Hola!! สวัสดีจ้า ครั้งนี้อีกเช่นเคย กับการลุยเดี่ยว เที่ยวคนเดียว แต่ครั้งนี้เป็นการท้าทายตัวเองขึ้นมาหน่อยด้วยการไปเที่ยวในประเทศที่เราไม่คิดไม่ฝันว่าจะไป นั่นก็คือคิวบา ประเทศเล็กๆแถบแคริเบียนตอนบนที่มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจมากมาย เราหาข้อมูลเยอะมาก หนึ่งด้วยความที่ความรู้เรื่องภาษาสเปนเป็นศูนย์ สองเรื่ิองความปลอดภัย สามแล้วเราจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างล่ะ นอกจากแค่ไปถ่ายรูปรถคลาสสิก สูบซิการ์ และดื่มรัม?? สุดท้ายเราจึงตั้งเป้าหมายไว้ว่า ไปทุกที่ที่มีโอกาสไปได้โดยเรียนรู้วัฒธรรมของเค้าให้มากที่สุด
ซึ่งข้อมูลแหล่งอ้างอิงครั้งนี้ เราใช้กระทู้นี้คะ
https://ppantip.com/topic/36295115 เป็นประโยชน์ทีเดียวกับการจองที่พัก อย่าง casa particular หรือถ้าใครอยากได้ที่พักถูกลงมากว่านี้หน่อย Hostels เป็นอีกตัวเลือกที่ดี
https://www.hostelsclub.com/en/ (คืนหนึ่งเฉลี่ย 10-15 cuc เลยล่ะ) และการเดินทางหลักครั้งนี้เราใช้ รถบัส Viazul (จองได้ทั้งทางออนไลน์และที่สถานี) ส่วนเมืองที่เราจะไปเยี่ยมเยือนครั้งนี้ืทั้งหมดสี่เมืองด้วยกันคือ Havana-Vinales- Trinidad - Varadero เป็นเมืองที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากค่ะ
อ้อ! ใครที่สงสัยว่า CUC คืออะไร มันเป็นค่าเงินสกุลของหนึ่งในสองสำหรับนักท่องเที่ยวไว้แลกเปลี่ยนและใช้จ่าย
ส่วนอันที่สองคือ CUP หรือ Peso เป็นค่าเงินสำหรับ cuban ไว้ใช้จ่าย (นักท่องเที่ยวแลกได้เช่นกันไว้ซื้อของตาม local markets)
ซึ่ง 1 CUC = 24 หรือ 25 CUP ประมาณนี้นะ ไม่รู้เราอธิบายงงหรือเปล่า 555
ในระหว่างเราเดินทางในคิวบาเราใช้ offline map ชื่อ Triposo น่าตาเป็นสีฟ้า เสถียรมากคะและใช้ได้ทุกที่ไม่เฉพาะในคิวบา
เอาล่ะ การเดินทางครั้งนี้เราเริ่มเดินทางวันที่ 24 ธันวา ด้วยสายการบิน Transat จากแคนาดา โตรอนโต ลงเมือง Varadero (วีซ่าเราได้บนเครื่องเลยคะ ซึ่งราคาวีซ่ารวมในราคาตั๋วบินแล้ว) หลังจากที่เราถึงเมืองปลายทาง ขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายสามเรานั่งรถบัสต่อจาก Varadero ไปยัง Havana ประมาณสองชั่วโมงครึ่งและต่อ taxi ไปยัง บ้านพัก casa ที่เราจองล่วงหน้าไว้ (เรานั่งผ่าน plaza de la Revolucion, Che Guevara และ Jose Marti เปิดไฟสว่างสวยเชียว) ก่อนที่เราจะพักผ่อนและไปต่อวันรุ่งขึ้น
central havana ที่เราพักอยู่สะอาดและถูกกว่าอยู่ใน old havana มาก เดินประมาณ 10 นาที ก็ถึง El Capitolio แล้ว
วันแรกที่ฮาวาน่าเราเดินเตร่ ทั่ว old havana เลยคะ ตามซอกซอยต่างๆงงมาก พยายามให้คุ้นชิน
เราชอบเจ้าเหมียวเจ้าตูบที่นั่นมาก ดูแต่ละตัวมี attitude
Plaza Vieja
De San Francisco
Bacardi Building ที่เคยเป็นบริษัท เหล้ารัมอันเลื่องลือ
plaza de la Revolucion
หลังจากเรากลับมาจาก hop on - hop off ก็มุ่งหน้ากลับ casa
แวะถ่ายรูปก้อนเมฆซักหน่อย
วันต่อมา เราพยายามเก็บสถานที่ทุกอย่างที่ต้องไป
แม้แต่สถานที่ตามข้างทางยังสะกดให้เรายกกล้องถ่ายให้ได้
San Jose Warehouse เป็นตลาดศิลปะ open - air ขนาดใหญ่ เราเดินเพลินเลยค่ะ
Havana Cathedral เป็นโบถส์คาทอลิกในคิวบา วันที่เราไปดันปิด อดชมความสวยงาม เลยได้แต่ถ่ายข้างนอก T_T
La Bodeguita del Medio จุดเริ่มต้นของ Mojito ที่บาร์แห่งนี้คะ
วันที่สามในคิวบา เราวางแพลนไป Fusterlandian เป็นศิลปะแนว folk art ในรูปแบบโมเสค (mosaics) โดยผลงานนี้เป็นของศิลปินชาวคิวบาชื่อ Jose Fuster จุดเริ่มต้นเมืองของ Fuster มาจาก เค้าเริ่มรังสรรค์งานโมเสคที่สตูดิโอของเค้าก่อน หลังจากนั้นเริ่มขยายอาณาจักรโมเสคด้วยความเห็นดีเห็นงามจากเพื่อนบ้าน ต่อมาจึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในฮาวาน่าไป
วันที่เราไปเราคิดว่าเค้ายังไม่เปิด แต่เราจำได้ว่าเค้าเปิดเก้าโมงเช้า (เช็คทางอินเทอเน็ต) จนเราไปถามคนแถวนั้นได้ความว่า เค้าปิดซ่อมบางส่วนสักประเดี๋ยวนะและจะเปิดอีกทีบ่ายสอง เราก็เสียดาย ไม่รอเพราะมีแพลนต่อ ก็ได้แต่แง้มประตูโบกมือบ๊ายบาย
แพลนต่อมาเรานัดเพื่อนชาวสวีเดนที่ Callejon de Hamel เพื่อไปชมการแสดงดนตรีสด แต่ก็ต้องผิดหวังรอบสองเพราะการแสดงมีวันอาทิตย์วันเดียว T_T เอาล่ะ เราเข้าใจ ก่อนเรากับเพื่อนจะไปดื่ม กิน ชิลล์ ต่อที่ old habana
ข้างๆซอยร้านอาหาร La Vitrola เราค้นพบว่ามีร้านขายน้ำขวดราคาปลีกส่งขายซึ่งถูกกว่าตามร้านอาหารเกือบเท่าตัว (ดื่มน้ำที่ึคิวบาต้องจากน้ำขวดเท่านั้นนะคะ)
ตกเย็นเราเเยกย้ายกับเพื่ิอนเพื่อไปต่อ โดยจุดมุ่งหมายของเราคือที่ Fabrica de Arte Cubano
เราท้าทายอำนาจมืดมากคะ โดยเดินตามถนน sea wall ช่วงพลบค่ำประมาณหนึ่งชั่วโมงได้ และก็ปลอดภัยดีคะ มีรถราวิ่งตลอดพร้อมแสงไฟข้างทาง (แต่ช่วงซอกซอยไม่ค่อยมีไฟคะ ต้องเลี่ยงอย่าเดินคนเดียว) พอเราไปถึงก็พบว่าอีก 1ชั่วโมงเปิด เราไปเห็นชาวสเปนสองคนกำลังรอเหมือนกันคะ เราเลยขอจอยเป็นเพื่อนเค้า (อย่างน้อยๆเราจะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ฮะฮ่า) และเราก็ได้มีโอกาสลองอาหารคิวบา (หรือสเปน) จากการที่เพื่อนตระเวนหาร้านอาหารคะ
เพื่อนเราไปเจอบ้านหลังหนึ่งขายอาหารแบบ home cook คะ เค้าขายให้ชาวบ้านละแวกนั้น อยากกินอะไรก็สั่งเหมือนอาหารตามสั่งบ้านเรา (แต่เค้าไม่มีเมนูให้ ขายเท่าที่วันนั้นของมี) อย่างอันนี้เพื่อนเราสั่ง เราจำไม่ได้เรียกว่าอะไรรสชาติคล้ายคัสตาร์ดหวานๆ มีไก่กับพริก จะอาหารคาวก็ไม่ใช่ ขนมหวานก็ไม่เชิง
Fabrica de Arte Cubano หรือ F.A.C. แต่เดิมเป็นตึกโรงงานเก่าคะ ก่อนจะปรังปรุงตกแต่งใหม่เป็นไนท์คลับและนำงานศิลปะมาจัดวาง มีทั้งหมดสามชั้นและดาดฟ้าและแต่ละเดือนจะเปลี่ยน exhibition สองครั้ง ซึ่งวันที่เราไปมีโชว์เปียโน แจ็ส และเพลงพิ้นบ้าน และหลังจาก 11โมง เป็นต้นไปก็จะเป็นคลับคะ ใครชอบ vibes ไหนก็เลือกชั้นตามใจชอบ
เราชอบที่นี่มากเหมือนเป็นการรวมตัวคนเจ๋งๆจากทั่วโลกมาเจอกันที่ไม่ใช่แลกเปลี่ยนเรื่องดนตรี แนวเพลง หรือศิลปะ เราพูดคุยเรื่องประเทศและภาษา รวมถึงอาหารการกินด้วยคะ
วันสุดท้ายในฮาวาน่าตั้งใจจะนั่งเฟอรรี่ไป Morro Castle แต่ก็ต้องล้มเลิกเพราะทนแรงขี้เกียจและอากาศร้อนไม่ไหว จนไปจบที่ Museo Nacional de Bellas Artes เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะคิวบันกับต่างชาติ เป็นศิลปะที่ดูไม่ยากจนเกินไปค่ะ ดูเพลินๆ (ข้างในไม่ให้ถ่ายรูปนะคะ)
Museum of the Revolution
ไอติมรสผลไม้ละมุด
สุดท้ายไปจบที่ Melecon จุดชมวิวที่ทุกคนต้องมา นั่งเล่นช่วงเย็นๆบรรยากาศดีมากเลยล่ะ
ฮาวาน่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากคะ รถคลาสสิค (ไม่นับควันจากรถ เป็นสิ่งเดียวที่เราไม่ค่อยชอบ) ตึกเก่าๆที่สวยงามและมีมนต์ขลัง เราคิดว่าเที่ยวสักสาม - สี่วันในเมืองนี้กำลังพอดึคะ สองวันเดินที่ old havana วันที่เหลือเที่ยวนอกเมือง เที่ยวไนท์ไลฟ์ ดูเต้นSalsa และเรียนเต้น กิจกรรมให้ทำเยอะมากคะ
ถ้าไปเที่ยวคนเดียวโดยเฉพาะผู้หญิง จะมีผู้ชายคิวบาชอบแซวและถามคะ (เชิงเล่นๆ เราจะดูออกคะว่าเค้ามาดีหรือมีอีกเจตนานึง) คนที่นั่นจะตื่นเต้นกับนักท่องเที่ยวมาก ถามนู่นนี่ นิสัยไลฟ์สไตล์ชิลล์มากกก และอย่างหนึ่งที่เราชอบคือเค้าจะเคารพกันและกันมากคะ ไม่มีการแตะตัวหรือมองเชิงไม่ดี และที่สำคัญเค้าเคารพกฎหมายบ้านเค้ามากคะ (ตามซอยหลักๆ เค้ามีกล้องวงจรฯ ลองสังเกตดูนะคะ) ดังนั้น เที่ยวคนเดียวปลอดภัยมาก
ค่าอาหารการกินที่เมืองนี้ (รวมถึงเมืองอื่นๆ) สมเหตุสมผล ถ้าไม่นับว่าไปกินร้านอาหารขึ้นชื่อ และทิป 10% คือเรททั่วไปที่ควรจะให้คะ
เดินทางกันต่ออีกสามเมืองที่เหลือคะ
แบกเป้ลุยเดี่ยว เที่ยวคิวบา 15 วัน :)
ซึ่งข้อมูลแหล่งอ้างอิงครั้งนี้ เราใช้กระทู้นี้คะ https://ppantip.com/topic/36295115 เป็นประโยชน์ทีเดียวกับการจองที่พัก อย่าง casa particular หรือถ้าใครอยากได้ที่พักถูกลงมากว่านี้หน่อย Hostels เป็นอีกตัวเลือกที่ดี https://www.hostelsclub.com/en/ (คืนหนึ่งเฉลี่ย 10-15 cuc เลยล่ะ) และการเดินทางหลักครั้งนี้เราใช้ รถบัส Viazul (จองได้ทั้งทางออนไลน์และที่สถานี) ส่วนเมืองที่เราจะไปเยี่ยมเยือนครั้งนี้ืทั้งหมดสี่เมืองด้วยกันคือ Havana-Vinales- Trinidad - Varadero เป็นเมืองที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากค่ะ
อ้อ! ใครที่สงสัยว่า CUC คืออะไร มันเป็นค่าเงินสกุลของหนึ่งในสองสำหรับนักท่องเที่ยวไว้แลกเปลี่ยนและใช้จ่าย
ส่วนอันที่สองคือ CUP หรือ Peso เป็นค่าเงินสำหรับ cuban ไว้ใช้จ่าย (นักท่องเที่ยวแลกได้เช่นกันไว้ซื้อของตาม local markets)
ซึ่ง 1 CUC = 24 หรือ 25 CUP ประมาณนี้นะ ไม่รู้เราอธิบายงงหรือเปล่า 555
ในระหว่างเราเดินทางในคิวบาเราใช้ offline map ชื่อ Triposo น่าตาเป็นสีฟ้า เสถียรมากคะและใช้ได้ทุกที่ไม่เฉพาะในคิวบา
เอาล่ะ การเดินทางครั้งนี้เราเริ่มเดินทางวันที่ 24 ธันวา ด้วยสายการบิน Transat จากแคนาดา โตรอนโต ลงเมือง Varadero (วีซ่าเราได้บนเครื่องเลยคะ ซึ่งราคาวีซ่ารวมในราคาตั๋วบินแล้ว) หลังจากที่เราถึงเมืองปลายทาง ขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายสามเรานั่งรถบัสต่อจาก Varadero ไปยัง Havana ประมาณสองชั่วโมงครึ่งและต่อ taxi ไปยัง บ้านพัก casa ที่เราจองล่วงหน้าไว้ (เรานั่งผ่าน plaza de la Revolucion, Che Guevara และ Jose Marti เปิดไฟสว่างสวยเชียว) ก่อนที่เราจะพักผ่อนและไปต่อวันรุ่งขึ้น
central havana ที่เราพักอยู่สะอาดและถูกกว่าอยู่ใน old havana มาก เดินประมาณ 10 นาที ก็ถึง El Capitolio แล้ว
วันแรกที่ฮาวาน่าเราเดินเตร่ ทั่ว old havana เลยคะ ตามซอกซอยต่างๆงงมาก พยายามให้คุ้นชิน
เราชอบเจ้าเหมียวเจ้าตูบที่นั่นมาก ดูแต่ละตัวมี attitude
Plaza Vieja
De San Francisco
Bacardi Building ที่เคยเป็นบริษัท เหล้ารัมอันเลื่องลือ
plaza de la Revolucion
หลังจากเรากลับมาจาก hop on - hop off ก็มุ่งหน้ากลับ casa
แวะถ่ายรูปก้อนเมฆซักหน่อย
วันต่อมา เราพยายามเก็บสถานที่ทุกอย่างที่ต้องไป
แม้แต่สถานที่ตามข้างทางยังสะกดให้เรายกกล้องถ่ายให้ได้
San Jose Warehouse เป็นตลาดศิลปะ open - air ขนาดใหญ่ เราเดินเพลินเลยค่ะ
Havana Cathedral เป็นโบถส์คาทอลิกในคิวบา วันที่เราไปดันปิด อดชมความสวยงาม เลยได้แต่ถ่ายข้างนอก T_T
La Bodeguita del Medio จุดเริ่มต้นของ Mojito ที่บาร์แห่งนี้คะ
วันที่สามในคิวบา เราวางแพลนไป Fusterlandian เป็นศิลปะแนว folk art ในรูปแบบโมเสค (mosaics) โดยผลงานนี้เป็นของศิลปินชาวคิวบาชื่อ Jose Fuster จุดเริ่มต้นเมืองของ Fuster มาจาก เค้าเริ่มรังสรรค์งานโมเสคที่สตูดิโอของเค้าก่อน หลังจากนั้นเริ่มขยายอาณาจักรโมเสคด้วยความเห็นดีเห็นงามจากเพื่อนบ้าน ต่อมาจึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในฮาวาน่าไป
วันที่เราไปเราคิดว่าเค้ายังไม่เปิด แต่เราจำได้ว่าเค้าเปิดเก้าโมงเช้า (เช็คทางอินเทอเน็ต) จนเราไปถามคนแถวนั้นได้ความว่า เค้าปิดซ่อมบางส่วนสักประเดี๋ยวนะและจะเปิดอีกทีบ่ายสอง เราก็เสียดาย ไม่รอเพราะมีแพลนต่อ ก็ได้แต่แง้มประตูโบกมือบ๊ายบาย
แพลนต่อมาเรานัดเพื่อนชาวสวีเดนที่ Callejon de Hamel เพื่อไปชมการแสดงดนตรีสด แต่ก็ต้องผิดหวังรอบสองเพราะการแสดงมีวันอาทิตย์วันเดียว T_T เอาล่ะ เราเข้าใจ ก่อนเรากับเพื่อนจะไปดื่ม กิน ชิลล์ ต่อที่ old habana
ข้างๆซอยร้านอาหาร La Vitrola เราค้นพบว่ามีร้านขายน้ำขวดราคาปลีกส่งขายซึ่งถูกกว่าตามร้านอาหารเกือบเท่าตัว (ดื่มน้ำที่ึคิวบาต้องจากน้ำขวดเท่านั้นนะคะ)
ตกเย็นเราเเยกย้ายกับเพื่ิอนเพื่อไปต่อ โดยจุดมุ่งหมายของเราคือที่ Fabrica de Arte Cubano
เราท้าทายอำนาจมืดมากคะ โดยเดินตามถนน sea wall ช่วงพลบค่ำประมาณหนึ่งชั่วโมงได้ และก็ปลอดภัยดีคะ มีรถราวิ่งตลอดพร้อมแสงไฟข้างทาง (แต่ช่วงซอกซอยไม่ค่อยมีไฟคะ ต้องเลี่ยงอย่าเดินคนเดียว) พอเราไปถึงก็พบว่าอีก 1ชั่วโมงเปิด เราไปเห็นชาวสเปนสองคนกำลังรอเหมือนกันคะ เราเลยขอจอยเป็นเพื่อนเค้า (อย่างน้อยๆเราจะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ฮะฮ่า) และเราก็ได้มีโอกาสลองอาหารคิวบา (หรือสเปน) จากการที่เพื่อนตระเวนหาร้านอาหารคะ
เพื่อนเราไปเจอบ้านหลังหนึ่งขายอาหารแบบ home cook คะ เค้าขายให้ชาวบ้านละแวกนั้น อยากกินอะไรก็สั่งเหมือนอาหารตามสั่งบ้านเรา (แต่เค้าไม่มีเมนูให้ ขายเท่าที่วันนั้นของมี) อย่างอันนี้เพื่อนเราสั่ง เราจำไม่ได้เรียกว่าอะไรรสชาติคล้ายคัสตาร์ดหวานๆ มีไก่กับพริก จะอาหารคาวก็ไม่ใช่ ขนมหวานก็ไม่เชิง
Fabrica de Arte Cubano หรือ F.A.C. แต่เดิมเป็นตึกโรงงานเก่าคะ ก่อนจะปรังปรุงตกแต่งใหม่เป็นไนท์คลับและนำงานศิลปะมาจัดวาง มีทั้งหมดสามชั้นและดาดฟ้าและแต่ละเดือนจะเปลี่ยน exhibition สองครั้ง ซึ่งวันที่เราไปมีโชว์เปียโน แจ็ส และเพลงพิ้นบ้าน และหลังจาก 11โมง เป็นต้นไปก็จะเป็นคลับคะ ใครชอบ vibes ไหนก็เลือกชั้นตามใจชอบ
เราชอบที่นี่มากเหมือนเป็นการรวมตัวคนเจ๋งๆจากทั่วโลกมาเจอกันที่ไม่ใช่แลกเปลี่ยนเรื่องดนตรี แนวเพลง หรือศิลปะ เราพูดคุยเรื่องประเทศและภาษา รวมถึงอาหารการกินด้วยคะ
วันสุดท้ายในฮาวาน่าตั้งใจจะนั่งเฟอรรี่ไป Morro Castle แต่ก็ต้องล้มเลิกเพราะทนแรงขี้เกียจและอากาศร้อนไม่ไหว จนไปจบที่ Museo Nacional de Bellas Artes เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะคิวบันกับต่างชาติ เป็นศิลปะที่ดูไม่ยากจนเกินไปค่ะ ดูเพลินๆ (ข้างในไม่ให้ถ่ายรูปนะคะ)
Museum of the Revolution
ไอติมรสผลไม้ละมุด
สุดท้ายไปจบที่ Melecon จุดชมวิวที่ทุกคนต้องมา นั่งเล่นช่วงเย็นๆบรรยากาศดีมากเลยล่ะ
ฮาวาน่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากคะ รถคลาสสิค (ไม่นับควันจากรถ เป็นสิ่งเดียวที่เราไม่ค่อยชอบ) ตึกเก่าๆที่สวยงามและมีมนต์ขลัง เราคิดว่าเที่ยวสักสาม - สี่วันในเมืองนี้กำลังพอดึคะ สองวันเดินที่ old havana วันที่เหลือเที่ยวนอกเมือง เที่ยวไนท์ไลฟ์ ดูเต้นSalsa และเรียนเต้น กิจกรรมให้ทำเยอะมากคะ
ถ้าไปเที่ยวคนเดียวโดยเฉพาะผู้หญิง จะมีผู้ชายคิวบาชอบแซวและถามคะ (เชิงเล่นๆ เราจะดูออกคะว่าเค้ามาดีหรือมีอีกเจตนานึง) คนที่นั่นจะตื่นเต้นกับนักท่องเที่ยวมาก ถามนู่นนี่ นิสัยไลฟ์สไตล์ชิลล์มากกก และอย่างหนึ่งที่เราชอบคือเค้าจะเคารพกันและกันมากคะ ไม่มีการแตะตัวหรือมองเชิงไม่ดี และที่สำคัญเค้าเคารพกฎหมายบ้านเค้ามากคะ (ตามซอยหลักๆ เค้ามีกล้องวงจรฯ ลองสังเกตดูนะคะ) ดังนั้น เที่ยวคนเดียวปลอดภัยมาก
ค่าอาหารการกินที่เมืองนี้ (รวมถึงเมืองอื่นๆ) สมเหตุสมผล ถ้าไม่นับว่าไปกินร้านอาหารขึ้นชื่อ และทิป 10% คือเรททั่วไปที่ควรจะให้คะ
เดินทางกันต่ออีกสามเมืองที่เหลือคะ