เด็กตายผู้ใหญ่รอด "คาดเบลท์-สวมหมวกกันน็อก" เซฟแค่ตัวเอง แต่ลืมลูก
เผยแพร่: 27 ธ.ค. 2561 15:03
หมอ ชี้ เด็กตายคาถนนเพียบ เหตุผู้ใหญ่เซฟแต่ตัวเอง หลงลืมความปลอดภัยเด็ก ไม่ใช้คาร์ซีท ไม่ใช้หมวกกันน็อกสำหรับเด็ก เผยอัตราการใช้งานยังต่ำ สุดท้ายเด็กตาย ผู้ใหญ่รอด หวั่นกระทบบุคลากรประเทศอนาคต
วันนี้ (27 ธ.ค.) รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เด็กเป็นทรัพยากรสำคัญที่จะโตขึ้นมาขับเคลื่อนพัฒนาประเทศที่สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ แต่ปัญหาหนึ่งที่พบ คือ เด็กไม่มีโอกาสได้เติบโต เพราะส่วนหนึ่งต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนปีละเป็นร้อยๆ ราย ทั้งจากอุบัติเหตุรถยนต์และรถจักรยานยนต์ สาเหตุหนึ่งอาจมาจากการที่ผู้ใหญ่ดูแลเรื่องความปลอดภัยของตัวเองขณะขับรถ แต่หลงลืมความปลอดภัยของเด็กขณะโดยสาร สะท้อนได้จากการที่คนขับขี่มีการคาดเข็มขัดนิรภัยมากกว่าร้อยละ 90 ขณะที่การสวมหมวกกันน็อกของคนขับก็เพิ่มมากขึ้น แต่ความปลอดภัยในเรื่องของคาร์ซีทหรือที่นั่งสำหรับเด็ก ยังไม่ได้ถูกใส่ใจมากนัก เพราะมีอัตราการใช้เพียงร้อยละ 9-10 ขณะที่การสวมหมวกกันน็อกในเด็กยังน้อยมาก มีเพียงร้อยละ 3
รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวว่า ราคาของคาร์ซีทหรือหมวกกันน็อกสำหรับเด็กนั้นไม่ได้แพงเลย อีกทั้งยังมีจำหน่ายแพร่หลายด้วย ไม่ใช่ว่าหาซิ้อยากเลย แต่จริงๆ ไม่ควรเอาราคามาเป็นตัวตั้ง เพราะนี่คือเรื่องของความปลอดภัย แต่ขนาดที่ผ่านมาเรามีการเดินสายแจกหมวกกันน็อกเด็กเป็นหมื่นๆ ใบ ก็ยังมีอัตราการสวมหมวกน้อย สะท้อนถึงอะไร พอเกิดอุบัติเหตผู้ใหญ่รอด เพราะตัวเองสวมหมวก ส่วนเด็กเสียชีวิตเพราะไม่ได้สวมหมวก ดังนั้นเรื่องนี้สำคัญต้องคิดถึงเด็กด้วย
https://mgronline.com/qol/detail/9610000128536
เด็กตายผู้ใหญ่รอด "คาดเบลท์-สวมหมวกกันน็อก" เซฟแค่ตัวเอง แต่ลืมลูก
เผยแพร่: 27 ธ.ค. 2561 15:03
หมอ ชี้ เด็กตายคาถนนเพียบ เหตุผู้ใหญ่เซฟแต่ตัวเอง หลงลืมความปลอดภัยเด็ก ไม่ใช้คาร์ซีท ไม่ใช้หมวกกันน็อกสำหรับเด็ก เผยอัตราการใช้งานยังต่ำ สุดท้ายเด็กตาย ผู้ใหญ่รอด หวั่นกระทบบุคลากรประเทศอนาคต
วันนี้ (27 ธ.ค.) รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เด็กเป็นทรัพยากรสำคัญที่จะโตขึ้นมาขับเคลื่อนพัฒนาประเทศที่สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ แต่ปัญหาหนึ่งที่พบ คือ เด็กไม่มีโอกาสได้เติบโต เพราะส่วนหนึ่งต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนปีละเป็นร้อยๆ ราย ทั้งจากอุบัติเหตุรถยนต์และรถจักรยานยนต์ สาเหตุหนึ่งอาจมาจากการที่ผู้ใหญ่ดูแลเรื่องความปลอดภัยของตัวเองขณะขับรถ แต่หลงลืมความปลอดภัยของเด็กขณะโดยสาร สะท้อนได้จากการที่คนขับขี่มีการคาดเข็มขัดนิรภัยมากกว่าร้อยละ 90 ขณะที่การสวมหมวกกันน็อกของคนขับก็เพิ่มมากขึ้น แต่ความปลอดภัยในเรื่องของคาร์ซีทหรือที่นั่งสำหรับเด็ก ยังไม่ได้ถูกใส่ใจมากนัก เพราะมีอัตราการใช้เพียงร้อยละ 9-10 ขณะที่การสวมหมวกกันน็อกในเด็กยังน้อยมาก มีเพียงร้อยละ 3
รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวว่า ราคาของคาร์ซีทหรือหมวกกันน็อกสำหรับเด็กนั้นไม่ได้แพงเลย อีกทั้งยังมีจำหน่ายแพร่หลายด้วย ไม่ใช่ว่าหาซิ้อยากเลย แต่จริงๆ ไม่ควรเอาราคามาเป็นตัวตั้ง เพราะนี่คือเรื่องของความปลอดภัย แต่ขนาดที่ผ่านมาเรามีการเดินสายแจกหมวกกันน็อกเด็กเป็นหมื่นๆ ใบ ก็ยังมีอัตราการสวมหมวกน้อย สะท้อนถึงอะไร พอเกิดอุบัติเหตผู้ใหญ่รอด เพราะตัวเองสวมหมวก ส่วนเด็กเสียชีวิตเพราะไม่ได้สวมหมวก ดังนั้นเรื่องนี้สำคัญต้องคิดถึงเด็กด้วย
https://mgronline.com/qol/detail/9610000128536