงดุของคนเป็นแม่
“สายรุ้งมาแล้ว”
“ใช่ ฉันมาแล้วตามสัญญา”
“เล่นกัน ๆ ”
“อยากเล่นอะไรล่ะ”
“เล่นปลูกต้นไม้ แพรชอบดอกไม้”
“ชื่อแพรเหรอ”
“ใช่ค่ะ ชื่อเด็กหญิงแพรวา คุณครูที่โรงเรียนสอนให้คัดลายมือร้อยรอบ”
“งั้นเหรอ ฮ่ะ ๆ แต่รู้อะไรไหมเด็กหญิงแพรวา ฉันเล่นปลูกต้นไม้กับเธอไม่ได้หรอก ฉันไม่มีเวลามากมายขนาดนั้น”
“ทำไม...”
“เพราะสายรุ้งต้องการฉัน”
ริมฝีปากหยักได้รูปกระตุกยิ้มอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเห็นว่าเด็กหญิงตัวเล็กเริ่มหน้ามุ่ย
“ฉันเองก็ชอบดอกไม้สวย ๆ นะ ครั้งหน้าปลูกดอกไม้ไว้รอฉันสิ”
“แบบนั้นมันจะสนุกตรงไหน”
“ก็เธอชอบดอกไม้ไม่ใช่เหรอ แค่ได้ลงมือทำก็น่าสนุกแล้วนะ”
“อยากมีเพื่อนเล่นมากกว่านะคะ”
“ฉันก็จะเป็นเพื่อนเธอ คอยเอาใจช่วยดอกไม้สวย ๆ ของเธอให้เติบโตขึ้นเป็นอย่างดีไงล่ะ”
“สัญญานะ”
“สัญญา”
เด็กหนอเด็ก...
เด็กหญิงแพรวาในวัย 8 ขวบ พรวนดินทำแปลงดอกไม้ที่สวนหลังบ้าน ริมรั้วไม้ระแนงสีขาวลอกร่อน เนื้อตัวมอมแมมแต่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม เธอเริ่มด้วยการปลูกดาวเรืองจากความช่วยเหลือของพ่อ
พ่อบอกว่าดาวเรืองปลูกง่าย ดอกโตเหลืองอร่าม แถมยังให้แม่เอาไปใช้ไหว้พระได้อีกด้วย
“คุณคิดว่าดอกไม้พวกนี้มันจะฟังเพลงรู้เรื่องไหม?”
แปลงดอกไม้ริมรั้วตอนนี้ไม่ได้มีแค่ดาวเรืองแล้ว ดอกไม้หลากสีตั้งแต่เบญจมาศ กุหลาบ มะลิ พุดซ้อน กลิ่นหอมอบอวลขณะที่ฤดูฝนกำลังจะผ่านพ้นไปอีกปี
กี่ฤดูฝนผ่านมาแล้วนะ
แพรวาตัวสูงขึ้นอีกแล้ว...
“อยากร้องเพลงให้พวกมันฟังบ้างเหรอ”
“แพรอยากฟังคุณร้องต่างหาก”
“อยากฟังเองแล้วจะถามทำไมว่าดอกไม้ฟังรู้เรื่องหรือเปล่า”
“ก็เผื่อคุณร้องไม่เพราะ ถ้าดอกไม้ฟังรู้เรื่องก็กลัวว่ามันจะเหี่ยวเฉาตายจากกันไป”
“แล้วเธอล่ะ”
“ถึงคุณร้องไม่เพราะ แพรก็จะตั้งใจฟัง”
“หึ ๆ ”
นี่แหละหนา...หัวใจที่มีความรัก
น้ำต้มผักก็ว่าหวาน
แม้เธอตรงหน้าจะเป็นบุคคลลึกลับที่แพรวาไม่ได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม รู้เพียงว่าเธอเป็นลูกสาวคนเล็กของผู้ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับสายรุ้ง และจากไปเมื่อยามเส้นสีของสายรุ้งเริ่มจางหาย
กระนั้นแพรวาก็ตกหลุมรักเธอจากเรื่องราวสามัญธรรมดา
เมื่อเสียงฝนบรรเลงเป็นเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง
แพรวาตกหลุมรักเธอ
เมื่อวาวแดดสีอ่อนสะท้อนกับปลายผมดำขลับ
แพรวาตกหลุมรักเธอ
เมื่อหยดน้ำที่ค้างอยู่บนกิ่งใบเขียวชอุ่มร่วงหล่นลงสู่พื้นดินในแปลงดอกไม้
แพรวาตกหลุมรักเธอ
สิ่งสามัญเหล่านี้ที่ผู้คนต่างหลงลืมและเมินเฉย แพรวาตั้งใจรักมันอย่างหนักแน่น
มากเกินกว่าเด็กสาวคนหนึ่งจะรักได้
แพรวาคิดถึงเธอในช่วงหน้าหนาวกับหน้าร้อน และเฝ้ารอเธอในฤดูฝน
แม้บางครั้งจะมีความรู้สึกเหงาหรือว่าโดดเดี่ยว
คิดว่าทำไมมันช่างนานแสนนาน
แต่มันก็คุ้มค่าที่จะรอเสมอ
“วันนี้เป็นวันเกิด อายุ 18 แล้วล่ะค่ะ”
“สุขสันต์วันเกิดนะ”
“คุณไม่เคยมาหาแพรในฤดูหนาวแบบนี้ รู้ไหมว่าดีใจมาก ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ”
“น่าเสียดายที่ฉันไม่มีของขวัญ”
“แค่นี้ก็ดีมากแล้ว”
“อยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”
“ได้เหรอคะ?”
“ก็...ถ้าให้ได้นะ”
“...”
“อย่าคิดนานนักสิ อีกเดี๋ยวฉันก็ต้องไปแล้วนะ”
“งั้นขอให้ไม่ไปได้ไหม”
“...”
“ไม่ได้สินะ”
“แพร”
“คะ?”
“เธอเชื่อในโชคชะตาหรือเปล่า”
“ไม่...ไม่รู้สินะคะ แม่บอกว่าหมอดูคู่กับหมอเดา ร่างทรงชอบมอมเมาคนให้งมงาย”
“ไม่ใช่แบบนั้น ฉันหมายถึงโชคชะตาจริง ๆ อย่างเช่นอะไรบางอย่างที่ทำให้เรามาเจอกัน เธอมองเห็นฉันทั้งที่ไม่มีใครบนโลกใบนี้รับรู้การมีตัวตนอยู่ของฉันเลย”
“สรุปคือคุณเป็นผีเหรอ สร้างกิมมิคด้วยการมากับสายรุ้ง?”
“เอาที่สบายใจ”
“ล้อเล่น”
“จริงจังนะ”
“โอเค ๆ โชคชะตาคือแบบที่คุณว่า แล้วยังไงต่อ”
“พ่อของฉันเป็นเทพเจ้าที่โอบกอดสรรพสิ่ง ฉันเป็นลูกสาวคนเล็กของเขา โชคชะตากำหนดฉันให้เป็นผู้นำแสงสีขาวคอยส่องสะท้อนละอองฝนจนเกิดเป็นสายรุ้งปรากฏไปทุก ๆ ที่ ถ้าฉันเอาแต่อยู่ตรงนี้เสมอ แล้วสายรุ้งล่ะ? ฉันก็ต้องออกเดินทางไปพร้อมกับเมฆฝนที่คอยมอบความชุ่มฉ่ำ แค่เธอมองเห็นฉันที่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้ ฉันก็อยากจะขอบคุณมาก ๆ แล้ว ขอบคุณมากนะที่มองเห็น”
ในขณะที่อีกคนร่ายยาวและขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจ หัวสมองของแพรวาก็กำลังประมวลผล มีแต่ความคิดสับสนเต็มไปหมด เธอกำลังตกหลุมรักลูกสาวของเทพเจ้าอย่างนั้นเหรอ
เรื่องจริงเหรอ?
บอกว่าเธอคนนี้เป็นผีสางนางไม้ยังจะน่าเชื่อกว่าอีก
แต่ตกหลุมรักผี?
เฮ้อ...ก็แย่พอกัน
ลูกสาวคนเล็กเสียด้วย พ่อจะหวงมากไหมนะ?
“เอ่อ...ขอบคุณเช่นกันนะคะที่มาให้เห็น”
“แต่เดี๋ยวก็ต้องไป ฉันมีหน้าที่ เธอเองก็มีสิ่งที่ชอบทำ ดอกไม้ที่เธอชอบน่ะ ไม่ว่าอะไรที่เธอรักก็อย่ายอมแพ้ล่ะ ทำมันต่อไปนะ...” หญิงสาวพรูลมหายใจเบา ๆ “ที่จะบอกคือให้สู้ ๆ นะ ถึงแม้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้ก็ตาม”
“ค่ะ”
“แต่จะว่าไป บางครั้งฉันก็แอบโกงอยู่เหมือนกันนะ”
“คุณเป็นเด็กดื้อไง”
“ก็ใครบ้างที่ไม่อยากลิขิตชะตาของตัวเอง”
“นั่นสินะ”
เป็นถึงลูกสาวคนเล็กของเทพเจ้า...
ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าแพรวารู้สึกยังไง
สายตาโกหกอะไรไม่ได้หรอกนะ เธออยากจะพูดตรง ๆ ออกไปแบบนั้น
แต่ติดอยู่ที่ว่าเธอเองก็รู้สึกเหมือนกัน
ไม่อยากจะชี้ทางให้เด็กบื้อหันมาจับผิด
เป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว
ยิ้มสุดริมฝีปากยืดตึงเป็นรูปหัวใจจนเห็นฟันเกือบครบทุกซี่
แก้มยกขึ้นดันตาปิดจนเป็นสระอิทั้งสองข้าง
ไหนจะเขี้ยวน่ารักนั่นอีก
ตกหลุมรักวิธีการยิ้มแบบนี้ไปเสียแล้ว
วันเกิดก็ไปขอร้องคุณก้อนเมฆตั้งเยอะแยะให้ทำฝนตกบริเวณนั้น
ทั้งที่เป็นหน้าหนาว...
จะเป็นความสัมพันธ์แบบไหนก็แล้วแต่
แต่เป็นสิ่งพิเศษ
สิ่งมหัศจรรย์
สิ่งน่ารัก
สิ่งที่ทำให้รู้สึกขอบคุณ
ขอบคุณนะที่มีชีวิตอยู่
จากนี้ฝนหลงฤดูอาจจะมาบ่อยหน่อยนะ
คุณแพรวา
-----------
***ขออภัยที่ไม่มีต่อแล้วนะคะ เพราะต่อยอดเป็นพล็อตนิยายและไปอัพที่เว็บอ่านนิยายออนไลน์แล้วค่ะ
สามารถติดตามน้องมิวสิคได้ที่
ig : music.bnk48official
fb : Music BNK48