เรื่องที่ 13 : คู่กรรม (2556) ผมมองข้ามหนังเรื่องนี้ไปเกือบหกปีเลยหรือนี่ (มีสปอย)


ถ้าพูดถึง "คู่กรรม" เรามักจะนึกถึงอะไร สงครามเอเชียบูรพาที่ไทยต้องยอมเป็นทางผ่านให้ญี่ปุ่น
หรือ ความรักของหนุ่มสาวต่างชาติพันธุ์ที่พบรักกันในช่วงเวลาดังกล่าวเเละ ต้องจากกันเพราะ "สงคราม"
ใครๆก็รู้ว่ามันจะจบลงอย่างไร ซึ่งวรรณกรรมขึ้นชื่อของ "ทมยันตี" เรื่องนี้ก็ได้ไปโลดเเล่นไปในจอเงินเเละจอเเก้ว
อยู่หลายเวอร์ชั่น ซึ่งก็สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับคนส่วนใหญ่ที่ได้ชมเเทบจะทุกครั้ง (จริงๆนะ)

เเต่ในปี 2556 ก็เป็นปีที่มีการหยิบมาทำอีกครั้ง ซึ่งมีทั้งละคร เเละ ภาพยนตร์ เเต่เเน่นอนว่าผมจะพูดถึงในส่วนภาพยนตร์
(เเหงล่ะ ก็ผมเล่าหนังนี่ครับ5555) ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับเเละเขียนบทโดย คุณเรียว กิตติกร เลียวศิริกุล ซึ่งได้ออกมา
ประกาศว่านี่จะเป็นการ "ตีความใหม่" ซึ่งเเน่นอนมีหนังอีกเรื่องนึงที่ใช้วิธีนี้เช่นเดียวกัน เเละเข้าฉายในเวลาใกล้ๆกัน  
ผมเองก็ลองเข้าไปในโรงดูปีนั้นทั้งสองเรื่อง ซึ่งเเน่นอนว่า ผมเอนเอียงไปทางเรื่องหลังมากกว่า เเละมองว่าคู่กรรมเวอร์ชั่นนี้มันพิลึกพิกล
เเต่น่าเเปลกที่ผมซื้อดีวีดีมา เเต่ผมไม่ได้เอามาเปิดดูเลยสักครั้ง....เพราะผมคงรู้สึกกระอักกระอ่วนพอสมควร ทั้งเรื่องตัวบท ทั้งการเเสดง
ที่มันดูเป็นธรรมชาติ (เเทบจะเเข็งเลยด้วยซ้ำ) เเละฉากที่ดูเเล้วได้เเต่เกาหัวว่าอะไรอ่ะนั่น ที่ซื้อมาเพราะเก็บสะสมไว้งั้นๆ

จนกระทั่งปีนี้ 2562 ผมได้ดูการเเสดงของ ริชชี่ อรเนศ ดีคาบาเลส (ปูเป้ สาวน้อยเรียบร้อยในละคร หน่วยลับสลับเลิฟ) ที่ผมได้ดูการเเสดงของเธอมาตลอดตั้งเเต่เรื่องเเรกจนตอนนี้ ผมว่าน้องเขาเเสดงดีเเละน่ารักมากๆ (โดนตก) ทั้งๆที่ตอนคู่กรรมนั้น ผมค่อนข้างจะทนเสียงเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ แม้ว่าทางผู้สร้างจะบอกว่าเธอตรงกับบทประพันธ์ที่สุด เเต่ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นเธอด้วย จนผมต้องยอมขุดดีวีดีกลับมาดูอีกครั้ง ก่อนจะพบอะไรบางอย่างที่มันทำให้ผมชอบมันขึ้นมาซะเฉยๆ ก็เลยเป็นที่มาของรีวิวหนังครั้งเเรกของปี ที่ไม่ได้มาจากโรงหนังเหมือนทุกครั้ง เพราะงั้นมาฟังกันว่าผมเปลี่ยนไปขนาดไหนจากการชมหนังเรื่องนี้ในอีก 6 ปีต่อมา

เรื่องย่อ

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2484) ญี่ปุ่นเข้ามาในไทย  โกโบริเป็นหนึ่งในกองทัพที่เข้ามา ได้พบกับ อังศุมาลิน สาวน้อยที่เล่นน้ำอยู่ใกล้ๆกับอู่ซ่อมเรือที่เขาทำงานโดยบังเอิญ เธอ อยู่กับเเม่เเละยายสองคน เขาเกิดความชอบขึ้นมาเเละพยายามไปมาหาสู่อยู่เสมอ ในขณะที่อังศุมาลินกลับต่อต้านและค่อยข้างจะใจร้ายกับเขา เเต่ทุกครั้งที่เกิดเรื่องเลวร้าย ทั้งคู่จะได้พบกันเสมอ ก่อให้เกิดความรักขึ้นอย่างช้าๆ เเต่ทว่า เมื่อมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ทั้งคู่ต้องเเต่งงานเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของสองประเทศ อังศุมาลินจำใจเเต่งงานกับโกโบริ ทั้งที่มีสัญญาติดค้างกับใครบางคน นำมาสู่ความขมขื่นของหัวใจทั้งสองดวง ที่เมื่อเข้าใจก็อาจจะสายเกินเเก้แล้ว

รีวิว

หนังเล่าเรื่องเป็นเส้นเวลาที่ไม่ได้ปะติดปะต่อมากนักที่อาจทำให้เรารู้สึกเเปลกๆอยู่บ้าง เเต่ผมเข้าใจว่า หนังจำเป็นต้องรวบรัดทุกอย่างภายในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง เพราะงั้นมันก็ไม่เเปลกที่หนังจะเป็นเเบบนั้น เเต่ว่าเมื่อมาดูดีๆ เราจะพบว่า หนังนั้นกลับเก็บประเด็นความรักของคนสองคนได้อย่างเต็มรูปเเบบ สมกับชื่อที่ขึ้นเรื่อง "คู่กรรม โกโบริ อังศุมาลิน" ไม่ว่าจะฉากการพบกันครั้งเเรกของทั้งคู่ที่ชวนให้อมยิ้ม การได้พบเจอกัน การได้อยู่ด้วยกัน ความไม่เข้าใจ และสุดท้าย ความเสียใจ ไม่ว่าจะเป็นอะไร หนังเก็บมันได้หมดอย่างไม่น่าเชื่อ ตัวละครมีไม่กี่ตัวที่เดินเรื่อง เเต่หลักๆก็คือสองคนนี้นี่เเหล่ะ เราจะเห็นว่าโกโบริเป็นฝ่ายเข้าหาอังศุมาลิน ในขณะที่อังศุมาลินก็ดูจะพึงพอใจในตัวทหารหนุ่มคนนี้ตั้งเเต่เเรก แต่พอเป็นเรื่องของชาติ ทุกอย่างมันก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เเล้วหนังก็พาเราไปดูชีวิตตัวละครสองตัวที่ขับเคลื่อนไปพร้อมๆกัน อย่างช้าๆ ไม่รีบร้อน เพราะงั้นหนังอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการอะไรฉับไว เพราะหนังจงใจให้เป็นเเบบนี้ เป็นคู่กรรม ที่มีเเค่คนสองคนเดินเรื่อง

โกโบริ : ชายหนุ่มผู้รักหญิงสาวที่ใจร้ายกับเขาเหลือเกิน

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อังศุมาลิน : หญิงสาวไร้เดียงสาผู้ใจร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

นักเเสดง

ณเดชน์ ผมชอบเขาเเสดงเรื่องนี้มากกว่านาคี 2 อีกนะ อารมณ์มันมีหลากหลาย เเล้วเขาก็ทำได้ดีมากด้วยในฐานะหนังเรื่องเเรก เขาเก็บทุกอารมณ์หมดเลย จนฉากท้ายนี่เเหล่ะ พีคมากๆ

ริชชี่ ขอโทษด้วยที่เคยมองข้ามไป ริชชี่คืออังศุมาลินที่ธรรมชาติมากๆ เเทบไม่ได้ใช้การเเสดงเลย (จนดูเหมือนไปคนละทางกับณเดชน์) เเต่เธอใช้ความเป็นตัวของอังศุมาลินที่มีอยู่นี่เเหล่ะ ทั้งเเข็งกร้าว ทั้งเก็บกด ทั้งความใสซื่อ ทั้งความน่ารักเเบบเด็กๆ เวลาร้องไห้สวยมากๆ เพราะต้องเเสดงอารมณ์ผ่านดวงตา เสียงที่เคยคิดว่าน่ารำคาญ กลับกลายเป็นว่า อังศุมาลินมันต้องเเบบนี้ ไม่ต้องเสียงหวาน ไม่ต้องอ่อนช้อย ไม่ต้องทำอะไรเลย เธอทำได้เเล้ว ยิ่งฉากท้ายๆ น้ำตาไหลเลย เพราะเธอระเบิดทุกอย่างที่เก็บไว้มาใช้กับฉากท้ายอย่างไม่น่าเชื่อ จนรู้สึกว่าถ้าเราเข้าใจในตัวละครไวกว่านี้ก็คงดี

การกำกับ

- หนังเเทบจะเป็นการถ่ายเป็นซีนๆ ไม่ได้เน้นใบหน้าตัวละครสักเท่าไหร่ เเต่เน้นการกระทำ ไม่มีคำพูดอะไรมาก เเต่เราเข้าใจได้ว่าตัวละครนั้นรู้สึกยังไงถ้าสังเกตดีๆ หนังปล่อยให้เราดูชีวิตของสองตัวละครนี้ ในฐานะบุคคลที่สาม และซึมซับไปกับมัน ซึ่งผมว่ามันเป็นอะไรที่มันตราตรึงเเละลึกซึ้งมากๆ

งานภาพ

- ก็สวยเเปลกตาดี  CG ก็โอเค เเต่องค์ประกอบภาพเเต่ละฉากนั้นเล่าเรื่องประกอบ หรือมีกิมมิคอะไรที่มันสัมพันธ์กับฉากนั้นๆ เจ๋งดีนะ แต่ผมเก็บไม่ค่อยได้555

ดนตรี

- เป็นดนตรีเเบบญี่ปุ่นออกเเนวดนตรีวัยรุ่นเก่าหน่อยๆ ติดหูดี และเเน่นอน เพลงเอนเครดิต ฮิเดโกะ คือสิ่งที่ดีงามมากๆ

ประเด็นสำคัญ

- [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

หนังเรื่องนี้หาดูยากแล้วนะครับ

9/10  เป็นคู่กรรมที่ลึกซึ้งเรื่อง "ความสัมพันธ์" ของคนสองคนมากที่สุด

https://youtu.be/5dvzBK1hKrM


คหสต. ริชชี่น่ารักมากกกกกกกกก เเต่งตัวมอมเเมมยังกลบไม่ได้เลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่