คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ลูกคุณไม่ได้ผิดปกติและยังไม่ถึงขั้นเอาแต่ใจตัวเองแบบเด็กที่อายุกว่านี้เป็นกันหรอกค่ะ
แต่ตอนนี้ สาเหตุมาจากเค้ายังสื่อสารเป็นคำพูดไม่ได้ ดังนั้นเมื่อรู้สึกอะไรก็ตาม จึงใช้เสียงในหลายๆแบบ ไม่ว่าจะหัวเราะ ตะเบงหรือแม้แต่กรี๊ดออกมา เพื่อบ่งบอกความรู้สึกที่มี
แต่คุณไม่ต้องกังวลนะคะ ว่าโตขึ้นเค้าจะเอาแต่ใจตัวเองมั๊ย เพราะคุณสามารถสอนลูกให้ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ตั้งแต่ตอนนี้
เมื่อเค้าร้องกรี๊ด การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ควรเสียงดังใส่ เพราะเมื่อคุณแรงไป เค้าจะแรงกลับ มีอาการต่อต้าน
สิ่งที่แนะนำให้ทำคือ หากอยู่กันในบ้าน ปล่อยให้เค้ากรี๊ดจนพอใจ แต่อย่าเข้าใกล้ คอยดูแลความปลอดภัยให้ห่างๆ จนสงบลง ถึงจะเข้าไปคุยด้วย
แต่หากตอนนั้น อยู่ในที่สาธารณะ ให้มองรอบๆก่อน หากเป็นที่คนพลุกพล่าน ให้รีบนำเค้าออกมาจากบริเวณนั้น เพราะจะรบกวนผู้อื่น แล้วหามุมที่ปลอดคนหรือพามาที่รถ
ที่นี่ก็ปล่อยให้เค้าทำไป อยากร้องก็ร้อง กรี๊ดก็กรี๊ด จะล้มตัวก็ล้มตัว จะนอนดิ้นก็นอนดิ้น แต่ห้ามเข้าไปโอ๋ ไม่หัวเราะใส่ ไม่สนใจมอง เพราะเค้าจะเข้าใจผิดและคิดว่านี่คือสิ่งที่สามารถทำได้
ปล่อยให้เค้าทำจนรู้สึกเหนื่อยและสงบลงเอง พอสงบลงแล้ว ก็พากลับบ้าน เพราะถ้าพาวนกลับไปที่เดิม ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์เดิมอีกได้
พอเค้ารู้ตัวว่าถึงจะกรี๊ดก็แล้ว จะลงไปนอนดิ้นกับพื้นก็แล้ว ก็ไม่ได้รับการสนอง ไม่มีใครสนใจ เค้าก็จะเรียนรู้ได้ในที่สุดว่าวิธีนี้ไม่ได้ผล
การแก้ปัญหาในระยะยาว ควรให้เวลาแก่เค้า คือไม่ปล่อยเค้าไว้กับสื่อเทคโนโลยีเพียงลำพัง พูดคุยกับเค้าบ่อยๆ ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน
ใช้โอกาสตอนที่เค้ายังอารมณ์ดีสอนการควบคุมอารมณ์ให้ สอนให้รู้จักการรอคอย ไม่ตามใจทุกเรื่อง อาจจะใช้วิธีการเบี่ยงเบนความสนใจเข้ามาช่วย
ไม่แกล้ง แหย่ ล้อเลียนให้เค้าอารมณ์เสีย และควรทำความเข้าใจกับคนอื่นๆในบ้านให้เลี้ยงเค้าไปในทิศทางเดียวกัน
แต่ตอนนี้ สาเหตุมาจากเค้ายังสื่อสารเป็นคำพูดไม่ได้ ดังนั้นเมื่อรู้สึกอะไรก็ตาม จึงใช้เสียงในหลายๆแบบ ไม่ว่าจะหัวเราะ ตะเบงหรือแม้แต่กรี๊ดออกมา เพื่อบ่งบอกความรู้สึกที่มี
แต่คุณไม่ต้องกังวลนะคะ ว่าโตขึ้นเค้าจะเอาแต่ใจตัวเองมั๊ย เพราะคุณสามารถสอนลูกให้ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ตั้งแต่ตอนนี้
เมื่อเค้าร้องกรี๊ด การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ควรเสียงดังใส่ เพราะเมื่อคุณแรงไป เค้าจะแรงกลับ มีอาการต่อต้าน
สิ่งที่แนะนำให้ทำคือ หากอยู่กันในบ้าน ปล่อยให้เค้ากรี๊ดจนพอใจ แต่อย่าเข้าใกล้ คอยดูแลความปลอดภัยให้ห่างๆ จนสงบลง ถึงจะเข้าไปคุยด้วย
แต่หากตอนนั้น อยู่ในที่สาธารณะ ให้มองรอบๆก่อน หากเป็นที่คนพลุกพล่าน ให้รีบนำเค้าออกมาจากบริเวณนั้น เพราะจะรบกวนผู้อื่น แล้วหามุมที่ปลอดคนหรือพามาที่รถ
ที่นี่ก็ปล่อยให้เค้าทำไป อยากร้องก็ร้อง กรี๊ดก็กรี๊ด จะล้มตัวก็ล้มตัว จะนอนดิ้นก็นอนดิ้น แต่ห้ามเข้าไปโอ๋ ไม่หัวเราะใส่ ไม่สนใจมอง เพราะเค้าจะเข้าใจผิดและคิดว่านี่คือสิ่งที่สามารถทำได้
ปล่อยให้เค้าทำจนรู้สึกเหนื่อยและสงบลงเอง พอสงบลงแล้ว ก็พากลับบ้าน เพราะถ้าพาวนกลับไปที่เดิม ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์เดิมอีกได้
พอเค้ารู้ตัวว่าถึงจะกรี๊ดก็แล้ว จะลงไปนอนดิ้นกับพื้นก็แล้ว ก็ไม่ได้รับการสนอง ไม่มีใครสนใจ เค้าก็จะเรียนรู้ได้ในที่สุดว่าวิธีนี้ไม่ได้ผล
การแก้ปัญหาในระยะยาว ควรให้เวลาแก่เค้า คือไม่ปล่อยเค้าไว้กับสื่อเทคโนโลยีเพียงลำพัง พูดคุยกับเค้าบ่อยๆ ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน
ใช้โอกาสตอนที่เค้ายังอารมณ์ดีสอนการควบคุมอารมณ์ให้ สอนให้รู้จักการรอคอย ไม่ตามใจทุกเรื่อง อาจจะใช้วิธีการเบี่ยงเบนความสนใจเข้ามาช่วย
ไม่แกล้ง แหย่ ล้อเลียนให้เค้าอารมณ์เสีย และควรทำความเข้าใจกับคนอื่นๆในบ้านให้เลี้ยงเค้าไปในทิศทางเดียวกัน
แสดงความคิดเห็น
ลูกสาว7เดือน ชอบตะเบงเสียง,กรี๊ด จนแม่กลุ้มใจ
https://youtu.be/jDWumH0Y3-k
เป็นเสียงที่เขาเป็นตอนนี้ บางทีก็กรี๊ดบ้าง
ช่วยกรุณาให้คำแนะนำแก้ไขด้วยนะคะ