- เคยมั้ย? ตอนดูหนังอยู่ แล้วรู้สึกว่าทำไมทุกอย่างมันยอดเยี่ยมขนาดนี้... นี่คือความรู้สึกของเราตอนดู Spider-Man: Into the Spider-Verse เลย เป็น Animation ที่สมควรได้รางวัล Oscar ปีนี้ (และน่าจะได้ด้วย)
- ตอนก่อนดูก็สงสัยว่าทำไมกระแสทั้งไทยและเมืองนอกมันถึงดีขนาดนี้ แล้วพอได้ดูก็เข้าใจเลยว่าทำไม... เรื่องนี้ยอดเยี่ยมทั้งในแง่ความเป็น Animation และความเป็นภาพยนตร์ สไตล์กับตัวภาพแบบนี้ไม่เคยมีในแอนิเมเรื่องไหนมาก่อน ดูมีหลายเลเยอร์ และให้อารมณ์ผสมกันระหว่างอนิเมฝรั่งกับญี่ปุ่น ดูแล้วว้าวมาก ยิ่งเอาเทคนิคแบบ Comic อย่าง "กรอบคำพูด & Effect ตัวอักษร" มาใส่ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้โดดเด่นไม่เหมือนใคร
- ด้านความเป็นหนัง "บท" เรื่องนี้ดีมากซะจน ยกระดับให้ดีเหนือหนังซูปเปอร์ฮีโร่อื่นๆที่ฉายมาในรอบหลายปีนี้เลย บางคนอาจจะบอกว่าก็เหมือนหนัง Coming of Age ทั่วไป แต่มันไม่ใช่แค่ Storyline ของ Miles ที่ดี แต่ทุกตัวละครเขียนออกมาดีและมีหัวใจมาก ขนาดตัวร้ายอย่าง "Kingpin" ยังมีเหตุผลรองรับเลยว่าทำไมเขาทำแบบนี้ รวมทั้งหลายตัวที่ถึงจะออกมานิดเดียว แต่เรารู้สึกว่าเขาทรีททุกตัวได้โคตรดี โดยส่วนตัวชอบบทของ "Peter Parker" มากที่สด ชอบ Journey ของตัวละครนี้ จากตอนแรกที่เป็นคนแบบนึง และพอมาที่มิตินี้ก็ได้เรียนรู้ชีวิต และกลายเป็นอีกคน
- แล้วเรื่องความบันเทิงนี่ก็จัดเต็ม ตลอดทั้งเรื่องคือสนุกมากกกกกก มีฉาก Action มาให้ลุ้นเรื่อยๆ แล้วปกติหนังมักจะทำกั๊กๆ เก็บทำไว้ภาคต่อ แต่เรื่องนี้ใส่เต็ม ตัวละครฝั่งฮีโร่ก็เยอะ ตัวร้ายก็ไม่มียั้ง (แต่ก็เพราะเป็น Animation ด้วย เลยทำได้ขนาดนี้)
- นอกจากงานภาพ, การตัดต่อ, โทนสีแล้ว สิ่งนึงที่ชอบที่สุดก็คือ "สกอร์ของ Daniel Pemberton" คนนี้เป็น 1 ใน Composer คนโปรด ชอบมาตั้งแต่ The Man from U.N.C.L.E. พอมาเรื่องนี้ก็แทบยกให้เป็นงานที่ดีอันดับต้นๆของแกเลย ชอบที่เป็นสกอร์ที่มีครบทุกอารมณ์ ทั้งดราม่า ลุ้นระทึก โรแมนติก ไม่ใช่แค่นั้น Soundtrack ก็โคตรดีทุกเพลง แต่ละเพลงเปิดได้จังหวะมาก ยิ่งยกระดับอารมณ์ให้ซีนนั้นๆไปอีก 10 เท่า
- อีก 1 ดีเทลเล็กๆที่ชอบการเป็นส่วนตัวคือ "Location" อย่างหนังเรื่องอื่นชอบบอกว่า โลเคชั่นในหนังของเรา ถือเป็น Character สำคัญตัวนึงของหนังเลย บลาๆๆ แต่พอดูเราไม่เห็นจะสัมผัสได้ถึงความเป็นเมืองนั้นๆเลยสักนิด แต่กลับเรื่องนี้ที่เป็น Animation แค่ไม่กี่ฉากที่เผยให้เห็นสภาพในเมือง กลับทำให้เราสัมผัสได้ถึง Mood & Tone สภาพชีวิตคนที่นี้ ดูแล้วยิ่งอินกับตัวละคร
ต่อให้คุณไม่ใช่แฟน Spider Man หรือหนังฮีโร่ แต่เชื่อเถอะว่าถ้าได้ดูเรื่องนี้แล้วจะไม่เสียใจ อย่างตัวผมจริงๆก็เบื่อหนังฮีโร่ ยุคหลังๆมาแทบไม่ได้ชอบเรื่องไหนเป็นพิเศษ แต่พอมาดูเรื่องนี้แล้วชอบมาก
***ไม่ใช่แนวทริลเลอร์ก็รีวิวนะ ***
สุดท้ายนี้ขอฝากเพลงโปรดของ Miles /ตอนนี้ติดมาก ฟังมันทุกวัน
Spider-Man: Into the Spider-Verse (2018) - ⭐⭐⭐⭐⭐ [หนัง (ฮีโร่) ที่ดีสุดในรอบหลายปี]
- เคยมั้ย? ตอนดูหนังอยู่ แล้วรู้สึกว่าทำไมทุกอย่างมันยอดเยี่ยมขนาดนี้... นี่คือความรู้สึกของเราตอนดู Spider-Man: Into the Spider-Verse เลย เป็น Animation ที่สมควรได้รางวัล Oscar ปีนี้ (และน่าจะได้ด้วย)
- ตอนก่อนดูก็สงสัยว่าทำไมกระแสทั้งไทยและเมืองนอกมันถึงดีขนาดนี้ แล้วพอได้ดูก็เข้าใจเลยว่าทำไม... เรื่องนี้ยอดเยี่ยมทั้งในแง่ความเป็น Animation และความเป็นภาพยนตร์ สไตล์กับตัวภาพแบบนี้ไม่เคยมีในแอนิเมเรื่องไหนมาก่อน ดูมีหลายเลเยอร์ และให้อารมณ์ผสมกันระหว่างอนิเมฝรั่งกับญี่ปุ่น ดูแล้วว้าวมาก ยิ่งเอาเทคนิคแบบ Comic อย่าง "กรอบคำพูด & Effect ตัวอักษร" มาใส่ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้โดดเด่นไม่เหมือนใคร
- ด้านความเป็นหนัง "บท" เรื่องนี้ดีมากซะจน ยกระดับให้ดีเหนือหนังซูปเปอร์ฮีโร่อื่นๆที่ฉายมาในรอบหลายปีนี้เลย บางคนอาจจะบอกว่าก็เหมือนหนัง Coming of Age ทั่วไป แต่มันไม่ใช่แค่ Storyline ของ Miles ที่ดี แต่ทุกตัวละครเขียนออกมาดีและมีหัวใจมาก ขนาดตัวร้ายอย่าง "Kingpin" ยังมีเหตุผลรองรับเลยว่าทำไมเขาทำแบบนี้ รวมทั้งหลายตัวที่ถึงจะออกมานิดเดียว แต่เรารู้สึกว่าเขาทรีททุกตัวได้โคตรดี โดยส่วนตัวชอบบทของ "Peter Parker" มากที่สด ชอบ Journey ของตัวละครนี้ จากตอนแรกที่เป็นคนแบบนึง และพอมาที่มิตินี้ก็ได้เรียนรู้ชีวิต และกลายเป็นอีกคน
- แล้วเรื่องความบันเทิงนี่ก็จัดเต็ม ตลอดทั้งเรื่องคือสนุกมากกกกกก มีฉาก Action มาให้ลุ้นเรื่อยๆ แล้วปกติหนังมักจะทำกั๊กๆ เก็บทำไว้ภาคต่อ แต่เรื่องนี้ใส่เต็ม ตัวละครฝั่งฮีโร่ก็เยอะ ตัวร้ายก็ไม่มียั้ง (แต่ก็เพราะเป็น Animation ด้วย เลยทำได้ขนาดนี้)
- นอกจากงานภาพ, การตัดต่อ, โทนสีแล้ว สิ่งนึงที่ชอบที่สุดก็คือ "สกอร์ของ Daniel Pemberton" คนนี้เป็น 1 ใน Composer คนโปรด ชอบมาตั้งแต่ The Man from U.N.C.L.E. พอมาเรื่องนี้ก็แทบยกให้เป็นงานที่ดีอันดับต้นๆของแกเลย ชอบที่เป็นสกอร์ที่มีครบทุกอารมณ์ ทั้งดราม่า ลุ้นระทึก โรแมนติก ไม่ใช่แค่นั้น Soundtrack ก็โคตรดีทุกเพลง แต่ละเพลงเปิดได้จังหวะมาก ยิ่งยกระดับอารมณ์ให้ซีนนั้นๆไปอีก 10 เท่า
- อีก 1 ดีเทลเล็กๆที่ชอบการเป็นส่วนตัวคือ "Location" อย่างหนังเรื่องอื่นชอบบอกว่า โลเคชั่นในหนังของเรา ถือเป็น Character สำคัญตัวนึงของหนังเลย บลาๆๆ แต่พอดูเราไม่เห็นจะสัมผัสได้ถึงความเป็นเมืองนั้นๆเลยสักนิด แต่กลับเรื่องนี้ที่เป็น Animation แค่ไม่กี่ฉากที่เผยให้เห็นสภาพในเมือง กลับทำให้เราสัมผัสได้ถึง Mood & Tone สภาพชีวิตคนที่นี้ ดูแล้วยิ่งอินกับตัวละคร