นั่งคุยกัน เป็นคนเยอรมัน 2 คน อิตาลี 1 คน และเบลเยี่ยม 1 คน เขามองแค่ในสนาม นักฟุตบอลไทยทัศนคติแย่ เล่นแบบไม่มั่นใจ แถมไม่วิ่งเพรสซิ่งแบบดุดัน เขาบอกว่าฟุตบอลสมัยนี้มันไปไกลแล้ว แม่แต่ทีมที่ศักยภาพผู้เล่นอ่อนกว่าก็สามารถเอาชนะทีมที่ศักยภาพผู้เล่นดีๆกว่าด้วยฟุตบอลสมัยใหม่ หรือการเพรสซิ่งแบบดุดัน คือวิ่งบี้ กันเป็นทีม แล้วเขาตั้งข้อสังเกตว่า สภาพร่างกายความดุดันของนักเตะไทยมีปัญหา(น่าจะหมายถึงความกระตือรือร้นที่จะวิ่ง) ชี้เลยว่า number 9(อดิศักดิ์) number 10(ธีรศิลป์) number 14(สรรวัช) number 22(ศุภชัย) เขาบอกว่าพวกนี้เล่นฟุตบอลสมัยใหม่ในบ้านเขาไม่ได้แน่นอน ถ้าไม่ปรับตัว เรื่องทัศนคติการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่ ความดุดัน

เขาก็คุยกันต่อว่าเรื่องนอกสนามนักเตะไทยเป็นอย่างไร หมายถึงการพัฒนาสภาพร่างกาย เพราะแถบประเทศเขานั้นโดยเฉพาะลีกล่างๆเขาบอกว่าให้ความสำคัญกับร่างกายเป็นอันดับ 1 ต่อให้เก่งแค่ไหนเคยติดทีมชาติมาก่อน ถ้าวิ่งไม่กระตือรือร้น เหยาะๆแหยะๆก็จะไม่ถูกส่งลง

ผมเถียงไปว่า ร่างกายคนไทยไม่เหมาะกับการเล่นฟุตบอลหรอก เขา no no ส่ายหัว แล้วพูดกันว่า จริงๆคนไทยกล้ามเนื้อร่างกายแข็งแรง ถึงจะดูไม่ค่อยหนาเท่าพวกตะวันตกบ้านเขา แต่ถ้าเทียบกับเอเชียด้วยกันคนไทยกล้ามเนื้อแข็งแรงมากนะ เขาบอกว่าให้ดูอย่างนักมวยไทย เช่นบัวขาวหรือคนอื่นๆ ถ้าสภาพร่างกายดี วินัยดี คนไทยฟิตสุดๆ ฝรั่งก็ยังสู้ไม่ได้ แต่นักมวยไทยเหล่านั้น ยูไปดูได้เลย เรื่องนอกสนามก่อนขึ้นชกเขามีวินัยแค่ไหน วิ่งกี่กิโล บอดี้เวทอย่างไร แต่นักฟุตบอลไทยน่าจะรักสบาย จนไม่มีวินัยนอกสนามแบบนักมวยไทย เพราะเขาบอกว่าค่าตอบแทนสูงเกินไปเมื่อเทียบกับค่าครองชีพ อ่าวยูรู้ได้ไง