เรื่อง IUU ที่ไทยโดนใบเหลือง EU ได้บอกว่า ต้องรอให้ประเทศที่สาม(เช่นไทย) ต้องลงสัตยาบันก่อนกับ EU ก่อน

กระทู้สนทนา

กระทู้นี้
ได้แตกออกมาจากกระทู้ก่อน https://ppantip.com/topic/38438585/comment39
เนื่องจากเป็นกระทู้ที่ตกหน้าไปและไม่มีคนอ่าน
แต่การสนทนาระหว่างผมและคุณบ้านทุ่ง ไม่มีทีท่าว่าจะจบ และวิ่งต่อไปถึง 100กว่า คคห.
ข้อมูลต่างๆที่ปรากฏผมเกรงว่าจะตกไปโดยเปล่าประโยชน์
จึงนำมาตั้งกระทู้ใหม่ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลให้สมาชิกรับทราบข้อมูลต่างๆแต่ละด้านไปด้วยพร้อมกัน

ล่าสุดจากกระทู้นั้น ก็คือ คำถาม ที่คุณบ้านทุ่ง  ถามเอาไว้จากกระทู้ก่อน คือ
" มีข้อมูลไหม ?  ที่ EU ได้บอกว่า EU ต้องรอให้ประเทศที่สาม(เช่นไทย) ต้องลงสัตยาบันก่อนกับ EU  ก่อน"
EU ก็จึงจะเริ่มบังคับกฎระเบียบสหภาพยุโรป ที่ (EC) No.1005/2008 (บังคับใช้เมื่อ 1มค.2553)
มาดำเนินการใดๆ เช่นงดการนำเข้าสินค้าประมงจากประเทศนั้นๆ  ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขในกฏระเบียบของเขา  "

คำถามนี้สืบเนื่องจากการสนทนาที่ยืดยาวจากกระทู้ก่อน  จะสรุปที่มาคร่าวๆ ดังนี้

1 ผมบอกว่า ไทยเพิ่งรับสัตยาบันเมื่อ 2554 จึงเป็นเรื่องใหม่
   ทำให้ที่คุณบ้านทุ่งบอกว่าเขามาเตือนๆๆปูหลายครั้งจึงไปตกที่ลุงตู่  จึงไม่ใช่ถูกต้องทั้งหมด
2 คุณบ้านทุ่ง ไม่เข้าใจเรื่องการลงสัตยาบัน  ทำไมไทยต้องไปลง  เขาก็บังคับใช้ทันทีนี่

3 ผมพยายามอธิบาย ต่างๆนาๆ แต่ก็ไม่ได้ข้อสรุป จึงได้ยืดยาวออกไปมากมาย

สุดท้ายคุณบ้านทุ่งท้าว่าให้ผมหาข้อมูลจาก EU มาแสดง จึงจะเชื่อ
โดยบอกว่า ให้ผมนำเอกสารประกอบอย่างเป็นทางการของ EU มาแสดงด้วย

กระทู้นี้ผมจะนำข้อมูลมาแสดงให้คุณบ้านทุ่งและสมาชิกได้ดู
ด้วยเพราะไม่เก่งภาษาอังกฤษ ต้องให้กูเกิ้ลช่วยแปลและนำการแปลมาแสดงไว้เป็นรูปภาพในกระทู้นี้
หากท่านที่อ่านเจอข้อผิดปรกติ และช่วยทักท้วง   ผิดถูกอย่างไร ยินดีแก้ไขให้ครับ

จากการค้นหาข้อมูล กฎระเบียบสหภาพยุโรป ที่ (EC) No.1005/2008

กฎระเบียบสหภาพยุโรป ที่ (EC) No.1005/2008
https://publications.europa.eu/en/publication-detail/-/publication/3d492619-4162-4884-ae59-ebb1352796bc/language-en

เรื่องการลงสัตยาบัน  กล่าวไว้ ที่ มาตรา 31  โดยผมยกมาแต่ที่เกี่ยวข้อง  ดังนี้

นี่ หมายความว่า EU สามารถ ให้ใบเหลือง แดง  กับประเทศที่ไม่ได้ลงสัตยาบันตามข้อ 6(a)
เพราะจะถูกระบุ ว่าเป็นประเทศที่ไม่ให้ความร่วมมือ

เอ๊ะๆ
EU  ออกกฏนี้ เริ่มบังคับเมื่อ  1 มกราคม พ.ศ. 2553  กับประเทศสมาชิกและประเทศที่สาม
ไทยก็ต้องโดนเหลืองใบแดงทันที สิ่

ความคิดนี้คือผิดเต็มๆครับ เพราะ EU เขามีระเบียบไว้ ดังนี้

คณะกรรมการจะให้เวลาแก่ประเทศที่สามที่เกี่ยวข้อง ในการตอบรับการแจ้งเตือนและเวลาที่เหมาะสมในการแก้ไขสถานการณ์

ประเทศที่สามที่ให้ความร่วมมือ ก็คือไทย ด้วย
เพราะไทยได้ไปลงสัตยาบันเอาไว้ และแสดงความร่วมมือตามมาตราอื่นๆ  ถูกไหมครับ

สรุป

จากการที่ EU  ประกาศใช้กฎระเบียบสหภาพยุโรป ที่ (EC) No.1005/2008 ว่าด้วยการจัดตั้งระบบของประชาคมยุโรปเพื่อป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม [Council Regulation (EC) No 1005/2008 of 29 September 2008 establishing a community system to prevent, deter and eliminate illegal, unreported and unregulated fishing] เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2551 และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2553

1 มค.2553 EU แจ้งข้อมูลประกาศ ไทยรับทราบ
ต่อมา EU กับไทย ก็ติดต่อประสานงานกัน
โดย  EU รอให้ไทยดำเนินการต่างๆ ก่อน   ไม่ใช่ว่าให้ใบเหลืองใบแดงโดยทันทีตามระเบียบของเขา

ไทยจึงไปลงสัตยาบันให้เป็นไปตาม มาตรา 31  (คือถ้าไม่ไปลง  ก็โดน EU ชูใบเหลืองแดง เลิกนำเข้าสินค้าประมง ตั้งแต่ปี 2554-55-56 แล้ว )
จากนั้นไทยก็ดำเนินต่างๆที่เกี่ยวกับกฏหมายหรือข้อบังคับภายในประเทศ ให้สอดคล้องกับพันธะต่างประเทศ

ยก คคห เก่า จากกระทู้ก่อน
มาเสริมเรื่องสัตยาบัน อีกครั้ง[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

http://www2.diw.go.th/treaty/news/km%20%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%A2..pdf
การให้สัตยาบัน
1. บทนา

การลงนาม
การแสดงความยินยอมของรัฐเพื่อผูกพันตามสนธิสัญญาโดยผู้แทนผู้มีอานาจเต็มของรัฐ หรือบุคคลที่มีอานาจโดยตาแหน่ง

การให้สัตยาบัน
การประกาศเป็นทางการโดยรัฐว่าตนยอมรับพันธะผูกพันตามสนธิสัญญาที่ตนได้ลงนามไว้ การให้สัตยาบันอนุสัญญา/พิธีสาร เป็นกระบวนการหรือขั้นตอนหนึ่งในการจัดทาอนุสัญญา/พิธีสารซึ่งมีความสาคัญหรือมีผลทาให้เกิดความผูกพันตามอนุสัญญา/พิธีสารนั้นๆ และจาเป็นต้องปฏิบัติตามพันธกรณีหรือข้อกาหนดตามที่ระบุในอนุสัญญา/พิธีสาร ซึ่งการให้สัตยาบันจะกระทาหลังจากที่ได้มีการลงนามเรียบร้อยแล้ว และเนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยโดย กรอ. ได้ เคยมีการจัดทาอนุสัญญา/พิธีสารกับนานาประเทศและองค์การระหว่างประเทศ ในการเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกอนุสัญญา/พิธีสาร
ดังนั้นเพื่อการดาเนินการให้สัตยาบันอนุสัญญา/พิธีสาร เป็นไปในแนวปฏิบัติเดียวกัน จึงได้จัดทาขั้นตอนการให้สัตยาบันอนุสัญญา/พิธีสาร เพื่อใช้เป็นพื้นฐานและแนวทางในการปฏิบัติงานต่อไป

ปัญหาและอุปสรรคทางกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อม
ในอาณาเขตทะเลไทย
https://www.tci-thaijo.org/index.php/tgt/article/download/73875/59617/

ความเป็นมาและความส้าคัญของปัญหา
ปัจจุบันอนุสัญญาและข้อตกลงระหว่างประเทศนั้นมีความสาคัญต่อกฎหมายภายใน ซึ่งความตกลงระหว่างประเทศมีผลในระบบกฎหมายภายในได้ 2 ระบบกล่าวคือ ระบบเอกนิยม (Monism) ระบบนี้ถือว่าเมื่ออนุสัญญาใดได้มีการได้รับการสัตยาบันแล้ว จะมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายภายในได้ทันที ส่วนอีกหนึ่งระบบคือ ระบบทวินิยม (Dualism) เมื่อมีการให้สัตยาบันแล้วจะทาให้มีผลผูกพันระหว่างรัฐกับรัฐตามกฎหมายระหว่างประเทศ แต่จะบังคับให้เป็นกฎหมายภายในทันทียังไม่ได้ จนกว่าจะมีการออกกฎหมายภายในรองรับก่อนหรือเรียกว่า กฎหมายอนุวัติการให้เป็นไปตามอนุสัญญา ซึ่งประเทศไทย ได้ยึดระบบทวินิยมในการนาเอากฎหมายระหว่างมาใช้ในกฎหมายภายใน (บวรศักดิ์ อุวรรณโณ, 2538)

ที่ผมยกมา 2 อัน คือเป็นแบบคร่าวๆ อาจจะไม่ตรงกับกรณี IUU
แต่คงพอให้คนอ่านเข้าใจเรื่องสัตยาบันบ้าง ได้แน่นอน
ถ้าจะอ่านเต็มๆ ไปกดที่ลิ้งดูแล้วกัน

คงชัดเจนนะครับ หลักฐานชัดเจนจาก EU ที่ต้องการ
หวังว่าคุณบ้านทุ่งจะแสดงข้อความว่ายอมรับให้เห็นสักหน่อยนะครับ
เพราะผมใช้เวลาทิ้งงานการโต้ตอบกับคุณเหนื่อยมากๆ

ตอนนี้ตั้งกระทู้เสร๊จ เดี๋ยวไปเล่นกีฬา
กลับมาเชื่อว่าต้องมีให้สนทนาต่อ(เชื่อว่าระดับต้นNONแดง คงไม่ยอมเสียฟอร์มจบง่ายๆเหมือนเดิม555)
แต่อย่าเพิ่งออกทะเลไปประเด็นอื่น ตั้งข้อความโจมตีใหม่ เอาแต่ประเด็นในกระทู้นะครับ