ความเดิมต่อจาก Ep.1 หลังจากที่เราได้ไปพิชิตบันได 1,250 ขั้นกันที่วัดพระขาว นอนหลับพักผ่อนกันที่บ้านต้นไม้ และกิน Afternoon Tea มื้อดึก
รับชมรีวิวได้ที่นี่ >>>
https://ppantip.com/topic/38405979
ทริปเที่ยวเขาใหญ่ 2 วัน 1 คืนของเรายังไม่จบเพียงเท่านั้นค่ะ
วันที่ 2 นี้เรายังมีที่เที่ยวและที่กินรออยู่อีกเพียบ แถมวันนี้เราจะเที่ยวแบบได้สาระความรู้ด้วยนะจ๊ะ จะไปที่ไหนบ้าง ตามไปดูกันเล้ยยยยย
------------------------------------------------------------------
จุดหมายของเราในวันนี้คือ "ไร่มณีศร" ทุ่งทานตะวันขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียวในเขาใหญ่ แน่นอนว่าอากาศดีๆ แบบนี้ บรรดาดอกทานตะวันกำลังบานสะพรั่ง สีสันเย้ายวนชวนให้ไปเก็บภาพยิ่งนัก
หน้าทางเข้าจะมีจุดจำหน่ายบัตรเข้าชม ซื้อเสร็จแล้วจึงวนรถเข้าไปในลานจอดรถค่ะ
ที่นี่เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.30-18.00 น. ช่วงเวลาที่เหมาะในการมาชมคือ 07.00-10.00 น. เพราะอากาศไม่ร้อนค่ะ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็กประถม 20 บาท และเด็กอนุบาล เข้าฟรี !!!
ต่อจากนี้ให้ภาพเล่าเรื่องดีกว่าค่ะ บรรยายยังไงก็ไม่เหมือนที่ตาเห็น
ออกจากไร่มณีศร ระหว่างทางผ่านหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก เลยแวะไปสักการะสักหน่อยค่ะ
แต่เท่าที่หาข้อมูลจากอากู๋ ทำไมที่ไหนๆ ก็บอกว่าองค์ใหญ่ที่สุดในโลกทั้งนั้น ทั้งวัดห้วยมงคล (หัวหิน), วัดดอนสัก (สุราษฎร์ธานี), พุทธอุทยานมหาราช (อยุธยา) ฯลฯ
สรุปแล้วที่ไหนใหญ่สุดกันแน่ ?!?!?!?
วันที่เราไปมีงานทำบุญแผ่นทองเพื่อนำไปหล่อเป็นหัวใจขององค์หลวงพ่อทวดค่ะ จัดไปคนละ 1 แผ่น ร่วมทำบุญเสร็จก็จะได้รับหลวงพ่อทวดองค์เล็กใส่กรอบกลับไปบูชาที่บ้าน แจกให้ตามธาตุ (ดิน น้ำ ลม ไฟ) ของแต่ละคนค่ะ
อิ่มอกอิ่มใจกันแล้ว ก็ต้องไปอิ่มท้องกันต่อ จุดหมายต่อไปคือร้าน "The Birder's Lodge" คาเฟ่น่ารักๆ สไตล์บ้านไม้ยุโรป จากทางเข้าจะเห็นโกดังที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้สีเขียวชอุ่มแบบนี้โดดเด่นมาแต่ไกล แสดงว่ามาถูกที่แล้ว เลี้ยวเข้าไปเลยจ้า
เดี๋ยวเราค่อยกลับมาสำรวจด้านในโกดังกันค่ะ ก่อนอื่นขอไปเติมพลังที่คาเฟ่ซึ่งอยู่อีกฟากนี่เอง
เข้ามาในร้าน สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น สบายๆ มีมุมน่านั่งเยอะมาก ทั้งส่วน In door แบบนี้
หรือจะรับลมชิวๆ พร้อมไอแดดอ่อนๆ ทางร้านก็มีที่นั่ง Outdoor แบบนี้ค่ะ
มุมนี้ก็เก๋ไม่เบา นั่งดูบาร์เทนเดอร์ผสมเครื่องดื่มเพลินๆ ดีเหมือนกันนะ
มาถึงแล้วขอลองเครื่องดื่มสักหน่อย ให้พนักงานแนะนำเมนูที่เป็น Signature พนักงานแจ้งว่าเป็นตัวนี้เลยค่ะ "BL Refreshment" ราคา 110 บาท เป็นน้ำลิ้นจี่ผสมกับน้ำอะไรสักอย่าง (จำไม่ได้แล้วค่ะ ต้องขออภัยจริงๆ
) มีวุ้นมะพร้าวอยู่ด้านล่าง ส่วนด้านบนท็อปด้วยสายไหมสีสวย เหมาะสำหรับถ่ายรูปลงโซเชียลมากๆ มัวแต่ถ่าย สายไหมละลายจ้า T_T ร่วงกราวอย่างที่เห็น
ดื่มด่ำกับบรรยากาศในร้านพอสมควร ได้เวลาไปสำรวจโกดังกันแล้วค่ะ ตามมาเล้ยยยยย
ดูภายนอกเงียบๆ แต่ข้างในคึกคักมากจ้า ที่นี่มีชื่อว่า "The Birder's Lodge Farmer's Market" ตลาดนัดย่อมๆ ที่จำหน่ายสินค้าท้องถิ่นจากธรรมชาติ เช่น ผัก ผลไม้ ต้นไม้ ของกินของฝาก เปิดเฉพาะศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
ไปต่อกันที่อีก 1 คาเฟ่อาร์ทๆ "Yellow Submarine Coffee Tank"
แค่ทางเข้าก็น่าค้นหาแล้ว เข้าไปชมข้างในกันดีกว่าจ้า
คอนเซ็ปต์เก๋ๆ ของที่นี่คือการนั่งจิบกาแฟกลางเรือดำน้ำ มีที่นั่งทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง แซมด้วยต้นไม้ตามมุมต่างๆ ทั่วร้าน
เมนูเครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลาย
ขอสั่งเป็นเมนู Signature ค่ะ "Honey Lemon Ice-Pop" 140 บาทค่ะ ความเก๋อยู่ที่ด้านบนจะเป็นไอศกรีมเลม่อนเย็นชื่นใจ บวกกับเครื่องดื่มน้ำผึ้งเลม่อนเปรี้ยวๆ หวานๆ หอมๆ มันลงตัวมากเลยค่ะคุณณณณณณ แต่ราคาแรงไปหน่อยค่ะ 😅
ปิดท้ายทริปนี้กันที่ "เขาใหญ่ พาโนรามาฟาร์ม" ฟาร์มเห็ดเพื่อสุขภาพ พร้อมรีสอร์ทสไตล์บ้านเห็ด (เราไม่ได้เข้าไปชมรีสอร์ทนะคะ เลยไม่มีภาพมาให้ชมกัน)
ที่นีมีบริการเยี่ยมชมฟาร์มเห็ดด้วยนะ เข้าไปติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่กันเลย
มีเป็นแพ็คเกจให้เลือก 4 แบบ เลือกได้ตามใจชอบ
เราเลือกเป็นแพ็คเกจ A กับ B ค่ะ จะได้น้ำเห็ด (เป็นน้ำเห็ดรวม 7 ชนิด) 2 ขวด พร้อมเห็ดรวมทอด 1 ถ้วย (ชืดไปหน่อยค่ะ
ถ้าเสิร์ฟร้อนๆ น่าจะอร่อยกว่านี้) ทั้งหมดนี้ 100 บาทค่ะ
ใครอยากทานเมนูที่ปรุงจากเห็ดสารพัดชนิด ที่นี่ก็มีร้านอาหารให้บริการ
อิ่มอร่อยกันแล้ว เจ้าหน้าที่ก็พาไปเดินชมฟาร์มเห็ดด้านใน
ที่นี่มีเห็ดหลากหลายประเภทให้เราได้เยี่ยมชม อย่างเช่นห้องนี้ ห้องเพาะ "เห็ดหัวลิง" แปลกมากไม่เคยเห็นมาก่อน 😳
หน้าตาของเจ้าเห็ดหัวลิงค่ะ เหมือนน้องลิงมั้ยเอ่ย 🐵
ไปต่อกันที่ห้องเพาะ “เห็ดนางฟ้าภูฏาน”
ห้องเพาะ “เห็ดนางนวล”
ห้องเพาะ “เห็ดหลินจือ”
ที่เห็นในถาดนั่นคือ “สปอร์” ค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่าเห็ดทุกชนิดมีสปอร์หมด แต่จะไม่มีสี ที่มีสีจะมีแค่เห็ดหลินจือเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีเห็ดอีกหลากหลายประเภทให้ได้ชมและศึกษาหาความรู้ ถ้าใครสนใจแวะมาชมกันได้นะคะ เจ้าหน้าที่ให้ความรู้ดีมาก ที่นี่เปิดทุกวัน จันทร์-ศุกร์ 09.00-17.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 09.00-19.00 น. นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์จากเห็ดมากมาย ส่วนเราซื้อน้ำเห็ดกลับบ้าน เค้ามีบริการแพ็คกล่องน้ำแข็งให้อย่างดีค่ะ
ฝากอีกหนึ่งช่องทางรับชมรีวิวของเราได้ที่
FB : เที่ยวลงพุง
https://www.facebook.com/tiewlongpoongg
[CR] Ep. 2 <<รีวิวเที่ยวเขาใหญ่>> ชมทุ่งทานตะวัน..ไหว้หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่..จิบเครื่องดื่มสายไหม !..เก็บเกี่ยวสาระที่ฟาร์มเห็ด
ความเดิมต่อจาก Ep.1 หลังจากที่เราได้ไปพิชิตบันได 1,250 ขั้นกันที่วัดพระขาว นอนหลับพักผ่อนกันที่บ้านต้นไม้ และกิน Afternoon Tea มื้อดึก
รับชมรีวิวได้ที่นี่ >>> https://ppantip.com/topic/38405979
ทริปเที่ยวเขาใหญ่ 2 วัน 1 คืนของเรายังไม่จบเพียงเท่านั้นค่ะ
วันที่ 2 นี้เรายังมีที่เที่ยวและที่กินรออยู่อีกเพียบ แถมวันนี้เราจะเที่ยวแบบได้สาระความรู้ด้วยนะจ๊ะ จะไปที่ไหนบ้าง ตามไปดูกันเล้ยยยยย
------------------------------------------------------------------
จุดหมายของเราในวันนี้คือ "ไร่มณีศร" ทุ่งทานตะวันขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียวในเขาใหญ่ แน่นอนว่าอากาศดีๆ แบบนี้ บรรดาดอกทานตะวันกำลังบานสะพรั่ง สีสันเย้ายวนชวนให้ไปเก็บภาพยิ่งนัก
หน้าทางเข้าจะมีจุดจำหน่ายบัตรเข้าชม ซื้อเสร็จแล้วจึงวนรถเข้าไปในลานจอดรถค่ะ
ที่นี่เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.30-18.00 น. ช่วงเวลาที่เหมาะในการมาชมคือ 07.00-10.00 น. เพราะอากาศไม่ร้อนค่ะ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็กประถม 20 บาท และเด็กอนุบาล เข้าฟรี !!!
ต่อจากนี้ให้ภาพเล่าเรื่องดีกว่าค่ะ บรรยายยังไงก็ไม่เหมือนที่ตาเห็น
ออกจากไร่มณีศร ระหว่างทางผ่านหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก เลยแวะไปสักการะสักหน่อยค่ะ
แต่เท่าที่หาข้อมูลจากอากู๋ ทำไมที่ไหนๆ ก็บอกว่าองค์ใหญ่ที่สุดในโลกทั้งนั้น ทั้งวัดห้วยมงคล (หัวหิน), วัดดอนสัก (สุราษฎร์ธานี), พุทธอุทยานมหาราช (อยุธยา) ฯลฯ สรุปแล้วที่ไหนใหญ่สุดกันแน่ ?!?!?!?
วันที่เราไปมีงานทำบุญแผ่นทองเพื่อนำไปหล่อเป็นหัวใจขององค์หลวงพ่อทวดค่ะ จัดไปคนละ 1 แผ่น ร่วมทำบุญเสร็จก็จะได้รับหลวงพ่อทวดองค์เล็กใส่กรอบกลับไปบูชาที่บ้าน แจกให้ตามธาตุ (ดิน น้ำ ลม ไฟ) ของแต่ละคนค่ะ
อิ่มอกอิ่มใจกันแล้ว ก็ต้องไปอิ่มท้องกันต่อ จุดหมายต่อไปคือร้าน "The Birder's Lodge" คาเฟ่น่ารักๆ สไตล์บ้านไม้ยุโรป จากทางเข้าจะเห็นโกดังที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้สีเขียวชอุ่มแบบนี้โดดเด่นมาแต่ไกล แสดงว่ามาถูกที่แล้ว เลี้ยวเข้าไปเลยจ้า
เดี๋ยวเราค่อยกลับมาสำรวจด้านในโกดังกันค่ะ ก่อนอื่นขอไปเติมพลังที่คาเฟ่ซึ่งอยู่อีกฟากนี่เอง
เข้ามาในร้าน สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น สบายๆ มีมุมน่านั่งเยอะมาก ทั้งส่วน In door แบบนี้
หรือจะรับลมชิวๆ พร้อมไอแดดอ่อนๆ ทางร้านก็มีที่นั่ง Outdoor แบบนี้ค่ะ
มุมนี้ก็เก๋ไม่เบา นั่งดูบาร์เทนเดอร์ผสมเครื่องดื่มเพลินๆ ดีเหมือนกันนะ
มาถึงแล้วขอลองเครื่องดื่มสักหน่อย ให้พนักงานแนะนำเมนูที่เป็น Signature พนักงานแจ้งว่าเป็นตัวนี้เลยค่ะ "BL Refreshment" ราคา 110 บาท เป็นน้ำลิ้นจี่ผสมกับน้ำอะไรสักอย่าง (จำไม่ได้แล้วค่ะ ต้องขออภัยจริงๆ ) มีวุ้นมะพร้าวอยู่ด้านล่าง ส่วนด้านบนท็อปด้วยสายไหมสีสวย เหมาะสำหรับถ่ายรูปลงโซเชียลมากๆ มัวแต่ถ่าย สายไหมละลายจ้า T_T ร่วงกราวอย่างที่เห็น
ดื่มด่ำกับบรรยากาศในร้านพอสมควร ได้เวลาไปสำรวจโกดังกันแล้วค่ะ ตามมาเล้ยยยยย
ดูภายนอกเงียบๆ แต่ข้างในคึกคักมากจ้า ที่นี่มีชื่อว่า "The Birder's Lodge Farmer's Market" ตลาดนัดย่อมๆ ที่จำหน่ายสินค้าท้องถิ่นจากธรรมชาติ เช่น ผัก ผลไม้ ต้นไม้ ของกินของฝาก เปิดเฉพาะศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
ไปต่อกันที่อีก 1 คาเฟ่อาร์ทๆ "Yellow Submarine Coffee Tank"
แค่ทางเข้าก็น่าค้นหาแล้ว เข้าไปชมข้างในกันดีกว่าจ้า
คอนเซ็ปต์เก๋ๆ ของที่นี่คือการนั่งจิบกาแฟกลางเรือดำน้ำ มีที่นั่งทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง แซมด้วยต้นไม้ตามมุมต่างๆ ทั่วร้าน
เมนูเครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลาย
ขอสั่งเป็นเมนู Signature ค่ะ "Honey Lemon Ice-Pop" 140 บาทค่ะ ความเก๋อยู่ที่ด้านบนจะเป็นไอศกรีมเลม่อนเย็นชื่นใจ บวกกับเครื่องดื่มน้ำผึ้งเลม่อนเปรี้ยวๆ หวานๆ หอมๆ มันลงตัวมากเลยค่ะคุณณณณณณ แต่ราคาแรงไปหน่อยค่ะ 😅
ปิดท้ายทริปนี้กันที่ "เขาใหญ่ พาโนรามาฟาร์ม" ฟาร์มเห็ดเพื่อสุขภาพ พร้อมรีสอร์ทสไตล์บ้านเห็ด (เราไม่ได้เข้าไปชมรีสอร์ทนะคะ เลยไม่มีภาพมาให้ชมกัน)
ที่นีมีบริการเยี่ยมชมฟาร์มเห็ดด้วยนะ เข้าไปติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่กันเลย
มีเป็นแพ็คเกจให้เลือก 4 แบบ เลือกได้ตามใจชอบ
เราเลือกเป็นแพ็คเกจ A กับ B ค่ะ จะได้น้ำเห็ด (เป็นน้ำเห็ดรวม 7 ชนิด) 2 ขวด พร้อมเห็ดรวมทอด 1 ถ้วย (ชืดไปหน่อยค่ะ ถ้าเสิร์ฟร้อนๆ น่าจะอร่อยกว่านี้) ทั้งหมดนี้ 100 บาทค่ะ
ใครอยากทานเมนูที่ปรุงจากเห็ดสารพัดชนิด ที่นี่ก็มีร้านอาหารให้บริการ
อิ่มอร่อยกันแล้ว เจ้าหน้าที่ก็พาไปเดินชมฟาร์มเห็ดด้านใน
ที่นี่มีเห็ดหลากหลายประเภทให้เราได้เยี่ยมชม อย่างเช่นห้องนี้ ห้องเพาะ "เห็ดหัวลิง" แปลกมากไม่เคยเห็นมาก่อน 😳
หน้าตาของเจ้าเห็ดหัวลิงค่ะ เหมือนน้องลิงมั้ยเอ่ย 🐵
ไปต่อกันที่ห้องเพาะ “เห็ดนางฟ้าภูฏาน”
ห้องเพาะ “เห็ดนางนวล”
ห้องเพาะ “เห็ดหลินจือ”
ที่เห็นในถาดนั่นคือ “สปอร์” ค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่าเห็ดทุกชนิดมีสปอร์หมด แต่จะไม่มีสี ที่มีสีจะมีแค่เห็ดหลินจือเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีเห็ดอีกหลากหลายประเภทให้ได้ชมและศึกษาหาความรู้ ถ้าใครสนใจแวะมาชมกันได้นะคะ เจ้าหน้าที่ให้ความรู้ดีมาก ที่นี่เปิดทุกวัน จันทร์-ศุกร์ 09.00-17.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 09.00-19.00 น. นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์จากเห็ดมากมาย ส่วนเราซื้อน้ำเห็ดกลับบ้าน เค้ามีบริการแพ็คกล่องน้ำแข็งให้อย่างดีค่ะ
ฝากอีกหนึ่งช่องทางรับชมรีวิวของเราได้ที่
FB : เที่ยวลงพุง
https://www.facebook.com/tiewlongpoongg
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้