อินเดียครั้งแรก เค้าว่าไม่รักเลยก็เกลียดเลย
แต่สำหรับผมการมาอินเดียครั้งแรกนี้จะบอกว่า ดัน รัก! อินเดียซะแล้ว
อินเดีย 5 วันใช้เงินไปแค่ 7,000รูปี หรือ 3,300 บาทก็อยู่ได้แล้วนะครับผม
ครั้งนี้ผมเลือกไปรูทใหม่ของแอร์เอเชียเขา เป็น ดอนเมือ-คยา หรือที่ทุกคนอาจจะรู้จักกันในนาม พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธ ด้วยความที่ไปเราก็รู้สึกซ่า กลัวไม่คุ้ม ไปอินเดียทั้งทีขอไปเมืองอื่นหน่อยเหอะ ใกล้ๆกันมีเมืองชื่อดังที่เป็นศูนย์กลางของศาสนาฮินดูนั่ก็คือ เมืองพาราณสีอยู่ จะรอไรหล่ะครับ เอ้าไป! อยากไปต้องได้ไปครับผม
อ้อ! ผมมีเคล็ดลับ สำหรับบางคนอยากประหยัดแต่ไม่อยากขึ้นสายการบินชั้นประหยัดนะครับ แนะนำว่า ไฟล์ทจะใกล้จะไกลให้สั่งอาหารไปทานบนเครื่องด้วย เตรียมโหลดวิดีโอใส่แท็ปเล็ต ให้พร้อม แค่นี้ก็เหมือนได้นั่ง Full service แล้วครับคุณ ซึ่งผมก็สั่งอาหารของพี่ แอร์เอเค้าด้วย อร่อยสบายใจไป ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ
ก่อนจะเริ่มเดินทางผมขอแนะนำการเตรียมตัวก่อน ทริปนี้ผมลากเพื่อนไปด้วยอีก 2 คน กันเหนียวและหาอุปกรณ์เสริมเพิ่มความอุ่นใจ
1.ประกันภัยการเดินทาง
ผมกับเพื่อนเลือกใช้ประกันการเดินทาง Tune Protect ของ Air asia จะซื้อก่อนหรือหลังจองตั๋วก็ได้นะครับ ราคาแบบคุ้มครองไป-กลับ แค่คนละ 324.- บาทเท่านั้น ไม่ใช่ไรนะเพราะซื้อง่าย จ่ายสะดวก คุ้มครองก็เรียกได้ว่าครบอยู่ ไม่มีเวลาไปหาเจ้าอื่นแล้วเดี๋ยวงง 55555
ซื้อปุ้บ กรรมธรรม์เข้าอีเมล์ตามมา โอเคคราวนี้อุ่นใจไป 1
2. วีซ่า
จะบอกว่า ไปอินเดีย ต้องใช้วีซ่าด้วยนะครับคุณ แต่ทำเองได้ง่ายๆ เค้าไปกรอกๆๆ จ่ายเงิน จบวันรุ่งขึ้นได้อีเมลล์วีซ่าเลย
ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ต้องเสียค่าธรรมเนียมวีซ่า 80$ หรือเป็นเงินไทยประมาณ 2,700.- นะครับสามารถเข้าอินเดียได้ 2 ครั้งภายใน 6 เดือน หรือจะอยู่ยาว 6 เดือนเลยก็ได้นะครับผม
และ 3. จากที่ผมบอกไปตอนแรกครับเนื่องจากพวกผมซ่าครับ ไม่อยากอยู่แค่เมือง คยา จะไป พาราณสีกันด้วย แน่นอนการเดินคงต้องไปพ้นรถไฟ
อยากลองของเด็ดของอินเดียซักหน่อย เอาจริงตอนแรกผมว่าจะจองกันเอง แต่เว็บพี่แกเหมือนจะมีปัญหา เข้าได้บ้างไม่ได้บ้าง ต้องใช้กำลังเสริมใช้เอเจนซี่จองเลยแล้วกัน เสียค่าธรรมเนียมไปตั๋วละ 150.- ครับ คยา-พาราณสี (Gaya Junction - Varanasi Junction) เผื่อคนอยากนั่งไปอะนะครับ
โอเคตอนนี้พร้อมออกเดินทางแล้วครับ ไปลุย ถ้าเกิดว่ามีส่วนไหนตกหล่น ทักมาถามไว้ได้เลยนะครับ
Day 1 Gaya, คยา - อะไรที่ไม่ได้คาดหวัง มักดีเสมอ
เาเดินทางถึงเมืองคยาประมาณ 10 โมงครับ ออกมาแล้วยื่น e-visa ในหัวคือตื่นเต้นมาก จะรอดใช่มั้ย คือเรามีภาพติดกับคำว่าอินเดียอยู่เยอะมาก กลัวกลิ่นเหม็น กลัวสกปรก กลัวอุนจิ เพราะฉนั้นการมาอินเดียครั้งนี้เลยไม่ได้คาดหวังอะไร กะมาเอาประสบการณ์ล้วนๆ
ด่านแรก จากสนามบินเข้าเมือง
คือที่พุทธคยา จะมีวัดไทยพุทธคยาตั้งอยู่ พวกผมเลยกะว่าจะขอไปตั้งหลักก่อน หาที่พึ่งทางใจ 55555 เลยเจอแหม่มคนนึงได้คุยกันที่ดอนเมือง ผมเลยชวนเค้ามา share ค่ารถเข้าเมืองคยาด้วยกัน ซึ่งเค้าก็โอเคมาคนเดียว แต่พี่แกมาหลายครั้งมากก แล้วก็แสดงฤทธิ์ให้เห็น พออกจากสนามบินปุ้บ จะมีคนอินเดียที่เป็นนายหน้ารถแท็กซี่กรูเข้ามาถามว่าไปไหน ไปมั้ย เราก็จะบอกเลยว่า อ่อ ไปพุทธคยา เท่าไหร่
นายหน้าก็จะบอกเลย 700-100 รูปี แล้วแต่บางคนโดนนะครับ พี่แหม่มผมพูดเลย No! ทำไมแพงขนาดนั้นล่ะ ครั้งที่แล้วมายังไม่ขนาดนี้เลย (พูดพร้อมโบกมือไล่ไม่เอา ชั้นไปหาข้างหน้าได้) เท่านั้นแหละครับ เหลือ 600 ทันที จะช้าอยู่ไย อ่านรีวิวมาไม่เคยเจอถูกขนาดนี้ อ่ะไป! ครับผม
ขอบคุณพี่แหม่มมากนะครับ ที่เป็นครูสอนการใช้ชีวิตในอินเดียให้ 555555
เอาจริงคือรู้สึกอุ่นใจมากเลยนะครับ ที่ทำประกันการเดินทาง Tune Protect มาด้วย อย่างน้อยเป็นไรจะได้มีคนจ่ายให้ เพราะการขับรถของคนที่นี่โหดมากกกกกก 55555 คนขับคุยกับผมว่า การขับรถที่อินเดียเนี่ย no rules นะครับ จะขับยังไงก็ได้ เสียงแตรนี่ดังสนั่นเป็นเหมือนการบอกสัญญาณว่าจะไปนะ วันแรกก็ตกใจ แต่พออยู่ไปเหมือนไม่ได้ยินเสียงแตรเฉย 555
ถึงแล้วครับวัดไทยพุทธคยา วัดไทยต่างแดนที่แรกของโลก คือจะบอกว่าที่นี่ก็มีที่พักให้สำหรับคนไทยนะครับ พวกผมเลยตัดสินใจมาพักคืนสุดท้ายละกันจะได้อุ่นใจ 5555
แพลนของวันแรกคือ จะเก็บวัดในพุทธคยาก่อน ซึ่งขาดไม่ได้เลย MAHABODHI TEMPLE
การเข้ามาที่วัดนี้ เหมือนเข้ามาก็ได้บุญแล้วครับ
คือผมก็ไม่รู้รายละเอียดมาก รู้แต่ว่าด้านหลังของเจดีย์นี้มีต้นพระศรีมหาโพธิ์และพระแท่นวัชรอาสน์ เป็นรุ่นที่4 ของต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับในช่วงเวลาตรัสรู้ โดยก็มีชาวพุทธจากทั่วโลกมานั่งสมาธิ ปฏิบะติธรรมกันรอบๆ ใครไปก็อย่าลืมแวะไปดูกันครับ
ระหว่างทางเดินในเมืองเล่นๆ ก็จะเจอกับพ่อค้าแม่ค้า เยอะแยะนะครับ จะบอกว่าที่เมืองนี้ค่อนข้างที่จะมีขอทานเยอะ เป้นไปได้ก็อย่าไปให้หรืออย่าไปสนใจนะครับ ผมกับเพื่อนนี่เจอกระโดหยิบน้ำจากมือไปเลย
บางทีเค้าก็จะเดินตาม แต่ไม่เป็นไรครับ ปล่อยเค้าเดินตามไป ชวนเค้าคุยก็ได้ 5555
เดินออกมาจากเจดีย์พุทธคยาเรื่อยๆ จะเจอวัดจากหลากหลายประเทศเลยนะครับ มีทั้งวัดให้ดู มีทั้งวิถีแบบคนอินเดียให้ชม
ระหว่างทางเดินไปเรื่อยๆ เจอ Panipuri ราคาประมาณ 10 รูปี แต่เก่งๆหน่อยต้องกินให้ได้ 6 ชิ้น 10 รูปีนะครับ ราคาท้องถื่นเลย
รสชาติก็จะเครื่องเทศหน่อยๆ น้ำราดก็ออกเปรี้ยวนิดๆ
เดินไปนิดเจอพระใหญ่แล้วครับ
นอกจากนี้ก็ยังมีวัดทิเบต วัดเนปาล วัดเกาหลี วัดจีน
แต่เดินได้ไม่หมดเพราะมืดซะก่อนผมต้องเข้าไปนอนในตัวเมือง คยา เพื่อที่จะได้ออกเดินทางตอนตี4 ของวันรุ่งขึ้นเพื่อไป พาราณสี ซึ่งที่พักนอน 3 คนตกคนละ 300 บาทเองครับ ดีมากๆเลย การเดินทางจาก พุทธคยา เข้าเมืองคยา ผมใช้รถตุ้กๆ ขอเรียกแบบนั้นจะได้เข้าใจง่ายๆเห็นภาพตรงกันละกันนะครับ
ราคาประมาณ 300 รูปี คือเวลาต่อราคาที่นู่น เค้าพูดราคามาคือเราเดินหนีไปได้เลยนะครับ แบบไม่สนใจ จนกว่าจะได้ยินคำว่า ow much you pay ค่อยว่ากัน 5555
แต่การขึ้นรถตุ๊กๆเนี่ยแหละ ทำให้หวนนึกคิดถึงประกันการเดินทางจริงๆ รู้สึกโชคดีมากที่ทำมา และโชคดีกว่าที่ไม่เป็นไร ที่บ้านเค้าขับรถกันสุดเหวี่ยงมากเลยนะครับ แบบแซงได้แซง เลนส์นี่ไม่มี ถามคนขับว่า เคยชนมั้ย พี่แกตอบ เคย โอ้ผลบุญที่ทำมาเมื่อเช้าช่วยพวกเราด้วย 5555 แต่เอาจริงๆ ไม่ค่อยเห็นอุบัติเหตุในบ้านเค้านะครับ น่าแปลกใจเหมือนกัน
พอถึงคยา จัดการเข้าที่พักเสร็จก็เดินหาอะไรกิน เอาวะ ลองกินอาหารอินเดียดูหน่อย
พูดได้ครับเดีวครับ อร่อย! อร่อยมากกก คือต้องสั่งเพิ่มมากินกันเลย โดยเฉพาะแป้ง อร่อยยย โคตรรๆๆๆ ใครไปอินเดียต้องไปกินโรตีนะครับ อร่อยจริง
แถมราคาถูกมากกก ทั้งมื้อ3 คนหมดไปคนละ 15 บาท! ใช่ครับ 15 บาท! เท่านั้นนคุ้มโคตรร
จบวันแรกที่คยาแล้ว ขออณุญาติไปต่อในคอมเม้นนะครับเพราะ ข้อความเกิน มันเยอะมากอยากเล่าเต็มไปหมดเลย
พรุ่งนี้วันที่สอง ความสนุกคือ เราจะได้ขึ้นรถไฟที่อินเดียแล้วโว้ยย อยากลอง อยากรู้นักว่ามันจะเป็นยังไง เดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง!
หลังจากนั้นก็เจออินเดียของจริงที่พาราณสี ที่โคตรสนุก ไปอ่านกันได้ต่อในคอมเม้นนะครับ
ปล.ใครอยากเข้าไปดูบรรยากาศ ผมทำ story highlight ใน instagram เอาไว้
www.instagram.com/kitimann นะครับผม ฝากด้วยครับ
หรือจะเข้าไปพูดคุยกันได้ที่เพจ เที่ยวไง
www.facebook.com/tiewngai ครับบ
[SR] เที่ยวอินเดียครั้งแรกเค้าว่าไม่รักก็เกลียดเลย! สุดท้ายจะเป็นยังไงต้องลองดู (รีวิวแบบละเอียดยิบ)
แต่สำหรับผมการมาอินเดียครั้งแรกนี้จะบอกว่า ดัน รัก! อินเดียซะแล้ว
อินเดีย 5 วันใช้เงินไปแค่ 7,000รูปี หรือ 3,300 บาทก็อยู่ได้แล้วนะครับผม
ครั้งนี้ผมเลือกไปรูทใหม่ของแอร์เอเชียเขา เป็น ดอนเมือ-คยา หรือที่ทุกคนอาจจะรู้จักกันในนาม พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธ ด้วยความที่ไปเราก็รู้สึกซ่า กลัวไม่คุ้ม ไปอินเดียทั้งทีขอไปเมืองอื่นหน่อยเหอะ ใกล้ๆกันมีเมืองชื่อดังที่เป็นศูนย์กลางของศาสนาฮินดูนั่ก็คือ เมืองพาราณสีอยู่ จะรอไรหล่ะครับ เอ้าไป! อยากไปต้องได้ไปครับผม
อ้อ! ผมมีเคล็ดลับ สำหรับบางคนอยากประหยัดแต่ไม่อยากขึ้นสายการบินชั้นประหยัดนะครับ แนะนำว่า ไฟล์ทจะใกล้จะไกลให้สั่งอาหารไปทานบนเครื่องด้วย เตรียมโหลดวิดีโอใส่แท็ปเล็ต ให้พร้อม แค่นี้ก็เหมือนได้นั่ง Full service แล้วครับคุณ ซึ่งผมก็สั่งอาหารของพี่ แอร์เอเค้าด้วย อร่อยสบายใจไป ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ
ก่อนจะเริ่มเดินทางผมขอแนะนำการเตรียมตัวก่อน ทริปนี้ผมลากเพื่อนไปด้วยอีก 2 คน กันเหนียวและหาอุปกรณ์เสริมเพิ่มความอุ่นใจ
1.ประกันภัยการเดินทาง
ผมกับเพื่อนเลือกใช้ประกันการเดินทาง Tune Protect ของ Air asia จะซื้อก่อนหรือหลังจองตั๋วก็ได้นะครับ ราคาแบบคุ้มครองไป-กลับ แค่คนละ 324.- บาทเท่านั้น ไม่ใช่ไรนะเพราะซื้อง่าย จ่ายสะดวก คุ้มครองก็เรียกได้ว่าครบอยู่ ไม่มีเวลาไปหาเจ้าอื่นแล้วเดี๋ยวงง 55555
ซื้อปุ้บ กรรมธรรม์เข้าอีเมล์ตามมา โอเคคราวนี้อุ่นใจไป 1
2. วีซ่า
จะบอกว่า ไปอินเดีย ต้องใช้วีซ่าด้วยนะครับคุณ แต่ทำเองได้ง่ายๆ เค้าไปกรอกๆๆ จ่ายเงิน จบวันรุ่งขึ้นได้อีเมลล์วีซ่าเลย
ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ต้องเสียค่าธรรมเนียมวีซ่า 80$ หรือเป็นเงินไทยประมาณ 2,700.- นะครับสามารถเข้าอินเดียได้ 2 ครั้งภายใน 6 เดือน หรือจะอยู่ยาว 6 เดือนเลยก็ได้นะครับผม
และ 3. จากที่ผมบอกไปตอนแรกครับเนื่องจากพวกผมซ่าครับ ไม่อยากอยู่แค่เมือง คยา จะไป พาราณสีกันด้วย แน่นอนการเดินคงต้องไปพ้นรถไฟ
อยากลองของเด็ดของอินเดียซักหน่อย เอาจริงตอนแรกผมว่าจะจองกันเอง แต่เว็บพี่แกเหมือนจะมีปัญหา เข้าได้บ้างไม่ได้บ้าง ต้องใช้กำลังเสริมใช้เอเจนซี่จองเลยแล้วกัน เสียค่าธรรมเนียมไปตั๋วละ 150.- ครับ คยา-พาราณสี (Gaya Junction - Varanasi Junction) เผื่อคนอยากนั่งไปอะนะครับ
โอเคตอนนี้พร้อมออกเดินทางแล้วครับ ไปลุย ถ้าเกิดว่ามีส่วนไหนตกหล่น ทักมาถามไว้ได้เลยนะครับ
เาเดินทางถึงเมืองคยาประมาณ 10 โมงครับ ออกมาแล้วยื่น e-visa ในหัวคือตื่นเต้นมาก จะรอดใช่มั้ย คือเรามีภาพติดกับคำว่าอินเดียอยู่เยอะมาก กลัวกลิ่นเหม็น กลัวสกปรก กลัวอุนจิ เพราะฉนั้นการมาอินเดียครั้งนี้เลยไม่ได้คาดหวังอะไร กะมาเอาประสบการณ์ล้วนๆ
ด่านแรก จากสนามบินเข้าเมือง
คือที่พุทธคยา จะมีวัดไทยพุทธคยาตั้งอยู่ พวกผมเลยกะว่าจะขอไปตั้งหลักก่อน หาที่พึ่งทางใจ 55555 เลยเจอแหม่มคนนึงได้คุยกันที่ดอนเมือง ผมเลยชวนเค้ามา share ค่ารถเข้าเมืองคยาด้วยกัน ซึ่งเค้าก็โอเคมาคนเดียว แต่พี่แกมาหลายครั้งมากก แล้วก็แสดงฤทธิ์ให้เห็น พออกจากสนามบินปุ้บ จะมีคนอินเดียที่เป็นนายหน้ารถแท็กซี่กรูเข้ามาถามว่าไปไหน ไปมั้ย เราก็จะบอกเลยว่า อ่อ ไปพุทธคยา เท่าไหร่
นายหน้าก็จะบอกเลย 700-100 รูปี แล้วแต่บางคนโดนนะครับ พี่แหม่มผมพูดเลย No! ทำไมแพงขนาดนั้นล่ะ ครั้งที่แล้วมายังไม่ขนาดนี้เลย (พูดพร้อมโบกมือไล่ไม่เอา ชั้นไปหาข้างหน้าได้) เท่านั้นแหละครับ เหลือ 600 ทันที จะช้าอยู่ไย อ่านรีวิวมาไม่เคยเจอถูกขนาดนี้ อ่ะไป! ครับผม
ขอบคุณพี่แหม่มมากนะครับ ที่เป็นครูสอนการใช้ชีวิตในอินเดียให้ 555555
เอาจริงคือรู้สึกอุ่นใจมากเลยนะครับ ที่ทำประกันการเดินทาง Tune Protect มาด้วย อย่างน้อยเป็นไรจะได้มีคนจ่ายให้ เพราะการขับรถของคนที่นี่โหดมากกกกกก 55555 คนขับคุยกับผมว่า การขับรถที่อินเดียเนี่ย no rules นะครับ จะขับยังไงก็ได้ เสียงแตรนี่ดังสนั่นเป็นเหมือนการบอกสัญญาณว่าจะไปนะ วันแรกก็ตกใจ แต่พออยู่ไปเหมือนไม่ได้ยินเสียงแตรเฉย 555
ถึงแล้วครับวัดไทยพุทธคยา วัดไทยต่างแดนที่แรกของโลก คือจะบอกว่าที่นี่ก็มีที่พักให้สำหรับคนไทยนะครับ พวกผมเลยตัดสินใจมาพักคืนสุดท้ายละกันจะได้อุ่นใจ 5555
แพลนของวันแรกคือ จะเก็บวัดในพุทธคยาก่อน ซึ่งขาดไม่ได้เลย MAHABODHI TEMPLE
การเข้ามาที่วัดนี้ เหมือนเข้ามาก็ได้บุญแล้วครับ
คือผมก็ไม่รู้รายละเอียดมาก รู้แต่ว่าด้านหลังของเจดีย์นี้มีต้นพระศรีมหาโพธิ์และพระแท่นวัชรอาสน์ เป็นรุ่นที่4 ของต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับในช่วงเวลาตรัสรู้ โดยก็มีชาวพุทธจากทั่วโลกมานั่งสมาธิ ปฏิบะติธรรมกันรอบๆ ใครไปก็อย่าลืมแวะไปดูกันครับ
ระหว่างทางเดินในเมืองเล่นๆ ก็จะเจอกับพ่อค้าแม่ค้า เยอะแยะนะครับ จะบอกว่าที่เมืองนี้ค่อนข้างที่จะมีขอทานเยอะ เป้นไปได้ก็อย่าไปให้หรืออย่าไปสนใจนะครับ ผมกับเพื่อนนี่เจอกระโดหยิบน้ำจากมือไปเลย
บางทีเค้าก็จะเดินตาม แต่ไม่เป็นไรครับ ปล่อยเค้าเดินตามไป ชวนเค้าคุยก็ได้ 5555
เดินออกมาจากเจดีย์พุทธคยาเรื่อยๆ จะเจอวัดจากหลากหลายประเทศเลยนะครับ มีทั้งวัดให้ดู มีทั้งวิถีแบบคนอินเดียให้ชม
ระหว่างทางเดินไปเรื่อยๆ เจอ Panipuri ราคาประมาณ 10 รูปี แต่เก่งๆหน่อยต้องกินให้ได้ 6 ชิ้น 10 รูปีนะครับ ราคาท้องถื่นเลย
รสชาติก็จะเครื่องเทศหน่อยๆ น้ำราดก็ออกเปรี้ยวนิดๆ
เดินไปนิดเจอพระใหญ่แล้วครับ
นอกจากนี้ก็ยังมีวัดทิเบต วัดเนปาล วัดเกาหลี วัดจีน
แต่เดินได้ไม่หมดเพราะมืดซะก่อนผมต้องเข้าไปนอนในตัวเมือง คยา เพื่อที่จะได้ออกเดินทางตอนตี4 ของวันรุ่งขึ้นเพื่อไป พาราณสี ซึ่งที่พักนอน 3 คนตกคนละ 300 บาทเองครับ ดีมากๆเลย การเดินทางจาก พุทธคยา เข้าเมืองคยา ผมใช้รถตุ้กๆ ขอเรียกแบบนั้นจะได้เข้าใจง่ายๆเห็นภาพตรงกันละกันนะครับ ราคาประมาณ 300 รูปี คือเวลาต่อราคาที่นู่น เค้าพูดราคามาคือเราเดินหนีไปได้เลยนะครับ แบบไม่สนใจ จนกว่าจะได้ยินคำว่า ow much you pay ค่อยว่ากัน 5555
แต่การขึ้นรถตุ๊กๆเนี่ยแหละ ทำให้หวนนึกคิดถึงประกันการเดินทางจริงๆ รู้สึกโชคดีมากที่ทำมา และโชคดีกว่าที่ไม่เป็นไร ที่บ้านเค้าขับรถกันสุดเหวี่ยงมากเลยนะครับ แบบแซงได้แซง เลนส์นี่ไม่มี ถามคนขับว่า เคยชนมั้ย พี่แกตอบ เคย โอ้ผลบุญที่ทำมาเมื่อเช้าช่วยพวกเราด้วย 5555 แต่เอาจริงๆ ไม่ค่อยเห็นอุบัติเหตุในบ้านเค้านะครับ น่าแปลกใจเหมือนกัน
พอถึงคยา จัดการเข้าที่พักเสร็จก็เดินหาอะไรกิน เอาวะ ลองกินอาหารอินเดียดูหน่อย
พูดได้ครับเดีวครับ อร่อย! อร่อยมากกก คือต้องสั่งเพิ่มมากินกันเลย โดยเฉพาะแป้ง อร่อยยย โคตรรๆๆๆ ใครไปอินเดียต้องไปกินโรตีนะครับ อร่อยจริง
แถมราคาถูกมากกก ทั้งมื้อ3 คนหมดไปคนละ 15 บาท! ใช่ครับ 15 บาท! เท่านั้นนคุ้มโคตรร
จบวันแรกที่คยาแล้ว ขออณุญาติไปต่อในคอมเม้นนะครับเพราะ ข้อความเกิน มันเยอะมากอยากเล่าเต็มไปหมดเลย
พรุ่งนี้วันที่สอง ความสนุกคือ เราจะได้ขึ้นรถไฟที่อินเดียแล้วโว้ยย อยากลอง อยากรู้นักว่ามันจะเป็นยังไง เดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง!
หลังจากนั้นก็เจออินเดียของจริงที่พาราณสี ที่โคตรสนุก ไปอ่านกันได้ต่อในคอมเม้นนะครับ
ปล.ใครอยากเข้าไปดูบรรยากาศ ผมทำ story highlight ใน instagram เอาไว้ www.instagram.com/kitimann นะครับผม ฝากด้วยครับ
หรือจะเข้าไปพูดคุยกันได้ที่เพจ เที่ยวไง www.facebook.com/tiewngai ครับบ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม