หลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่

วัดหนองกระดี่นอก
วัดหนองกระดี่นอก ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลหนองยายดา อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี จัดตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2431 มีเจ้าอาวาสองค์แรก คือ หลวงพ่อกล่ำ หลังจากท่านมรณภาพ ก็ได้นิมนต์ หลวงพ่อเคลือบ สาวรธมโม มาเป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อเคลือบเป็นคนจีน สัญชาติไทยเกิดที่บ้านหนองเต่าเมื่อ พ.ศ. 2432 และได้เข้าอุปสมบทเมื่อ พ.ศ. 2453 หลังจากบวชได้พยายามศึกษาเล่าเรียนธรรมวินัย ปฏิบัติชอบมาโดยตลอด และเสาะหาอาจารย์ที่มีความเก่งกล้าด้านอาคมขลังเป็นเวลา 6 ปีเต็ม จนท่านสามารถฝึกปฏิบัติกรรมฐาน ทำสนธิ จนจิตใจแน่วแน่เป็นหนึ่งเดียว
หลวงพ่อเคลือบ หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างเเล้ว หรืออาจจะไม่เคย
แต่ทั้งจังหวัด อุทัย นครสวรรค์ คงมีน้อยคนมากที่ไม่เคยได้ยินชื่อท่าน เรื่องมีอยู่ว่าหลวงพ่อเคลือบเป็นพระสงฆ์ที่ชอบกินเหล้ามาก แต่เป็นเรื่องที่เเปลกมากที่ท่านมีวาจาสิทธิ์มากทีเดี่ยวจนมีการเล่าขานกันมากเลยทีเดียว มียายอยู่คนหนึ่งได้ว่าหลวงพ่อว่า พระบ้าอะไรกินเหล้า ท่านก็บอกว่าอย่าไปสนใจมันเลยคนมันปากเสีย วันรุ่งขึ้นยายคนนั้นก็ปากเริ่มเน่าโดยไม่รู้สาเหตุ(ยายคนนี้มีชื่อนะครับ แต่ผมจำไม่ได้ครับ) ต้องรีบมาขอขมาหลวงพ่อเคลือบไม่ทันเลยครับ

รถไม่ติด
อีกครั้งหนึ่งมีขบวนรถกฐินขับผ่านวัดท่านแล้วก็เกิดดับลงตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นก็ไม่ติด ชาวบ้านก็บอกว่าเอาเหล้าไปให้หลวงพ่อสิ ท่านอยู่วัดหนะ ก็ไม่มีคนเชื่อเพราะคิดว่าพระอะไรกินเหล้า แต่จนจวนจะเย็นแล้ว คนขับรถเลยบอกว่าลองดูเลยนำเหล้าขาวไปให้หลองพ่อ แล้วบอกว่า รถเสียสตาทไม่ติดครับ หลวงพ่อเคลือบก็บอกว่า ไปดูใหม่ไม่เห็นมีอะไรเลย คนรถก็กลับไปสตารท์รถอีกที่ปรากฏว่าติด เป็นที่น่าสงสัยของคณะกฐินเป็นอย่างมาก
เมื่อท่านมรณภาพไปแล้วก็ได้มีการตั้งศาลให้ที่วัดหนองกระดี่ ริมถนนสาย สว่างอารมย์-ลาดยาว มีการบนบานสานกล่าวกันอยู่ตลอดด้วยเหล้า แก้บนด้วยเหล้าเท่านั้นครับ แล้วก็เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์มากเลยครับว่า จะสมหวังกันมากเลย

ควายหาย
มีชาวบ้านอยู่คนนะครับเขาท้องกำลังอยู่ไฟ ก็มีขโมยมาลักความไปเธอก็เลยนึกถึงหลวงพ่อเคลือบแล้ว บอกว่าหลวงพ่อเจ้าค่ะตามวัวให้ลูกที เธอก็หลับไปแล้วหลวงพ่อก็มาเข้าฝันว่าเอามาให้แล้วอยู่ที่ท้ายนานั้น พอเธอตื้นเช้ามาก็บอกว่าหลวงพ่อเจ้าค่ะลูกอยู่ไฟอยู่ ไปไหนไม่ได้ช่วยเอาควายเข้าคอกให้ลูกทีแล้วลูกจะให้เหล้าเป็น 2 เท่าเลยค่ะ ตกเย็นควายก็กลับเข้าคอกมาเองอย่างน่าอัศจรรย์มากเลย

นกเขาหาย
อีกเรื่องหนึ่ง ผู้ใหญ่บ้านเลี้ยงนกเขาไว้แล้วหลุดไป 2วันเเล้วก็เลยบนหลวงพ่อเคลือบ ว่าให้ช่วยตามนกให้ลูกทีแล้วลูกจะให้เหล้ากลมหนึ่ง ปรากฏว่า2วันแล้วนกก็ไม่มา ผู้ใหญ่บ้านเลยบอกว่า หลองพ่อเอาเหล้าไปแล้วทำไมนกไม่มาเดี๋ยวลูกจะบน หลวงพ่อเคน (วัดดงเศรษฐี) แทนแล้วนะ ตกเย็นผู้ใหญ่บ้านก็นอนแล้วหลับฝันว่า หลวงพ่อมาบอกว่าก็ดี กูจะได้กินเหล้ากับหลวงพ่อเคนเลย ก็นกมันบินได้นี่หว่า กูก็วิ่งขับซะเหนื่อยเลย หลวงพ่อเคนก็มาช่วย 2 องค์ช่วยกันไล่จีวรปลิวเลยก็นกมันมีปีกนี่หว่า ใจร้อนจริงนี่ (ขอโทษนะครับคนสมัยก่อนเขาพูดกันอย่างนี้หละครับ)

เรื่องที่หลวงพ่อท่านฯ ดื่มสุรานั่น อาจจะเป็นอุปนิสัยเดิมของท่านเมื่อหลาย ๆ ชาติที่ผ่านมา....แต่ก่อนที่น้ำเหล้าจะเข้าปากมันก็เปลี่ยนเป็นน้ำธรรมดาหรือน้ำทิพย์ไปแล้ว....ซึ่งผู้ทำได้ก็ต้องทรงอภิญญา....ถ้าพระที่เปลี่ยนน้ำเหล้าไม่ได้ไปกินเข้าก็ต้องผิดศีล....แต่เราจะรู้ได้อย่างไร...สำหรับพระที่ท่านทรงอภิญญาส่วนใหญ่ท่านจะมีลักษณะแปลก ๆ ไม่ค่อยเหมือนพระที่ดูเรียบร้อย...ท่านชอบสนุก ทำอะไรแปลก ๆ แต่ข้างในท่านสุดยอดมากครับ...ใครคิดอะไรไม่ดีกับท่านก็เจอแล้ว อย่าให้ท่านต้องพูดเลย ถ้าท่านพูดก็เป็นไปดังนั้น....อย่างนี้เราดูภายนอกไม่ได้เลยครับ..ยิ่งทรงอภิญญาใหญ่แล้ว ยิ่งดูยาก พระสมัยก่อนที่ท่านเก่งจริง ๆ ท่านวางตัวคล้ายคนบ้า ใครจะได้ไม่สนใจไปรบกวนท่านมาก...ท่านมีความสุขอย่างนั้นทางฌานทรงอภิญญาอยู่....และก็เป็นส่วนใหญ่ด้วยที่พระทรงอภิญญาจะมีลักษณะแปลก ๆ ไม่เหมือนใคร...บางองค์ก็แกล้งขี้เต็มศาลาก็มี...ใคร ๆ ก็ไม่รู้ว่าท่านเป็นพระดี ที่ไหนได้สุด ๆ แห่งความดี...ผ้าขี้หริ้วห่อทอง ครับ....

หลวงพ่อเคลือบท่านเป็นผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ท่านกล่าวคำใดมักเป็นเช่นนั้น จนเป็นที่เลื่องลือของชาวจังหวัดอุทัยธานีและจังหวัดใกล้เคียง ให้ความเคารพนับถือ ปัจจุบันว่ากันว่าหากต้องการสิ่งใด หรือของสิ่งใดหาย ให้บนบานหลวงพ่อด้วยเหล้าขาว ไก่ หมู และมะขามเปียก ท่านก็จะช่วยให้เราสบายใจ และได้อย่างที่เราต้องการ ปัจจุบันนี้วัดหนองกระดี่ ได้นำรูปปั้นของท่านไว้ให้ผู้ที่ศรัทธาได้สักการะผู้ที่ผ่านไปผ่านมาแวะกราบไหว้ได้ทุกวัน

......เรื่องที่เล่า ก็เกี่ยวกับ วาจาสิทธิของท่านนั่นแหละครับ เคยมีชาวบ้านที่ไม่ชอบในพฤติกรมของท่าน
ที่ชอบดื่มเหล้า เลยไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ แถวนั้นเค้าก็รู้ในกิตติศัพท์ของหลวงพ่อเคลือบเป็นอย่างดี
ไอ้ครั้นจะไม่ไปตรวจก็ไม่ได้ เพราะอยุ่ในหน้าที่ เมื่อมีชาวบานมาร้องเรียนก็ต้องไป เมื่อไปถึง
ก็ปฎิบัติตามหน้าที่ ได้เข้าไปพูดคุยกับหลวงพ่อ และได้แจ้งข้อหากับท่าน ว่า ท่านเป็นพระ ฉันเหล้า ดื่มเหล้าแบบนี้มันผิดนะท่าน
ซึ่งตอนที่เจ้าหน้าที่ได้เดินเข้าไป ก็เห็นขวดเหล้าขาว ตั้งอยู่หน้าท่านอยู่แล้ว บวกกับอาการหน้าตาที่แดงกลึ่มๆ
แต่หลวงพ่อท่านบอกว่า ข้าฉันน้ำชา ดื่มน้ำชา มันผิดตรงไหน น้ำชาข้าเอามาใส่ขวดเหล้าขาวเท่านั้น
ถ้าไม่เชื่อก็ลองชิมดูสิ เจ้าหน้าที่คนนั้น ก็ชิมดู ปรากฎว่า น้ำที่เจ้าหน้าที่ดื่มเข้าไปนั้น มี รสและกลิ่นเป็นน้ำชาแท้ๆ
เจ้าหนาที่ตำรวจคนนั้นก็ไม่สามรถจับกุมหลวงพ่อเคลือบท่านได้ เพราะไม่รู้จะอ้างข้อหาอะไร
เพราะน้ำที่ดื่มเป็นน้ำชา นี่ก็เป็นอีกเรื่องเกี่ยวกับปาฎิหาร และวาจาสิทธิของท่าน ท่านสามารถ พูดอะไรๆ ในของสิ่งนั้น
กลายเป็นอะไรๆ ในของอีกสิ่งหนึ่งได้

ที่มา https://www.facebook.com/XacaryFxnDiSwang/posts/669491939869918/