สำหรับความเดิมตอนที่แล้วและตอนต่อไป ติดตามได้ที่นี่ค่ะ

Hong Kong ไปกี่ครั้งก็ยังรักเธอ - Part 1 สายการบิน ที่พัก และทริปวันแรก-->https://ppantip.com/topic/38411311
Hong Kong ไปกี่ครั้งก็ยังรักเธอ - Part 2 กินติ๋มซำลดราคายังไง ไป Tamar Park ที่ไม่ค่อยมีใครเที่ยวกัน และทริปวันที่สอง -->https://ppantip.com/topic/38419577
Hong Kong ไปกี่ครั้งก็ยังรักเธอ - Part 4 Hung Hom Kwun Yam Temple, Kowloon Park และทริปวันที่ห้า+วันสุดท้าย-->https://ppantip.com/topic/38465234




*******************************


วันที่ 7 ธันวาคม 2561

ตื่นเช้ามาเราก็เริ่มกันด้วยการกินเช่นเคย
เมนูแรกวันนี้เราจะไปกินอาหารประจำชาติอีกอย่างของคนฮ่องกง นั่นก็คือ โจ๊กฮ่องกง วันนี้เราจะไปกินที่ร้าน Ocean Empire หรือที่คนไทยเรียกกันว่าร้านโจ๊กม่วงนั่นนนนนเองงงงงงง

Ocean Empire (ร้านโจ๊กม่วง)

มีหลายสาขาจ้า สาขาที่เราไปกินอยู่ที่ถนน Lock Road ใกล้ทางออก Exit A1 สถานีรถไฟฟ้า Tsim Sha Shui

โจ๊กซีฟู้ด มีเนื้อปลา กุ้ง หนังปลา ใส่ปาท่องโก๋



สำหรับโจ๊กร้านดังที่เราเคยกินมา อันประกอบด้วยร้าน Seaview Congee, Hung Lee Restaurant และ Ocean Empire แห่งนี้ เราชอบเนื้อโจ๊กร้านนี้ที่สุด เพราะเนื้อโจ๊กมีความข้นอยู่บ้าง ส่วนอีก 2 ร้านนั้น เนื้อโจ๊กเหลวแทบจะเป็นน้ำ กินครั้งเดียวพอเลย แต่ถ้าเทียบร้านโจ๊กทั้งหมดที่เคยกินมาในฮ่องกง เราชอบร้านโจ๊กท้องถิ่นในตลาดแถวบ้านญาติเราที่ Sau Mau Ping Shopping Centre ที่สุด เพราะเนื้อโจ๊กข้น รสชาติดี ราคาเป็นมิตร แต่ติดที่เดินทางไกลไปหน่อยแค่นั้นค่ะ

ก๋วยเตี๋ยวหลอดห่อปาท่องโก๋ กินคู่กับโจ๊กร้อน ๆ อร่อยสุด ๆ เลย



Tsz Shan Monastery

หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จเราก็เดินทางไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่วัด Tsz Shan Monastery กันต่อ โดยการจะไปวัดนี้ต้องจองเวลาล่วงหน้าในเว็บไซต์ของวัดนะคะ

วิธีการจอง

คลิกไปที่ลิงค์นี้เลยค่ะ https://booking.tszshan.org/book/selectpeople ให้ติ๊กในช่องสี่เหลี่ยมบรรทัดสุดท้าย(วงกลมสีแดงในรูป) "I have read and fully agree to the Terms and Conditions and Privacy Policy of Tsz Shan Monastery." ก่อนนะคะ ถ้าใครเปิดลิงค์มาแล้วกลายเป็นภาษาจีน ให้คลิกตรงตัวหนังสือจีนที่อยู่ระหว่าง f กับ T ตรงมุมบนขวามือ(วงกลมสีเขียวในรูป) จะมี EN (คือภาษาอังกฤษ) มาให้เลือกค่ะ



หลังจากนั้นจะเจอคำถามว่า  I would like to visit Tsz Shan Monastery with: person(s). ตรงนี้คือให้ระบุจำนวนคนที่จะไปกับเรา เช่น ถ้าเราจะไปกับเพื่อนอีก 1 คน รวม 2 คน ในช่องนี้ให้เลือกเลข 1 ค่ะ เพราะคำถามนี้เค้าถามว่าเราจะไปวัด Tsz Shan กับ อีก กี่คน นั่นคือไม่ต้องนับตัวเราแล้วค่ะ นับแค่จำนวนคนที่จะไปกับเรา ดังนั้นถ้าไปเองคนเดียว ก็เลือก 0 ค่ะ



จากนั้นให้เลือกวันที่จะไปค่ะ โดยเราสามารถจองได้ล่วงหน้าไม่เกิน 1 เดือน เช่น ในตัวอย่างนี้ เราเข้ามาจองวันที่ 5 มกราคม ก็จะจองได้ถึงแค่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ถ้าเราจะไปวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ก็ต้องเข้ามาจองวันที่ 6 มกราคม ระบบจะเปิดให้เข้ามาจองตอน 8.00 น. ซึ่งเป็นเวลา 8.00 น. ของฮ่องกง นั่นคือ ถ้าเราจะเข้ามาจองตั้งแต่ระบบเปิดต้องเข้ามาตั้งแต่ 7.00 น. ตามเวลาไทย เพราะเวลาฮ่องกงจะเร็วกว่าเรา 1 ชั่วโมง ถ้าเราเข้ามาจองตอน 8.00 น.บ้านเรา เท่ากับเวลา 9.00 น.ของฮ่องกงแล้วล่ะ อาจจะทำให้เราจองไม่ทันในวันเวลาที่เราต้องการได้  

สำหรับวันที่ในปฏิทินที่เปิดให้จอง ถ้าช่องวันที่เป็นสีเทาเข้มแสดงว่าวันนั้นเต็มแล้ว จองไม่ได้ เราจะจองได้เฉพาะวันที่เป็นสีน้ำตาล



พอเลือกวันที่แล้ว เว็บก็จะเปลี่ยนหน้าต่อไปให้เราเลือกเวลาที่จะไป ซึ่งจะมีบอกไว้ว่าช่วงเวลาไหนยังว่าง ช่วงไหนเต็มแล้ว เราสามารถเลือกได้เฉพาะช่วงเวลาที่ยังว่าง (ช่องเป็นสีน้ำตาล เขียนว่า Book)



หลังจากนั้นให้กรอกข้อมูลส่วนตัวของเรา
Name in Chinese --> ชื่อภาษาจีน ถ้าไม่มีให้เลือก Not Applicable
Name in English --> ชื่อภาษาอังกฤษ กรอกให้เหมือนในพาสปอร์ต
ID Number --> หมายเลขพาสปอร์ต 4 ตัวแรก เอาเฉพาะตัวเลข เช่น ถ้าเลขที่พาสปอร์ต XY1234567 กรอกแค่เลขสี่ตัวแรกคือ 1234 ตัวหนังสือไม่เอาจ้า
Mobile Number --> อันนี้พอดีเรามีเบอร์ฮ่องกง เลยไม่มีปัญหา ไม่แน่ใจว่าสำหรับคนที่ไม่มีเบอร์ สามารถ make เอาได้มั้ย เบอร์ฮ่องกงจะมี 8 หลักนะจ๊ะ (ไม่รวม 852 ข้างหน้า)
Parking Space --> ต้องการที่จอดรถหรือไม่
E-mail Address --> อีเมล์ของเรา อันนี้สำคัญมาก ต้องกรอกอีเมล์ให้ถูกต้องเพราะเค้าจะส่งข้อมูลยืนยันการจองของเรามาให้ทางอีเมล์ ถ้าเราจองได้เรียบร้อยสมบูรณ์จะต้องได้รับอีเมล์จากทางวัด ซึ่งวันที่เราไปเที่ยวก็ต้องยื่นอีเมล์นี้ให้เจ้าหน้าที่ที่หน้าประตูวัดดูด้วย เค้าถึงจะให้เข้าได้นะ
Please re-enter your E-mail Address --> ใส่อีเมล์ของเราอีกครั้งให้ตรงกับอันมะกี้
Validation Code --> กรอกตามตัวหนังสือที่เห็นด้านล่าง
กรอกข้อมูลครบถ้วนแล้วกด Confirm Registration เลย



ตัดกลับมาที่วัด Tsz Shan Monastery เลยน๊า

จากร้านอาหารที่เรากินกันเมื่อเช้าที่ Tsim Sha Shui เรานั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงจาก Tsim Sha Shui ไปเปลี่ยนขบวนเป็นสายสีเขียวที่สถานี Mong Kok แล้วเปลี่ยนขบวนอีกรอบเป็นสายสีฟ้าที่สถานี Kowloon Tong (ตอนเปลี่ยนขบวนที่ Kowloon Tong จะเดินไกลหน่อยนึงค่ะ) แล้วก็ไปลงที่สถานี Tai Po Market

ตอนแรกเราตั้งใจจะต่อรถเมล์มินิบัสสาย 20B เดินออกทาง Exit A3 ระหว่างทางเดินจะมีป้ายบอกทางตลอดว่ารถมินิบัสสายไหนต้องเดินไปฝั่งไหน พอเดินไปถึงป้ายรถมินิบัสสาย 20B ปรากฏว่ารถเพิ่งออกไปไม่นานเอง คันต่อไปต้องรออีกประมาณ 15 นาที ดูทรงแล้วถ้ารอรถมินิบัสคงไม่ทันตามเวลาที่จองไว้แน่เลย (อ่อ ลืมบอก เราจองรอบ 10.00 น. แต่ตอน 10.00 น. เพิ่งลงจากรถไฟฟ้าที่ Tai Po Market ค่ะ )

ก็เลยเปลี่ยนใจไปแท็กซี่แทน โดยต้องเดินกลับเข้าไปในสถานีรถไฟฟ้าแล้วไปออกทาง Exit B เพื่อไปขึ้นแท็กซี่บริเวณ Taxi Stand คือ บ้านเมืองเค้าจะมีจุดจอดแท็กซี่ ที่แท็กซี่จะมาจอดเรียงคิวกันรับผู้โดยสารอย่างเป็นระเบียบ แท็กซี่ที่นี่จะมี 2 สี คือ สีแดง จะเป็นแท็กซี่ที่วิ่งเข้าเกาลูนและเกาะฮ่องกง และสีเขียว จะเป็นแท็กซี่ที่วิ่งอยู่ในเขต New Territories ซึ่งเราต้องนั่งแท็กซี่สีเขียวน๊า ตอนขึ้นแท็กซี่บอกพี่คนขับว่า "ฉี่ ซ้าน จี๋" แปลว่าวัด Tsz Shan เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที ค่าแท็กซี่ 61 เหรียญ นั่งแท็กซี่นี่ดีตรงที่พี่เค้าไปส่งถึงหน้าประตูวัดเลย แต่ถ้านั่งมินิบัสมาต้องลงตรงถนนปากทางแล้วเดินต่ออีก 10 นาทีจึงจะถึงประตูวัดจ้า ดังนั้น ถ้าไปกันหลายคน หรือมีผู้สูงวัยไปด้วย แนะนำแท็กซี่โลดเลยจ้า ไม่ได้แพงโหดอย่างที่คิด

บรรยากาศในวัด เงียบ สงบ สมกับเป็นศาสนสถานที่แท้จริง







ที่วัดนี้จะไม่มีการจุดธูปนะคะ แต่จะให้บูชาด้วยน้ำแทน โดยเราจะตักน้ำจากจุดนี้



เดินไปจนถึงหน้าองค์เจ้าแม่ ไม่รู้ว่านี่เป็นกุศโลบายของทางวัดที่ต้องการให้ผู้มาเยือนได้ฝึกสติฝึกสมาธิกันรึเปล่า เพราะการถือถ้วยใส่น้ำแบบนี้เดินเป็นระยะทางหลาย ๆ เมตร ต้องใช้สติและความระมัดระวังมาก ๆ ไม่ให้น้ำกระฉอกหรือหกออกมา (จริง ๆ แล้วก็ไม่รู้นะว่าเค้าห้ามไม่ให้น้ำหกรึเปล่า แต่เป็นความรู้สึกของเราเองที่คิดว่า จะเคารพบูชาท่าน ก็ต้องทำด้วยใจให้ดีที่สุด ไม่ควรให้น้ำหก)



มายืนอธิษฐานหน้าองค์เจ้าแม่ เสร็จแล้วเทน้ำลงในอ่างที่อยู่ตรงหน้าเจ้าแม่



วันที่เราไป มีฝนตกนิดหน่อย อากาศเย็น ๆ ครึ้ม ๆ ฟ้าก็เลยเต็มไปด้วยเมฆหมอก



ทิวทัศน์ที่เห็นได้จากที่วัด



หลังจากสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันจนอิ่มบุญแล้ว เราก็ออกจากวัดโดยญาติเราขับรถมารับที่หน้าวัด แต่สำหรับเพื่อน ๆ ที่กลับเอง สามารถเดินตามถนนหน้าวัดออกมาปากทางประมาณ 10 นาที รอขึ้นรถมินิบัสสาย 20B กลับมาที่ Tai Po Market หรือญาติเราบอกว่าสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่วัดที่อยู่แถวหน้าประตูให้เค้าช่วยเรียกแท็กซี่ให้ก็ได้ค่ะ

ญาติเราพามากินอาหารญี่ปุ่นที่ร้าน Hachinoheya อยู่ที่ Fu Shin Shopping Centre (ถ้าเดินจากสถานีรถไฟฟ้า Tai Po Market ระยะทางประมาณ 1.6 กม.) ร้านนี้อาหารราคาไม่แรงมาก เป็นเซ็ทราเม็งกับเครื่องดื่มหนึ่งอย่าง ราคาอยู่ประมาณ 50-60 เหรียญจ้า ขอบอกไว้ก่อนว่า ชามหย่ายยยยยยมาก ๆ แบ่งกันกินสองคนได้สบายเลย แต่เราไม่รู้งัย เลยพลาดสั่งกันมาคนละชาม ....
...แล้วกินหมดมั้ย?
...จะเหลือเหรอคะ
(คือถ้ากินไม่หมดจะอายคนฮ่องกงเค้างัย คนที่โน่นเค้ากินไซส์นี้เป็นปกติ )

ราเม็งไก่ทอดคาราเกะ



ราเม็งหมูชาชู



จาก Fu Shin Shopping Centre ญาติเราก็พามาขึ้นรถเมล์สาย 72X มาเดินเล่นที่ Mong Kok กันต่อ

มาถึง Mong Kok เราก็เดินเล่น Ladies Market กับ Fa Yuen Street ที่ขายรองเท้ากีฬา เดินไปเรื่อย ๆ ก็เจอร้านน้ำมะม่วงปั่นร้านโปรด คือ Hui Lau Shan นั่นนนนเองงงงงง



อยากจะบอกว่า Hui Lau Shan มีหลายสาขามาก แต่ละสาขาราคาไม่เท่ากันนะจ๊ะ เมื่อสามปีก่อน ไปเที่ยวกับน้องที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง ก็พักอยู่ย่าน Tsim Sha Shui แล้วน้องเราชอบกินมาก เราสองศรีพี่น้องก่อนกลับห้องก็ซื้อกินกันทุกวันเลย ร้านใกล้ ๆ ที่พักเนี่ยแหละ (ร้านตรงถนน Humphreys Ave ที่ข้างบนเป็น Pizza Hut) ราคาแก้วละ 39 เหรียญ ย้ำว่ากินทุกวัน!!!

พอปีที่แล้วไปเดินเล่น Mong Kok เดินไปเกือบถึง Prince Edwards เจอร้านนึงก็แวะกิน เฮ้ย แก้วละ 19 เหรียญ (แต่ไซส์เล็กกว่า 39 เหรียญหน่อยนึง ย้ำว่าหน่อยนึงเท่านั้น!!)...สตั๊นไป 10 วิ จากนั้นภาพเดิม ๆ เมื่อปีก่อน ๆ ก็ตามมาหลอน ที่ฉันกินทุกวัน ๆ ละ 39 เหรียญ คืออะไร???

ครั้งนี้เราเจอร้านที่แถว Mong Kok พิกัดอยู่ถนนเส้นเดียวกับที่ขายรองเท้ากีฬา (Fa Yuen Street) เดินไปจนเลยห้องน้ำสาธารณะริมถนน ข้ามถนนตรงสี่แยกไปก็จะเจอเลย ร้านนี้ราคาแก้วละ 34 เหรียญ..ไซส์เท่ากับ 39 เหรียญที่เคยกิน ความเจ็บยังไม่จางหาย อ้อ แต่ถ้านั่งกินในร้านจะราคา 38 เหรียญนะจ๊ะ คิดค่าหย่อนก้นเราด้วยอ่ะ

Mango & Coconut Juice with Aloe Jelly คือมะม่วงปั่นราดน้ำกะทิใส่เยลลี่ว่านหางจระเข้