สวัสดีค่ะ การรีวิวนี้เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกของเราค่ะ จริงๆเราไปเที่ยวมาหลายที่แล้วค่ะแต่ยังไม่เคยรีวิวเลย และหวังว่ารีวิวอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่แพลนอยากไปตุรกีค่ะ
วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะลองเขียนดูค่ะ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ มือใหม่หัดเขียนค่า


บางคนถามเราว่าไปทำไมตุรกี? ไม่กลัวหรอ? มีอะไรเที่ยว? คุณต้องลองไปค่ะ สถานที่แต่ละที่มีสเน่ห์ในแบบของมันเองค่ะ เรากังวลเรื่องอาหารการกินมาก แต่พอไปถึงมันไม่ได้เป็นแบบที่เราคิดไว้ เรากินได้และค่อนข้างที่จะอร่อยด้วยค่ะ 555
การเที่ยวครั้งนี้ถือเป็นการออกจาก Safe zone เลยค่ะ เพราะก่อนหน้านี้ไปแต่ญี่ปุ่น ฮ่องกง โซนๆนั้น
ทริปนี้เราไปกัน 2 คนค่ะ เรากับสามี
เวลาที่ตุรกีจะช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมงนะคะ ไปถึงกระเพาะอาหารก็จะงงๆหน่อยค่ะ
ช่วงต้นเดือนธันวาคม อุณหภูมิจะอยู่ประมาณ 7 ถึง -2 ค่ะ แล้วแต่เมืองที่เราไป
แพลนคร่าวๆก็ประมาณนี้ค่ะ

5 Dec 2018               BKK - AUH - IST - NAV
6 Dec 2018               Cappadocia (Hot air balloon , Uçhisar)
7 Dec 2018               Cappadocia (Green tour)
8 Dec 2018               Pamukkale
9 Dec 2018               Selcuk
10 Dec 2018             Istanbul (Yerebatan Sarnici , Blue Mosque , Topkapi Palace , Kalata Tower)
11 Dec 2018             Istanbul (Dolmabahce Palace , Spice Market) - BKK
12 Dec 2018             BKK


เริ่มกันเล้ยยย!!

5 Dec 2018
เราจอง Etihad Airway flight EY407 ออกเดินทาง 01:55 จากสุวรรณภูมิ ถึงท่าอากาศยานอาบูดาบี สหรัฐเอมิเรตส์ เวลา 05:45 เพื่อทำการเปลี่ยนเครื่องค่ะ
บรรยากาศภายในสนามบินอาบูดาบี (ขออภัยในความสดของหน้า เพราะเรามาในคราบชุดนอน)



รอต่อเครื่องประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ได้เวลาออกจากอาบูดาบี เดินทางสู่ Ataturk Airport , Turkey แล้ว


พอเรามาถึง Ataturk Airport ที่ Istanbul เวลา 13：50 เราจองตั๋วบินต่อไปที่ Nevsehir Airport ที่ Cappadocia ค่ะ (จองมาจากไทย)
เราจอง Terkish Airlines Flight TK2008 IST-NAV เวลา 18：20
ตอนเราไปถึงกะว่าจะออกไปเดินเล่นข้างนอกนิดๆหน่อยๆเพื่อรอเวลาเครื่องออกตอนเย็นค่ะ แต่เนื่องจากฝนโปรยปรายและด้วความเนือยๆในการนั่งเครื่องจึงหาอะไรกินในสนามบินและเดินไป Domestic Terminal นั่งรอค่ะ ระหว่างทางเดินไปก็จะเจอกับแขกที่สนามบินพร้อมเสียงตะโกน Hey my friend!!　คือใครเฟรนคุณค่ะ โนวค่ะ จะให้ไป Taxi อย่างเดียวเลยค่ะ

18：20 ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วค่ะ ทางสายการบินแจกแซนวิชไส้อะไรซักอย่างแบบชีสเยิ้มๆหอมมากกกกก เราชอบมากค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เพราะตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะมาเขียนรีวิวค่ะ จาก IST มา NAV ใช้เวลาบินประมาณ 1.25 ชม. ค่ะ เราก็มาถึง NAV Nevsehir Kapadokya เวลา 19：45 สนามบินที่นี่เป็นสนามบินเล็กๆค่ะ แบบสนามบินตจว.

พอรับกระเป๋าเสร็จก็เดินออกมาจากสนามบิน เราให้ทางโรงแรมจองรถ Shuttle transfer ให้ค่ะ จะมีคนมายืนรอเราพร้อมชูป้ายชื่อเรา เราก็ไปขึ้นรถค่ะ
ค่ารถคนละ 35 TRY ให้จ่ายกับคนขับตอนลงรถได้เลย รถ Shuttle transfer จะเป็นรถคล้ายๆรถตู้ ยี่ห้อ Benz สูงโปร่งนั่งสบายค่ะ เค้าก็จะรับคนที่จองแต่ละโรงแรมมาเต็มคันค่ะ แลัวก็ไล่ส่งทีละโรงแรม

เราพักที่ Mithra cave Hotel 2 คืน จองผ่าน Agoda ค่ะ ได้ห้องเบอร์ 30
การที่เรามาเที่ยวเมือง Cappadocia เราควรจะต้องพักโรงแรมถ้ำนะคะ บรรยากาศแต่ละที่ก็จะแตกต่างกันไป เราเลือกที่นี่เพราะเป็นโรงแรมดังและรีวิวเรื่องบรรยากาศไว้ว่าสวยมากค่ะ

บรรยากาศในห้องค่ะ ไม่ได้ถ่ายไว้ครบทุกส่วนค่า ได้แค่เตียงกับโทรศัพท์??? ห้องน้ำจะอยู่ทางขวามือของเตียงค่ะ


เราได้จอง Hot air balloon ไว้กับโรงแรม จึงเดินออกไปถามที่ reception ว่าพรุ่งนี้ balloon สามารถขึ้นได้ไหม และก็เป็นข่าวร้ายค่ะ พรุ่งนี้　balloon ไม่สามารถขึ้นได้เนื่องจากสภาพอากาศไม่เหมาะสม ที่นี่เค้าจะเช็คกันรายวันค่ะว่า balloon สามารถขึ้นได้มั้ย เนื่องจากช่วงที่เราไปฝนค่อนข้างตกตลอดแบบปรอยๆ ชื้นมาก ก็ไม่เป็นไร มาลุ้นต่ออีกวัน เพราะนอนที่นี่ 2 คืน

6 Dec 2018
ตื่นเช้ามาก็ขึ้นไปทานอาหารเช้าที่ดาดฟ้าของโรงแรม อาหารเช้าที่นี่จะเป็นแบบบุฟเฟต์ค่ะ วิวดาดฟ้าก็จะประมาณนี้

ในส่วนของอาหารก็จะเป็นพวกชีส ขนมปัง สลัด แฮม ไส้กรอก ประมาณนี้ เราก็เลือกแต่สิ่งที่เรากินได้ค่ะ เราว่าไส้กรอกอร่อยดีค่ะ

และที่ขาดไม่ได้คือ ชาตุรกี ไม่ว่าจะไปไหนเค้าก็จะเสิร์ฟด้วยชาตุรกีค่ะ

ทานอาหารเช้าเสร็จก็ถึงเวลาตะลอนทัวร์ละค่ะ555  วันนี้ไม่มีอะไรมากก็เดินสำรวจเมืองเก็บบรรยากาศไป และไปตามหาเอเจนซี่สำหรับขึ้นบอลลูนและ Green tour ในวันพรุ่งนี้ค่ะ ที่ๆเราจะไปก็คือท่ารถค่ะ เนื่องจากบริษัททัวร์พวกนี้จะอยู่กันแถวนั้นซะส่วนมาก เราเดินไป จากโรงแรมเดินลงเขามาตรงมาเรื่อยๆ พอเจอแยกให้เลี้ยวซ้าย เดินตรงไปสักพักจะเจอท่ารถค่ะ

บรรยากาศระหว่างทางเดินออกจากโรงแรม

ท่ารถ

เราลองเข้าไปถามร้านที่อยู่ตรงท่ารถ Hot air balloon สำหรับพรุ่งนี้ที่เราต้องการคือ　capacity 16 persons ซึ่งราคาที่เราได้จากโรงแรมวันก่อนคือ 150 Euro ต่อคน ซึ่งเจ้าแรกที่เราไปถามเสนอมา 150 Euro เท่ากัน แต่　capacity 20 persons เราต้องการ 16 คนเนื่องจากในตะกร้าบอลลูนจะแบ่งออกเป็น 4 ช่อง ซึ่ง 16 คน เราจะยืนช่องละ 4 คนไม่อึดอัดจนเกินไป เราเลยออกไปหาทัวร์เจ้าอื่นต่อ เจ้าที่ 2 เสนอเรามา 160 Euro เลยบายค่ะ และเจ้าที่ 3 เราเจอคนขายทัวร์ชื่อโรส เสนอให้เราคนละ 140 Euroสำหรับ capacity 16 persons เราจึงตกลง และซื้อ Green tour ด้วยในราคาคนละ 33 Euro ซึ่งพอเราซื้อ Green tour กับนาง เราเลยต่อราคาบอลลูนไปอีก สรุปได้บอลลูนราคาคนละ 130 Euro ฟินไปอีก อิอิ
โรสบอกว่าเค้ารู้จักมาริโอ้ เมาเร่อ กับ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก นางคลั่งไคล้มาริโอ้มาก หล่อมาก มากที่สุดที่นางเคยพบเห็นผู้ชายมา 555 ดาราไทยโกอินเตอร์ไปถึงตุรกีเลยนะ แล้วก็พูดภาษาไทยได้แค่ว่า ไม่เป็นไรๆ 555+น่ารักดีค่ะ นางเพิ่งเรียนจบแล้วมาทำงานที่นี่ อายุ 23 พอนางรู้อายุเรานางก็ตกใจบอกไม่เชื่อ เลยต้องโชว์พาสปอร์ตกันไป (ขอสงวนอายุเราไว้ในฐานที่เข้าใจ) งี้แหละคนเอเชียหน้าเด็กไปอีก

หลังจากได้ทัวร์สำหรับพรุ่งนี้แล้วเราก็เดินกลับมาตรงท่ารถใหม่เพื่อขึ้นรถไปเที่ยว Uçhisar castle ให้ลงป้าย Uçhisar castle ราคาคนละ 3 TRY
รถที่จะไปเป็นแบบนี้ค่ะ รถจะออกทุกๆ 30 นาที

นั่งรถประมาณ 10 นาที พอถึงป้ายคนขับจะบอกเองค่ะ พอลงก็เดินข้ามฝั่งไปแล้วตรงเข้าไปเลยค่ะ น่าจะประมาณ 500 เมตร เราก็จะเห็นป้ายให้เลี้ยวซ้ายเดินขึ้นก็จะเจอ Uçhisar castle แล้วค่ะ

Uçhisar castle จะมีลักษณะคล้ายๆรังมด เป็นรูๆ ดูแปลกตาไปอีกแบบค่ะ มันดูมีความยิ่งใหญ่ สวยงามแบบบอกไม่ถูก ต้องลองเห็นกับตาตัวเอง


ได้เวลาเข้าไปใน castle แล้วค่ะ ไปซื้อตั๋วกันเลย เราจำราคาไม่ได้แล้วค่ะ น่าจะประมาณ 20 TRY ค่ะ
ตั๋วเข้าสถานที่ต่างๆของตุรกีจะเป็นแบบสแกนบาร์โค้ด ให้เราเอาบาร์โค้ดไปสแกนที่ประตูเข้า พอดังตี๊ดเราก็เดินผ่านประตูเข้าไปได้ค่ะ
ประตูเข้าจะเป็นเหมือนเข้าซุปเปอร์มาเก็ตบ้านเราค่ะ

หลังจากเข้าไปจะเป็นทางเดินขึ้นไปที่ยอดนะคะ เหนื่อยมาก ใครพาผู้สูงอายุหรือเด็กเล็กมาให้ดูแลใกล้ชิดนะคะ เพราะตกลงไปได้เลยค่ะ
วิวระหว่างทางขึ้น ของจริงคือว้าวมากค่ะ ถ่ายรูปออกมาไม่ค่อยสวยเท่าตาเห็นเลย



ถึงยอดแล้วค่ะ อากาศเย็นมาก

ถ่ายรูปกันไป เสร็จแล้วก็ลงค่ะ พอออกจาก castle ก็เดินออกมาหาอะไรกินกันค่ะ หลังจากใช้พลังงานปีนขึ้น castle เมื่อกี้ขาสั่นกันเลยทีเดียว เราไปแวะร้านพิซซ่าอยู่ระหว่างทางที่จะเดินออกไปรถเมล์เลยแวะไปกินกันค่ะ พิซซ่าที่นี่ราคาไม่แพงเลย ถาดนี้ 18TRY เป็นแบบ　special อะไรซักอย่าง ถูกกว่าบ้านเรามากเลย ชีสพิซซ่าบ้านเค้าคือชีสจริงๆค่ะ ระหว่างกินอยู่ก็ได้ไลน์จากโรสบอกว่าพรุ่งนี้บอลลูนขึ้นไม่ได้อีกแล้ว ให้ไปเอาเงินคืน โอ้ยเศร้า แต่ทำไงได้ ก็เค้าไม่ให้ขึ้นเพื่อความปลอดภัยอ่ะโน๊ะ

จากนั้นก็เดินมาป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามจุดที่เราลงตอนแรกค่ะ
นั่งรอรถแบบเดิมอยู่ประมาณ 30 นาทีก็มา พอขึ้นรถ ครั้งนี้มีกระเป๋ารถมาเก็บเงิน ตอนขาไม่มี แต่เรา2คนดันมีแบงค์100TRY ซึ่งน่าจะอารมณ์เดียวกับแบงค์พันบ้านเรา ก็ไม่รู้จะทำยังไง ลืมเหลือเศษตังค์มาขึ้นรถซะนี่ เลยยื่นให้เค้าไป ผลที่ได้คือ No change!! กระเป๋าตอบกลับมาด้วยเสียงไม่ค่อยจะพอใจนัก เอาแบงค์ร้อยไปแล้วเดินไป เราก็ถามสามีเราว่าเค้าจะทอนมั้ย ไม่ทอนมีเรื่อง ไม่งั้นก็ต้องให้ตรูขึ้นฟรีล่ะว้า ไม่ใช่ไม่จ่ายนะ จ่ายแต่ไม่มีทอน บลาๆๆ สรุปสักพักเดินมาทอนเราด้วยเหรียญทั้งหมด หึหึ ไม่เป็นไร ใช้เหรียญเอาก็ได้ นี่ไม่ได้แกล้งตรูใช่มั้ย

ก่อนเดินกลับโรงแรมก็เดินแวะไปหาโรสเอาเงินคืนค่ะ
และเราก็กลับมาโรงแรมค่ะ เดินถ่ายรูปบรรยากาศในโรงแรม



มื้อเย็นวันนี้ กินมาม่าค่ะ เราเอามาม่ารสต้มยำกุ้งไปกิน ในห้องมีกาชงน้ำร้อนให้ ท่ามกลางอากาศแบบนี้ได้กินอะไรเผ็ดๆเปรี้ยวร้อนๆมันคือใช่!!
จบในส่วนของวันนี้ค่ะ

7 Dec 2018
เช้านี้ตื่นมาเจอหิมะค่ะ ตกมาตั้งแต่ประมาณตี2ปรอยๆเบาๆ พอเช้าคือทุกอย่างเปนสีขาวหมดเลยค่ะ สวยมาก เราออกไปห้องอาหารตั้งแต่ 7 โมงเพราะวันนี้เราจะไป Green tour กันค่ะ บรรยากาศที่ห้องอาหารชั้นดาดฟ้า

หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อยก็ออกไปบ้าบอกับหิมะกันค่ะ