ค่าตั๋วเครื่องบิน ไปกลับ Emirate: 18,985 

Hostel:  รวม 4384 บาท
StayyInTaksim 4 nights: 1300 บาท
AirBNB 3 nights: 2,032 บาท
The dorm cave 3 nights: 1,052 บาท

ทัวร์: 300 pounds ~ 12,000 บาท
Ephesus tour + Pamukkale + Balloon tour + ATV riding + Green tour + Red tour 

Night bus to Cappadocia: 400 บาท
ตั๋วบินภายในประเทศ: 800*2 = 1600 

ค่ากิน ~ 15,000 (เหลือ)

===============================
โรงแรมกักตัวตอนกลับมา: 25,000 บาท
Best Premier Sukhumvit 

เอกสารที่ใช้บินช่วงโควิด ตุลา 2021:
1. PCR Test ภายใน  72 ชั่วโมงตอนเราถึงตุรกีด้วย - 2100 บาท
2. HES Code ลงทะเบียนที่นี่ -> https://register.health.gov.tr/?fbclid=IwAR0UfmMkDOpZIUpq17K6jcMuEJvEIaBv5T4YAUgMQbeQICwpU3kOOPkX4vY

เอกสารขากลับ: COE + ใบจองโรงแรมกักตัว
==============================

แพลนคร่าวๆที่มิ้ววางเอาไว้ค่ะ ทริคของมิ้วคือมิ้วจะเว้นว่างเป็น Free day ไว้ 1 วัน เผื่ออะไรขยับหรือเลื่อนมา หรือเราเปลี่ยนใจอยากอยู่เมืองไหนยาวๆ
ถือว่าเรา spare ไว้ในอนาคต



Ep.0 จุดเริ่มต้นของทริป: [จุดพลิกผันของชีวิต สามารถข้ามไปพาร์ทเที่ยวสนุกๆมันส์ๆได้เลย] 

จุดเริ่มต้นของทริปนี้คือการที่มิ้วสูญเสียบุคคลที่มิ้วรักมากๆ 3 คนในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน 
ปี 2021 คือปีที่หนักหนาสาหัสสำหรับมิ้วมาก ทั้งในแง่ของการเติบโต การใช้ชีวิต วิธีการคิดและวิธีการมองโลก เป็นปีที่เปลี่ยนมิ้วไปอย่างสิ้นเชิง และตุรกีก็ play a big part ที่ทำให้มิ้วเติบโตขึ้นมากเช่นกัน 

October 2020 - ลาออกจากงาน junior SAP consultant เป็นงานที่ไม่ใช่ตัวมิ้วเลย ดีที่มิ้วรู้ตัวทันและไม่ดำดิ่งกับสิ่งที่ไม่ใช่ไปมากกว่านั้น ชีวิตเป๋ไปสักพัก หลงทาง ค้นหาตัวเองอยู่นานประมาณ 6 เดือน จึงได้เริ่มอาชีพใหม่ ไว้จะมาเล่าในกระทู้หน้านะคะ 

หลังจากลาออกมิ้วก็ได้ใช้เวลาอยู่กับคุณพ่อมากที่สุดตั้งแต่เกิดมา จนช่วงกุมภา 2021 พ่อเริ่มปวดท้องหนักมาก จนได้ไปตรวจพบว่าเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย หมอผ่าก้อนเนื้อที่ใหญ่สุดออกมา แต่ว่ามะเร็งได้กระจายลามไปฝังตามผนังลำไส้ของคุณพ่อแล้ว เรียกว่ารักษาตามอาการ ให้คีโม follow up อยู่บ่อยๆ พ่อจบสาธารณะสุขมา ซึ่งพ่อก็อยู่แล้ว พูดเล่นตลอด ว่าเป็นมะเร็งแน่เลย แต่ก็ไม่ไปตรวจ พูดตั้งแต่มิ้วอยู่มหาลัย จนมิ้วเรียนจบมีงานทำ น้องมะเร็งก็จัดการระเบิดตัวเองซะแล้ว พ่อเข้ารพ. รักษาที่รพ. รามา มิ้วเช่าโรงแรมแถวอนุฯอยู่ เพื่อมาอยู่กับพ่อในช่วงที่ญาติมาเยี่ยมได้ จนกว่าจะหมดเวลาเยี่ยม ทุกวัน เกือบเดือน เพราะโรคมะเร็งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจจากคนรอบข้าง เพื่อผู้ป่วยมะเร็ง และที่สำคัญมิ้วเป็นลูกคนเดียวด้วย พ่อรักมิ้วมากกกก หวงมากเช่นกันนน โหดมากกก แต่มิ้วจะชอบแหกคอกตลอดด 5555555 

ชีวิตดำเนินมา พ่อผ่าตัดย้ายการขับถ่ายมาถ่ายที่ถุงหน้าท้อง มิ้วได้เรียนรู้การล้างถุง เปลี่ยนถุงสำหรับผู้ป่วย จนสุดทายพ่อได้กลับบ้าน รอนัดวันทำคีโม ในเดือนมีนาคม แต่ว่าน้องมะเร็งเม็ดเล็กๆที่ฝังอยู่ที่ผนังลำไส้คุณพ่อ ก็ได้ออกอาการ บวกกับ พ่อต้องมาเจาะน้ำออกตลอด เพราะมะเร็งเม็ดเล็กๆอันนั้นมันทำร้าย บางคนืพ่อก็อ้วก หรือนอนไม่ได้เลย เวลาผ่านไป อาการพ่อแย่ลงเลยต้องเข้ามา admit ที่รพ.รามาอีกรอบ  เรามาอยู่ในจุดที่คุณหมอถามว่า ถ้าหากผู้ป่วยหยุดหายใจ จะให้กู้ชีพหรือต่อเครื่องช่วยหายใจมั้ย ม๊าเลยบอกว่า ให้ถามผู้ป่วยเองเลย เพราะเราไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินใจแทนเค้า 

สุดท้ายคุณพ่อมิ้วเลือกที่จะปฏิเสธการรักษา ขอตายเลย พ่อบอกทรมาณ ปวด 

เมษา 21, 2021 มิ้วได้รับโทรศัพท์จากม๊า ขณะสอนพิเศษอยู่ว่า พยาบาลโทรมาบอกว่าพ่อกำลังแย่ อาจอยู่ไม่ถึงคืนนี้ ม๊ากำลังเดินทางมาจากเพชรบุรี มิ้วเลยหยุดทุกอย่าง ไปหาคุณพ่อที่รามา เพราะมิ้วย้ายมาเช่าคอนโดที่กรุงเทพฯ ในช่วงมีนา ช่วงนั้นโควิดระลอกไหนไม่รู้กลับมาระบาดอีกรอบ ทางรพ.เลยไม่ให้เยี่ยมเลย ต้อง vdo call เอา

มิ้วมาถึงรพ. พยาบาลบอกว่าคุณพ่อไม่ตอบสนองแล้ว เราอยู่ใน zone สีแดงสุด คนไข้พร้อมไปได้ทุกเมื่อ พยาบาลบอกว่าสามารถเปิดบทสวดมนต์ได้เลยนะคะ มิ้วเปิดให้พ่อฟัง บอกว่ามิ้วรักพ่อมากๆ มิ้วบอกรักพ่อตลอด ตั้งแต่มิ้วเข้ามหาลัย เวลาไหนอยากบอกรักพ่อแม่ มิ้วก็บอก ช่วงที่มิ้วมาอยู่กับพ่อ คอยนั่งคุย คอยดูแล พ่อก็พูดว่า “พ่อรู้นะลูกว่ามิ้วรักพ่อ ขอบใจนะลูก” มันเป็นคำที่เศร้าหรือพ่อกำลังบอกอะไรมิ้วอยู่กันแน่ พ่อพูดเสมอว่าพ่อส่งมิ้วเรียนจบ พ่อก็ภูมิใจแล้ว พ่อไม่ห่วงอะไรแล้ว 

ตอนนั้นคลื่นหัวใจของพ่อเต้นเบามาก มันค่อยๆเบาลงเรื่อยๆ เปลือกาของพ่อเบิกกว้าง ร่างกายไม่ตอบสนองแต่มิ้วรู้ว่าจิตของพ่อยังอยู่ตรงนั้น มิ้วบอกพ่อว่า พ่อไม่ต้องห่วงมิ้วกับแม่นะ มิ้วจะดูแลแม่เอง มิ้วจะทำให้พ่อภูมิใจ คอยดูมิ้วประสบความสำเร็จนะพ่อ มิ้วรักพ่อนะ หลังจากมิ้วพูดเสร็จ น้ำตาของพ่อก็ไหลออกมา ทำให้มิ้วรู้ว่าพ่ยังอยู่ ถึงแม้ร่างกายของพ่อไม่ตอบสนอง มิ้วอยู่กับพ่อสองคนในห้องศัลยกรรมชาย จนกระทั่งหัวใจของพ่อ หยุดเต้น …  เมื่อม๊ามาถึง เราก็จัดการ แบ่งหน้าที่กัน มิ้วมารับพ่อ พาพ่อกลับบ้านที่เพชรบุรี พรุ่งนี้เช้า ส่วนม๊าจะกลับไปเตรียมงานที่เพชร … 

April  2021 - เสียคุณพ่อไปในวัย 23 ปีเนื่องจากมะเร็งลำไส้ 
May 2021 - แฟนทิ้ง เนื่องจากเค้าคิดว่ามันคงดีที่สุดแล้วถ้าเราแยกย้ายกันไปเติบโต  
ประโยคที่มิ้วจำได้ขึ้นใจเลยนั่นก็คือ การที่มิ้วบอกเค้าว่า อย่าทิ้งมิ้วไปได้มั้ย I can’t afford losing you after my dad, and, he said “No, I can’t”  มิ้วเสียผู้ชายสองคนที่มิ้วรักมากไปในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ต้องพูดถึงสภาพจิตใจเลย เสียใจมาก พังยับเยิน หมดทุกเรี่ยวแรงในการใช้ชีวิต และ passion ที่มี 

August 2021 - คุณยายเสียกะทันหันเนื่องจากไตวาย กลับบ้านไปเป็น emotional support ให้กับคุณแม่

September - moved on จากแฟนเก่า ระลึกได้ว่าเราคือใคร มิ้วยอมรับความจริงว่าเค้าทิ้งเราไป ร้องไห้เสียใจ แล้วเดินหน้าต่อ มันมีแค่เราเท่านั้น ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตของเราเอง เราจะไปพึ่งพาความสุขจากคนอื่นหรือสิ่งภายนอกไม่ได้ 

เพื่อนรักของมิ้วบอกให้มิ้วยอมรับความจริง ถามตัวเองว่าจริงๆแล้วเราต้องการอะไร และเลิกหลอกตัวเอง และนั่นเป็นวันที่มิ้วได้กลับมาพิจารณา ค่อยๆทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ยอมรับ และจัดการความรู้สึกนั้น วิธีของมิ้วก็คือยอมรับว่าโดนทิ้ง ร้องไห้ก็ร้องไห้ไปเลย และจะ move on ก็ต่อเมื่ออยาก move on เท่านั้น
จนวันนึง เรากลับไปมองรูปภาพเก่าๆ ข้อความที่เคยบอกรักกัน เราไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว แค่เป็นความรู้สึกสำหรับคนที่ผ่านเข้ามาแล้วทำให้ชีวิตเราดีขึ้น เป็นแรงผลักดันสำคัญให้เราไปสู่สิ่งที่ดีกว่าในชีวิต และวันนั้นก็มาถึง
 
วันที่เราพร้อมที่จะ move on ทิ้งสิ่งเก่าๆไว้ข้างหลัง พัฒนาตัวเองต่อไป 
 
มันมีประโยคใน show ที่มิ้วชอบมาก The bold type: เป็นเรื่องราวของเพื่อนรัก 3 คน ที่ซีรี่ย์นำเสนอชีวิตของแต่ละคนเราในฐานะที่เป็นคนดูสามารถเรียนรู้ และเติบโตผ่านตัวละครได้เลย แถมยังทำงานในบริษัท Fashion magazine อีก คือชอบม้ากกกกกก  เป็นซีรี่ย์ในดวงใจจริงๆ
Alex พูดกับ Kat ว่า:
"There's no expiration date on heartbreak.
You move on when you're ready to move on.
When you are ready, you will find someone amazing.
Someone who will never leave.
การอกหักมันไม่มีวันหมดอายุ
คุณจะตัดใจได้ก็ต่อเมื่อคุณพร้อมที่จะตัดใจ
และเมื่อคุณพร้อม คุณจะพบคนที่วิเศษ คนที่จะไม่จากไปไหน..."
 
และมันจริง ตัดใจเมื่อเราพร้อมที่จะทำมัน อย่าทำมันเพื่อหลีกหนีจากสิ่งนั้น หรือทำเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้เจ็บ ยอมรับ ตัดใจ และเดินหน้า เพราะสุดท้ายแล้วเวลาจะจัดสรรคนที่จะอยู่ในวงจรชีวิตของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคนรัก

October 2021 - ไปตุรกี 

ปกติมิ้วจะเป็นคนที่มีไฟในการทำงานมาก พลังล้นเหลือ พร้อมตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตในทุกๆวัน แต่หลังจากเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น มิ้วเริ่มหมดไฟ มอด ไม่อยากทำงาน รู้สึกว่างเปล่า มิ้วทำงานหาเงินหนักมาก แต่ทำไมข้างในยังรู้สึกแบบนี้อีกนะ มิ้วไม่มีความสุขเลย รู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น จนมิ้วคุยกับตัวเอง ถามตัวเองนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเรากันแน่ ถ้าใครรู้จักมิ้วดี หรือเคยอ่านกระทู้ของมิ้วมาก่อน มิ้วเป็นนักเดินทาง มิ้วชอบออกไปเจอคนใหม่ๆสถานที่ใหม่ๆ ออกไปหาไอเดีย ท่องโลกกว้าง ตั้งแต่โควิดมา 2019 มิ้วไม่ได้ไปไหนเลย ถึงจะไปเที่ยวบ้างในประเทศ มันก็ไม่ใช่การชาร์จพลังที่เต็มเปี่ยม ครบ 100% ของมิ้ว จนค้นพบว่า ที่ผ่านมา มิ้วทำสิ่งที่ดีที่สุดมากๆในทุก บทบาทชีวิตของมิ้ว ไม่ว่าจะเป็นลูกสาว หรือในฐานะคนรัก แต่สิ่งที่มิ้วลืมไปนั่นก็คือ มิ้วลืมตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของทริปตุรกีเองคนเดียวค่ะ มิ้วไปอย่างเปิดกว้าง เปิดทุกอย่าง unlearn ทุกสิ่งที่ผ่านมาหมดเลยในชีวิตมิ้ว set zero ใหม่ทั้งหมด เพราะมิ้วไม่อยากจะคาดหวังอะไรแล้วหลังจากผิดหวังเสียใจมามาก อะไรที่มิ้วเคยคิดว่าใช่ มันก็ไม่ใช่ อะไรที่มิ้วคิดว่ามันไม่ใช่ มันกลับใช่ซะงั้น มิ้วเหนื่อยมาก ณ ตอนนั้น แต่พอเราจำได้ว่า เราคือใคร เราก็เริ่มหาทางกลับไป back on track ได้ 

มิ้วไปแบบมีแค่ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กับจองรร. ที่ Istanbul, Cappadocia ไว้แค่นั้นเลย มีแผนแบบกว้างๆว่าจะไปเมืองไหนบ้าง landmark หลักๆ คือที่ไหน เท่านั้น แล้วก็ไปเลย ไม่ได้จองการเดินทางในประเทศหรือคิดว่าไปถึงแล้วจะทำอะไร มิ้วพอแล้วกับการใช้ชีวิตที่ยุ่งยากและแพลนเยอะ ทริปนี้ขอปล่อยใจ สบายๆ อะไรจะเกิดก็เกิด ไม่คาดหวัง ไม่ผิดหวัง no expectation แค่รู้ว่ามิ้วต้องพาตัวเองออกมาเจอโลก ออกจากจุดที่มิ้วอยู่ แค่นั้นพอ