ถ้าพูดถึง "คู่กรรม" เรามักจะนึกถึงอะไร สงครามเอเชียบูรพาที่ไทยต้องยอมเป็นทางผ่านให้ญี่ปุ่น
หรือ ความรักของหนุ่มสาวต่างชาติพันธุ์ที่พบรักกันในช่วงเวลาดังกล่าวเเละ ต้องจากกันเพราะ "สงคราม"
ใครๆก็รู้ว่ามันจะจบลงอย่างไร ซึ่งวรรณกรรมขึ้นชื่อของ "ทมยันตี" เรื่องนี้ก็ได้ไปโลดเเล่นไปในจอเงินเเละจอเเก้ว
อยู่หลายเวอร์ชั่น ซึ่งก็สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับคนส่วนใหญ่ที่ได้ชมเเทบจะทุกครั้ง (จริงๆนะ)
เเต่ในปี 2556 ก็เป็นปีที่มีการหยิบมาทำอีกครั้ง ซึ่งมีทั้งละคร เเละ ภาพยนตร์ เเต่เเน่นอนว่าผมจะพูดถึงในส่วนภาพยนตร์
(เเหงล่ะ ก็ผมเล่าหนังนี่ครับ5555) ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับเเละเขียนบทโดย คุณเรียว กิตติกร เลียวศิริกุล ซึ่งได้ออกมา
ประกาศว่านี่จะเป็นการ "ตีความใหม่" ซึ่งเเน่นอนมีหนังอีกเรื่องนึงที่ใช้วิธีนี้เช่นเดียวกัน เเละเข้าฉายในเวลาใกล้ๆกัน
ผมเองก็ลองเข้าไปในโรงดูปีนั้นทั้งสองเรื่อง ซึ่งเเน่นอนว่า ผมเอนเอียงไปทางเรื่องหลังมากกว่า เเละมองว่าคู่กรรมเวอร์ชั่นนี้มันพิลึกพิกล
เเต่น่าเเปลกที่ผมซื้อดีวีดีมา เเต่ผมไม่ได้เอามาเปิดดูเลยสักครั้ง....เพราะผมคงรู้สึกกระอักกระอ่วนพอสมควร ทั้งเรื่องตัวบท ทั้งการเเสดง
ที่มันดูเป็นธรรมชาติ (เเทบจะเเข็งเลยด้วยซ้ำ) เเละฉากที่ดูเเล้วได้เเต่เกาหัวว่าอะไรอ่ะนั่น ที่ซื้อมาเพราะเก็บสะสมไว้งั้นๆ
จนกระทั่งปีนี้ 2562 ผมได้ดูการเเสดงของ ริชชี่ อรเนศ ดีคาบาเลส (ปูเป้ สาวน้อยเรียบร้อยในละคร หน่วยลับสลับเลิฟ) ที่ผมได้ดูการเเสดงของเธอมาตลอดตั้งเเต่เรื่องเเรกจนตอนนี้ ผมว่าน้องเขาเเสดงดีเเละน่ารักมากๆ (โดนตก) ทั้งๆที่ตอนคู่กรรมนั้น ผมค่อนข้างจะทนเสียงเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ แม้ว่าทางผู้สร้างจะบอกว่าเธอตรงกับบทประพันธ์ที่สุด เเต่ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นเธอด้วย จนผมต้องยอมขุดดีวีดีกลับมาดูอีกครั้ง ก่อนจะพบอะไรบางอย่างที่มันทำให้ผมชอบมันขึ้นมาซะเฉยๆ ก็เลยเป็นที่มาของรีวิวหนังครั้งเเรกของปี ที่ไม่ได้มาจากโรงหนังเหมือนทุกครั้ง เพราะงั้นมาฟังกันว่าผมเปลี่ยนไปขนาดไหนจากการชมหนังเรื่องนี้ในอีก 6 ปีต่อมา
เรื่องย่อ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2484) ญี่ปุ่นเข้ามาในไทย โกโบริเป็นหนึ่งในกองทัพที่เข้ามา ได้พบกับ อังศุมาลิน สาวน้อยที่เล่นน้ำอยู่ใกล้ๆกับอู่ซ่อมเรือที่เขาทำงานโดยบังเอิญ เธอ อยู่กับเเม่เเละยายสองคน เขาเกิดความชอบขึ้นมาเเละพยายามไปมาหาสู่อยู่เสมอ ในขณะที่อังศุมาลินกลับต่อต้านและค่อยข้างจะใจร้ายกับเขา เเต่ทุกครั้งที่เกิดเรื่องเลวร้าย ทั้งคู่จะได้พบกันเสมอ ก่อให้เกิดความรักขึ้นอย่างช้าๆ เเต่ทว่า เมื่อมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ทั้งคู่ต้องเเต่งงานเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของสองประเทศ อังศุมาลินจำใจเเต่งงานกับโกโบริ ทั้งที่มีสัญญาติดค้างกับใครบางคน นำมาสู่ความขมขื่นของหัวใจทั้งสองดวง ที่เมื่อเข้าใจก็อาจจะสายเกินเเก้แล้ว
รีวิว
หนังเล่าเรื่องเป็นเส้นเวลาที่ไม่ได้ปะติดปะต่อมากนักที่อาจทำให้เรารู้สึกเเปลกๆอยู่บ้าง เเต่ผมเข้าใจว่า หนังจำเป็นต้องรวบรัดทุกอย่างภายในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง เพราะงั้นมันก็ไม่เเปลกที่หนังจะเป็นเเบบนั้น เเต่ว่าเมื่อมาดูดีๆ เราจะพบว่า หนังนั้นกลับเก็บประเด็นความรักของคนสองคนได้อย่างเต็มรูปเเบบ สมกับชื่อที่ขึ้นเรื่อง "คู่กรรม โกโบริ อังศุมาลิน" ไม่ว่าจะฉากการพบกันครั้งเเรกของทั้งคู่ที่ชวนให้อมยิ้ม การได้พบเจอกัน การได้อยู่ด้วยกัน ความไม่เข้าใจ และสุดท้าย ความเสียใจ ไม่ว่าจะเป็นอะไร หนังเก็บมันได้หมดอย่างไม่น่าเชื่อ ตัวละครมีไม่กี่ตัวที่เดินเรื่อง เเต่หลักๆก็คือสองคนนี้นี่เเหล่ะ เราจะเห็นว่าโกโบริเป็นฝ่ายเข้าหาอังศุมาลิน ในขณะที่อังศุมาลินก็ดูจะพึงพอใจในตัวทหารหนุ่มคนนี้ตั้งเเต่เเรก แต่พอเป็นเรื่องของชาติ ทุกอย่างมันก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เเล้วหนังก็พาเราไปดูชีวิตตัวละครสองตัวที่ขับเคลื่อนไปพร้อมๆกัน อย่างช้าๆ ไม่รีบร้อน เพราะงั้นหนังอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการอะไรฉับไว เพราะหนังจงใจให้เป็นเเบบนี้ เป็นคู่กรรม ที่มีเเค่คนสองคนเดินเรื่อง
โกโบริ : ชายหนุ่มผู้รักหญิงสาวที่ใจร้ายกับเขาเหลือเกิน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- โกโบริในเวอร์ชั่นนี้เป็นชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นที่มีนิสัยวัยรุ่น ร่าเริง ขี้เล่น เเต่เวลาจริงจังก็จริงจัง เห็นได้จากเมื่อมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับ อังศุมาลิน หญิงสาวที่เขาพบเจอเเละตามไปจนถึงบ้าน กลายเป็นความรักที่มีให้อย่างบริสุทธิ์ เขามักจะเป็นฝ่ายที่จะคอยปกป้องเธออยู่เสมอ เเม้จะโดนอีกฝ่ายตบตีหรือ ต่อว่าก็ตาม ทั้งตบหน้าลูกน้องที่มาก่อกวนบ้านอังศุมาลิน พาหนีระเบิดที่ทิ้งลงมา พอต้องเเต่งงาน เขาก็ไม่เคยล่วงเกินเธอเลยด้วยซ้ำ เขามีความสุขที่ได้อยู่กับเธอ จนกระทั่งเรื่องของเชลยที่เธอเเอบช่วยไว้ เรื่องคำสัญญา หรือแม้เเต่เรื่องความรู้สึกของหญิงสาว ที่ทำให้เขาทนไม่ไหวจนต้องตัดพ้อออกมาอยู่เสมอ เขาต้องการความรัก เเต่ไยเธอถึงมอบเเต่ความเกลียดชังให้ เขาทำอะไรผิด เป็นเพราะเขาเป็นคนญี่ปุ่นงั้นเหรอ หรือเพราะเขาไม่ใช่คนที่เธอสัญญา ถึงขั้นบอกว่า เขาอาจจะตาย โดยหวังไว้ลึกๆ ว่า เธอจะเเคร์เขามาบ้าง แต่คำตอบที่ออกมามันก็ช่างเจ็บปวดเหลือทน จนนำไปสู่ความต้องการเเละความโหยหาในตัวคนรักที่เกินกว่าจะควบคุม เเต่ถึงกระนั้นสิ่งที่เขาทำ มันเป็นความเต็มใจของทั้งสองฝ่าย เขาเเค่อยากจะกอดเธอไว้นานๆ เพราะไม่รู้จะมีโอกาสนี้อีกมั้ย ทั้งเอาหัวซบ ทั้งกอดขา มันไม่ใช่การข่มขืน เเต่คือการคุกเข่าขอความรัก จากหญิงสาวที่ใจร้ายคนนี้ จนในที่สุดมันก็ไม่ได้ผล เขาจึงยอมเเพ้เเละจะกลับประเทศ เเต่ว่า...เสียงระเบิดอันหนักหน่วงก็หนักกึกก้องไปทั่วสถานีรถไฟ เเละนั่นก็คือวาระสุดท้ายของเขาที่จะได้พบกับภรรยาสุดที่รัก
อังศุมาลิน : หญิงสาวไร้เดียงสาผู้ใจร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- อังศุมาลินในเวอร์ชั่นนี้เป็นเเค่เด็กสาววัยรุ่นธรรมดาเเถมไม่รู้ประสีประสาอะไรเลย เธอมีครอบครัวที่พ่อ (คุณหลวง) ทิ้งไป เธอทำสัญญากับ วนัส พี่ชายสมัยเด็กว่า เมื่อโตขึ้นเธอจะเเต่งงานกับอีกฝ่าย ทั้งที่ไม่รู้เลยว่าความรักคืออะไร มันคงเป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ง่ายเพราะความรู้จักกันมานาน เธอเลยค่อนข้างที่จะใจเเข็ง (เหวี่ยงโกโบริตลอด) แต่เธอก็คือเด็กสาวที่เล่นสนุกไปวันๆ ว่ายน้ำ อยู่กับครอบครัว ชีวิตเธอเปลี่ยนไปเมื่อมีผู้ชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งมาทักทายเธอ อาจเพราะด้วยหน้าตาหรือนิสัยด้วยหรือเปล่าที่ทำให้เธอที่ดูไม่พอใจ ยิ้มออกมาเล็กๆ ตั้งเเต่นั้นมาชีวิตเธอก็มีโกโบริ ทหารหนุ่มผู้คอยมาดูแลทำกับข้าวให้เเม่เเละยายทาน เเละความเป็นห่วงของเธอก็มาจากการเจอกันตั้งเเต่เเรกๆ เเล้วเธอขอไปส่งโกโบริ เพราะรู้ว่าโกโบริอาจจะได้รับอันตราย จนกลายเป็นความรู้สึกเเปลกๆในใจที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน เเละมันทำให้เธอค่อนข้างสับสนเหมือนคนเป็นเมนส์..จนเธอต้องเเสดงออกมาใส่อีกฝ่ายในเชิงไม่พอใจ
เเต่จริงๆ เธอค่อนข้างพอใจที่มีอีกฝ่ายอยู่ข้างๆด้วยซ้ำ มันทำให้เธอสบายใจ เเต่เธอคงไม่กล้าจะยอมรับ เพราะสัญญาของวนัส มันติดอยู่ในใจเธอจนเธอไม่ยอมเดินหน้าไปไหน จนกระทั่งเธอกับโกโบริถูกลือว่าชิงสุกก่อนห่าม เลยถูกจับเเต่งงาน เธอไม่ได้ไม่อยากเเต่งงาน เเต่สัญญาต่างหากที่มันล็อคเธอไว้ ในที่สุด เธอก็ต้องยอมเเพ้ให้กับความดื้อของตัวเอง สภาพที่อยู่ในความสับสนเเละความกดดันยิ่งทำให้เธอประชดประชันโกโบริหนักกว่าเดิม แม้ว่าโกโบริพูดตัดพ้อ เธอก็หน้านิ่งใจเเข็งเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร เเต่จริงๆเเล้วมันไม่ใช่เลย ยิ่งมาเห็นได้ชัดตอนเธอยืนอยู่บนสะพาน เธอรำพึงกับตัวเองตอนโกโบริมาเจอว่า ทำไมต้องโผล่มาตอนที่ต้องการใครสักคนด้วย? นั่นก็มากพอเเล้วที่ใจเธอจะปฏิเสธได้ ยิ่งตอนที่หนีระเบิดกับโกโบริ ถ้าเธอเกลียดจริงๆ เธอคงไม่จ้องด้วยสายตาใสซื่อใส่อีกฝ่ายแล้วยอมอยู่ในอ้อมเเขนที่อีกฝ่ายป้องกัน เเละซ้อนท้ายจักรยานอีกฝ่าย เอาหัวซบเเล้วรีบเด้งออก ประมาณว่า อะไรกัน อย่านะ เขารู้เเน่ว่าเรา... แล้วก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ แถมเเต่งงานเสร็จ ก็ไว้ใจอีกฝ่ายจนเเต่งสายเดี่ยวเล็กๆ นอนกับสามีทุกคืน
เมื่อสงครามมันรุนเเรง เธอก็ได้พบกับความจริงว่า เธอช่วยใครไม่ได้ทุกคน มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่มากกว่าเดิม แต่ถึงกระนั้นเธอก็ปรนนิบัติสามีอย่างดี เเต่คืนนั้นเธอโชคน้อย เพราะเธอโดนสามีไล่ปล้ำ โดยตอนเเรกเหมือนเธอจะไม่เต็มใจ เพราะพยายามจะถอยหนี เเต่ไม่ออกจากห้อง เหมือนจะปฏิเสธตัวเอง ทั้งหลบสายตา ตบตีอีกฝ่าย เเต่สุดท้ายเธอก็ไปไม่รอด และนั่นทำให้เธอรู้สึกผิดเพราะเธอไม่ทำตามสัญญา เเล้วเธอก็ทำร้ายหัวใจของชายผู้เป็นเจ้าของกายเเละใจเช่นเดียวกัน จนเมื่อวนัสกลับมา ทุกอย่างก็เเย่ลง เธอตัดสินใจทำร้ายตัวเองเเละลูก จนสามีต้องเเยกจากเธอ แต่เเล้ววนัสก็ปลดปล่อยเธอจากความใจเเข็งทั้งปวงที่ผ่านมา เธอจึงออกตามหาหัวใจ ด้วยตะเกียง ท่ามกลางเสียงหวอที่ดังขึ้นอย่างน่าหวาดผวา...และนั่นอาจเป็นครั้งสุดท้าย ที่เธอจะได้พูดทุกอย่างจากใจของเธอ
นักเเสดง
ณเดชน์ ผมชอบเขาเเสดงเรื่องนี้มากกว่านาคี 2 อีกนะ อารมณ์มันมีหลากหลาย เเล้วเขาก็ทำได้ดีมากด้วยในฐานะหนังเรื่องเเรก เขาเก็บทุกอารมณ์หมดเลย จนฉากท้ายนี่เเหล่ะ พีคมากๆ
ริชชี่ ขอโทษด้วยที่เคยมองข้ามไป ริชชี่คืออังศุมาลินที่ธรรมชาติมากๆ เเทบไม่ได้ใช้การเเสดงเลย (จนดูเหมือนไปคนละทางกับณเดชน์) เเต่เธอใช้ความเป็นตัวของอังศุมาลินที่มีอยู่นี่เเหล่ะ ทั้งเเข็งกร้าว ทั้งเก็บกด ทั้งความใสซื่อ ทั้งความน่ารักเเบบเด็กๆ เวลาร้องไห้สวยมากๆ เพราะต้องเเสดงอารมณ์ผ่านดวงตา เสียงที่เคยคิดว่าน่ารำคาญ กลับกลายเป็นว่า อังศุมาลินมันต้องเเบบนี้ ไม่ต้องเสียงหวาน ไม่ต้องอ่อนช้อย ไม่ต้องทำอะไรเลย เธอทำได้เเล้ว ยิ่งฉากท้ายๆ น้ำตาไหลเลย เพราะเธอระเบิดทุกอย่างที่เก็บไว้มาใช้กับฉากท้ายอย่างไม่น่าเชื่อ จนรู้สึกว่าถ้าเราเข้าใจในตัวละครไวกว่านี้ก็คงดี
การกำกับ
- หนังเเทบจะเป็นการถ่ายเป็นซีนๆ ไม่ได้เน้นใบหน้าตัวละครสักเท่าไหร่ เเต่เน้นการกระทำ ไม่มีคำพูดอะไรมาก เเต่เราเข้าใจได้ว่าตัวละครนั้นรู้สึกยังไงถ้าสังเกตดีๆ หนังปล่อยให้เราดูชีวิตของสองตัวละครนี้ ในฐานะบุคคลที่สาม และซึมซับไปกับมัน ซึ่งผมว่ามันเป็นอะไรที่มันตราตรึงเเละลึกซึ้งมากๆ
งานภาพ
- ก็สวยเเปลกตาดี CG ก็โอเค เเต่องค์ประกอบภาพเเต่ละฉากนั้นเล่าเรื่องประกอบ หรือมีกิมมิคอะไรที่มันสัมพันธ์กับฉากนั้นๆ เจ๋งดีนะ แต่ผมเก็บไม่ค่อยได้555
ดนตรี
- เป็นดนตรีเเบบญี่ปุ่นออกเเนวดนตรีวัยรุ่นเก่าหน่อยๆ ติดหูดี และเเน่นอน เพลงเอนเครดิต ฮิเดโกะ คือสิ่งที่ดีงามมากๆ
ประเด็นสำคัญ
-
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้ามีโอกาสรัก จงรักให้มากๆ เพราะอาจไม่มีโอกาสอีกเเล้ว
หนังเรื่องนี้หาดูยากแล้วนะครับ
9/10 เป็นคู่กรรมที่ลึกซึ้งเรื่อง "ความสัมพันธ์" ของคนสองคนมากที่สุด
https://youtu.be/5dvzBK1hKrM
คหสต. ริชชี่น่ารักมากกกกกกกกก เเต่งตัวมอมเเมมยังกลบไม่ได้เลย
เรื่องที่ 13 : คู่กรรม (2556) ผมมองข้ามหนังเรื่องนี้ไปเกือบหกปีเลยหรือนี่ (มีสปอย)
ถ้าพูดถึง "คู่กรรม" เรามักจะนึกถึงอะไร สงครามเอเชียบูรพาที่ไทยต้องยอมเป็นทางผ่านให้ญี่ปุ่น
หรือ ความรักของหนุ่มสาวต่างชาติพันธุ์ที่พบรักกันในช่วงเวลาดังกล่าวเเละ ต้องจากกันเพราะ "สงคราม"
ใครๆก็รู้ว่ามันจะจบลงอย่างไร ซึ่งวรรณกรรมขึ้นชื่อของ "ทมยันตี" เรื่องนี้ก็ได้ไปโลดเเล่นไปในจอเงินเเละจอเเก้ว
อยู่หลายเวอร์ชั่น ซึ่งก็สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับคนส่วนใหญ่ที่ได้ชมเเทบจะทุกครั้ง (จริงๆนะ)
เเต่ในปี 2556 ก็เป็นปีที่มีการหยิบมาทำอีกครั้ง ซึ่งมีทั้งละคร เเละ ภาพยนตร์ เเต่เเน่นอนว่าผมจะพูดถึงในส่วนภาพยนตร์
(เเหงล่ะ ก็ผมเล่าหนังนี่ครับ5555) ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับเเละเขียนบทโดย คุณเรียว กิตติกร เลียวศิริกุล ซึ่งได้ออกมา
ประกาศว่านี่จะเป็นการ "ตีความใหม่" ซึ่งเเน่นอนมีหนังอีกเรื่องนึงที่ใช้วิธีนี้เช่นเดียวกัน เเละเข้าฉายในเวลาใกล้ๆกัน
ผมเองก็ลองเข้าไปในโรงดูปีนั้นทั้งสองเรื่อง ซึ่งเเน่นอนว่า ผมเอนเอียงไปทางเรื่องหลังมากกว่า เเละมองว่าคู่กรรมเวอร์ชั่นนี้มันพิลึกพิกล
เเต่น่าเเปลกที่ผมซื้อดีวีดีมา เเต่ผมไม่ได้เอามาเปิดดูเลยสักครั้ง....เพราะผมคงรู้สึกกระอักกระอ่วนพอสมควร ทั้งเรื่องตัวบท ทั้งการเเสดง
ที่มันดูเป็นธรรมชาติ (เเทบจะเเข็งเลยด้วยซ้ำ) เเละฉากที่ดูเเล้วได้เเต่เกาหัวว่าอะไรอ่ะนั่น ที่ซื้อมาเพราะเก็บสะสมไว้งั้นๆ
จนกระทั่งปีนี้ 2562 ผมได้ดูการเเสดงของ ริชชี่ อรเนศ ดีคาบาเลส (ปูเป้ สาวน้อยเรียบร้อยในละคร หน่วยลับสลับเลิฟ) ที่ผมได้ดูการเเสดงของเธอมาตลอดตั้งเเต่เรื่องเเรกจนตอนนี้ ผมว่าน้องเขาเเสดงดีเเละน่ารักมากๆ (โดนตก) ทั้งๆที่ตอนคู่กรรมนั้น ผมค่อนข้างจะทนเสียงเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ แม้ว่าทางผู้สร้างจะบอกว่าเธอตรงกับบทประพันธ์ที่สุด เเต่ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นเธอด้วย จนผมต้องยอมขุดดีวีดีกลับมาดูอีกครั้ง ก่อนจะพบอะไรบางอย่างที่มันทำให้ผมชอบมันขึ้นมาซะเฉยๆ ก็เลยเป็นที่มาของรีวิวหนังครั้งเเรกของปี ที่ไม่ได้มาจากโรงหนังเหมือนทุกครั้ง เพราะงั้นมาฟังกันว่าผมเปลี่ยนไปขนาดไหนจากการชมหนังเรื่องนี้ในอีก 6 ปีต่อมา
เรื่องย่อ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2484) ญี่ปุ่นเข้ามาในไทย โกโบริเป็นหนึ่งในกองทัพที่เข้ามา ได้พบกับ อังศุมาลิน สาวน้อยที่เล่นน้ำอยู่ใกล้ๆกับอู่ซ่อมเรือที่เขาทำงานโดยบังเอิญ เธอ อยู่กับเเม่เเละยายสองคน เขาเกิดความชอบขึ้นมาเเละพยายามไปมาหาสู่อยู่เสมอ ในขณะที่อังศุมาลินกลับต่อต้านและค่อยข้างจะใจร้ายกับเขา เเต่ทุกครั้งที่เกิดเรื่องเลวร้าย ทั้งคู่จะได้พบกันเสมอ ก่อให้เกิดความรักขึ้นอย่างช้าๆ เเต่ทว่า เมื่อมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ทั้งคู่ต้องเเต่งงานเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของสองประเทศ อังศุมาลินจำใจเเต่งงานกับโกโบริ ทั้งที่มีสัญญาติดค้างกับใครบางคน นำมาสู่ความขมขื่นของหัวใจทั้งสองดวง ที่เมื่อเข้าใจก็อาจจะสายเกินเเก้แล้ว
รีวิว
หนังเล่าเรื่องเป็นเส้นเวลาที่ไม่ได้ปะติดปะต่อมากนักที่อาจทำให้เรารู้สึกเเปลกๆอยู่บ้าง เเต่ผมเข้าใจว่า หนังจำเป็นต้องรวบรัดทุกอย่างภายในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง เพราะงั้นมันก็ไม่เเปลกที่หนังจะเป็นเเบบนั้น เเต่ว่าเมื่อมาดูดีๆ เราจะพบว่า หนังนั้นกลับเก็บประเด็นความรักของคนสองคนได้อย่างเต็มรูปเเบบ สมกับชื่อที่ขึ้นเรื่อง "คู่กรรม โกโบริ อังศุมาลิน" ไม่ว่าจะฉากการพบกันครั้งเเรกของทั้งคู่ที่ชวนให้อมยิ้ม การได้พบเจอกัน การได้อยู่ด้วยกัน ความไม่เข้าใจ และสุดท้าย ความเสียใจ ไม่ว่าจะเป็นอะไร หนังเก็บมันได้หมดอย่างไม่น่าเชื่อ ตัวละครมีไม่กี่ตัวที่เดินเรื่อง เเต่หลักๆก็คือสองคนนี้นี่เเหล่ะ เราจะเห็นว่าโกโบริเป็นฝ่ายเข้าหาอังศุมาลิน ในขณะที่อังศุมาลินก็ดูจะพึงพอใจในตัวทหารหนุ่มคนนี้ตั้งเเต่เเรก แต่พอเป็นเรื่องของชาติ ทุกอย่างมันก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เเล้วหนังก็พาเราไปดูชีวิตตัวละครสองตัวที่ขับเคลื่อนไปพร้อมๆกัน อย่างช้าๆ ไม่รีบร้อน เพราะงั้นหนังอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการอะไรฉับไว เพราะหนังจงใจให้เป็นเเบบนี้ เป็นคู่กรรม ที่มีเเค่คนสองคนเดินเรื่อง
โกโบริ : ชายหนุ่มผู้รักหญิงสาวที่ใจร้ายกับเขาเหลือเกิน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อังศุมาลิน : หญิงสาวไร้เดียงสาผู้ใจร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นักเเสดง
ณเดชน์ ผมชอบเขาเเสดงเรื่องนี้มากกว่านาคี 2 อีกนะ อารมณ์มันมีหลากหลาย เเล้วเขาก็ทำได้ดีมากด้วยในฐานะหนังเรื่องเเรก เขาเก็บทุกอารมณ์หมดเลย จนฉากท้ายนี่เเหล่ะ พีคมากๆ
ริชชี่ ขอโทษด้วยที่เคยมองข้ามไป ริชชี่คืออังศุมาลินที่ธรรมชาติมากๆ เเทบไม่ได้ใช้การเเสดงเลย (จนดูเหมือนไปคนละทางกับณเดชน์) เเต่เธอใช้ความเป็นตัวของอังศุมาลินที่มีอยู่นี่เเหล่ะ ทั้งเเข็งกร้าว ทั้งเก็บกด ทั้งความใสซื่อ ทั้งความน่ารักเเบบเด็กๆ เวลาร้องไห้สวยมากๆ เพราะต้องเเสดงอารมณ์ผ่านดวงตา เสียงที่เคยคิดว่าน่ารำคาญ กลับกลายเป็นว่า อังศุมาลินมันต้องเเบบนี้ ไม่ต้องเสียงหวาน ไม่ต้องอ่อนช้อย ไม่ต้องทำอะไรเลย เธอทำได้เเล้ว ยิ่งฉากท้ายๆ น้ำตาไหลเลย เพราะเธอระเบิดทุกอย่างที่เก็บไว้มาใช้กับฉากท้ายอย่างไม่น่าเชื่อ จนรู้สึกว่าถ้าเราเข้าใจในตัวละครไวกว่านี้ก็คงดี
การกำกับ
- หนังเเทบจะเป็นการถ่ายเป็นซีนๆ ไม่ได้เน้นใบหน้าตัวละครสักเท่าไหร่ เเต่เน้นการกระทำ ไม่มีคำพูดอะไรมาก เเต่เราเข้าใจได้ว่าตัวละครนั้นรู้สึกยังไงถ้าสังเกตดีๆ หนังปล่อยให้เราดูชีวิตของสองตัวละครนี้ ในฐานะบุคคลที่สาม และซึมซับไปกับมัน ซึ่งผมว่ามันเป็นอะไรที่มันตราตรึงเเละลึกซึ้งมากๆ
งานภาพ
- ก็สวยเเปลกตาดี CG ก็โอเค เเต่องค์ประกอบภาพเเต่ละฉากนั้นเล่าเรื่องประกอบ หรือมีกิมมิคอะไรที่มันสัมพันธ์กับฉากนั้นๆ เจ๋งดีนะ แต่ผมเก็บไม่ค่อยได้555
ดนตรี
- เป็นดนตรีเเบบญี่ปุ่นออกเเนวดนตรีวัยรุ่นเก่าหน่อยๆ ติดหูดี และเเน่นอน เพลงเอนเครดิต ฮิเดโกะ คือสิ่งที่ดีงามมากๆ
ประเด็นสำคัญ
- [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หนังเรื่องนี้หาดูยากแล้วนะครับ
9/10 เป็นคู่กรรมที่ลึกซึ้งเรื่อง "ความสัมพันธ์" ของคนสองคนมากที่สุด
https://youtu.be/5dvzBK1hKrM
คหสต. ริชชี่น่ารักมากกกกกกกกก เเต่งตัวมอมเเมมยังกลบไม่ได้เลย