คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
๑)...ทำไมเราถึงต้องเรียนเพิ่มในเมื่อเราเรียนในห้องปกติเรียนจะสอบมหาลัยไม่ติดหรอ...
ไม่มีใครบังคับใครให้ไปติว นะท่าน ..ถ้าท่านเรียนในห้องเรียนและทบทวนเองจนสามารถทำข้อสอบเข้ามหาลัยได้ ก็ไม่มีเหตุผลให้ไปเรียนพิเศษ แต่อย่างใด
ที่สำคัญ คนที่ไปเรียนพิเศษ ก็ไม่มีหลักประกันอะไรว่า เขาจะเรียนเข้าใจ และมีโอกาสสามารถสอบเข้ามหาลัยได้มากกว่าคนที่ไม่เรียนพิเศษ
๒)...ละยังการันตีไม่ได้ว่าจะจบไปมีงานทำอีก
บางคนอาจสงสัยว่าจบแค่ม.6ทำงานไม่ได้หรอ นั้นหน่ะสิ จบมหาลัยแต่ไม่มีประสบการณ์การทำงานก็ไม่มีงานทำ ถึงจบมาจริงๆ ความรู้ที่ได้จากมหาลัยมาก็ใช่ว่าจะใช้ทั้งหมด ..
การศึกษาไทยเป็นระบบเหมือน "งานเทกระจาด" เหมือนได้ฟรี แต่มีจำนวนจำกัด ใครยอมตื่นแต่เช้าไปยืนแถวหน้าเวที รอแย่งกระจาดที่คนเขาโยนลงมา ก็ได้ของกลับไปกินที่บ้าน ใครตัวเล็กกว่า ตื่นสายกว่า ก็ไปรอด้านหลัง มักต้องกลับบ้านมือเปล่า หรือเศษอาหารที่หล่นตามพื้น เหลืออยู่เพราะไม่มีใครอยากได้...น่าเสียดายที่ เลือกเกิดไม่ได้ ไม่งั้นต้องไปเกิดที่ฟินแลนด์ จะได้มีการศึกษาฟรีจนถึง ป.เอก เรียนตามที่ใจรัก เรียนสนุกสมวัย ฯลฯ
ในชีวิตเราและเพื่อนเราสถาบันเดียวกันในเมืองไทย ก็ยังไม่เคยตกงานเลยนะ ตอนจบได้งานพร้อมกันตั้งหลายแห่ง บริษัทดีๆไปรับถึงมหาลัย ..สิ่งที่คุณกังวล เกิดจากอะไร ก็เพราะนิสิต นักศึกษา บางคนพอเข้ามหาลัยแล้ว คิดว่า นั่นคือปลายทางของการเรียนรู้แล้ว ใช้ชีวิตสนุกสนานไปวันๆ เล่นโทรศัพท์มากกว่าอ่านหนังสือ ซึ่งผิดถนัด กระบวนการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด (Lefelong Learning) ผู้เรียนระดับอุดมศึกษามีหน้าที่ต้องค้นหาจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง เพื่อพัฒนาตนเองให้พร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงาน เช่น ภาษาต่างประเทศ ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ซึ่งหลักสูตร ป.ตรี ในมหาลัยไม่สามารถครอบคลุมได้ ระหว่างที่เรียนมหาลัย เขาก็มีโครงการให้นิสิตไปฝึกงานเพื่อหาประสบการณ์และเป้นประวัติเยอะแยะ หรือแม้แต่คุณจะไปสมัครงานแบบ part time ทำในช่วงปิดเทอมหรือวันหยุดก็ได้ ก็เห็นมีคนใส่ชุดนิสิตไปทำเยอะไป ตราบใดที่คุณต้องการเรียนรู้จริงๆไม่ใช่เลือกงาน เอาแต่งานสบายได้เงินเยอะๆ
ยิ่งคุณกลัวตกงาน คุณก็ควรจะยิ่งพยายามปรับปรุงคุณสมบัติของตนเองให้พร้อมที่จะทำงาน แทนที่จะนั่งตัดพ้อ และสิ้นหวัง
ลองถามตนเองบ้างว่า คุณคาดหวังจากโลกมากเกินไปหรือเปล่า คิดว่าโลกที่อยู่รอบตัวคุณจะต้องช่วยแต่งตัวให้คุณจนครบถ้วนทุกอย่าง ซึ่งคุณจะผิดหวังไปชั่วชีวิต เพราะระบบของไทยจะเป็นแบบนี้ต่อไปตลอดชั่วชีวิตของคุณนั่นเอง
ไม่มีใครบังคับใครให้ไปติว นะท่าน ..ถ้าท่านเรียนในห้องเรียนและทบทวนเองจนสามารถทำข้อสอบเข้ามหาลัยได้ ก็ไม่มีเหตุผลให้ไปเรียนพิเศษ แต่อย่างใด
ที่สำคัญ คนที่ไปเรียนพิเศษ ก็ไม่มีหลักประกันอะไรว่า เขาจะเรียนเข้าใจ และมีโอกาสสามารถสอบเข้ามหาลัยได้มากกว่าคนที่ไม่เรียนพิเศษ
๒)...ละยังการันตีไม่ได้ว่าจะจบไปมีงานทำอีก
บางคนอาจสงสัยว่าจบแค่ม.6ทำงานไม่ได้หรอ นั้นหน่ะสิ จบมหาลัยแต่ไม่มีประสบการณ์การทำงานก็ไม่มีงานทำ ถึงจบมาจริงๆ ความรู้ที่ได้จากมหาลัยมาก็ใช่ว่าจะใช้ทั้งหมด ..
การศึกษาไทยเป็นระบบเหมือน "งานเทกระจาด" เหมือนได้ฟรี แต่มีจำนวนจำกัด ใครยอมตื่นแต่เช้าไปยืนแถวหน้าเวที รอแย่งกระจาดที่คนเขาโยนลงมา ก็ได้ของกลับไปกินที่บ้าน ใครตัวเล็กกว่า ตื่นสายกว่า ก็ไปรอด้านหลัง มักต้องกลับบ้านมือเปล่า หรือเศษอาหารที่หล่นตามพื้น เหลืออยู่เพราะไม่มีใครอยากได้...น่าเสียดายที่ เลือกเกิดไม่ได้ ไม่งั้นต้องไปเกิดที่ฟินแลนด์ จะได้มีการศึกษาฟรีจนถึง ป.เอก เรียนตามที่ใจรัก เรียนสนุกสมวัย ฯลฯ
ในชีวิตเราและเพื่อนเราสถาบันเดียวกันในเมืองไทย ก็ยังไม่เคยตกงานเลยนะ ตอนจบได้งานพร้อมกันตั้งหลายแห่ง บริษัทดีๆไปรับถึงมหาลัย ..สิ่งที่คุณกังวล เกิดจากอะไร ก็เพราะนิสิต นักศึกษา บางคนพอเข้ามหาลัยแล้ว คิดว่า นั่นคือปลายทางของการเรียนรู้แล้ว ใช้ชีวิตสนุกสนานไปวันๆ เล่นโทรศัพท์มากกว่าอ่านหนังสือ ซึ่งผิดถนัด กระบวนการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด (Lefelong Learning) ผู้เรียนระดับอุดมศึกษามีหน้าที่ต้องค้นหาจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง เพื่อพัฒนาตนเองให้พร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงาน เช่น ภาษาต่างประเทศ ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ซึ่งหลักสูตร ป.ตรี ในมหาลัยไม่สามารถครอบคลุมได้ ระหว่างที่เรียนมหาลัย เขาก็มีโครงการให้นิสิตไปฝึกงานเพื่อหาประสบการณ์และเป้นประวัติเยอะแยะ หรือแม้แต่คุณจะไปสมัครงานแบบ part time ทำในช่วงปิดเทอมหรือวันหยุดก็ได้ ก็เห็นมีคนใส่ชุดนิสิตไปทำเยอะไป ตราบใดที่คุณต้องการเรียนรู้จริงๆไม่ใช่เลือกงาน เอาแต่งานสบายได้เงินเยอะๆ
ยิ่งคุณกลัวตกงาน คุณก็ควรจะยิ่งพยายามปรับปรุงคุณสมบัติของตนเองให้พร้อมที่จะทำงาน แทนที่จะนั่งตัดพ้อ และสิ้นหวัง
ลองถามตนเองบ้างว่า คุณคาดหวังจากโลกมากเกินไปหรือเปล่า คิดว่าโลกที่อยู่รอบตัวคุณจะต้องช่วยแต่งตัวให้คุณจนครบถ้วนทุกอย่าง ซึ่งคุณจะผิดหวังไปชั่วชีวิต เพราะระบบของไทยจะเป็นแบบนี้ต่อไปตลอดชั่วชีวิตของคุณนั่นเอง
แสดงความคิดเห็น
ทำไมเด็กม.6ถึงต้องตื่นมาอ่านหนังสือ และเลิกเรียนมาเรียนพิเศษอย่างทุกวันด้วยครับ
ศึกษานั้นไม่ดี หรือ เอื้อต่อสถาบันติว
แต่คนที่ลำบากคือนักเรียนนะครับ ต้องเรียนอย่างหนักและเมื่อเข้าได้แล้วก็ยังคงหนัก และยังการันตีไม่ได้ว่าจะจบไปมีงานทำอีก
บางคนอาจสงสัยว่าจบแค่ม.6ทำงานไม่ได้หรอ นั้นหน่ะสิ จบมหาลัยแต่ไม่มีประสบการณ์การทำงานก็ไม่มีงานทำ ถึงจบมาจริงๆ ความรู้ที่ได้จากมหาลัยมาก็ใช่ว่าจะใช้ทั้งหมด
ผมคิดว่าระบบการศึกษาไทยมันเน่าเฟะมากๆครับ การศึกษามันกำลังทำร้ายเด็กครับ